ชื่อหนังสือ :เคหาสน์นางคอย ผู้เขียน : พงศกร

ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๔ :พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดย สนพ.กรู๊ฟ

ราคาหน้าปก๓๒๐ บาท จำนวน ๓๗๓ หน้า

ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๗๗๓๕-๐๗-๘

ปกหลัง

เคหาสน์หลังมหึมา เหนือหน้าผาริมทะเล และเสียงกรีดร้องยามค่ำคืนใครๆ ก็ว่านั่นเป็นเสียงของคนบ้าบนยอดหอคอยของเคหาสน์ ผู้หญิงบ้าที่สวมหน้ากากแก้วตลอดเวลาไม่ยอมให้ใครได้เห็นหน้า

หากเมื่อหญิงสาวได้เข้าไปอยู่ เธอกลับพบว่าเสียงกรีดร้องนั้นแท้จริงแล้วมีที่มาจากห้องใต้ดินต่างหาก ห้องใต้ดินของเคหาสน์นางคอยที่ซ่อนความลับไว้มากมายเกินว่าใครจะเคยคิดฝัน...

ความลับที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตใครบางคนไปตลอดกาล

เนื้อเรื่องย่อจากสำนักพิมพ์

‘กุ้ง’ หญิงสาวสวยสง่าและบอบบางผู้มีชาติกำเนิดลึกลับ ชีวิตในสลัมของเธอดูผิดที่ผิดทางราวกับกุหลาบที่ตกไปอยู่ในดงน้ำครำ ความจำเป็นทำให้กุ้งต้องเดินทางไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผา เพื่อทำงานเป็นพี่เลี้ยงดูแลคนวิกลจริตผู้หนึ่งที่สวมหน้ากากแก้วอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง...

เธอไม่เคยคิดเลยว่า การเดินทางไปยัง ‘เคหาสน์นางคอย’ ครั้งนี้กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาลเมื่อกุ้งค้นพบว่าคนไข้ของเธอนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้วิกลจริตอย่างที่ใครๆ กล่าวหา และคนไข้ของเธออาจเกี่ยวพันกับ‘เพชรสีชมพู’

...อัญมณีล้ำค่าที่หายสาบสูญไปนานนับสิบปี!

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

“เคหาสน์นางคอย”เป็นงานที่เลือกหยิบมาอ่านนอกเหนือจาก ชุด ตระกูลผ้า ทั้งหลายแหล่ของคุณหมอค่ะ ซึ่งPd ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามหางานเขียนแนวลึกลับ ของคุณหมอมาอ่านให้ครบ เล่มนี้ Pd อ่านจาก E-Book ล่ะยืม User ชาวบ้านอ่าน(คล้าย ๆ การยืมหนังสือชาวบ้านอ่าน ประมาณนั้น)

เนื้อเรื่องโดยรวมเกี่ยวกับเด็กสาวที่ชื่อ“กุ้ง” ตัวเอกของเรื่องที่ได้เข้าไปทำงานใน “เคหาสน์นางคอย”เพื่อดูแล “ประพิมพรรณ” หญิงสาววิกลจริตที่ถูกขังอยู่บนยอดหอคอยของ “เคหาสน์นางคอย”จนต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวลึกลับในปราสาทหลังงามของตระกูลเศรษฐีเจ้าของบ้าน

ถ้าใครที่เคยได้อ่านงานชิ้นนี้จะรู้ว่าคุณหมอแกได้รับแรงบัลดาลใจมาจากภาพยนตร์เก่าเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ “ปราสาททราย”เพราะฉะนั้นเราก็จะเห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างทั้งสองเรื่องได้ในทันทีที่เราอ่านเพราะฉะนั้นอย่าได้ตกใจไปนะเออ

“เคหาสน์นางคอย”เป็นนิยายแนว “โกธิค” ที่ให้วางให้ตัวเอกซึ่งในที่นี้ก็คือ เด็กสาวที่ชื่อกุ้ง เป็นคนดำเนินเรื่องค่อย ๆ คลายปมปริศนาที่ละปม ๆ โดยมีพระเอกคือ “สักกทัศน์”ทนายประจำตระกูลของเคหาสน์ฯ และกลุ่มเพื่อนสนิท ที่คอยช่วยเหลือ โดยรวมจัดว่าสนุกค่ะอ่านได้เรื่อย ๆ แต่....เป็นเพราะ Pd อ่านแนวนี้มาเยอะบวกกับงานชุดนี้เขียนไว้นานมากแล้ว Pd เลยไม่รู้สึกถึงความตื่นเต้นซักเท่าไหร่พูดง่าย ๆ เดาทางได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยค่ะเลยรู้สึกว่าอรรถรสตรงจุดนั้นที่คุณหมอพยายามนำเสนอไม่ค่อยถึงใจถึงอารมณ์ชะนีโฉดอย่าง Pd สักเท่าไหร่ถ้าเปรียบเทียบกับ “กลิ่นการเวก” ขานั้น ... หลอนกว่ากันเยอะค่ะอาจจะเป็นเพราะ “เคหาสน์นางคอย” ยังคงมีฉากหวาน ๆ เข้าพระ เข้านางประปรายเบา ๆ อยู่ตลอดเรื่องก็ได้นะ ซึ่งต่างจาก “กลิ่นการเวก”ที่ไม่เน้นน้ำตาล เน้นแต่อาหารสด! ซะมากกว่าอารมณ์หลังเสพจึงให้ความรู้สึกที่ต่างกัน

Prophet Doll

๐๒กรกฎาคม พศ.๒๕๕๗