สิ่งที่เป็นมงคล โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปกสมัยพุทธกาล ว่ากันว่า เทวดาไปทูลถามพระพุทธองค์ว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นมงคล พระพุทธองค์ได้ตรัส มงคล ๓๘ ประการ ให้เทวดาทราบ พุทธดำรัสตอบของพระองค์ มีบันทึกในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ ในชื่อว่า มงคลสูตร ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราท่าน มีคำถามว่า เทวดาจริง ๆ หรือที่ไปถามพระพุทธเจ้า ก็ตอบอย่างปุถุชนคนธรรมดาเช่นกันว่า อาจเป็นเทวดาจริงก็ได้ หรือเป็นเทวดาโดยสมมุติเช่นพระราชามหากษัตริย์ก็ได้คำตอบแรก็มีหลักฐานยอมรับ เทวดาเป็นสัตว์โลก ( being ) ชนิดหนึ่ง อยู่ในสุคติภูมิ เป็นสัตว์ที่เสวยผลบุญผลทานที่ทำไว้ในโลกนี้ ตายไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดา มีอยู่จริง พระคัมภีร์พระไตรปิฎกรับรองอยู่ ที่คนธรรมดาอย่างเราไม่รู้ไม่เห็น เพราะไม่มีญาณวิถีที่จะติดต่อสัมผัสได้ แต่พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านรู้ท่านเองด้วยญาณวิถีของท่านถามต่อไปว่า (คนไม่รู้ไม่เห็นก็มักถามมากเช่นนี้แหละ) ถ้ามีจริงแล้วอยู่ที่ไหน ตอบว่า อยู่ที่เทวโลก (โลกของเทพ) ถามอีกว่า โลกของเทพอยู่ที่ไหน ตอบว่า ก็อยู่ที่โลกของเทพ ซึ่งไม่ใช่โลกของมนุษย์นั่นแหละ ยิ่งถามมากก็ยิ่งสับสนมาก เอาเป็นว่า โลกของเทพนั้น เป็นมิติหนึ่งซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า มันอาจซ้อน ๆ กันอยู่ในมนุษย์โลกนี้แหละครับ เหตุผลที่สามารถยืนยันได้โดยไม่ต้องอธิบายก็คือ พระพุทธองค์ตรัสว่า สัตว์โลกมีหลายชนิด คือ มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เทพ พรหม นรก เปรต อสุรกาย สองประเภทแรกมองเห็นด้วยตาเปล่า อยู่ในมิติเดียวกัน จึงเห็นกันได้ทั้ง ๆ ที่เป็นคนละโลก แต่นอกนี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาจจะซ้อน ๆ อยู่ที่ไหนสักแห่งถ้ายอมรับว่าสัตว์เดรัจฉานมีอยู่จริง (ต้องยอมแน่นอน เพราะมองเห็นนี่ครับ) สัตว์โลกชนิดอื่นก็ต้องมีอยู่จริง เพียงแต่ตาเรามองไม่เห็นแค่นั้นเอง การจะปฏิเสธว่าไม่มี ไม่เชื่อเพราะข้ามองไม่เห็น (นี่หว่า) ก็เป็นวิสัยของคนไม่ฉลาด (คือคนโง่นั่นแหละ)ครับ..จะเป็นเทวดาหรือไม่ที่มาถามพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่พระองค์ได้ตรัสอธิบายมงคล ๓๘ ประการไว้แล้วมงคล คือ เหตุแห่งความเจริญ ที่จะพึงกระทำ พึงพัฒนาให้เกิดมี เมื่อพัฒนาให้เกิดมีในตนแล้ว ก็จะอำนวยสิริมงคลให้แก่ผู้นั้นเอง โดยไม่ต้องไปสวดอ้อนวอนขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น มงคลของพระพุทธองค์จึงเป็น มงคลภายใน มงคลอันเกิดจากการกระทำ มิใช่มงคลภายนอก มงคลที่คิดเอาว่ามันน่าจะเป็นมงคลชาวบ้านทั่วไปคิดเอา โดยยึดเอาเสียงว่า เงิน ทอง (ใบเงิน ใบทอง ฟังคล้ายเงินทอง) เสียงว่า ยม (ใบมะยม ฟังเหมือน นิยม) เป็นต้น ว่าเป็นมงคล มงคลอย่างนี้ท่านเรียกว่า มงคลของนักคิด คือคิดเอาว่าเป็นมงคล หาใช่มงคลที่แท้จริงไม่เทวดาเข้าไปทูลถามพระพุทธองค์ว่า...เหล่าเทพเทวามหาฤทธิ์ผู้สถิตวิมานแมนแดนสุขีทั้งมนุษย์ในมหาปฐพีต่างสงสัยอะไรดีเป็นมงคลข้าพระเจ้าขอปุจฉาตถาคตให้ปรากฏแจ่มแจ้งทุกแห่งหนอะไรคือมงคลเลิศประเสริฐล้นเผยยุบลให้กระจ่างสว่างนัยฝ่ายองค์พระมุนินท์ชินสีห์เผยวจีภิปรายหายสงสัยการทำดีทางกายวาจาใจคือสิ่งให้ผลเห็นเป็น มงคล ห่างคนพาลสันดานชั่วมั่วทางผิดคบบัณฑิตคนดีมีสกุลยกย่องคนควรยกย่องประคองตนเป็นยอดยิ่งมิ่งมงคลอุดมดีอยู่ถิ่นฐานเหมาะสมอบรมตนมีกุศลเสริมสร้างปางก่อนกี้ดำรงตนชอบทางอย่างเมธีเป็นยอดศรีมงคลอุดมคุณเป็นผู้คงแก่เรียนเพียรศึกษาศิลปะวิทยาพาเกื้อหนุนพูดจาดีมีวินัยล้ำช่วยค้ำจุนเป็นยอดบุญยอดยิ่งมิ่งมงคลอีกเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่าลูกเมียเราบำรุงให้ไม่ขัดสนการงานทำไม่คั่งค้างเป็นกังวลเป็นยอดยิ่งมิ่งขวัญดลสวัสดีบำเพ็ญทานประพฤติธรรมสุจริตสงเคราะห์เหล่าญาติสนิทให้สุขีทำการงานบริสุทธิ์ในยุทธวิธีเป็นยอดศรียอดผลมงคลชัยงดจากบาปถ้วนทั่วสิ่งมัวหมองงดเครื่องดองของเมาไม่เข้าใกล้ไม่ประมาทในธรรมประจำใจเป็นยอดยิ่งมิ่งหทัยมงคลดีคารวะนอบน้อมค้อมศิโรตม์มีสันโดษรู้จักใช้ปัจจัยสี่กตัญญูรู้คุณหนุนคนดีฟังธรรมตามกาลมียอดมงคลอีกอดทนเต็มเปี่ยมเสงี่ยมสงบหมั่นเข้าพบสมณะประเสริฐผลสนทนาธรรมะกาละดลยอดกุศลยอดยิ่งมิ่งมนุษย์มีเพียรเครื่องเผากิเลสเหตุมัวหมองมีชีพครองพรหมจรรย์อันวิสุทธิ์เห็นสัจจะอันประเสริฐเลิศวิมุติแจ้งนิพพานอันสูงสุดยอดมงคลจิตไม่ไหวไม่เศร้าเคล้ากิเลสอันเป็นเหตุให้จิตคิดหมองหม่นจิตเกษมปลอดภัยไร้กังวลประลุดลมิ่งขวัญอนันต์นานมงคลธรรมสามสิบแปดประการนี้ใครทำได้ทำดีทุกสถานจะมีชัยชำนะทุกประการดลบันดาลยอดยิ่งมิ่งมงคลโปรดอย่าลืมว่า มงคล ๓๘ ประการ ของพระพุทธเจ้านี้ เป็น มงคลของนักทำ ทุกข้อจะต้องลงมือกระทำด้วยตัวเอง จึงจะบันดาลสิริมงคลแท้จริงเพลง ม่านไทรย้อย ถ้าจะโหวตให้ปอป้า...สาขา Dharma Blog...นะคะ ขอบคุณ...ค่ะ
สมัยพุทธกาล ว่ากันว่า เทวดาไปทูลถามพระพุทธองค์ว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นมงคล พระพุทธองค์ได้ตรัส มงคล ๓๘ ประการ ให้เทวดาทราบ พุทธดำรัสตอบของพระองค์ มีบันทึกในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ ในชื่อว่า มงคลสูตร ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราท่าน มีคำถามว่า เทวดาจริง ๆ หรือที่ไปถามพระพุทธเจ้า ก็ตอบอย่างปุถุชนคนธรรมดาเช่นกันว่า อาจเป็นเทวดาจริงก็ได้ หรือเป็นเทวดาโดยสมมุติเช่นพระราชามหากษัตริย์ก็ได้คำตอบแรก็มีหลักฐานยอมรับ เทวดาเป็นสัตว์โลก ( being ) ชนิดหนึ่ง อยู่ในสุคติภูมิ เป็นสัตว์ที่เสวยผลบุญผลทานที่ทำไว้ในโลกนี้ ตายไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดา มีอยู่จริง พระคัมภีร์พระไตรปิฎกรับรองอยู่ ที่คนธรรมดาอย่างเราไม่รู้ไม่เห็น เพราะไม่มีญาณวิถีที่จะติดต่อสัมผัสได้ แต่พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านรู้ท่านเองด้วยญาณวิถีของท่านถามต่อไปว่า (คนไม่รู้ไม่เห็นก็มักถามมากเช่นนี้แหละ) ถ้ามีจริงแล้วอยู่ที่ไหน ตอบว่า อยู่ที่เทวโลก (โลกของเทพ) ถามอีกว่า โลกของเทพอยู่ที่ไหน ตอบว่า ก็อยู่ที่โลกของเทพ ซึ่งไม่ใช่โลกของมนุษย์นั่นแหละ ยิ่งถามมากก็ยิ่งสับสนมาก เอาเป็นว่า โลกของเทพนั้น เป็นมิติหนึ่งซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า มันอาจซ้อน ๆ กันอยู่ในมนุษย์โลกนี้แหละครับ เหตุผลที่สามารถยืนยันได้โดยไม่ต้องอธิบายก็คือ พระพุทธองค์ตรัสว่า สัตว์โลกมีหลายชนิด คือ มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เทพ พรหม นรก เปรต อสุรกาย สองประเภทแรกมองเห็นด้วยตาเปล่า อยู่ในมิติเดียวกัน จึงเห็นกันได้ทั้ง ๆ ที่เป็นคนละโลก แต่นอกนี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาจจะซ้อน ๆ อยู่ที่ไหนสักแห่งถ้ายอมรับว่าสัตว์เดรัจฉานมีอยู่จริง (ต้องยอมแน่นอน เพราะมองเห็นนี่ครับ) สัตว์โลกชนิดอื่นก็ต้องมีอยู่จริง เพียงแต่ตาเรามองไม่เห็นแค่นั้นเอง การจะปฏิเสธว่าไม่มี ไม่เชื่อเพราะข้ามองไม่เห็น (นี่หว่า) ก็เป็นวิสัยของคนไม่ฉลาด (คือคนโง่นั่นแหละ)ครับ..จะเป็นเทวดาหรือไม่ที่มาถามพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่พระองค์ได้ตรัสอธิบายมงคล ๓๘ ประการไว้แล้วมงคล คือ เหตุแห่งความเจริญ ที่จะพึงกระทำ พึงพัฒนาให้เกิดมี เมื่อพัฒนาให้เกิดมีในตนแล้ว ก็จะอำนวยสิริมงคลให้แก่ผู้นั้นเอง โดยไม่ต้องไปสวดอ้อนวอนขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น มงคลของพระพุทธองค์จึงเป็น มงคลภายใน มงคลอันเกิดจากการกระทำ มิใช่มงคลภายนอก มงคลที่คิดเอาว่ามันน่าจะเป็นมงคลชาวบ้านทั่วไปคิดเอา โดยยึดเอาเสียงว่า เงิน ทอง (ใบเงิน ใบทอง ฟังคล้ายเงินทอง) เสียงว่า ยม (ใบมะยม ฟังเหมือน นิยม) เป็นต้น ว่าเป็นมงคล มงคลอย่างนี้ท่านเรียกว่า มงคลของนักคิด คือคิดเอาว่าเป็นมงคล หาใช่มงคลที่แท้จริงไม่
เทวดาเข้าไปทูลถามพระพุทธองค์ว่า...เหล่าเทพเทวามหาฤทธิ์ผู้สถิตวิมานแมนแดนสุขีทั้งมนุษย์ในมหาปฐพีต่างสงสัยอะไรดีเป็นมงคลข้าพระเจ้าขอปุจฉาตถาคตให้ปรากฏแจ่มแจ้งทุกแห่งหนอะไรคือมงคลเลิศประเสริฐล้นเผยยุบลให้กระจ่างสว่างนัยฝ่ายองค์พระมุนินท์ชินสีห์เผยวจีภิปรายหายสงสัยการทำดีทางกายวาจาใจคือสิ่งให้ผลเห็นเป็น มงคล ห่างคนพาลสันดานชั่วมั่วทางผิดคบบัณฑิตคนดีมีสกุลยกย่องคนควรยกย่องประคองตนเป็นยอดยิ่งมิ่งมงคลอุดมดีอยู่ถิ่นฐานเหมาะสมอบรมตนมีกุศลเสริมสร้างปางก่อนกี้ดำรงตนชอบทางอย่างเมธีเป็นยอดศรีมงคลอุดมคุณเป็นผู้คงแก่เรียนเพียรศึกษาศิลปะวิทยาพาเกื้อหนุนพูดจาดีมีวินัยล้ำช่วยค้ำจุนเป็นยอดบุญยอดยิ่งมิ่งมงคลอีกเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่าลูกเมียเราบำรุงให้ไม่ขัดสนการงานทำไม่คั่งค้างเป็นกังวลเป็นยอดยิ่งมิ่งขวัญดลสวัสดีบำเพ็ญทานประพฤติธรรมสุจริตสงเคราะห์เหล่าญาติสนิทให้สุขีทำการงานบริสุทธิ์ในยุทธวิธีเป็นยอดศรียอดผลมงคลชัยงดจากบาปถ้วนทั่วสิ่งมัวหมองงดเครื่องดองของเมาไม่เข้าใกล้ไม่ประมาทในธรรมประจำใจเป็นยอดยิ่งมิ่งหทัยมงคลดีคารวะนอบน้อมค้อมศิโรตม์มีสันโดษรู้จักใช้ปัจจัยสี่กตัญญูรู้คุณหนุนคนดีฟังธรรมตามกาลมียอดมงคลอีกอดทนเต็มเปี่ยมเสงี่ยมสงบหมั่นเข้าพบสมณะประเสริฐผลสนทนาธรรมะกาละดลยอดกุศลยอดยิ่งมิ่งมนุษย์มีเพียรเครื่องเผากิเลสเหตุมัวหมองมีชีพครองพรหมจรรย์อันวิสุทธิ์เห็นสัจจะอันประเสริฐเลิศวิมุติแจ้งนิพพานอันสูงสุดยอดมงคลจิตไม่ไหวไม่เศร้าเคล้ากิเลสอันเป็นเหตุให้จิตคิดหมองหม่นจิตเกษมปลอดภัยไร้กังวลประลุดลมิ่งขวัญอนันต์นานมงคลธรรมสามสิบแปดประการนี้ใครทำได้ทำดีทุกสถานจะมีชัยชำนะทุกประการดลบันดาลยอดยิ่งมิ่งมงคลโปรดอย่าลืมว่า มงคล ๓๘ ประการ ของพระพุทธเจ้านี้ เป็น มงคลของนักทำ ทุกข้อจะต้องลงมือกระทำด้วยตัวเอง จึงจะบันดาลสิริมงคลแท้จริง
มาลากเข้าสวนเดี๊ยน จิบแฟกันค่ะ
อตฺตโน กมฺมกุพฺพานํ ตํ ชโน กุรุเต ปิยํ
ผู้ประพฤติดี มีความเห็นถูกต้อง มั่นอยู่ในคลองธรรม พูดคำสัตย์
ปฏิบัติหน้าที่ของคนสมบูรณ์ คนย่อมเทิดทูนด้วยความรัก
หลับอย่างเป็นสุข ตื่นอยู่อย่างเป็นสุข ตลอดไป...นะคะ