กำลัง ก่อร่าง สร้างตัว อยู่ฮับ
 
พฤษภาคม 2551
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
3 พฤษภาคม 2551

ภาค 1 การเตรียมตัว

ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนว่า ผมจะไม่กล่าวถึงว่าไปทำที่ใหนมา ผมเลือกเอาจากข้อมูลที่มีอยู่ในนี้ เลยคิดว่า ขอเอาประสบการณ์ของต้วเองมาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง(อ่าน) กัน

เริ่มจาก หลายๆ ครั้งที่ได้ไปเที่ยว หรือทำงาน ทั้งใน และนอกประเทศ สิ่งที่รู้สึกว่าเป็นภาระอย่างนึงก็คือ แว่น

ต่อจากนี้ ผมสามารถ ดำน้ำได้ ทำอะไรได้อีกหลายๆอย่าง โดยไม่ต้องพึ่งแว่นแล้ว


เริ่มเลยดีกว่า......


มกราคม 2551-ปลาย มีนา 2551

หาข้อมูลเกี่ยวกับเลสิค ในพันทิป thaimtb รวมถึงเวปอื่นๆ ทั้งไทยและเทศ อ่านมันดะเลย แหมม ก็ตาเรานี่ครับ อ่านๆ รวมๆ ก็น่าจะแต่งหนังสือได้สักเล่ม 5 5 5

สรุป แล้ว
LAsik ไม่สามารถ การันตีได้ 100%
Lasik มีโอกาสเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดทั่วๆไป
Lasik เพิ่งเกิดขึ้นบนโลกเบี้ยวๆในนี้ ไม่น่าจะเกิน 30 ปี (ไม่แน่ใจเท่าไรนะ ผู้ใดรู้ แก้ไขให้ด้วยครับ) ฉนั้น รายงานการรักษา ผลการรักษาต่างๆ รวมถึงผลกระทบต่างๆ จึงยังคงมีไม่มาก

*** ความเชื่อส่วนบุคคล ***
ส่วนตัวเชื่อว่า Lasik สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเครื่องยิงเลเซอร์ ส่วนจักษูแพทย์เป็นสิ่งสำคัญรองลงไป

ทำใมถึงคิดอย่างนี้หรือครับ
แพทย์ เป็นเพียงผู้ตรวจวัด วินิจฉัย และป้อนข้อมูลต่างๆ
เครื่องยิงเลเซอร์ คือส่วนที่กระทำกับตาของคูณโดยตรงงัยละ

จากการศึกษา ค้นหาข้อมูล พบว่า

เตรื่องยิงเลเซอร์ ที่ใช้ในการรักษา Lasik ในประเทศไทย มีหลักๆ อยู่ 3 ยี่ห้อ นั่นคือ
1. Nidec ของญี่ปุ่น
2. Alcon ของอเมริกา
และ 3. Zeiss ของเยอรมัน

เนื่องจากอาชีพผมคือ วิศวกร ผมจึงศึกษาเชิงลึกของทั้ง 3 ยี่ห้อ

และคำตอบของผมคือ ข้อ 3. Zeiss จากค่ายเยอรมันครับ

ทำใมเหรอ....
เพราะ เลนส์ที่ดีดีที่สุดในโลก คือเลนส์ยี่ห้อ Carl Zeiss ในเครื่องเลเซอร์ เลนส์คือส่วนที่สำคัญที่สุด และ นอกจากนี้ Zeiss ยังคงเป็นบริษัทชั้นนำ ในการผลิตเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดและเที่ยงตรงสูง

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ผมจึงโทรสอบถามไปยัง ศูนย์เลสิคทั้งหลาย เท่าที่จะทราบและหาได้ในกรุงเทพ โดยคำถามแรกๆ ที่ผมถามก็คือ ศูนย์แห่งนี้ ใช้เครื่องเลเซอร์ยี่ห้ออะไร 5 5 5 5

จากการโทรสอบถาม ทำให้ตัวเลือก จากประมาณ 15 แห่ง เหลือเพียง แค่ 2 แห่ง
โดย

ศูนย์ A ใช้เครื่อง Zeiss รุ่น MEL 70 (คาดว่าเป็น 5th generation)
ศุนย์ B ใช้เครื่อง Zeiss รุ่น MEL 80 (คาดว่าเป็น 6th generation)

ข้อมูลของทั้งสองรุ่น ด้านล่างนี้ ตัดลอกมาจาก Zeiss.com**

"MEL" stands for "Meditec Excimer Laser."

* MEL 50
Introduced at the world congress of Rome in 1986; designed for radial keratotomy (RK) procedures.
* MEL 60
Introduced in 1989 for photorefractive keratectomy (PRK) to treat nearsightedness. Laser in situ keratomileusis (LASIK) was performed on the MEL 60 in 1990.
* MEL 70
Introduced in 1997 as the first fully controlled flying spot laser with a Gaussian beam profile.
* MEL 80
o Used in the international market since 2003.
o 250 Hz repetition rate; one of the fastest lasers on the market.
o Three eyetrackers provide eye registration along with pupil and limbus tracking.
o FDA approved for use in the United States in 2006.

เอาละสิ

70 กับ 80 ต่างกันตรงใหนฟระ

หาข้อมูลเพิ่มเข้าไปอีก 5 5 5 เจอจนได้ มีบทความต่างประเทศเขียนถึง ข้อแตกต่างของสองรุ่นนี้คือ (ผมพรินท์ออกมาเก็บไว้ แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันมาจากเวปใหน T_T)
รุ่น 80 พัฒนามาจากรุ่น 70 โดยเพิ่มฟีเจอร์สำคัญๆ 2 อย่างคือ ยิงเลเซอร์ได้เร็วขึ้น (ประมาณ 10% เมื่อเทียบกันรุ่น 70) และเพิ่มเซนเซอร์สำหรับฟังก์ชั่น Eye Tracker ยกเว้น คุณสมบัติ 2 อย่างนี้ รุ่น 70 กับ 80 เหมือนกันหมด

เมื่อผมพิจารณา ถึงเรื่องราคา และความเหมาะสม รวมถึงความคุ้มค่าของเงินที่จะเสียไป T_T

ผมเรื่อง ศูนย์ A เพราะราคาแพคเกจที่ให้มา เป็นราคาที่เหมาะสม และไม่มีกั๊กเทคโนโลยี (wavefront ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ มีมากับเตรื่องเลเซอร์อยู่แล้ว แต่บางศูนย์ นำมาแยก เป็นแพคเกจ แล้วอัพราคาเพิ่มขึ้นไปอีก)

วันที่ 1 เมษา โทรนัดศูนย์ A เพื่อ ตรวจประเมินสภาพสายตา

ได้คิวตรวจวันที่ 5 ตอน 10 โมงเช้า

ไปถึง ก็ตรวจประเมิณสภาพตา หลายขั้นตอนมาก สรุปสุดท้าย

สภาพตาของผม มีปริมาณน้ำตาปานกลางถึงสูง มีผิวกระจกตาหนาพอที่จะทำ แบบ Lasik (ถ้ากระจกตาหนาไม่พอ จะต้องทำแบบ PRK เท่านั้น ส่วนข้อแตกต่างระหว่าง PRK กับ Lasik มีอีกเป็นกระบุง อิ อิ อิ )

โอเค นัดหมายทำแบบ Lasik

วันที่ 24 เมษา 2551

นัดทำ Lasik เวลา เที่ยง

ไปถึงศูนย์ ตั่งแต่ 10.30น. อิ อิ ไม่ค่อยเห่อเลยเนอะ

11.25 พยาบาล มาเรียกไปเตรียมตัว หยอดยาชา และหมอ ออกมาสรุปขั้นตอนการทำให้ฟังอีกครัง (ส่วนตัว ไม่ต่อยกลัวอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า เมื่อเข้าไป จะต้องเจออะไรบ้าง หากเพื่อนๆ อยากรู้ ไปหาดูใน youtube ค้นหาคำว่า lasik จะเห็นวิธีทำแบบหมดใส้หมดพุง แต่... แนะนำว่า หากคุณต้องการทำจริงๆ อย่าเพิ่งเปิดดู เพราะคุณอาจจะรับไม่ได้ และอาจจะล้มเลิกความตั้งใจในการทำ Lasik ก็เป็นได้)

11.55 พยาบาลให้ยาแก้ปวด และยาคลายกล้ามเนื้อ (พยาบาลมักจะบอกว่าเป็นยาคลายเครียด หรือยาคลายกังวล) ให้ทาน

12.00 เดินเข้าห้องผ่าตัด (หุ หุ หุ พูดซะน่ากลัวเลยวุ๊ยย) การผ่าตัดเป็นไปตาม step ที่ผมได้ศึกษาล่วงหน้า (ดูใน youtube) ไปก่อนแล้ว หมอจะพูดคุยกับผมตลอดเวลา และผมก็ตอบหมอตลอดเวลาเหมือนกัน อิ อิ อิ

12.30 เสร็จสิ้นกระบวนการ ออกจากห้องผ่าตัดมาพักที่ห้องเตรียมอีกครั้ง ตอนนี้ ออกมาเป็นแบบอุนตร้าแมนเลย ครอบตาออกมาทั้งสองข้าง 5 5 5

12.35 พยาบาลเอาเครื่องดื่มร้อนมาให้ทานพร้อมทั้ง บอกวิธีการดูแลรักษาตัวหลังจากนี้

จากนั้น กลับไปพักผ่อน........

ประมาณ บ่าย 3 ยาชาหมดฤิทธ์ เคืองตาสุดๆ เหมือน ใส่คอนแทคเลนส์แล้วมีฝุ่นเข้าไปนะ

15.30 ทนไม่ใหว ทานยาแก้ปวดไปอีก 2 เม็ด จากนั้น หลับยาว......

21.30 ยังคงเคืองตาเหมือนเดิม ทายยานอนหลับ (อย่างอ่อน ซึ่งมีการจัดมาให้) หลับยาวถึงเช้า


25 เมษา 2551

8.00 ตื่นเช้าขึ้นมา อาการเคืองตา หายไปแล้ว แต่รู้สึกรำคาญตามากๆ (มารู้ทีหลัง มันรำคาญเพราะขี้ตามันแกาะแห้งเกรอะรังนั่นเอง 5 5 5)

10.30 พบหมอ เปิดที่ครอบตา ทำควาสะอาดตา รวมถึงแนะนำวิธีการรักษาในช่วง 7 วันอันตราย (หลังจากทำ Lasik การดูแลรักษาในช่วง 7 วันแรก หากรักษาไม่ดี อาจจะเศร้าไปทั้งชีวิต) ลองให้อ่านชาร์ตตัวเลข ปรากฎว่า อ่านได้ถึงเส้นแดง ระดับ 20/20 ซึ่งเป็นระดับที่ดีมาก แต่ ยังคง ต้องเพ่ง และ เหมือนมีเมฆหมอกจางๆ อยู่ รวมทั้งตายังคงสู้แสงจ้าไม่ได้

12.00 ใส่แว่นดำ กลับบ้าน

13.00 ถึงบ้าน นอนหลับยาว ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เป็นระยะๆ เพื่อลุกขึ้นมาหยอดยาปฎิชีวนะ (สำคัญมากๆ ห้ามลืมหยอด)

19.00 ลองออกมายินแถวๆถนนใหญ่ ปรากฏว่า โลกนี้ช่างสวยงาม ไฟทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไฟถนน ไฟหน้ารถ เปล่งประกายสวยงามมาก อิ อิ อิ

20.00 ทานยานอนหลับที่หมอให้มา แล้ว หลับยาวๆๆๆ อีกครั้ง..

26 เมษา

8.30 ตื่นนอน อาการเคืองตา หายเป็นปลิดทิ้ง การมองเห็นชัดเจนสุดๆ แต่เมฆจางๆ ยังคงมีอยู่แต่น้อยลงมาก (ตอนตื่นนอนใหม่ๆ เผลอคลำหาแว่นใหญ่เลย 5 5 5)

วันนี้ ทั้งวัน ไม่ไปใหน นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน ดูทีวีบ้าง เล่นคอมพ์บ้าง แต่ได้ไม่นาน ยังคงมีการปวดตาเป็นระยะๆ ถ้ารู้สึกไม่ดี ก็นอน

แต่อย่าลืม หยอดยาปฏิชีวนะ ตามหมอสั่งนะครับ

27 เมษา

ตื่นมา ทุกอย่างชัดเจน เมฆยังคงมีจางๆ จางมากๆๆ แต่ยังคงมีอยู่

10.30 ลองแรดออกไปข้างนอน ขับรถไป เซนทรัลพระราม 3 เดินเล่น ซื้อน้ำตาเทียมเพิ่ม (ผมหยอดกระหน่ำเลยครับ ไม่ยอมให้ตาแห้งเลย หยอดน้ำตาเทียมทุกครั้งที่นึกได้ อิ อิ อิ ) หาทานข้าว แอบไปดูหนังอีกเรื่องนึง
เป็นครั้งแรก ที่ดูด้วยสายตาตัวเองไม่ผ่านแว่น โอ้ แม่เจ้า สดใสน่าดู

17.00 กลับถึงบ้าน ดูทีวี เล่นคอมพ์ ได้นานเท่าที่ต้องการ อาการปวด ล้า ของสายตาหายไปแล้ว

เมื่อสักครู่ลองออกไปดูที่ถนน ไฟต่างๆ ที่เคยเปล่งประกายก็ลดลงแล้ว (วันแรกเห็นขนาดลูกบาส วันนี้ น่าจะประมาณลูกเทนนิส)

28 เมษา
ตื่ินเช้ามา ทุกอย่างชัดเจน ยังคงมีอาการควานหาแว่น แถวๆหัวนอนเหมือนเดิม อิ อิ อิ (ก็ แหมมมม ควานมาตั้งเป็นสิบปีนี่นะ)

อาบน้ำ เหมือนเดิม ระวังน้ำเข้าตา

จากนั้น ลองขับรถไปวนๆเล่น เพื่อดูอาการของสายตา พบว่า ยังคงเหลือ หมอกจางๆ (จางมากๆ) อยู่บ้าง แต่ไม่เป็นปัญหา สายตายังตงโฟกัสวัตถุได้ค่อนข้างช้า แต่ไม่เป็นปัญหา

หาข้าวเที่ยงกินเสร็จ ขับรถกลับบ้านระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ของศูนย์โทรมาสอบถามอาการของสายตา ก็อธิบายไปตามจริง ถึงบ้านนอนยาวถึง 17.30น

หาข้าวเย็นกิน จากนั้น นั่งดูโทรทัศน์ นอนตอน 21.00


Create Date : 03 พฤษภาคม 2551
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 21:33:54 น. 6 comments
Counter : 441 Pageviews.  

 
ขอโทษทุกๆ comment ครับ มือไวไปหน่อย เผลอกดลบไปหมดเลย


โดย: ps2001 (ps2001 ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:28:57 น.  

 
ไปทำ Lasik ที่ไหนมาหรือคะช่วยแนะนำด้วยคะ


โดย: เอ IP: 221.128.75.82 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:31:44 น.  

 
ไปทำที่วิภาวดีมาหรือเปล่า


โดย: กวาง IP: 118.174.61.56 วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:13:45:33 น.  

 
ราคาค่าทำ Lasik ที่่ เจ้าของกระทู้ทำ เท่าไหรเหรอครับ ใช่ 45000 หรือเปล่าครับ


โดย: kinm IP: 58.64.61.178 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:21:10:26 น.  

 
ขอรบกวนสอบถามเรื่องเลสิคว่าไปทำที่ไหนมาค่ะ
ช่วยตอบมาที่ rtaf99@yahoo.com
หรือโทร 086-5539623

ขอบคุณมากค่ะ


โดย: ตุ๊ก IP: 125.25.44.59 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:14:48:15 น.  

 
kanya80@hotmail.com ราคาเท่ารัยค่ะ บอกหน่อยได้มั้ย


โดย: อยากรู้มั้งทำที่ไหนค่ะ IP: 58.11.47.67 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:19:42:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ps2001
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ปัญหาทุกอย่าง มีทางออก ถ้าหากว่า..........

หาทางออกไม่เจอ.........

ก็ออก แม่ม ทางเข้า นั่นแหละ..

Free Hit Counter
[Add ps2001's blog to your web]