...ทำสวนชีวิตหล่อเลี้ยงชีวิต...
ทำสวนหนังสือหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ.
|
|||
กับความฝันอันผุพัง 1. ใครกันบ้างหนอ ที่กำลังตกอยู่ในห้วงเหวของความพ่ายแพ้อย่างผมในยามนี้ เป็นความพ่ายแพ้ที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังจะต่อสู้ มันมึนชาและว่างโหวง เศร้าโศก สมองนั้นสับสนพร่าเลือนในความรู้สึก มันปวดหนึบหนับเหมือนกับเพิ่งโดนอะไรทุบลงบนท้ายทอย ในหัวใจนั้นเล่ามันแปลบเจ็บคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นแหวกควานเข้าไปข้างในอกซีกซ้าย แล้วบีบรัด บีบคั้น ให้หยุดเต้น และเหมือนพยายามจะกระชากหัวใจดวงนั้นออกมาขว้างทิ้งให้แตกสลาย โอ.หรือว่า นี่คือวาระสุดท้ายของการสิ้นสูญในชีวิตของผมแล้ว แต่ก็ยัง หัวใจของผมยังเต้นอยู่ และชีวิตผมยังคงเคลื่อนไหว เหยาะย่างอย่างช้าๆ ไปบนบาทวิถีของความพลุกพล่าน ผู้คนมากมายต่างเดินสวนทางกันไปมาขวักไขว่ แต่ไม่มีใครสนใจตัวผมเลย เหมือนกับว่าตัวผมคือความว่างเปล่า ช่างไร้ค่าสิ้นดี 2. อากาศเชียงใหม่ปีนี้ร้อนแล้งกว่าทุกๆ ปี ผมค่อยๆ ปลีกตัวหลบเร้นออกจากผู้คนที่ล้นหลามย่านเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ ดุ่มเดินไปตามตรอกซอกซอยอันคับแคบและอับชื้น นานและนาน ที่ผมพาตัวเองดำเนินไปโดยไม่มีจุดหมาย จากซอกโน้นไปโผล่ซอยนี้ วกไปวนมา จนกระทั่งลัดเลาะผ่านโค้งถนนเก่าแก่ มองเห็นต้นไทรหยั่งรากชอนไชอยู่บนเนินดินและกองซากปรักหักพังของกำแพงเมืองโบราณ ผมยังเดินต่อไปเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด บนบาทวิถีริมคูเมือง จากแจ่งศรีภูมิ ผ่านประตูช้างเผือก สู่โค้งถนนแจ่งหัวริน และ ทุกครั้งที่ผมเดินผ่านซากของกำแพงเมือง ผมมีความรู้สึกว่า ตัวผมช่างดูคล้ายทหารโบราณที่กำลังทำการอารักขาคุ้มกันตามเขตแนวกำแพงเมือง แต่พอเดินพ้นผ่านโค้งถนนตรงนั้นแล้ว ผมก็พลันตื่นมาพบกับความพลุกพล่านของยวดยานบนท้องถนน เสียงผู้คนตะโกนโหวกเหวกร้องเรียกลูกค้าในตลาดสด เสียงการด่าทอทะเลาะกัน และผมเริ่มมองเห็นสายตาชิงชังรังเกียจของผู้คนในย่านนั้นที่หันจ้องมาทางผม เป็นสายตาของความเย้ยหยันที่เห็นสารรูปมอมแมมของตัวผม ผมเผ้ายาวรุงรัง เนื้อตัวเปียกชื้นเหนียวเหนอะด้วยเหงื่อที่เหม็นอับหมักหมม ทันใดนั้น ผมรู้สึกว่า ตัวผมถูกบีบให้ลีบ เล็กลงๆ จนดูด้อยค่ากลับกลายเป็นคนชำรุดในสังคมเมืองใหญ่ไปแล้ว 3. ผมหยุดนั่งพักด้วยความเหน็ดหน่ายในชีวิต อ่อนล้าและว้างไหว ผมนั่งอยู่ใต้ร่มเงาฉำฉาต้นใหญ่ใกล้กำแพงเมืองและช่องทางเข้าออกของยวดยาน ใช่แล้ว,นั่นคือประตูสวนดอก ที่หลายๆ คนเคยเล่าให้ฟังว่า สถานที่ตรงนี้เคยเป็นอุทยานสวนดอกไม้ของเจ้าเมืองเชียงใหม่ในอดีต ผมนั่งอยู่ใกล้ๆ กับคูเมือง สายลมพัดโชยมา คงเป็นลมแล้งที่พัดมาจากบนดอยสุเทพ ผมจ้องมองการกระเพื่อมของสายน้ำยามลมพัดกระทบเป็นคลื่นริ้วระลอก- - ใบฉำฉาแห้งแก่หลุดรอยจากขั้วร่วงคว้างลงกลางน้ำ เห็นปลาฮุบเหยื่อ และไม่ไกลจากที่ผมนั่งอยู่นั้น มีชายแก่คนหนึ่งนั่งถือคันเบ็ดไม้ไผ่ยาวและโค้งงอ กำลังหย่อนสายเบ็ดลงไปในน้ำ ผมแอบจ้องมองชายแก่อยู่เงียบๆ และพลอยทำให้ผมครุ่นคิดไปต่างๆ นานา ในขณะที่ชายแก่นั่งนิ่งและเฝ้ารอการกินเหยื่อของปลานั้น แกกำลังนึกถึงอะไรอยู่หนอ แกกำลังนึกถึงความหิว การมีชีวิตอยู่ การต่อสู้ การอยู่รอด หรือบางที แกอาจจะไม่คิดอะไรเลย สิ่งที่แกกระทำอยู่นั้น อาจเป็นเพียงการผ่อนคลาย หรืออาจเป็นการฆ่าเวลา ใช่. และแกคงไม่ได้ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องการฆ่าตัวตายเหมือนกับผมในห้วงยามนี้ก็ได้ แกมันโง่ ที่ปล่อยให้พวกมันหลอกปอกลอกจนเกลี้ยง ไปหลงไว้ใจว่าเป็นเพื่อนกัน แล้วเห็นไหม ในที่สุดมันก็โกงกินจนหมดเนื้อหมดตัว แล้วแกจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้ให้เขา หา !! เสียงสบถตะโกนด่าทอของพ่อ ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผม จริงสิ, คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด ผมไม่โกรธพ่อหรอก. ผมโกรธตัวเองต่างหาก ที่ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องพังทลาย บ้าน ที่ดิน รถยนต์และคนรัก ผมสูญเสียไปหมดทุกอย่าง สูญเสียแม้กระทั่งแม่ที่จำต้องตรอมใจตายเพราะตัวผม ชีวิตดำดิ่งและล่มจม ตกอยู่ในห้วงเหวลึกลับ มืดดำมืดมน อับจนไร้หนทางที่จะสู้ต่อ เหมือนถูกชะตากรรมกระชากเหวี่ยงลงไปให้แหลกเหลว มันหมดสิ้นแล้ว ประสาทผมตึงเครียด สมองอื้ออึง ตาพร่าพราย ท้องไส้ปั่นป่วน มือไม้สั่นระริก ผมต้องทำอะไรบางอย่าง การทำลายตัวเอง ระหว่างท้องถนนที่รถยนต์แล่นไปมาอย่างบ้าคลั่ง สายน้ำเบื้องหน้า ผ้าขาวม้ากับกิ่งไม้ฉำฉา มันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องตัดสินใจ ในห้วงยามนั้น ผมพลันตกใจตื่นจากภวังค์!! ตื่นๆๆ ไอ้นักเขียนไส้แห้ง มัวแต่นั่งอยู่แต่หน้าคอมฯนั่นแหละ ไป้!! ไปช่วยกันยกของลงจากรถเร็ว เสียงของพ่อตวาด ก่อนเดินพรวดพราดออกไป ใช่แล้ว ผมกำลังคิดพล็อตเรื่องสั้นเรื่องใหม่ แต่ก็ต้องสะดุดล้มคะมำจนได้ เมื่อยินเสียงโมโหโกรธาของพ่อ ผมส่ายหัวไปมาไล่ความฝันอันผุพังให้หาย. ปิดหน้าจอ. ก่อนลุกออกจากห้องไปช่วยพ่อยกกระสอบข้าวสารลงจากรถไปวางขายหน้าร้าน เฮ้อ!! การจะเป็นนักเขียนนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยโว้ย ผมบ่นกับตัวเองอยู่อย่างนั้น. อ่านแล้ว เศร้าจังครับ
แต่อย่าเพิ่งเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้กับชีวิต ชีวิตคุณยังเดินต่อไปได้ และมีโอกาสลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เพื่อนบางคนไม่รู้ว่าจะเดินไหวหรือเปล่า ไปให้กำลังใจเธอที่บ้านผมก็ได้ครับ โดย: basbas วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:22:46:33 น.
ขอบคุณที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ...
ขอบคุณคุณbasbas ที่ส่งข่าวคุณ ซออู้ ไม่สบายให้รับรู้นะครับ และอยากให้เพื่อนๆ ได้ส่งแรงใจให้เธอด้วย... โดย: pu_chiangdao วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:0:04:01 น.
เหอ เหอ หักมุมได้ขำดีค่ะ
นี่ถ้ามีเอฟเฟคเหมือนหนัง ประมาณว่า ติ้วววววว,แป่ววววววว...แล้วคุณพ่อทำหน้าแบบยืนท้าวสะเอว แบบเครื่องหมานยคำถามตรงหน้า ...คงฮามากกว่านี้ สบายดีนะคะคุณภู มาเยี่ยมค่ะ โดย: PANDIN วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:17:38:33 น.
เข้ามาทักทายจ้ะ อะไรกันจะปานนั้นจ้ะ อากาศร้อน มันทำให้เป็นขนาดนี้เลยเหรอ โอ้ย อย่าเพิ่งท้อนะ พี่เอาใจช่วยนะ ยังไม่แก่เลย ไปได้อีกไกล ส่วนพี่เป็นหวัดงอมแงม ก็อากาศมันเป็นซะยังงี้ โทษฟ้า ดินเข้าไป นะ คนเรา
โดย: p tim IP: 222.123.81.225 วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:20:33:49 น.
อ่านและตีความอยู่ตั้งนานว่า เขารำพึงรำพันชีวิตตัวเองตอนนี้ หรือ เขาพูดถึงชีวิตใครคนหนึ่งที่เคยสัมผัส หรือ เขากำลังพาเราไปรู้จักชีวิตตัวละครอีกตัวหนึ่ง หรือ ....และก็ยังสงสัยว่า ตกลงกำลังเขียนเรื่องจริงหรือพล็อตเรืองกันแน่ว่า ถ้าเรื่องจริงดูมันท้อแท้ เหมือนคนใกล้หมดแรงเลย ก็ไม่น่าจะใช่คุณ ถ้าพล็อตเรื่องหวังว่าคุณคงเขียนให้นักเขียนคนนี้ประสบความสำเร็จในอาชีพที่เขาชอบ อ่ะนะ โดย: sunny-low (sunny-low ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:4:44:06 น.
ชีวิตมนุษย์มันเกิดมาเพื่อแก่งแย่งให้อยู่รอด อยู่กับโลกที่มีแต่ปัญหา ตัวเราถ้ามั่นคง ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร สวรรค์ก็น่าจะเมตตาให้เราอยู่ได้ แม้มันจะไม่สุขมากนักนะครับ
โดย: วังบัวบาน วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:15:29:49 น.
เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะคะ
เกิดเป็นคน ก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป ทำไงได้ ชีวิตคือการต่อสู้ สู้กับใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปสู้กับคนอื่น มีความสุขมากๆ นะคะ โดย: บัวริมบึง วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:16:35:54 น.
โค๊ะ...นักเขียนไส้แห้ง
ขอหื้อได้ไปแอ่วเวียดนามโวยโวยเน้อเจ้า โดย: Kontonnum วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:17:53:13 น.
หึหึ
ตื่นๆๆ ไอ้นักเขียนไส้แห้ง มัวแต่นั่งอยู่แต่หน้าคอมฯนั่นแหละ ไป้!! ไปช่วยกันยกของลงจากรถเร็ว เสียงของพ่อตวาด ก่อนเดินพรวดพราดออกไป หึหึ โดย: หึหึ; ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:18:05:28 น.
สู้ต่อไปเน๊าะคุณภู
หนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ สักวันต้องเป็นเวลาทองของคุณ เชื่อมั่นเช่นนี้เสมอ เอาใจช่วยเจ้าค่ะ แวะไปฟังเพลง แม่น้ำ ความรัก ที่ My Blog หรือแวะไปฟังคลิปเพลงน่ารักดี เชิญชวนซะเลย ฝันดีเจ้าค่ะ โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:2:28:18 น.
มาอ่านเจ้าคุณภู
ไผเนาะ..ช่างกล้า ว่า..นักเขียนใส้แห้ง นิกกำลังต๋ามรอยน้าภูน่ะก่ะ กุ้มๆๆๆๆ โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.195 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:6:55:42 น.
ตะวาได้รับจดหมายจากน้องนิก
แกเขียนเล่าเรื่องนักแข่งรถ ฉากเป็นเมืองเลโก้(ตัวต่อๆๆนั่นน่ะ) อ่านแล้วก็ม่วนดี ตามจินตนาการของละอ่อนปอสาม เก่งอ่ะ น้องว่า... โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:10:59:00 น.
หวัดดีค่ะคุณภู...
เหนื่อยนัก....ก็พักก่อนค่ะ... แล้วสายลมเย็นๆ คงจะพัดผ่านมา... โดย: แดดร่มลมโชย IP: 203.144.130.176 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:17:56:33 น.
ขอบคุณทุกคนเลยครับ ที่แวะเวียนมาอ่านงาน...
เพิ่งกลับจากเชียงดาวมาครับ... ว่าแต่ว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นครับ บ่ใช่เรื่องจริง เพียงแต่อยากหยิบบางมุมมาเล่นล้อชีวิต เมือง เท่านั้นเองครับ... ยังไม่อยากตายหรอกครับ...ยังอยากทำอะไรๆ อีกตั้งเยอะ แต่บางครั้งก็ทำให้เรารู้ว่า ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนาะ โดย: pu_chiangdao วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:20:04:32 น.
เวลาเครียดๆ ฟังเพลงนี้ปล่อยก๊ากกกกโลด ชื่อเพลง ลูกแม่ใหญ่อรลักปีโป้ โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:21:40:36 น.
เอ๊อ ออออออ เอ๊ยยยย ตี้แต๊ กำลังพล๊อตเรื่อง ^ ^
ฮ้อน ทั่วไปหมดเจ้า เมืองชล นี่ฮ้อนนนนนน ตั้งแต่ตื่น คิดถึงหน้าหนาวขนาด ไข้หื้อหนาวซัก เก่งปี๋ ท่าจะดี ^ ^ อากาศฮ้อน ๆ แต่ใจ๋เย็นไว้น่อเจ้า โดย: varissaporn327 วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:13:44:25 น.
เข้ามาอ่านก้หลายครั้ง
บางทีก็ต้องอ่านให้ดีๆว่าคุฯเขียนพลอตเรื่องหรือเป็นชีวิตจริง แต่ไม่ว่ายังไงขอให้สู้ต่อไปนะคะ รู้สึกอ่านเรื่องวันนี้แล้วเศร้าๆอ่ะ เรื่องของคนหมดเรียวแรงที่จะสู้ต่อ หากว่ามีกำลังใจดี ก็ต้องสุ้ต่อไปค่ะ โดย: สวนลอยแห่งบาบิโลน วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:15:13:40 น.
คุณภูนะคถณภู...ทำเอาอิชั้นต๊กกะใจ
แม๊..จะได้รีบไปปลอบ...555 กำลังคิดว่า..เดี๋ยวต้องหาซื้อยางรัดผมส่งไปให้ซะแล้ว มันช่วยเรื่องผมเผ้ายาวแล้วรุงรังได้นะคะ... เขียนดีค่ะดีมาก..จนเรานึกว่าจริงแน่ะ...แม๊... โดย: จันทร์สวย วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:6:39:35 น.
ผมเผ้ายาวรุงรัง...... โดย: อิวอกกกกกกก IP: 61.7.175.145 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:9:34:18 น.
นึกว่าอกหนัก เป็นหนอง ชีช้ำกระหลำปลี๋ น้อ หักมุมป่อยๆ เน้อ แล้วจะเป็นแต้ ว่าแล้ว นักเขียนใส้แห้ง เรียกร้อง ความเห็นใจ๋ จากสาวๆ และบ่สาว 555555
โดย: โอ้ ละเน้อ IP: 124.157.202.50 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:18:23:50 น.
already read , Thank you
โดย: seaman IP: 121.230.92.129 วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:00:52 น.
สวัสดี บังเอิญผ่านมา เป็นกำลังใจให้นะค่ะในยามท้อ.......
โดย: van IP: 124.121.41.230 วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:4:15:33 น.
เศร้าจังเลยค่ะแต่พออ่านแล้วก็สนุก ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงคงน่าสงสารแย่เลย
โดย: ด.ญ.กฤติยาณี ไชยญาติ IP: 124.120.79.219 วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:19:07:02 น.
เรื่องสั้น พล้อตไม่น่าหักมุม หากคนเขียนพยายามอีกนิดน่าจะจบได้ดีกว่านี้
โดย: เธอผู้ห่างไกล IP: 203.151.46.130 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:14:28:50 น.
เรื่องสั้น พล้อตไม่น่าหักมุม หากคนเขียนพยายามอีกนิดน่าจะจบได้ดีกว่านี้
โดย: เธอผู้ห่างไกล IP: 203.151.46.130 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:14:29:01 น.
เห็นภาพชัดแจ๋วเหมือนนั่งมองความเคลื่อนไหวในกระจกเงา
แล้วจะคอยติดตามงานชิ้นตอ ๆ ไปครับ!! โดย: ช่างหนุ่ม IP: 117.47.108.5 วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:11:11:50 น.
บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าอ่านแล้วจุก แต่สุดยอดจริงๆ ถึงจุกก็จะอ่าน ไม่อยากคิดว่ามันคือเรื่องจริง
โดย: คนรู้จักกัน IP: 118.174.52.113 วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:15:27:41 น.
|
pu_chiangdao
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้ เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผู้ใดมีความประสงค์ จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง *************************** งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา Group Blog All Blog Friends Blog
Link
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
วางพล็อตเรื่องสั้นเศร้าจังค่ะ
แต่ก็ให้แง่คิด