หนังสือชีวิต
สมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่นั้น ชีวิตของผมก็มีแค่การไปเรียน เรียน แล้วก็เรียน กิจกรรมอะไรก็ไม่ค่อยได้ทำกับเขาหรอกครับ รวมทั้งยังไม่ได้ไปชมภาพยนตร์ในโรงหนังเลยด้วยซ้ำ (ดูน้อยมาก ด้วยเหตุผลด้านการเงิน)
ครั้นพอได้เริ่มต้นทำงาน หาเงินได้ด้วยตัวเอง ผมจึงมีโอกาสนั่งรถประจำทางไปดูหนังในโรงหนังแถวสยามได้บ่อยๆ เกือบทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ทำให้ได้รู้จักตัวเองว่า เป็นคนชอบดูหนังจริงๆ แล้วหนังที่ฉายในโรงหนังสยาม สกาลา และลิโด้ ก็เป็นหนังในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ดทั่วไปเสียด้วย
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีนิตยสารภาพยนตร์เล่มหนึ่งที่ออกมา ชื่อนิตยสารก็คือ FILMVIEW ไม่แน่ใจว่าเป็นนิตยสารที่เปลี่ยนหัวมาจากเล่มอื่นหรือไม่ หรือย้ายทีมงานมาทำก็ไม่รู้
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้อ่านนิตยสารหนังเล่มอื่นเลย แม้จะเคยเปิดผ่านๆ จึงไม่อาจสรุปชัดเจนได้ว่า FILMVIEW ต่างจากนิตยสารหนังเล่มอื่น แต่เป็นเล่มที่โดนใจผมครับ ผมได้เรียนรู้เรื่องราวของภาพยนตร์ ได้อ่านเกี่ยวกับหนังที่เข้าขั้นคลาสสิก หนังที่ควรแก่การศึกษา ทฤษฎีหนัง รวมทั้งหนังใหม่ๆ ที่ไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ด ก็จากนิตยสารเล่มนี้ ตอนนั้น ชีวิตมันมีความสุขดีครับ ได้ดูหนังจริง ได้อ่านเรื่องราวของหนัง พร้อมๆ กัน แต่ก็น่าเสียดายที่นิตยสารเล่มนี้ก็มีอันต้องเลิกลาร้างไปจากแผงหนังสือในเวลาต่อมา
ถึงกระนั้น FILMVIEW ก็เป็นนิตยสารเล่มหนึ่งที่มีอิทธิพลกับชีวิตของผม
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ ขจรฤทธิ์ รักษา ก็หาญกล้าขึ้นมานั่งตำแหน่งบรรณาธิการนิตยสาร WRITER ใช่แล้วครับ นี่เป็นนิตยสารเกี่ยวกับแวดวงการเขียน นักเขียน เอกลักษณ์ของนิตยสาร WRITER ก็คือ การใช้ภาพวาดนักเขียนเป็นปกในแต่ละฉบับ ดูเหมือนคนวาดจะคือ อุกฤษ ทองระอา นะครับ
ด้านเนื้อหาข้างในก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเขียน เกี่ยวกับงานเขียน โดยมีบทสัมภาษณ์นักเขียนที่ขึ้นปก เป็นบทสัมภาษณ์อันเข้มข้นจริงๆ หากเป็นนักเขียนต่างชาติ หรือนักเขียนที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะเป็นการสัมภาษณ์บุคคลที่รู้เรื่องของนักเขียนคนนั้นดี
นิตยสาร WRITER เป็นนิตยสารอีกเล่มหนึ่งที่มีอิทธิพลกับชีวิตของผมเฉกเช่นนิตยสาร FILMVIEW ซึ่งทำให้ชีวิตของผมเดินอยู่บนถนนนักเขียนด้วยบรรยากาศหนึ่ง ได้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ รับรู้โลกอันหนัก เข้มข้น ของเหล่านักเขียนชั้นครูจำนวนหนึ่ง แต่ก็เช่นกัน WRITER ต้องปิดตัวลงไปเหมือนกัน แม้จะมีความพยามสานงานต่อด้วยบ.ก.คนใหม่ (กนกพงศ์ สงสมพันธ์) นิตยสารเล่มนี้ก็ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง
ระยะเวลาจากนิตยสารทั้งสองเล่มที่มีบทบาทกับชีวิตของผมมาจนถึงวันนี้ มันช่างเป็นเวลาอันยาวนานเสียจริงๆ ครับ ชีวิตของผม ดูเหมือนจะเป๋ๆ ไปเหมือนกัน สังเกตตัวเองได้เลยว่า หนังที่เลือกดู หนังสือที่เลือกอ่าน มันเปลี่ยนไป แปลกไป หนังจากซีกยุโรปไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตของผมเลย นั่นหมายความว่า โรงหนังในเครือเอเพกซ์ก็ปราศจากลูกค้าอย่างผมไปด้วยคนหนึ่ง
จนกระทั่ง เกิดการปรากฏตัวของนิตยสารภาพยนตร์อีกเล่มที่ชื่อออกเสียงยากๆ ว่า PULP
PULP ทำให้ผมรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวแบบเดียวกับที่ผมเคยสัมผัสได้จาก FILMVIEW นิตยสารหนังเล่มนี้ ทำให้ผมได้กลับไปค้นหาตัวตนในโลกเซลลูรอยด์อีกครั้งหนึ่ง ผมได้รับข้อมูล ข่าวสาร ของหนังนอกฮอลลีวู้ด รวมทั้งหนังเอเชีย ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ปิดหู ปิดตา ตัวเองไปนาน มันทำให้ความสนุกในการดูภาพยนตร์เกิดขึ้นอีกครั้ง ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ช่วงเวลานี้ นิตยสาร PULP ยังคงดำเนินงานอยู่ มีการเปลี่ยนตัวบรรณาธิการไปแล้ว ปรับรูปโฉมไปก็แล้ว ไม่รู้ว่าจะดิ้นต่อไปได้นานแค่ไหน ก็หวังว่าจะอยู่เป็นผู้ช่วยให้กับการเลือกดูหนังของผมต่อไปนานๆ
ที่เล่ามานี่ ก็ไม่ได้หมายความว่า นิตยสารเล่มอื่นจะไม่สามารถสร้างความรู้สึกตรงนั้นได้ เพียงทว่า มันเป็นการเลือกเสพสื่อของตัวผมเอง เป็นการกำหนดวิธีใช้ชีวิตของตัวเองให้ไปผูกพันกับสื่อสามเล่มนี้ ชีวิตของแต่ละคน ก็จะมี "ไอดอล" ของตัวเองกันทั้งนั้น กับนิตยสารแล้วนั้น ผมขอเลือกสามเล่มนี้ที่อยู่ในแนวทางใกล้ๆ มาบอกเล่าพื้นฐานชีวิตของผม
เพราะนี่คือ หนังสือชีวิตของผม
Create Date : 04 มกราคม 2550 |
|
1 comments |
Last Update : 4 มกราคม 2550 7:55:58 น. |
Counter : 1108 Pageviews. |
|
|
|
พอโตขึ้นมา รู้สึกว่า เรื่องราวในอดีตของผู้คนมันช่างน่าจดจำ น่าประทับใจ น่าเห็นใจจนอยากคิดแก้ไขอดีต หนังสือที่อ่านในช่วงนี้จึงมีแต่หนังสือประวัติศาสตร์นมนานกาเล แต่อ่านได้อ่านดี
แล้วชีวิตก็เข้าสู่จุดหักเห ความสนใจเปลี่ยนมาเป็นเรื่องของงานประดิษฐ์ งานศิลปะ จริงๆแล้วไม่ใช่อยู่ๆก็เปลี่ยนแนวการอ่าน มันอยู่กับตัวเองมานานแล้ว แต่เพิ่งรู้สึกจริงจังกับมันก็ตอนนี้นี่เอง หรือชีวิตกำลังถึงจุดเปลี่ยน?
จนชีวิตเริ่มเข้าสู่ยุคกลางของชีวิต หนังสือที่มีอิทธิพลกับชีวิตมากที่สุดกลับเป็นหนังสือปรัชญา สองเล่มพิเศษจริงๆ คือ โลกของโซฟี กับ ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน (ฉบับคบไฟ) เป็นสองเล่มที่คิดว่า เปลี่ยนชีวิตมากๆ
เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนวิธีคิด เปลียนมุมมอง
แล้วตอนนี้กำลังคิดเปลี่ยนอาชีพด้วยเช่นกัน