หลังจากใช้ชีวิตบนโลกนี้มาสักระยะหนึ่ง ไม่รู้ทำไม ผมก็ไปซื้อกล้องดิจิทัลมาหนึ่งตัว ถ่ายไปสักระยะ ก็อกหัก (อ้าว!) ไม่รู้เกี่ยวกันไหม เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เปลี่ยนกล้องใหม่
ได้กล้องตัวใหม่ ก็ถ่ายไปตามมีตามเกิด มีตำราอ่านมั่ง ดูจากเว็บมั่ง ลงสนามจริงมั่ง และงานหนึ่งที่ชาวกล้อง (โดยเฉพาะผู้ชาย) มักจะไม่พยายามพลาด ก็คือ งานมอเตอร์โชว์
ด้วยความที่ว่า เราก็เป็นมือใหม่ กล้องก็ไม่ได้เลิศหรู แถมเป็นคนขี้อายอีกต่างหาก ดังนั้น ตอนไปถ่ายสาวๆ สวยๆ น่ารักๆ ก็จะเป็นไปแบบ กล้าๆ กลัวๆ คือไม่ได้ไปพูดคุย เจรจา ขอร้องให้พริตตี้โพสต์ท่าอะไรนัก ก็แค่ถือกล้องไปใกล้ๆ เธอเห็น เธอก็หันมายิ้มให้ถ่ายแล้ว (คงจะมีความสุขน่าดูเนาะ ยิ้มให้ใครต่อใครถ่ายรูปเนี่ย)
เพราะฉะนั้น หากไปเจอน้องพริตตี้ที่ยืนอยู่เดียวดาย เอ้อ... หมายถึง ไม่ค่อยมีคนรุมถ่ายรูปเนี่ย ผมก็จะเก็บรูปน้องเขามาไม่กี่รูปหรอกครับ เขิน ไม่รู้จะคุยกับน้องเขายังไง (ทั้งๆ ที่ใจจริง อยากได้เป็นแฟนใจจะขาด เฮ้อ!) แล้วมันก็จะมีรูปดีๆ สวยๆ ปนไปกับรูปที่ไม่ได้เรื่อง
เรื่องมันมาเกิดเอาก็ตรงที่ พอมาเปิดรูปดูในคอม ดูไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เอ๊ะ..... ทำไมรูปนี้ดูดีจัง ทำไมน้องพริตตี้คนนี้ สวย น่ารักจัง.... อ้าว ถ่ายมาแค่สี่แชะเอง.... สองในสี่นั้น ไม่ได้ใส่ใจมากด้วย ว้า เสียดาย
น้องคนนี้ คงจะเริ่มเหนื่อยแล้ว เพราะว่า สองช็อตแรก เธอยืนเกาะรถอยู่ดีๆ พอผมเริ่มใส่ใจถ่ายบูธนี้มากขึ้น น้องเขาก็ไปนั่งท้ายรถเสียแล้ว เธอนั่งเหยียดขามาข้างหน้า ขาซ้ายเหยียดตึง ขาขวางอเข่า มือทั้งสองแตะกันบนขาขวา ตามองไปข้างหน้า มุมมองที่ผมเห็น เป็นใบหน้าซีกขวาของเจ้าหล่อน แอบแคนดิตซะหนึ่งแชะ..... สงสัยน้องคงได้ยินเสียงชัตเตอร์ หรือมีญาณทิพย์ก็ไม่รู้ เพราะเธอได้หันมาสบตาผมตรงๆ..... (สารภาพตามตรงครับว่า ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลย นอกจาก อยากเก็บภาพเฉยๆ)
ช็อตที่สอง ซูมครึ่งตัว จัดให้ตัวน้องชิดซ้ายของภาพ โดยไม่สื่อสารกับเขานะครับ ก็เลยได้ภาพครึ่งตัว ที่น้องหันแต่หน้ามาเข้ากล้อง ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ผมที่ยาวแยกเป็นสองสายไปด้านหลัง และพาดบ่ามาด้านหน้า ตาเป็นประกาย ยิ้มเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่แฟลช กลั้นใจ กดชัตเตอร์เบาๆ แชะ...... เราจากกันตรงนี้แหละครับ
อย่างที่บอก แค่อยากเก็บภาพสวยๆ ไม่ได้ทุ่มเทอะไรมาก กลัวเดินไม่ทั่วงานด้วย จึงเก็บมาแค่นี้ สองช็อตไม่ตั้งใจมาก สองช็อตใส่ใจ แล้วหนึ่งในนั้นกลายเป็นช็อตที่ตรึงความรู้สึกของผมได้ดีที่สุด
เวลาผ่านมาหลายเดือน เมื่อมาเวียนดูรูปอีกที ก็ยังมาสะดุดกับรูปครึ่งตัวของน้องเขาอีก แล้วสิ่งที่ไม่ได้คิดมาก่อนก็อุบัติขึ้น..... น้องเขาชื่ออะไร?
เมื่อตอนถ่ายไม่ได้คุยกัน หลังถ่ายเสร็จแล้ว ย่อมไม่อาจรู้ชื่อ แล้วจะทำยังไงล่ะ
มาคิดตอนนี้ ผมคิดว่า ถ้านำรูปน้องเขาไปโพสต์ถามในห้องกล้อง คงได้คำตอบง่ายๆ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ผมไม่ได้ทำเช่นนั้น ตอนนั้นไม่ได้นึกเลยด้วยว่ามีวิธีนี้
สิ่งแรกที่คิดเมื่อต้องการรู้ชื่อน้องเขาก็คือ google
นั่งคิดหาคำสำคัญเพื่อค้นหาอยู่ตั้งนาน ผมก็เลือกใช้คำว่า pritty ในการค้นหา ผลของการค้นหานำไปสู่เว็บที่รวบรวมรายชื่อ ภาพ ของสาวๆ ที่สมัครเป็นพริตตี้ จำนวนหลายร้อยคน ซึ่งต้องคลิกดูรูปไปทีละคนด้วย แน่นอน ผมไม่ได้คลิกดูทุกรูป ทุกคนหรอกครับ แต่ผมก็ยังพยายามค้นหาต่อไป
เป็นเรื่องบังเอิญอยู่เหมือนกัน ที่ก่อนหน้านั้น เคยมีคนมาโพสต์ลิงก์รวมภาพสาวๆ อีกแห่งหนึ่ง และด้วย history ของ IE มันก็นำพาผมไปพบกับเว็บนั้นได้..... เปล่าครับ เรื่องไม่จบ เพราะผมยังหาน้องเขาไม่เจอ
มันต้องรออีกหลายวันครับ ก่อนที่ผมจะย้อนกลับไปที่เว็บนั้นอีกครั้ง แล้วไปเจอว่า เขามีเว็บบอร์ด และกระทู้หนึ่งในนั้นคือ "พริตตี้คนไหน ถูกใจที่สุดในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา" ไม่รอช้า คลิกเข้าไปดู ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ ใช่ไหมนั่น ใช่ไหม ใช่น้องเขาจริงๆ หรือ ใช่จริงๆ ด้วย........ อ้า ผมตามเจอจนได้ ผมได้ชื่อเล่นน้องเขามาแล้ว พร้อมทั้งค่ายรถที่เธอไปเป็นพริตตี้มา
วิ่งกลับไปที่ google อีกครั้ง ด้วยชื่อเล่นของน้องเขา กับค่ายรถ มันได้นำผมไปพบกับข้อมูลเพิ่มเติมของตัวน้องคนนี้ นั่นคือ ชื่อจริง นามสกุลจริง สถานศึกษา อายุ ความสูง ส่วนสัด รูปของเธออีกสองสามรูป นี่เป็นการเติมเต็มความรู้สึกอิ่มเอิบในหัวใจผมมากกว่าการได้ชื่อเธอมาจากเว็บบอร์ดห้องกล้องแน่นอน และถ้าหากคุณรู้จักกับผมระดับหนึ่ง คุณคงแปลกใจเช่นเดียวกับผม เมื่อรู้ว่า อักขระตัวสุดท้ายในชื่อของเธอคือ สระอา!
ทุกวันนี้ รูปของน้องคนนี้ ก็ติดอยู่ข้างเครื่องคอมพิวเตอร์ของผม ให้ผมได้ชื่นชม เป็นสุขใจ และประทับใจ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง....ผมจะกล้าคุยกับเธอไหม... กล้าจะเล่าให้เธอรูไหมว่า....
ผมตามหาชื่อเธอมาด้วยความพยายามเพียงไหน...
แต่ยังไงก็ตามถ้าคุณมีโอกาสได้เจอเค้าล่ะก้อ ลองดูค่ะลองชวนเค้าคุยดู บางทีเค้าอาจจะใจอ่อนก็ได้นะค่ะ
สู้ๆ สู้ตาย