ทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่า "สืบพระศาสนา"
ทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่า "สืบพระศาสนา"

    ๑. ตนเองจะต้องเรียนรู้ในศาสนา เพื่อธำรงรักษาสิ่งที่เป็นพระศาสนา เช่น คำสั่งสอนของพระศาสนา สิ่งที่เป็นความหมาย หรือสิ่งอะไรต่างๆ ของศาสนา ซึ่งจะทำให้มีคน เกิดคน เกิดบุคลากรที่จะไปพูดต่อ เล่าต่อ สั่งสอนต่อ หรือไปปฏิบัติต่อ

    ๒. เผยแพร่ ส่งเสริม ตัวเองเป็นตัวอย่างที่ดี

    ๓. ปฏิบัติแล้วหาข้อเท็จจริง หาข้อธรรมที่ถูกต้องลึกซึ้งเข้าไป บางครั้งสิ่งที่เรารับรู้มามันแค่ ๒๐%, ๓๐% มันไม่ลึกซึ้งพอ เราจะต้องไปค้นหา ศึกษาหา ปฏิบัติต่อไป ถึงจะดำรงความเป็นหลักการของศาสนาได้ต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะเพี้ยนไปมา แล้วหลักการศาสนาก็จะหมดไปเลย

    นี่เป็น ๓ หน้าที่หลักในการสืบพระศาสนา 

    ทีนี้ก็จะมีอีก ๓ ข้อรองลงมาก็คือ

    ๔. ทำนุบำรุงผู้ที่ปฏิบัติธรรม ผู้บำเพ็ญ นักบวช พระภิกษุ พระสงฆ์ แม่ชี

    ๕. ทำนุบำรุงถาวรวัตถุในศาสนา หรือนิมิตหมายให้รู้ถึงว่าศาสนา ปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ

    ๖. สร้างเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ที่ให้เป็นนิมิตหมายของศาสนา เช่น รวบรวมปัญญาสำคัญของพระศาสนา ข้อธรรมะของศาสนา แต่งคัมภีร์ ฯลฯ มีการนำมาวิเคราะห์ อธิบายเพิ่มเติม หรือแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญญาของศาสนาให้บุคคลได้เข้าใจ เรียกว่าทำหน้าที่คุรุ การทำหน้าที่คุรุเป็นการสืบพระศาสนาเป็นกำลังสำคัญมากๆ ถ้าหากว่าเพี้ยนไปเรื่อยๆ ก็จะไร้หลักการ

^_^  ..._/_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต



Create Date : 03 ตุลาคม 2563
Last Update : 3 ตุลาคม 2563 21:53:39 น.
Counter : 482 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมสิทธิ์
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
New Comments
Group Blog
ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog