ชื่อหนังสือ: เพชรรากษส (นวหิมพานต์ #2.5) ผู้เขียน:อลินา (กิ่งฉัตร)

พิมพ์ครั้งที่1มีนาคม พ.ศ.2559โดย สำนักพิมพ์ลูกองุ่น

ราคาหน้าปก310บาท จำนวน 386หน้า

ISBN:978-616-7727-13-4

รายละเอียด

นฤจักษ์ คือเมืองท่าใหญ่ในนวหิมพานต์ นฤจักษ์คือเมืองยักษ์เมืองของ รากษส หรืออสูรน้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อน หยาบคายดุร้ายและเปี่ยมด้วยอารมณ์รุนแรง

พวกอสูรยังพอทำใจยอมรับรากษสเพราะถือเป็นอสูรเผ่าพันธุ์หนึ่งแต่พวกเทพมองรากษสว่าต่ำช้าเสียยิ่งกว่ามนุษย์

รากษสตอบโต้ด้วยการต่อต้านพวกเทพรวมไปถึงพวกลูกครึ่งลูกเสี้ยวที่มีเชื้อสายเทพในตัวพวกเขาเรียกพวกลูกครึ่งเหล่านี้ว่า มูลเทพและเหยียดหยามว่ามีค่าน้อยเสียยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงในเรือน

อวิกา...คือมูลเทพที่เติบโตมาเยี่ยงนางก้นครัวในเรือนเมรัยแม้ชีวิตจะยากลำบากและขมขื่นภายใต้การกดขี่ของแม่เลี้ยงใจร้ายมูลเทพน้อยก็ยังมีความรัก

รักแรกกับรากษสหนุ่มที่ช่วยหล่อนจากการถูกทุบตี

รักสองกับรากษสหนุ่มที่ร่างกายยับเยินถูกแขวนไว้รอความตายในตลาด

รักสามกับรักษะตนใหม่ผู้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำนฤจักษ์ด้วยการโค่นอำนาจลุงของเขาเอง

กาณฑ์...คือลูกครึ่งรากษสอสูรผู้ปรากฏสัญลักษณ์ของผู้ถูกเลือกบนหน้าผาก เขาคือความหวังที่ชาวเมืองคาดว่าอาจจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำฝั่งอสูรแทนบรอสูร เขาคือกบฏคือฆาตกรที่ถูกทิ้งให้รอความตายอย่างน่าสมเพชในตลาด เขาคือรักษะตนใหม่ที่ตั้งใจจะนำพานฤจักษ์ให้ก้าวหน้าทัดเทียมนวหิมพานต์ แต่ตำแหน่งรักษะนั้นหอมหวานรักษะตนใหม่จึงเป็นเป้าหมายที่ต้องกำจัดความรักของเขาคือสิ่งที่ต้องทำลายให้ย่อยยับ กาณฑ์ต้องต่อสู้สุดกำลัง...เพื่อนฤจักษ์และสาวมูลเทพของเขา

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

#เพชรรากษสแม้จะเป็นเล่มที่ 3 ในซีรีส์ นวหิมพานต์ แต่เรื่องนี้ Time Line จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนตรีเนตรทิพย์ จนไม่อยากจะเรียกว่าเป็นภาคที่ 3 ของชุดน่าจะเรียกว่า 0.5 หรือเปล่าเอ่ย? มันให้อารมณ์เหมือนเป็นภาคขยายความ ก็ไม่เชิงอะ... เอาเป็นว่าแล้วแต่จะเรียก และถ้าอยากจะอ่านแบบไม่เรียง ก็บอกได้เลยว่าไม่งงอ่านโดยที่ไม่ได้อ่าน  2 เล่มแรกยังได้

#เพชรรากษสมีฉากหลังเป็นเมืองนฤจักษ์ ซึ่งเป็นเมืองท่าติดทะเลของนวหิมพานต์ซึ่งในฐานะเมืองท่า นฤตจักษ์ จึงสมควรจะเป็นเมืองใหญ่ เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง หากแต่เพราะเมืองท่าแห่งนี้ได้ชื่อว่าเปป็นดินแดนของอสูรน้ำหรือ รากษส ที่อพยบมาแต่โลกเก่าปักหลักตั้งถิ่นฐานณ เมืองชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะมากมายในแถบนี้

รากษสขึ้นชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่โลภมาก เบาปัญญา ทั้งยังมีนิสัยอันธพาน ทำให้พวกอสูรหรืออสุราไม่นิยมคบค้าทั้งเผ่าเทพก็รังเกียจ จึงทำให้กิจการเมืองท่าที่ควรจะเป็นไปด้วยดีมีแต่ซบเซาแม้ความสัมพันธ์กับพวกอสูรในนวหิมพานต์ จะได้ชื่อว่าพอจะญาติดีกันบ้างหากแต่เหล่าเทพนั้นเป็นข้อยกเว้น พวกเทพดูถูกรากษส รากษสก็รังเกียจพวกเทพเช่นกันเพราะฉะนั้นเหล่าลูกครึ่งเทพในดินแดนแห่งนี้ จึงไม่ต่างจากชนชาติทาส ที่คอยแต่จะถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าและถูกรังแกอยู่ร่ำไปหนึ่งในนั้นคือ อวิกา นางซึ่งมีเชื้อสายเทพอยู่ในตัว นางก็อยู่ในชนชั้นที่ถูกรังแกนี้เช่นกัน

#อวิกาอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงและพี่ชายพี่สาวฝาแฝดในเรือนเมรัยที่เต็มไปด้วยรากษสกักขระและแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง แต่ความเป็นอยู่และสถานะของเด็กสาวไม่ต่างจากคนงานในเรือนเมรัยแห่งนั้น เผลอๆพวกคนใช้ ความเป็นอยู่คงดีกว่าเธอด้วยซ้ำไปเพราะคนใช้ยังได้ค่าตอบแทน ไม่ต้องทนถูกทุบตีด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของแม่เลี้ยงพี่เลี้ยงของเธอ แรงใจในการดำรงชีวิตของเด็กสาวจึงเพียงได้แต่รอเวลาวันเที่เธออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เธอก็จะบรรลุนิติภาวะ สามารถลาจากนรกแห่งนี้ไปมีชีวิตสดใสที่สดใสในฐานะผู้ช่วยของ #พศุตว์รากษสหนุ่มมากความสามารถ ที่แสร้งตนว่าเป็นพวกทวิเพศเพียงเพื่อหลบหนีปัญาหายุ่งยากและไม่ให้ใครมายุ่งกับชีวิตเขา

#พศุตว์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพียงคนเดียวที่หวังดีกับมูลเทพเช่นเธออย่างจริงใจ เขาช่วยเหลือเธอทุกอย่างทั้งยังวางแผนอำพรางรูปกายอันงดงามของเธอในฐานะลูกครึ่งเทพไม่ให้เป็นที่สะดุดตา มิเช่นนั้นแล้วแม่เลี้ยงใจร้ายคงขายเธอเป็นนางกลางเมือง ณเรือนอภิรมณ์ไปเสียตั้งแต่เธอแตกเนื้อสาว

วันหนึ่งพศุตว์ได้รับเชิญให้ไปยังปราสาทศิลา สถานที่อันเป็นที่พำนักของรักษะหรือผู้นำของเหล่ารากษสทั้งหลายเหตุเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของดวงตาของ กาณฑ์ รักษะคนใหม่ที่ภึ่งขึ้นนั่งตำแหน่งได้ไม่กี่เดือนการรักษานี้เป็นความลับสุดยอด หากแต่พศุตว์ก็โดยหนีบเธอไปในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของเขาด้วยเช่นกัน

#กาณฑ์คือลูกครึ่งรากษสและอสูร ผู้ดำรงตำแหน่งรักษะคนปัจจุบันจากการยึดอำนาจพ่อตาของตนเองเขาที่ผู้คนเล่าลือว่า สังหารภรรยาของตนทั้งที่กำลังตั้งครรภ์ด้วยการโยนนางลงมาจากหอคอยบนหน้าผาสูงหากแม้ว่าใครจะว่าร้ายรักษะผู้นี้อย่างไร อวิกาไม่เคยเลยจะแคลงใจในตัวเขาเพราะเขาซึ่งเป็นรากษสอีกหนึ่งตนในเมืองนี้ที่ยอมยื่นมือช่วยเหลือมูลเทพที่กำลังถูกรังแกเช่นเธอ เขาที่เป็นดั่งแสงสว่างเป็นฮีโร่ และ เป็นรักแรก และรักแท้ของเธอแต่เพียงผู้เดียว

ด้วยหัวใจที่งดงามไม่ต่างจากรูปกายสายเลือดเทพอวิกาเป็นดั่งเพชรแท้ที่ส่องประกาย ส่องแส่งสู่หัวใจมืดมิดของรักษะหนุ่มเธอจึงเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะดำรงค์ตำแหน่งรักษิณีสตรีเดียวที่จะอยู่เคียงข้างเขา แม้สายเลือดเทพในกายเธอจะเป็นที่เดียดฉันท์หรือแม้แต่ครอบครัวของเขาที่ไม่มีใครเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ แต่กาณฑ์ก็ตั้งปณิธานในใจว่าจะไม่ยอมให้เพชรแท้เม็ดนี้หลุดมือเขาไปแน่นอน

.

#Warnning ต่อไปนี้คือการอวยไส้แตก แต่ไม่ได้แหกไส้ใคร เปิดใจว่าชั้นลำเอียง 555+

.

เมื่อก่อนหรือแม้แต่ในปัจจุบันทุกครั้งนะเวลาที่ได้ดูหนังประเภทแบบว่า หายนะมวลมนุษยชาติ น้ำท่วมโลก แผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิด หรือแม้แต่มุษย์ต่างดาวบุกโลก ....เนื้อเรื่องที่มักจะพยายามสื่อถึงความล่มสลายของวัฒนธรรมความเสียหายของโลกและประเทศมหาอำนาจ อย่างเทพีสันติภาพนั่นก็ไม่รู้พังไปแล้วกี่รอบ

และเมื่อทุกอย่างคลี่คลายมันก็มักจะมีคนกลุ่มหนึ่งเป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายเสมอคนเหล่านั้นต้องผ่านด่านทดสอบสมบุกสมบัน ประหนึ่งแมลงสาปที่ไม่มีวันตาย และจะอยู่คู่กับโลกใบนี้ไปจนกัลปาวศาลซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นก็อาจจะมีทั้ง ฝรั่ง จีน แขก ญี่ปุ่น บลาๆๆๆๆ แต่ค่ะแต่ .....สังเกตไหม มันจะมีมนุษย์ ‘ไทย’ ที่แม่มไม่เคยจะได้รอดเพื่อร่วมโลกับชาวบ้านเขาเลยซักทีแผ่นดินติดชายทะเลเล็กๆ ผืนนี้มักจะถูกลืมเสมอ จนอดที่จะจินตนาการไม่ได้นะว่าถ้าจะมีอะไรซักอย่าง ที่มันนำเสนอเพื่อสนองจินตนาการ SCI-FI Thai Style บ้างอะไรบ้างมันจะเป็นยังไงน้อ และแล้วคุณปุ้ยก็ได้สร้าง ซีรีส์ #นวหิมพานต์ชุดนี้ขึ้นมา มันทำให้ชะนีตื่นตาตื่นใจจริงๆนะ กับการที่ทำให้เราเห็นภาพ เทวดา ยักษ์อสรู หรืออมนุษย์ต่างๆในหิมพานต์ ใช้ชีวิตหลังจากเหตุการณ์ล่มสลายของโลก เกิดเป็นสังคมใหม่และต้องใช้ชีวิตร่วมกับแมลงสาปของโลกอย่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพื่อความอยู่รอด เพื่อบุกเบิกและสร้างวัฒนธรรมแบบแผนขึ้นมาใหม่นวหิมพานต์จึงเป็นงานเขียน จากนักเขียนตัวแม่ในวงการอย่างคุณปุ้ยที่เมื่อได้อ่านแล้ว ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันนะ ว่า #แม่ก็คือแม่เพราะมันเป็นอะไรที่เอกลักษณ์จริงๆ

ชะนียอมใจเลยว่า ‘อวย’ ก็นะเราติ่งซีรีส์ชุดนี้จริงๆ ตื่นตาตนใจมาตั้งแต่เล่มแรก‘ตรีเนตรทิพย์’ แล้วจนต่อมาเล่มที่สอง‘ทุติยอสูร’ ที่ความสนุกเข้มข้นดูจะดร็อปลงมาหน่อยแต่ไม่ถึงกับน่าเกลียดแค่ให้เห็นข้อเปรียบเทียบกับเล่มแรกนิดนึง และก็มาจนถึงเล่มนี้ #เพชรรากษสที่มันบับว่า #สนุกโฮกกกกกกกกกมากกกกกกคือมันเหมือนกับคุณปุ้ยพยายามเขียนเพื่อเอาใจคนอ่านหรือเปล่าไม่รู้หรือชั้นมโนไปเองก็แค่สั่งเกตจากฟีดแบคของทั้งสองเรื่องแรก ที่นักอ่านบอกว่า ตรีเนตรทิพย์เครียดไปน้ำตาลน้อย พระ-นางไม่ค่อยกุ๊กกิ๊ก และก็เหมือนน้ำตาลในทุติยอสูรก็ดูจะมาเต็มจนกลายเป็นความเข้มของเนื่อเรื่องลดลงไปเยอะ แต่พอถึงเล่มนี้ เพชรรากษสเฮ้ย....แก มันลงตัว มันหวาน มันเข้ม ทั้งรัก ทั้งรบ ทั้งสาระ มันกลมเกลียวมากๆ จนตอนนี้ชะนีแดดิ้นมากอยากจะอ่านเล่มต่อไปจะจายอยู่แล้ว

กาณฑ์เป็นยักษ์ใหญ่ที่ดูใจดีมากๆสุขุม เข้มแข็ง และ ละมุนละไม จนน่าซบ! รักใคร รักจริงทั้งครอบครัวและผู้หญิงของเขา เป็นแบบฉบับของผู้นำที่มุ่งหวังจะพัฒนาและทำเพื่อประชาชนยักษ์ของตัวเองอย่างแท้จริงแต่มีจุดหนึ่ง ชั้นจิ้นความหล่อของพระเอกไม่ออก คุณปุ้ยบรรยายว่าหนังหน้าประมาณว่า ปากหนา ตาลึก รูปหน้ากว้าง คางค่อนไปทางเหลี่ยม เอ่อ....แล้วก็หัวหยิกด้วยนี่ก็พยายามอ้างอิงตามประวัติศาสตร์ชาติอินเดียที่คนบนแผ่นดินใหญ่ซึ่งมักเป็นพวกเชื้อชาติอารยัน มักจะดูถูกผู้คนทางแถบทิศใต้ที่เป็นหมู่เกาะหรือติดทะเลว่าเป็นชนเผ่าล้าหลัง ไร้อารยะธรรม #เหมือนจะเล็งไปทางพวกเผ่าทมิฬบนเกาะศรีลังกานะซึ่งพ้องกับคำบรรยายพวกอสูรน้ำอย่าง รากษสที่เป็นยักษ์ตัวดำๆหัวหยิกในจินตนาการอย่างวรรณกรรมเรื่องรามายณะซึ่งตามบทประพันธ์ ทศกัณฑ์ เป็นพญารากษสค่ะ ไม่ใช้อสูรตามที่บ้านเราเอามาดัดแปลงในเรื่องรามเกียรติ์แบบที่เราเข้าใจกัน เอาเป็นว่า ชะนียังลำบากกับการจิ้นหน้าพระเอกอยู่พอสมควรแต่ด้วยพฤติกรรมที่บรรยายออกมาในหนังสือ ถึ่งพี่ยักษ์จะไม่หล่อที่หนังหน้า แต่ใจของพี่นั้นหล่อมากมายเพราะฉะนั้นพี่ชนะค่ะ น้องยอม!

รู้สึกรีวิวนี้จะเขียนยาวไปละ หนักไปทางอ้วยไส้แตกอะแก.... แต่ทั้งหมดทั้งมวล สำหรับ pdเพชรรากษสเป็นนิยายที่ประทับใจ สะใจในอารมณ์ติ่งสุดๆ เพราะฉะนั้นจัดเหอะ อยากให้อ่าน #จริงๆ