|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเลือกไม้แบด 2012
การเลือกไม้แบด 2012 ในการเลือกไม้แบดนั้น ดีที่สุดคือไปที่ร้านแล้วจับๆ ดูน้ำหนักได้ก็เอาเลย แต่ถ้าคุณอยู่ใน net การเลือกโดยดูจากสเปกไม้เป็นเรื่องยากแน่นอนยิ่งไม้แพงๆด้วยแล้วต้องเลือกกันสักหน่อย การเลือกควรเลือกเป็นขั้นตอนดังนี้ 1.เลือกว่าเป็นไม้บุกหรือรับ ไม้แบ่งเป็น 3 แบบคือ 1.1 offensive ไม้จะหนักหัว คือ balance จะสูงกว่า 290 นำหนักไม้จะมากกว่า 85 กรัม วิธีเลือกไม้แบบของผมคือเอาค่า ( balance -100 ) * กับน้ำหนัก จะได้ค่า สวิงเวทแบบคร่าวๆ ซึ่งไม้เก่ากับไม่ไหมไม่ควรแตกต่างกันมากนัก (ไม่ควรเกิน 500) ยกตัวอย่าง ถ้าไม่เก่าคือ MBR เปลี่ยนเป็น Eagle ก็บอกร้านเลยว่าเอาตัวที่หัวหนักที่สุด ไม้แต่ละอันในร้านหนักไม่เท่ากันนะ balance ก็ไม่เท่ากัน +- ประมาณ 1-2 กรัม MBR Champion3 = (290-100) *91 = 17290 EAGLE WOVEN NANO 575II = (290-100) *86 = 16340 1.2 allround ไม้จะหนักกลางๆ คือ 280-285 ก้านจะเป็นก้าน medium ซะส่วนมาก 1.3 defensive ไม้จะหนักหัว โดยมากไม้พวกนี้จะมีน้ำหนักที่เบาคือ ประมาณ 80-85 กรัม สำหรับคนที่ซื้อไม้เป็นครั้งแรกกควรเลือก allround 2. เลือกก้านว่าจะเป็น siff หรือ flex siff จะคุมลูกได้ดี flex จะมีพลังตีที่มาก มือใหม่ควรเลือก flex หรือ medium 3. ดูงบในกระเป๋า 3.1 ก้าน graphite ราคาประมาณ 1000 3.2 ก้าน H.M graphite ราคาประมาณ 2000 3.3 ก้าน Ultra H.M graphite ราคาประมาณ 2000+ หรือพวก 30T และ 40T ราคา 3000+ สังเกตง่ายๆ ว่า Yonex voltric 80, 70, 60 ทำใน ญี่ปุ่นวัสดุเป็น Ultra H.M graphite ส่วน Yonex voltric 9, 3 ทำในไต้หวัน H.M graphite ราคาต่างกัน พันหนึ่ง 4.เลือกเฟรม เฟรมจะมีประมาณ 4 แบบ box ลักษณะจะเป็นเหลี่ยมเช่น Yonex 900P หรือ Victor Meteor Sword ลักษณะจะมีมุมแหลมไว้ตัดอากาศ Victor Brave Sword Arrow dynamic ลักษณะจะโค้งมน Yonex Nanoray และVictor superwaves แต่ว่าแต่ละยี่ห้อก็ต้านไม่เท่ากัน วิธีดูคือ แนวลากเส้นจากขอบในไม้ ออกไปที่ขอบนอกของอีกด้านแนวเฉียงๆเส้นนี้จะลากผ้านรู้ร้อยเอ็น ถ้ารู้สึกว่าหนาๆ นี่ไม่ Arrow แล้ว Slim ลักษณะแบนบาง Victor ARTERY TEC แต่ละยี่ห้อก็บางไม่เท่ากัน โดย joobong 10 Plus บางมากถึง 9 mm การควบคุมลูก 1>2>3>4 การต้านอากาศ(มากไม่ดี) 1>2>3>4 ถ้าต้านอากศมากก็ต้องออกแรงเยอะขึ้น 5.ความกว้างของเฟรม เนื่องจากต้องการลดแรงต้านของอากาศจึงมีการทำเฟรมแบบหัวเล็กขึ้นมา เช่น Victor Z-Force และ Gosen Shiden บางทีเฟรมเป็นแบบ Slim แล้วก็ลดขนาดเพื่อเพิมความแข็งแร็ง การใช้ไม้ที่เฟรมเล็กจะมีปัญหาเรื่อง sweep spot คือคุมลูกไม่ดี Oversize เฟรมใหญ่กว่าปกติ (แรงต้านอากาศมาก) Narrow Frame,Standard Frame เฟรมปกติ Small frame เฟรมเล็ก เรื่องแปลกๆที่คุณควรรู้ไว้ในการซื้อไม้รุ่นท๊อป เรื่องของการตลาดรุ่นท๊อปต้องจ้างนักแบดมืออาชีพ ราคาเลยสูง นอกจากนี้ยังต้องใส่มวลสาร(เลียนแบบพระเครื่อง)ที่คนอื่นไม่ใส่กันอีกทำให้ต้นทุนสูงมาก ซึ่งก็มีไม้บางรุ่นดับอนาถไปมากต่อมากแล้วเรามาแฉกันเลยดีกว่า Willson BLX รุ่นนี้ ใส่ หินภูเขาไฟทำให้ตีนิ่มขึ้น ความจริง : แล้วตรงด้ามจับต่อกับก้านใส่แผ่นพลาสติกซับแรงสะเทือนไว้ Yonex Nano Ray รุ่นนี้ใส่ X nano ทำให้ตีแรงขึ้น ความจริง ก้านของไม้รุ่นนี้มีความกว้าง 6.8 mm เล็กกว่าไม้ปกติ แน่จริงลองเทีบกับ joobong 605 ที่ก้านกว้างแค่ 6.5 mm ดูซิ Dunlop Bio ลายไม้เลียนแบบลูกกอฟ ทำให้ต้านอากาศน้อยลง ความจริง เฟรมไม้มันเป็น Arrow dynamic อยู่แล้ว Victor Spira ก้านเรียงตัวเป็นเกลียวทำให้ตีได้แรงขึ้น ความจริง แรงจริงแต่ก้านก็หักง่ายขึ้นด้วย สิ่งที่แตกต่างจากปี 2008 1. เฟรม ไม้ปี 2012 มีการออกแบบให้เฟรมเล็กลง หรือไม่ก็ slim กันมากขึ้น ตรงส่วนที่ติดกับก้านที่เคยป่องๆ เริ่มแคบลงเรื่อยๆ 2. รูร้อยเอ็น Kampoo คงเป็นยี่ห้อเดียวละมั้งที่ยังใช้รูร้อยเอ็น 72 รู ยี่ห้ออื่นหนีไป 88 รูกันหมดแล้ว 3. ก้าน แม้ว่า Ultra H.M graphite จะแพงแค่ไหนก็ตาม ยังขายได้เรื่อยๆแถมขายดีซะอีก 4. วัสดุที่ใช้ทำเฟรม Ti ลงหลุมไปแล้วแน่นอนเพราะราคาแพง เมื่อเทียบกับ carbon nano tube อนาคตจากการคาดเดาล้วนๆ ในอีก 4-6 ปีข้างหน้า (ความเป็นไปได้มากสุดขึ้นก่อน) 1. เฟรม ไม้จะมีการออกแบบโดยให้ เฟรมด้านในเว้าลงไปเพื่อเพิ่ม sweep spot ให้กว้างขึ้นโดยเฟรมยังเล็กเหมือนเดิม 2.รูร้อยเอ็น Fonza ใช้รูร้อยเอ็น 92 รูแล้วแต่ดูท่าไม่รุ่ง รูร้อยเอ็นคงอยู่ที่ 88 รู โดยอาจมีการ ออกแบบให้รูเล็กลงรับกับเอ็นที่เล็กลง 3. ก้าน Ultra H.M graphite และ 40T น่าจะยังอยู่ไปอีกนานแสนนาน ส่วน 30T อนาคตไม่สดใส 4.Carbon Nano Tube มาแน่นอน และอีกตัวที่น่าสนใจการการทำเฟรมคือ วัสสดุผ้า เช่น kevlar และ woven ตอนนี้ยังแพงอยู่แต่ว่าอนาคตไม่แน่ราคาอาจลงมาสูสีกับ CNT ได้ 5.อาจมีคนนึกพิเรนโดยทำไม้ที่ทำจาก แม็กนีเซียม ที่จะทำให้เบากว่า carbon ได้ แต่ค่าทำแม่พิมพ์สูงเหมือนกัน โดยอาจออกเป็น Limited Edtion อันละ 60000 บาทก็อาจมีคนซื้อเก็บสะสมก็เป็นได้ 6.ไม้จริงๆมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ อาจมีคนทำด้ามจาก carbon หรือพลาสติกแทนไม้ก็ได้ (ใครเอาบทความไปแล้วไม่ให้ credit Pu121thai@hotmail.com ขอให้ไม้แบดหัก 555) ปล สงกรานต์นี้กะจะเขียนเรื่องรองเท้าแล้วก็ถ้าว่างจะเขียนวิธีเล่นด้วยเลย แล้วก็จะหารูปมาประกอบบทความนี้ให้จงได้
ไปอ่านแบบสวยๆ ได้ที //pu121thai.exteen.com Blog รูปแบบใหม่มี bug เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่
Create Date : 12 เมษายน 2555 |
Last Update : 12 เมษายน 2555 1:21:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 21494 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|