ชื่อหนังสือ : คู่ฝันคะนึง ๑-๒ ชุด เสน่ห์เงามาร

ผู้เขียน : เฮยเจี๋ยหมิง ผู้แปล : เสี่ยวเฟิงหลิง

ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดย แจ่มใส มากกว่ารัก

ราคาหน้าปก ๒๘๙ บาท จำนวน ๓๗๖ หน้า

ISBN: ๙๗๘-๖๑๖-๐๖-๑๓๐๓-๘

ปกหลัง

เมื่อค่ำคืนมาเยือน “ถังเข่อชิง” มักจะอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษผู้หนึ่งจอมราชันผู้องอาจ ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด ทุกการกระทำตามอำเภอใจของเขาพาให้เธอหน้าแดงหัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ทว่า...ทั้งหมดนั้นกลับเป็นแค่ความฝันแสนวาบหวามที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อไรก็จะหายวับไปชวนให้มึนงงสงสัยเหลือเกินว่าเขาเป็นใครกันแน่เหตุใดเธอจึงฝันถึงเสมอ

จนในที่สุดเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเธอจนได้กลิ่นอายและท่าทางวางอำนาจของเขาเหมือนชายในฝันของเธอไม่ผิดเพี้ยนไหนจะนัยน์ตาเย็นชาข่มขวัญคนคู่นั้นอีก สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือนี่คือโลกยุคปัจจุบันไม่ใช่โลกยุคโบราณที่เธอต้องเป็นฝ่ายยอมศิโรราบให้แก่เขาอีกต่อไปแล้ว!

เนื้อเรื่องย่อ(เอง)

ทุกค่ำคืนยาม “ถังเข่อชิง” หลับฝันเธอจะพบกับบุรุษหนุ่มอหังการ์ ที่แสนจะองอาจและเอาแต่ใจ เขาคือทรราชผู้ชั่วร้าย แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธเสน่ห์ของเขาได้เลยสักครั้ง จนวันหนึ่งถังเข่อชิง ก็ได้พบกับเขา “ฉิวเทียนฟั่ง” บุตรชายบุญธรรมของฉิวจิ้งหยวน ผู้ที่จะมาเป็นประธานคนใหม่ของหวงถ่งกรุ๊ปที่หญิงสาวทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวของท่านประธานคนเก่า เข่อชิงจึงจำเป็นต้องรับหน้าที่เลขาให้กับท่านประธานคนใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เข่อชิงที่เป็นคนจริงจังกับงานเสมอ ๆ อดจะอึดอัดใจกับท่านประธานคนใหม่นี้ไม่ได้เลยจริงๆ ก็ในเมื่อเขาคนนั้นกับชายในฝันของเธอ กลับมีแววตาและกลิ่นอายที่อบอวลรายรอบราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน เสน่ห์ของเขากำลังทำให้เธอเสียศูนย์ และดูเหมือนท่านประธานหนุ่มก็ดูจะยินยอมพร้อมใจที่จะเอาตัวมาพัวพันกับเธอ จนหญิงสาวต้องยอมสิโรราบให้กับเขาไม่ต่างจากในความฝันวาบหวามที่เธอประสบยามหลับทุกค่ำคืน

ทุกคืนที่เขาหลับฝัน ฉิวเทียนฟั่ง จะได้พบกับเธอคนนั้น เธอที่เขาทั้งรัก ทั้งแค้น และชิงชังในเวลาเดียวกัน เขารักเธอ เชื่อใจเธอ แต่ก็เคืองแค้นเธอในเวลาเดียวกัน ในความฝัน ไม่ว่าเขาจะ เป็นกษัตริย์ เป็นองค์ชาย เป็นจอมทัพ หรือแม้แต่เป็นจอมโจรทรราชผู้ชั่วร้าย ทุกบทบาท เขาจะจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของเธอ เธอที่สังหารเขาด้วยอาวุธแทงทะลุหัวใจของเขา เธอทรยศเขา ทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าเธอรักเขา ไม่ต่างจากที่เขาก็รักเธอ ทั้งรักทั้งแค้น แต่เธอเลือกที่จะฆ่าเขาอย่างเลือดเย็น จนกระทั่งวันนี้เขาได้พบกับเธออีกครั้ง ชายหนุ่มสัญญากับตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าเขาจะต้องตายอีกกี่พันครั้งเขาก็จะไม่เสียเธอที่เขาแสนรักอีกต่อไปแล้ว 

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

อยากรู้จังทำไมแจ่มใสถึงเปลี่ยนชื่อนิยายเรื่องนี้ จาก “อสูรคู่คะนึง” เป็น “คู่ฝันคะนึง” คือ pd ว่าชื่อ อสูรคู่คะนึง มันใช่อะ มันเป็นคำจำกัดความที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายจริงๆ นะเอ้า ใครรู้ บอก pd ทีเถิดชะนีข้องใจ แต่ชะนีก็ไม่ซีเรียสนะ เพราะ pd ได้อ่านเรื่องนี้แล้วคือฟินแล้วไง คือดีงามมากมาย บ่องตง ๆ

คู่ฝันคะนึง เป็น มากกว่ารัก ที่ pd ขอยกขึ้นหิ้งบูชาในความดราม่าเลยแล้วกัน ชีวิตรัก รันทด ซดน้ำตา มากี่ชาติภพกันละเนี่ยพี่น้อง เปิดเรื่องด้วยภาพนางเอกที่กำลังเลื่อนลอย หลังจากที่นางสังหารชายคนรักเพื่อหยุดการกระทำอันชั่วช้าซักชาติหนึ่งของพระเอก เป็นฉากเปิดโรงได้น่าติดตามดีค่ะ แล้วก็ข้ามมาที่ยุคปัจจุบันที่คนเขียนพยายามให้เราเข้าใจว่า เข่อชิง กลับชาติมาเกิดและฝันระลึกชาติก่อนของตัวเอง แต่พอดำเนินเรื่องเรื่อยๆ มา ก็จะเผยออกมาว่านางแค่พยายามลืมความทรงจำอันปวดร้าวของตัวเองตลอดชีวิตอมตะของตน กลายเป็นพระเอกซะอีก ที่เวียนว่ายตายเกิดมาแล้วหลายภพชาติและถูกคนที่เขาไว้ใจฆ่าตายครั้งแล้วครั้งเล่า จากแค้น เปลี่ยนเป็นรักเพราะความผูกพันของคนทั้งสอง ทั้งรักทั้งแค้น แต่เรื่องนี้สงสารนางเอกชะมัดต้องสังหารคนที่ตัวเองรักครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะต้องการหยุดวงจรชีวิตของพระเอกคอยแต่จะทำบาปทำกรรมสังหารชีวิตผู้คนผู้เขียนบรรยายว่า พระเอกของเรา ช่างบาปหนาและเบาปัญญา ... เอ่อ...ถูกต้องเลยpd เลยไม่ค่อยจะรู้สึกสงสารพระเอกเท่าไหร่สงสารนางเอกกับ หลิง มากกว่าค่ะ โดยเฉพาะ หลิงถูกคนที่ตัวเองไว้ใจทรยศ แล้วต้องยอมเสียเลือดเนื้อให้พวกปิศาจดื่มกินแต่ก็ไม่สามารถตายได้ อ้ากกกก โหดร้าย ก็รู้สึกว่าที่หลิงทำลงไปก็สาสมอยู่นะสำหรับพระเอก แต่นางเอก นางดูซวยที่สุดยังไงก็ไม่รู้

อีกอย่างที่ pd ชอบคือฉากเรทค่ะ... แลดูอิชั้นโรคจิตเนอะ แต่ก็จริงๆ นะเออ เขียนฉากเรทดีมาก คือไม่ต้องบรรยายพรรณนาถึงท่ายากมากมายหรอกนะยะแต่เขียนมาแบบนี้แหละ คือดีงาม รับรู้อารมณ์ร้อนแรงของตัวละครจนต้องจิกนิ้วกัดหมอนคือมันสื่ออกมาได้ทั้งอารมณ์รักและเจ็บปวดได้ในเวลาเดียวกัน เอาเป็นว่าเรื่องนี้สามารถ ทำให้ pdชะนีที่ไม่นิยมดราม่าและฉากเรทต้องซูฮกและยกนิ้วให้เลยค่ะ แนะนำเพื่อน ๆ เลยว่า อ่านเถอะค่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆนะเออ 

Prophet Doll

๑๑สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗