|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
9 พฤษภาคม 2553
|
|
|
|
คาถาไล่ผี
ตอนแรกผมไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับการเห็นผู้หญิงสวมชุดขาวทั้งตัวคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนปรากฏตัวอยู่ในรัศมีสายตาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ตามถนนหนทาง บนรถเมล์ และสถานที่ต่าง ๆ ราวกับเธอกำลังติดตามความเคลื่อนไหวของผมตลอดเวลา ผมคิดว่าจะมากจะน้อยต้องรู้จักหรือไม่ก็เคยเห็นผู้คนทุกคนในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ดี เพราะผมทำงานอยู่ในเมืองนี้มานาน ส่วนนานเท่าไรผมเองก็จำไม่ค่อยได้ เพราะพักหลังรู้สึกเหมือนเป็นคนล้มละลายทางความจำชอบกล หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะโลหะหนักปะปนมากับอาหาร แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจในเรื่องนี้เท่าไร
แต่ผู้หญิงชุดขาวคนนั้น ผมแน่ใจว่าเธอไม่ใช่คนเมืองนี้แน่นอน คุณว่ามันน่าแปลกไหมล่ะที่ผมพบเธอทุกวัน วันละหลายๆครั้งแบบไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม เธอคนนั้นก็ไม่มีทีท่าคุกคามอะไรนอกจากทำให้รู้สึกอึดอัดรำคาญอย่างไม่เข้าใจเท่านั้น
บางครั้งผมเคยเดินแหวกผู้คนเพื่อจะเข้าไปถามเธอตรง ๆ ว่าติดตามผมหาหอกอะไร แต่เธอก็ถูกกลืนหายไปกับฝูงชนมากมายตามถนนอย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งเห็นหลังเธอไว ๆ อยู่หัวมุมถนน พอวิ่งตามไปก็พบว่าเธอหายลับไปกับมุมตึกราวกับกลายเป็นอากาศธาตุ บางครั้งผมนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหาร เห็นเธอยืนมองผ่านกระจกร้านเข้ามา สายตาของตาจ้องมองไปเบื้องหน้าไม่ได้จับจ้องมายังผม แต่กลับรู้สึกว่าเธอกำลังจ้องมองผมด้วยสายตาซึ่งไม่อาจทายถูกว่าใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
ผมเคยเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟัง แต่เธอกลับหัวเราะเหมือนเห็นเป็นเรื่องตลกเสียเต็มประดา
คุณคงคิดมากไปเอง
เธอบอกด้วย สีหน้าท่าทางไม่วิตกทุกข์ร้อนอะไรกับความทุกข์ร้อนของสามีตัวเอง
มันคงเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า ไม่แปลกหรอกว่าคุณจะเจอใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ คุณไม่ต้องไปสนใจอะไรแค่นั้นก็จบเรื่อง เธอไม่มายุ่งอะไรกับคุณหรอก เชื่อเถอะค่ะ
ผมอยากเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าไม่มองข้ามไหล่ของภรรยาออกไปเห็น เธอ คนนั้นกำลังยืนนิ่งอยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน และเดินหลบหายไปอย่างรวดเร็วก่อนทฃผมจะมีโอกาสชี้มือให้ภรรยาดู แบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เสียงหมาหน้าบ้านเห่ากรรโชกครู่หนึ่งเหมือนเห็นคนบุกรุกเข้ามา นั่นทำให้รู้ว่าไม่ได้ตาฝาด
การปรากฏตัวของเธอบ่อยมากขึ้น และระยะทางก็ใกล้เข้ามาทุกที ผมคิดว่าแบบนี้อีกไม่นานเธอคงจะเข้ามาใกล้จนสามารถจับตัวมาเค้นคอซักถามหาความจริงได้ แต่ขณะเดียวกันผมก็รู้สึกขนลุกอย่างไม่มีเหตุผลทั้งที่เธอยังไม่มีทีท่าคุกคามทำร้ายอะไรผมเลย
บางครั้งการนิ่งเฉยไร้ความรู้สึกสีหน้าท่าทางว่างเปล่ากลับน่ากลัวกว่าการมีทีท่าคุกคามทำร้ายเสียอีก ผมคิดว่าบางทีอาจต้องไปพบจิตแพทย์ แต่ก็ควรจะตรวจสอบทดลองอะไรบางอย่างให้แน่ใจเสียก่อน ดังนั้นผมจึงพกกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กติดตัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน ถ้ามีเวลาว่างผมมักจะหัด ชักกล้องถ่ายรูป ออกมาจากกระเป๋าให้รวดเร็วฉับไว ในทำนองเดียวกันกับการฝึกชักปืนของพวกมือปืนตะวันตกสมัยนิยมดวลปืนกันสนั่นเมือง ต่างกันตรงผมใช้กล้องแทนปืนเท่านั้น
ดึงกล้องออกจากกระเป๋า- สะบัดกล้องจับภาพ-กดชัตเตอร์ ทั้งสามขั้นตอนต้องรวดเร็วแม่นยำ เด็ดขาด บางครั้งผมถึงกับหัดถ่ายรูปในขณะกำลังพุ่งตัวเฉียงเอียงไปด้านข้าง ราวกับมือปืนพุ่งกายหลบวิถีกระสุนและยิงสวนออกไป ผมลงทุนทำถึงขนาดนั้นเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่พลาด แล้วโอกาสก็เป็นของผมในคืนหนึ่ง คืนที่อากาศเย็นสบาย ฝนเพิ่งหยุดตกไปได้ไม่นาน แต่ยังคงมีเสียงฟ้าคำรามกระหึ่มเป็นระยะและมีฝนพรำบางช่วง ผมเปิดหน้าต่างรับลมปนไอเย็น
ในขณะกำลังคลิ้ม ๆ เธอก็ปรากฏตัวขึ้นนอกหน้าต่าง อะไรก็ไม่รู้เหมือนกันทำให้ผมมองเห็นเธอทั้งที่เกือบจะหลับอยู่แล้ว ด้านนอกไม่มีกันสาดและเป็นชั้นสองของบ้าน เธอปรากฏกายได้อย่างไร..ผมรู้ว่าเป็นเธอแน่นอนใบหน้านั้นซ่อนในความมืดผมเผ้าปลิวสยายราวภาพในฝันร้าย วินาทีแรกผมรู้สึกตัวเย็นเฉียบ โลกทั้งโลกเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เป็นความรู้สึกบอกไม่ถูกว่ากลัวหรือตื่นเต้นกันแน่ แต่พอได้สติผมก็สะบัดผ้าห่มออกจากร่าง คว้ากล้องออกมาจากใต้หมอนพลิกตัวลงจากเตียงวาดหน้ากล้องไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็วอย่างคล่องแคล่วชำนาญเพราะฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน เสียงฟ้ากัมปนาทกึกก้องจังหวะที่ผมกดชัตเตอร์พอดี ราวกับผมกำลังลั่นปืนใหญ่ออกไป ไฟแฟลชสว่างวาบจับภาพที่ต้องการแม่นยำปานจับวาง ผีก็ผีเถอะ ...คงนึกไม่ถึงว่าจะมีมนุษย์หน้าไหนฝึกถ่ายรูปได้รวดเร็วราวสายฟ้าขนาดนี้
เมื่อสายฟ้าด้านนอกสว่างวาบอีกครั้ง เธอก็หายไปแล้ว
ผมนั่งคุกเข่าข้างเตียงมือถือกล้องแน่นิ่ง ซึ่งถ้าถ่ายรูปตัวเองได้ในขณะนั้นจะเห็นว่าท่าเท่ห์มากจนไม่อยากเปลี่ยนอริยาบท ในความรู้สึกเดียวกับยอดมือปืนผู้ซึ่งเพิ่งลั่นกระสุนสอยศัตรูร่วงลงไปจากหน้าต่าง ทั้งอิ่มเอมทั้งเท่ห์ทั้งสะใจจนไม่อยากลุก
ที่รัก..คุณทำบ้าอะไรอยู่ข้างล่าง
ภรรยาของผมร้องอย่างตกใจ จังหวะที่สะบัดผ้าห่มออกจากตัวคงทำให้เธอสะดุ้งตื่น และยังคงเห็นผมนั่งในท่าเท่ห์ไม่ยอมลุก ผมยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะก่อนหันไปบอกเธอว่า
ผมทำสำเร็จแล้ว ที่รัก ผมเพิ่งถ่ายรูปเธอคนนั้นได้ตรงหน้าต่างเมื่อครู่ ทีนี้คุณจะรู้ว่าเรื่องที่ผมเคยเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง เธอมาถึงที่นี่ ผมไม่ได้ตาฝาดและคิดไปเอง..พรุ่งนี้เราจะรู้กันเมื่อผมเอาฟิล์มไปล้างมาให้คุณดู
+++++
เมื่อทำการล้างฟิล์มจัดการออกมาจนเป็นภาพ นอกจากภาพถ่ายสัพเพเหระแล้ว ไม่มีภาพผู้หญิงคนนั้นเลย มีเพียงภาพถ่ายใบหนึ่งเป็นภาพหน้าต่างว่างเปล่า.....ถ้าคุณคิดแบบนี้คุณคิดผิดแน่นอน เพราะที่จริงมีภาพใบหนึ่งซึ่งแสดงถึงความมีตัวตนของเธออย่างชัดเจน ภาพผู้หญิงโผล่ครึ่งร่างอยู่บริเวณหน้าต่างชัดเจนพอสมควร เธอเป็นคนเดียวกับคนที่คอยปรากฏกายให้เห็นอย่างน่ากลัวและน่าพิศวงคนนั้นนั่นเอง ผมกำชัยชนะในมือแนบแน่นจนมาถึงบ้าน แล้วโลดแล่นเอาไปให้ภรรยาซึ่งกำลังทำกับข้าวอยู่ห้องครัว
ดูสิที่รัก....นี่เป็นภาพที่ผมถ่ายได้เมื่อคืน เชื่อแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้บ้า ภรรยาหันมามองภาพถ่ายในมือของผมซึ่งยื่นให้ดูแล้วหัวเราะก่อนบอกว่า คุณเข้าใจเล่นตลก นี่คงไปให้ร้านถ่ายรูปตัดต่อรูปเอามาหลอกฉันล่ะสิ ชัยชนะของผมแทบลาลับดับหายไป ณ บัดนั้น อะไรกัน... เธอไม่ได้สนใจให้ความสำคัญกับเรื่องสำคัญแบบนี้เลย ยังหาว่าเป็นเรื่องล้อเล่นอีก เป็นภรรยาแบบไหนกัน
ผมไม่ได้ทำอะไรตลกร้ายแบบนั้นหรอก
ผมพยายามอธิบายอย่างอดทนทั้งที่ความเชื่อมั่นในมนุษยชาติกำลังลดฮวบราวหุ้นดิ่งนรก
มันเป็นภาพที่ถ่ายได้จริง ๆ เมื่อคืนนี้ ผมจะหลอกคุณไปทำไม เห็นไหมว่าผู้หญิงคนนี้มีตัวตนจริงๆ
แล้วเธอออกไปอยู่นอกหน้าต่างได้ยังไงล่ะคะ
เธอหันไปหั่นผักต่อ คำถามนั้นก็ดูเหมือนถามพอเป็นพิธีมากกว่าจะสนใจถามอย่างจริงจังแล้วจะตอบอย่างไรดีล่ะ นั่นเป็นปัญหาของผีไม่ใช่ปัญหาของผม
เธอเป็นผี
ผมตอนสั้น ๆ อย่างสิ้นหวังพอได้ยินเสียงภรรยาหัวเราะก่อนไล่ให้ผมไปกินยาแก้บ้า จนต้องเดินคอตกออกมาจากห้องครัวอย่างรันทดหดหู่ พวกผู้หญิงบางทีทำไมไม่ยอมคิดยอมฟังเหตุผลกันเลย ถ้าขืนคุยต่อไปผมคงกลายเป็นคนบ้าเต็มขั้นรักษาไม่หายในสายตาของเธอแน่ ๆ
ทันใดนั้นผมรู้สึกตัวเย็นเฉียบ ผีผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่บนชั้นสอง สายตาไร้ความรู้สึกจ้องมองตรงมา แต่เป็นการจ้องมองแบบเวิ้งว้างว่างเปล่าเหลือเกิน ความเวิ้งว้างว่างเปล่าอันเย็นยะเยือกจนแทบทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อน นี่เธอถึงขั้นบุกรุกเข้ามาในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัวผมเข้าให้แล้วหรืออย่างไร
ผีก็ผีเถอะ! บังอาจทำถึงขั้นนี้ ผมลืมกลัวลืมตายวิ่งโครมครามขึ้นบันใดพุ่งเข้าไปหาอย่างขุ่นเคือง แต่หญิงสาวชุดขาวคนนั้นถอยหลังหายวูบเข้าไปในผนัง!
ชัดแล้ว ..ไม่มีมนุษย์หน้าไหนทำได้แบบนี้
แบบนี้ผมจะมีชีวิตเป็นปรกติสุขได้อย่างไร เธอใกล้ตัวเข้ามาทุกวัน ไม่แน่ว่าวันหนึ่งวันใดจะตื่นขึ้นมาพบกับเธอนอนอยู่ข้าง ๆ หรือลืมตาขึ้นมาเห็นเธอชะโงกจ้องมองลงมาเหมือนหนังสยองขวัญ หรืออาจจะโผล่ขึ้นมาจากโถส้วม โผล่ออกมาจากตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก หรือกระทั่งจานข้าว ผมคงต้องประสาทเสียไปก่อนวัยอันควรแน่ ๆ
เธอต้องการอะไรกันแน่.....
ผมกระซิบแผ่วโหยกับผนังราบเรียบเบื้องหน้า แต่คำตอบคือความเงียบงัน หากมีเสียงเหมือนคนถอนหายใจดังขึ้นมาครั้งหนึ่งก่อนสายลมเย็นเฉียบจะพัดผ่านออกมาจากผนัง มันทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
วันนั้นผมลางาน ตรงไปยังห้องสมุดของเมือง ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าหญิงชุดขาวคนนั้นเป็นใครและต้องการอะไรกันแน่ บรรณรักษ์หญิงชราเก่าแก่พอๆกับตัวเมืองของห้องสมุดก็ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้กระจ่างอะไรมากขึ้นนัก เธอมองดูภาพถ่ายสาวชุดขาวที่ผมยื่นให้ดูแว่บหนึ่งแล้วส่ายหน้าทั้งที่ผมยังไม่ได้เอ่ยปากถามเสียด้วยซ้ำ แต่ผมคิดว่าตัวเองเห็นแววตาแปลก ๆของหญิงชราปรากฏขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ช่างหัวมันเถอะเรื่องนั้น ความจริงไม่ได้หวังอะไรจากบรรณรักษ์เก่าๆคนนี้อยู่แล้ว ผมเริ่มค้นหาสิ่งที่ต้องการ ข้อมูลของผู้คนในเมืองนี้จากหนังสือซึ่งคิดว่าควรจะมีแต่กลับไม่มี ห้องสมุดแห่งนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้คนหรือประวัติศาสตร์ของเมืองเลยสักนิด
แต่ผมเห็นหนังสือเก่า ๆ เล่มหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ หนังสือดูเก่าจนกระดาษสีซีดเหลือง มันมีความหนาไม่มากนัก ปกเป็นสีดำ เขียนตัวอักษรน่ากลัวบนปกว่า คาถาไล่ผี แต่ไม่ระบุชื่อคนแต่ง พอพลิกดูด้านในก็พบรูปภาพน่ากลัวเต็มไปหมด รวมทั้งข้อความรายระเอียดเกี่ยวกับพิธีกรรมและภูตผีปีศาจต่าง ๆ ส่วนคาถาไล่ผีอยู่เกือบหน้าสุดท้าย และคาถามีความยาวไม่ถึงสิบพยางค์ ที่จริงผมก็อยากจะบอกคุณให้รู้ว่าคาถานั้นมีข้อความว่าอย่างไร แต่คิดแล้วไม่บอกดีกว่า
หนังสืออธิบายว่า คาถาไล่ผีไม่จำเป็นต้องยาวเหยียด เพราะความจริงมันทำหน้าที่เหมือนเป็นรหัสลับหรือลูกกุญแจซึ่งใช้ในการเปิดประตูเข้าสู่มิติลี้ลับเท่านั้น ขอเพียงรู้ก็จะสามารถเปิดประตูต่างมิติเรียกอำนาจเร้นลับออกมาจัดการกับภูตผีปีศาจได้ง่าย ๆ เหมือนกดเงินตู้เอทีเอ็ม ความจริงผมไม่ควรจะเชื่อเรื่องแบบนี้ แต่พอมานึกดูก็ไม่น่าเสียหายอะไร กับการตะโกนคาถาออกมาดัง ๆ เมื่อผีมาปรากฏตัวต่อหน้าเท่านั้น ลองบ้าดูสักครั้งก็คงไม่เสียหายอะไร
ผมยืมหนังสือเล่มนั้นหอบกลับบ้านเพื่ออ่านให้ละเอียดอีกครั้ง แน่ใจว่าไม่ช้าไม่นานผีสาวชุดขาวคนนั้นจะต้องปรากฏกายให้เห็น ไม่ว่าเธอจะเป็นผีตระกูลไหนหรือต้องการอะไรก็ตาม เธอจะต้องหายไปจากโลกของผม จะมีใครบ้างล่ะจะอยู่สงบสุขได้โดยรู้สึกว่ามีใครบางคนติดตามเป็นเงาร้ายอยู่ตลอดเวลา ช่วงบ่าย ผมกลับมาถึงบ้าน ปรกติเวลานี้ผมรู้ว่าเป็นช่วงแห่งการนอนหลับช่วงบ่ายของภรรยา ดังนั้นจึงค่อยใช้ลูกกุญแจเปิดบ้านเข้าไปอย่างแผ่วเบาตามประสาสามีที่ดี ซึ่งเกรงอก เกรงใจภรรยา และอีกอย่างไม่อยากให้เธอมาเห็นตอนผมทำอะไรแปลก ๆ เพราะเท่าที่ผ่านมาเธอก็มองว่าผมบ้าเกินพอแล้ว พอเข้ามาในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ได้ยินเสียงเหมือนคนพูดกันอยู่ชั้นสองของบ้าน ผมขมวดคิ้วและนึกอย่างแปลกใจ ใครกันมาเป็นแขกรับเชิญ หรือว่าภรรยาจะมีชู้สวมเขาให้ผม ทันใดนั้นความคิดทั้งดีและร้ายพลันประดังเข้ามาแต่ส่วนใหญ่จะเป็นความคิดในทางร้ายมากกว่า
หัวใจของผมหลุดออกจากตัวพุ่งล่วงหน้าไปก่อนด้วยซ้ำในขณะกระโจนขึ้นบันใดทีละขั้นสองขั้น
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็พุ่งสวนลงมา
ผู้หญิงชุดขาวผมยาวคนนั้นนั่นเอง เธอพุ่งสวนลงมาอย่างกะทันหัน ทำเอาเย็นวาบไปทั้งตัวแต่เธอก็พุ่งผ่านผมไปราวกับไม่มีตัวตน ช่วงที่เธอผ่านไปผมได้กลิ่นแห่งความตายพัดผ่านไปด้วย กลิ่นแห่งความตายอันน่ากลัวราวกับพัดออกมาจากป่าช้าเก่าแก่ อณูมรณะโอบล้อมหัวใจและไขสันหลังผมครู่หนึ่งก่อนพัดผ่านไปกับสายลม
ทันใดนั้นความกลัวความตกใจเปลี่ยนเป็นความโกรธ ผีบ้าผีบออะไรกัน กล้าหลอกคนกลางวันแสกๆไม่รู้จักกาละเทศะ คาถาไล่ผีผมท่องจดจำได้หมดทุกคำ พอหันไปมองเห็นผีสาวกำลังจะเลี้ยวไปทางห้องครัวผมตัดสินใจท่องคาถาบทนั้นออกมาจนสุดเสียง
ทันทีเมื่อท่องคาถาจบพลังอำนาจไร้สภาพอะไรบางอย่างเหมือนยึดเอาร่างของผมเป็นทวารผ่านเข้าออก ของพลังอำนาจแรงกล้าบางอย่างหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสายแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วราวคลื่นอันทรงพลานุภาพ ร่างของผีชุดขาวพลันบิดเป็นเกลียวในลักษณะอันผิดธรรมชาติและไม่น่าเป็นไปได้ก่อนสั่นพร่าไหวเริ่มแยกแตกสลายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าต่อตา
เสร็จฉันจะ นังผีร้าย.....
ร้องอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นคาถาบทนี้ได้ผล ใช่แล้ว... ผีทุกตัวที่ผมรู้จักพวกมันต้องลาลับดับหาย
แต่ทันใดนั้นภรรยาของผมก็วิ่งลงมาจากชั้นบนราวภาพสโลว์โมชั่น ร่างของเธอบิดเป็นเกลียวผิดธรรมชาติเหมือนกับผีสาวคนนั้นไม่ผิดเพี้ยน ผมปากอ้าตาค้างตกตะลึงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต มันเกิดบ้าเกิดบอคอแตกนรกอะไรขึ้นมา....เธอสลายกลายเป็นอากาศธาตุไปต่อหน้าตายิ่งกว่าฝันร้ายใด ๆ
ผมร้องออกมาเหมือนคนสติแตก วิ่งออกมานอกบ้าน และเห็นภาพอันไม่น่าเชื่อ
ผู้คนที่ผมรู้จักคุ้นเคย ทั้งเด็ก ผู้หญิงคนแก่ พากันบิดเป็นเกลียวก่อนแตกตัวสลายออกเป็นความว่างเปล่า ไม่เว้นแม้แต่หมาแมวหรือยวดยานพาหนะ จนถนนทั้งสายว่างเปล่าปราศจากผู้คน ความเงียบงันอันน่ากลัวปกคลุมแผ่ซ่านไกลออกไปอย่างรวดเร็วไม่หยุดยั้ง เหลือแต่ถนนและตัวบ้านเก่าแก่เต็มไปด้วยฝุ่นเหมือนกับไม่เคยมีผู้คนอาศัยมาหลายปี
ทันใดนั้นผมเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง เข้าใจในเรื่องซึ่งเคยถูกครอบงำปกปิดมานานแสนนาน ความทรงจำค่อยโผล่ขึ้นมาจากจิตใต้สำนักราวการเปิดม่านแห่งความจริงและความทรงจำอันน่ากลัว
มันเป็นความจริงนรกแสนโหดร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งผมไปจนหมด ทั้งภรรยา ทั้งเพื่อนฝูง บรรกาผู้คนที่เคยรู้จัก ทุกคนหายไปจนหมด ทิ้งผมไว้ตามลำพังในเมืองอันมืดมนอ้างเวิ้งเยือกเย็นตลอดกาล ผมทำลายโลกของผมให้พินาศด้วยมือโง่ ๆ ของผมเองอันเนื่องมาจากผีแตกแถวตัวเดียวผู้ไม่ยอมทำตามข้อตกลงของส่วนรวมซึ่งมีว่าห้ามไม่ให้ผีทุกตัวหลอกผมโดยเด็ดขาด โลกของสังคมผีทั้งหลายซึ่งช่วยกันหลอกแบบมาราธอนให้ผมมีชีวิตอย่างปกติสุขตลอดมาในเมืองร้างซึ่งผมเพิ่งนึกได้ว่ามีเพียงผมเท่านั้นอาศัยอยู่ตามลำพังมาเนิ่นนานเหลือเกินจนลืมเลือนไปแล้วว่านี่เป็นเมืองร้าง
ตอนนี้ผมได้ยินเพียงเสียงอันอ้างว้างเจ็บปวดสิ้นหวังของตัวเองกึกก้องยาวนาน
จบ
Create Date : 09 พฤษภาคม 2553 |
|
20 comments |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 7:04:13 น. |
Counter : 1788 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: nuyect 9 พฤษภาคม 2553 15:48:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 10 พฤษภาคม 2553 23:13:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูอินค่ะ IP: 10.100.114.155, 61.7.235.195 12 พฤษภาคม 2553 15:21:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนต้นไม้ IP: 183.89.238.49 22 พฤษภาคม 2553 9:27:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: อะไร IP: 182.232.152.193 17 กรกฎาคม 2553 21:51:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชาญช IP: 110.49.249.76 18 มิถุนายน 2554 22:07:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: มาโซคิส 26 ตุลาคม 2555 15:08:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: 957799 IP: 115.87.102.66 23 สิงหาคม 2556 3:47:55 น. |
|
|
|
| |
|
|
Psycho man |
|
|
|
|