| |
||||||||||||||
เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ มีความสุขได้อย่างไร เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ มีความสุขได้อย่างไร สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) (๒๕๖๐ : ๑๐๕๗) กล่าวในพุทธธรรม ในเรื่องความสุข เห็นควรสรุป ให้เห็นขั้นตอน และประเภท ชัดเจนขึ้นดังนี้ "ก. เวทยิตสุข (สุขที่เป็นเวทนา หรือสุขที่มีการเสวยอารมณ์) ๑. กามสุข สุขเนื่องด้วยกาม สุขเกิดจากกามคุณ หรือสุขจากสิ่งเสพทางผัสสะทั้ง ๕ ๒. ฌานสุข สุขเนื่องด้วยฌาน หรือสุขที่เป็นวิบากแห่งฌาน - สุขเนื่องด้วยรูปฌาน ๔ ขั้น - สุขเนื่องด้วยอรูปฌาน ๔ ขั้น ข. อเวทยิตสุข (สุขที่ไม่เป็นเวทนา หรือสุขที่ไม่มีการเสวยอารมณ์) ๓. นิโรธสมาบัติสุข สุขเนื่องด้วยนิโรธสมาบัติ คือการเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ" สัญญาเวทยิตนิโรธ ในเมื่อไม่มีเวทนา ไม่มีการเสวยอารมณ์ แล้วจะมีความสุขได้อย่างไร? แปลว่า สุขที่ไม่มีการเสวยอารมณ์ อย่างนี้แปลผิด เพราะว่า สุขนี้จะมีความหนา-เบา แตกต่างกัน เช่น ๑. สุขทั่วไป เขาเรียกว่าอย่างหนา ๒. สุขอย่างกลาง พอปล่อยวางได้ ๓. สุขอย่างเข้านิโรธสมาบัติ เป็นสุขอย่างเบา ละเอียด แม้ไม่มีเวทนา แต่ก็ต้องมีเวทนา แต่เป็นเวทนาอย่างเบาๆ ต้องมีอย่างครบสูตร ถ้าไม่มีไม่ได้ เพราะขัดกับหลักธรรมชาติ กลไกลของธรรมชาติ อย่างเช่น คนนี้ไม่มีอารมณ์ แต่เขาจะไม่รับรู้เหรอ แล้วจะสุขจะทุกข์เขาไม่รู้แล้ว แต่ยังไม่ถึงตรงนั้น เขาเรียกว่า "ดับ" ไม่ใช่ว่าดับสิ้นตายไปแล้ว เพียงแต่ ดับรู้สติ นี่แหละจึงทำอะไรไม่ได้ เหมือนก้อนหินหนึ่งก้อน นี่แหละ จะต้องมีตลอด เพราะมีอย่างเบาๆ เหมือนกับกบหรือปลาจำศีล หรือว่าฤาษี โยคี ที่ฝังดิน เขาก็มีชีพจรเหมือนกัน แต่อ่อน เบาๆมาก สมมติว่า เราหายใจหนึ่งครั้ง ใช้พลังไป ๑๐% แต่นี่ พลัง ๑% แต่สามารถอยู่ได้เป็นเดือน ไม่ต้องกินอะไร ใช้พลังงานแบบไม่สิ้นเปลือง เขาก็ดำรงอยู่ได้ แต่ต้องมี สัตว์จำศีลยังไงก็ไม่ได้หยุดลมหายใจ แต่ลมหายใจมันแผ่ว แต่ก็ต้องหายใจอยู่ตลอด เหมือนกับเข้าสมาบัติ ลมหายใจจะแผ่วมาก ลมหายใจจะอ่อน จนในที่สุดก็จะนิ่งเลย แต่ไม่นิ่งนะ สุขอย่างแผ่ว ไม่ต้องไปรับรู้อารมณ์ แต่จริงๆ แล้วมันมี มีการเสวยอารมณ์ แต่มันแผ่ว พอมันแผ่ว คนไม่ปราณีตบอกว่าไม่มี ฉะนั้นบอกว่าไม่มี เวทนาและสัญญา มันเป็นการฝืนธรรม คือ ขั้นตอนของธรรม ๑-๒-๓-๔ แล้วบอกว่าเกิดอะไร มันเป็นอย่างนี้ นี่แหละ อย่าไปบ้าจี้กับคำพูดบางคำว่า "ฆ่ากิเลสให้หมด" เป็นไปไม่ได้ ^_^ ..._/_... ^_^ ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์ เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
|
พรหมสิทธิ์
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์ เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
Group Blog
All Blog Link |
|||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||||||||
