เนื่องจากมีเพื่อนหลายคนถามว่า ถ้าต้องการโหวตให้ปอป้าจะโหวตสาขาไหนคำตอบก็คือ ขอเป็นสาขาบล๊อกธรรมะ...นะคะ ขอบพระคุณมาก..ค่ะตะพาบ ๘ ... ทะเลข้อบังคับของโจทย์คราวนี้ก็คือ ขอให้เรื่องที่เขียน เกี่ยวกับ ทะเล ทะเล หมายถึง ห้วงน้ำเค็มที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่ามหาสมุทรเมื่อพูดถึงทะเล เรามักจะนึกถึงหาดทราย สายลม สองเรา (แล้วก็พาลคิดไปถึงป๋าเบิร์ด..อิ อิ) หาดทราย สายลม ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก เพราะฝรั่งบอกว่า understoodแต่ สองเรา ไม่ว่าชาติใด ก็ต้องมีคำอธิบาย เพราะ สองเรา ที่อยู่กับหาดทราย สายลมนั้น มีสภาวะของอารมณ์เข้ามาร่วมด้วยทะเลสวย เมื่อ สองเรา อยู่ในอารมณ์หวาน จะหวานด้วยอะไรก็ตามทีเหอะ ถ้าพูดแบบชาวบ้าน ๆ หน่อย ก็ต้องว่า ทะเลสวยเมื่อ สองเรา อารมณ์ดีในความเป็นจริง ทะเลสวยได้โดยไม่ต้องอาศัย สองเรา เพราะธรรมชาติย่อมมีความสวยงามในตัวของเขาเองอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน ความสวยงามนั้น บางครั้งก็แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ถ้าพิจารณาดูให้ดี ทะเลก็คือทะเล หาได้มีความโหดร้ายในตัวตนของเขาเองไม่ แต่ที่มันน่ากลัวขึ้นมาได้ เพราะมีสิ่งอื่นที่มาเป็นองค์ประกอบทำให้เกิดความน่ากลัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นลม พายุฝนกระหน่ำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ทะเลซึ่งโดยปกติเป็นธรรมชาติที่เงียบสงบ กลับปั่นป่วนกลายเป็นทะเลคลั่งขึ้นมาได้มองดูก็คล้าย ๆ กับ มนุษย์ และ สัตว์ ทั้งหลาย ที่มีจิตใจอ่อนไหวต่อสภาวะต่าง ๆ รอบกายง่าย ก็มักจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่ต่างไปจากทะเลที่ถูกรบกวนโดยธรรมชาติอื่น ๆเป็น มนุษย์ ดีกว่า สัตว์ ตรงที่ มนุษย์สามารถเรียนรู้ และพัฒนาอารมณ์และความรู้สึกไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการได้ ในขณะที่สัตว์บางชนิดก็สามารถเรียนรู้และปฏิบัติตามคำสั่งของมนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้เหมือนมนุษย์ พุทธศาสนาจึงเรียกมนุษย์ว่าเป็น เวไนยสัตว์ คือ สัตว์ที่สอนสั่งได้หลาย ๆ คน ชอบไปเที่ยวทะเล ออกเดินเรือไปกลางทะเล ชมความสวยงามที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ การเดินทางออกทะเลเช่นนั้น ต้องมีการเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชูชีพ ถังอ๊อกซิเจน หยูกยาต่าง ๆ หรือแม้แต่อาหารไปรับประทานระหว่างการเดินทาง คนที่ไม่ประมาทเขาต้องเตรียมให้พร้อม พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในหนทางระหว่างที่เราเดินทางไปนั้นเฉกเช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตของเรา ตราบใดที่เรายังไม่สามารถจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ได้ เราก็ควรจะเตรียมหาเสบียงกรัง เครื่องไม้เครื่องมือไว้ใช้ในอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตชาติหน้า เราจะต้องไปพานพบกับสิ่งใดบ้างพระพุทธศาสนา สอนให้เรารู้จักระมัดระวังในการดำเนินชีวิต สอนให้เรารู้จักสะสมผลบุญและความดี เพื่อจะได้เอื้ออำนวยให้เราเดินทางในสังสารวัฏฏ์ได้อย่างไม่ลำบากขัดสน ทุกสิ่งเราต้องเป็นผู้จัดเตรียมด้วยตนเอง ไม่มีใครจะสามารถมาสะสมจัดเตรียมแทนเราได้ เสบียงสำหรับการเดินทางในสังสารวัฏฏ์นั้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายเกินกว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดา ๆ ทั่วไปจะสามารถทำได้ เพราะวิธีการหาต้นทุน วิธีการจัดเตรียม พระพุทธเจ้าได้บอกไว้หมดแล้ว อยู่ที่เราจะสนใจ เอาใจใส่เข้ามาศึกษา และเริ่มต้นจัดเตรียมหรือไม่เท่านั้นเองต้นทุนในการสะสมเสบียงดังกล่าวนั้น ได้แก่ อริยสัจสี่ มรรคมีองค์แปด และ พรหมวิหารสี่ ซึ่งล้วนเป็นธรรมหมวดใหญ่ ที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดเป็นเสบียง สามารถนำพาไปกับเราได้ตลอดการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ต่อไปอริยสัจ ๔ เป็นธรรมที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยการทำความเข้าใจในทุกข์หรือปัญหาทั้งหลายว่า ทุกข์หรือปัญหานั้นคืออะไร (ทุกข์) สาเหตุแห่งการเกิดทุกข์นั้นมาจากไหน (สมุทัย) การดับทุกข์หรือแก้ปัญหาให้หมดสิ้นไป (นิโรธ) และหนทางหรือวิธีดำเนินการเพื่อดับทุกข์หรือแก้ไขปัญหานั้น ต้องทำอย่างไร (มรรค) พรหมวิหาร ๔ มีไว้เพื่อการอยู่ร่วมกับคนในสังคมอย่างมีความสุข ด้วยความมีเมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา ต่อเพื่อนร่วมโลกร่วมสังคมในส่วนของหนทางแห่งการดับทุกข์นั้นก็คือมรรค หรือ อริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเข้าหลักไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง....ถ้าจะเปรียบการดำเนินชีวิตของเรากับทะเล ก็คงเปรียบได้กับการที่เราเป็นเรือ ต้องลอยอยู่กลางทะเลคือสังสารวัฏฏ์ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เรือลำน้อย ต้องพบกับกระแสลม เกลียวคลื่นที่มีทั้งยามสงบ และบ้าคลั่ง หากเรือแข็งแรงทนทานพอ มีเสบียงอาหารและเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะพบกับพายุที่โหมกระหน่ำรุนแรงเพียงใด เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่ขวางหน้า ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย..ทะเลกับเสียงเพลง...ไม่ว่ายุคใดสมัยใด มักจะมีนักแต่งเพลงหลายคน นิยมนำความรักของคนไปผูกพันไว้กับทะเล ไม่ว่ารักนั้นจะสมหวัง หรือผิดหวังก็ตาม อย่างเพลงหาดทราย สายลม สองเรา ของป๋าเบิร์ด บ่งบอกถึงอารมณ์ที่สดใส ได้ยินได้ฟังทีไร หัวใจเบิกบานทุกทีส่วนอารมณ์อื่น ๆ ก็มีหลายเพลงให้เลือกฟังเลือกร้อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงทะเลระทม ของคุณชายถนัดศรี ที่ฟังทีไร รู้สึกว่าหัวใจคนร้องมันชอกช้ำสิ้นดี หรือ เพลงทะเลสีดำ ของ ต้าร์ พาราด๊อกซ์และลุลา ที่ร้องคู่กันโดยบอกว่า อยู่ใกล้ทะเลไม่ต้องกลัว จับมือฉันไว้ กอดฉันไว้ (เดี๋ยวดีเอง..อันนี้ปอป้าเติมให้..อิ อิ) หรือ เพลงทะเลหวาน ของ เอ บี นอร์มอล ที่บอกว่า เมื่อก่อนไม่มีเธอยู่เคียงข้างที่ชายหาด ทะเลไม่เคยสวย แต่วันนี้ทะเลทั้งสวยและหวาน เพราะมีเธออยู่เคียงข้าง (แค่มีเธออยู่เคียงข้างก็ทำให้น้ำทะเลหวานได้ เออ..เอากับมันดิ..)หรือ เพลงอมตะที่แสนไพเราะ อย่างเพลงทะเลไม่เคยหลับใหล ของดิอิมพอสสิเบิ้ล ที่ได้ยินทีไร นึกถึงป๋าต้อย-เศรษฐา ตัวผอมกะหร่อง หัวหยิก หน้ายาว ๆ แหลม ๆ แต่ดันได้เมียเป็นนางงาม..อิ อิส่วนเพลงทรายกับทะเล ของนันทิดาแก้วบัวสาย ที่พรรณาถึงความสวยงามของทะเล ที่ต้องมีทรายอยู่คู่กันนั้น ก็เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกมั่นคงในความรักได้เป็นอย่างดี เพลง มีให้ร้องหลายเพลง หลายเวอร์ชั่น อยู่ที่ว่าเราจะเลือกร้องเพลงอะไร แต่ไม่ว่าจะร้องเพลงอะไร ด้วยเหตุผล หรืออารมณ์ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปในที่สุด ความรักจะเป็นเช่นไร การดำเนินชีวิตจะเป็นอย่างไร ทุกข์หรือสุข ผ่านมาแล้ววันหนึ่งก็ต้องผ่านไป คุณผู้อ่านล่ะ เตรียมเสบียงกรังสำหรับการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ไว้หรือยัง...??...เพลง ทรายกับทะเล
ทะเล หมายถึง ห้วงน้ำเค็มที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่ามหาสมุทรเมื่อพูดถึงทะเล เรามักจะนึกถึงหาดทราย สายลม สองเรา (แล้วก็พาลคิดไปถึงป๋าเบิร์ด..อิ อิ) หาดทราย สายลม ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก เพราะฝรั่งบอกว่า understoodแต่ สองเรา ไม่ว่าชาติใด ก็ต้องมีคำอธิบาย เพราะ สองเรา ที่อยู่กับหาดทราย สายลมนั้น มีสภาวะของอารมณ์เข้ามาร่วมด้วยทะเลสวย เมื่อ สองเรา อยู่ในอารมณ์หวาน จะหวานด้วยอะไรก็ตามทีเหอะ ถ้าพูดแบบชาวบ้าน ๆ หน่อย ก็ต้องว่า ทะเลสวยเมื่อ สองเรา อารมณ์ดีในความเป็นจริง ทะเลสวยได้โดยไม่ต้องอาศัย สองเรา เพราะธรรมชาติย่อมมีความสวยงามในตัวของเขาเองอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน ความสวยงามนั้น บางครั้งก็แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ถ้าพิจารณาดูให้ดี ทะเลก็คือทะเล หาได้มีความโหดร้ายในตัวตนของเขาเองไม่ แต่ที่มันน่ากลัวขึ้นมาได้ เพราะมีสิ่งอื่นที่มาเป็นองค์ประกอบทำให้เกิดความน่ากลัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นลม พายุฝนกระหน่ำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ทะเลซึ่งโดยปกติเป็นธรรมชาติที่เงียบสงบ กลับปั่นป่วนกลายเป็นทะเลคลั่งขึ้นมาได้มองดูก็คล้าย ๆ กับ มนุษย์ และ สัตว์ ทั้งหลาย ที่มีจิตใจอ่อนไหวต่อสภาวะต่าง ๆ รอบกายง่าย ก็มักจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่ต่างไปจากทะเลที่ถูกรบกวนโดยธรรมชาติอื่น ๆเป็น มนุษย์ ดีกว่า สัตว์ ตรงที่ มนุษย์สามารถเรียนรู้ และพัฒนาอารมณ์และความรู้สึกไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการได้ ในขณะที่สัตว์บางชนิดก็สามารถเรียนรู้และปฏิบัติตามคำสั่งของมนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้เหมือนมนุษย์ พุทธศาสนาจึงเรียกมนุษย์ว่าเป็น เวไนยสัตว์ คือ สัตว์ที่สอนสั่งได้หลาย ๆ คน ชอบไปเที่ยวทะเล ออกเดินเรือไปกลางทะเล ชมความสวยงามที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ การเดินทางออกทะเลเช่นนั้น ต้องมีการเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชูชีพ ถังอ๊อกซิเจน หยูกยาต่าง ๆ หรือแม้แต่อาหารไปรับประทานระหว่างการเดินทาง คนที่ไม่ประมาทเขาต้องเตรียมให้พร้อม พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในหนทางระหว่างที่เราเดินทางไปนั้นเฉกเช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตของเรา ตราบใดที่เรายังไม่สามารถจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ได้ เราก็ควรจะเตรียมหาเสบียงกรัง เครื่องไม้เครื่องมือไว้ใช้ในอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตชาติหน้า เราจะต้องไปพานพบกับสิ่งใดบ้างพระพุทธศาสนา สอนให้เรารู้จักระมัดระวังในการดำเนินชีวิต สอนให้เรารู้จักสะสมผลบุญและความดี เพื่อจะได้เอื้ออำนวยให้เราเดินทางในสังสารวัฏฏ์ได้อย่างไม่ลำบากขัดสน ทุกสิ่งเราต้องเป็นผู้จัดเตรียมด้วยตนเอง ไม่มีใครจะสามารถมาสะสมจัดเตรียมแทนเราได้ เสบียงสำหรับการเดินทางในสังสารวัฏฏ์นั้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายเกินกว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดา ๆ ทั่วไปจะสามารถทำได้ เพราะวิธีการหาต้นทุน วิธีการจัดเตรียม พระพุทธเจ้าได้บอกไว้หมดแล้ว อยู่ที่เราจะสนใจ เอาใจใส่เข้ามาศึกษา และเริ่มต้นจัดเตรียมหรือไม่เท่านั้นเอง
ต้นทุนในการสะสมเสบียงดังกล่าวนั้น ได้แก่ อริยสัจสี่ มรรคมีองค์แปด และ พรหมวิหารสี่ ซึ่งล้วนเป็นธรรมหมวดใหญ่ ที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดเป็นเสบียง สามารถนำพาไปกับเราได้ตลอดการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ต่อไปอริยสัจ ๔ เป็นธรรมที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยการทำความเข้าใจในทุกข์หรือปัญหาทั้งหลายว่า ทุกข์หรือปัญหานั้นคืออะไร (ทุกข์) สาเหตุแห่งการเกิดทุกข์นั้นมาจากไหน (สมุทัย) การดับทุกข์หรือแก้ปัญหาให้หมดสิ้นไป (นิโรธ) และหนทางหรือวิธีดำเนินการเพื่อดับทุกข์หรือแก้ไขปัญหานั้น ต้องทำอย่างไร (มรรค) พรหมวิหาร ๔ มีไว้เพื่อการอยู่ร่วมกับคนในสังคมอย่างมีความสุข ด้วยความมีเมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา ต่อเพื่อนร่วมโลกร่วมสังคมในส่วนของหนทางแห่งการดับทุกข์นั้นก็คือมรรค หรือ อริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเข้าหลักไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง....ถ้าจะเปรียบการดำเนินชีวิตของเรากับทะเล ก็คงเปรียบได้กับการที่เราเป็นเรือ ต้องลอยอยู่กลางทะเลคือสังสารวัฏฏ์ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เรือลำน้อย ต้องพบกับกระแสลม เกลียวคลื่นที่มีทั้งยามสงบ และบ้าคลั่ง หากเรือแข็งแรงทนทานพอ มีเสบียงอาหารและเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะพบกับพายุที่โหมกระหน่ำรุนแรงเพียงใด เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่ขวางหน้า ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย..ทะเลกับเสียงเพลง...ไม่ว่ายุคใดสมัยใด มักจะมีนักแต่งเพลงหลายคน นิยมนำความรักของคนไปผูกพันไว้กับทะเล ไม่ว่ารักนั้นจะสมหวัง หรือผิดหวังก็ตาม อย่างเพลงหาดทราย สายลม สองเรา ของป๋าเบิร์ด บ่งบอกถึงอารมณ์ที่สดใส ได้ยินได้ฟังทีไร หัวใจเบิกบานทุกทีส่วนอารมณ์อื่น ๆ ก็มีหลายเพลงให้เลือกฟังเลือกร้อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงทะเลระทม ของคุณชายถนัดศรี ที่ฟังทีไร รู้สึกว่าหัวใจคนร้องมันชอกช้ำสิ้นดี หรือ เพลงทะเลสีดำ ของ ต้าร์ พาราด๊อกซ์และลุลา ที่ร้องคู่กันโดยบอกว่า อยู่ใกล้ทะเลไม่ต้องกลัว จับมือฉันไว้ กอดฉันไว้ (เดี๋ยวดีเอง..อันนี้ปอป้าเติมให้..อิ อิ) หรือ เพลงทะเลหวาน ของ เอ บี นอร์มอล ที่บอกว่า เมื่อก่อนไม่มีเธอยู่เคียงข้างที่ชายหาด ทะเลไม่เคยสวย แต่วันนี้ทะเลทั้งสวยและหวาน เพราะมีเธออยู่เคียงข้าง (แค่มีเธออยู่เคียงข้างก็ทำให้น้ำทะเลหวานได้ เออ..เอากับมันดิ..)หรือ เพลงอมตะที่แสนไพเราะ อย่างเพลงทะเลไม่เคยหลับใหล ของดิอิมพอสสิเบิ้ล ที่ได้ยินทีไร นึกถึงป๋าต้อย-เศรษฐา ตัวผอมกะหร่อง หัวหยิก หน้ายาว ๆ แหลม ๆ แต่ดันได้เมียเป็นนางงาม..อิ อิส่วนเพลงทรายกับทะเล ของนันทิดาแก้วบัวสาย ที่พรรณาถึงความสวยงามของทะเล ที่ต้องมีทรายอยู่คู่กันนั้น ก็เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกมั่นคงในความรักได้เป็นอย่างดี เพลง มีให้ร้องหลายเพลง หลายเวอร์ชั่น อยู่ที่ว่าเราจะเลือกร้องเพลงอะไร แต่ไม่ว่าจะร้องเพลงอะไร ด้วยเหตุผล หรืออารมณ์ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปในที่สุด ความรักจะเป็นเช่นไร การดำเนินชีวิตจะเป็นอย่างไร ทุกข์หรือสุข ผ่านมาแล้ววันหนึ่งก็ต้องผ่านไป คุณผู้อ่านล่ะ เตรียมเสบียงกรังสำหรับการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ไว้หรือยัง...??...
ความรักจะเป็นเช่นไร การดำเนินชีวิตจะเป็นอย่างไร ทุกข์หรือสุข ผ่านมาแล้ววันหนึ่งก็ต้องผ่านไป...
ฝันดี ราตรีสวัสด์...นะคะ