พึงสละชีวิตเพื่อรักษาศีล เป็นการเปรียบเทียบ
พึงสละชีวิตเพื่อรักษาศีล เป็นการเปรียบเทียบ
"นรชน พึงยอมสละทรัพย์เพราะเหตุแห่งองค์อวัยวะอันประเสริฐ
เมื่อจะรักษาไว้ซึ่งชีวิตก็พึงยอมสละองค์อวัยวะ
เมื่อระลึกถึงธรรมะก็พึงยอมเสียสละทรัพย์ องค์อวัยวะ และชีวิต แม้หมดทุกอย่าง"
จากพระพุทธโฆษาจารย์. ๒๕๕๑. คัมภีร์วิสุทธิมรรค. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) แปลและเรียบเรียง. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพ : บริษัท ธนาเพรส จำกัด, หน้า ๕๓,๖๖.
จงถนอมลมหายใจไว้เพื่อให้มีชีวิต เปรียบเสมือนกับการรักษาศีล คือ ให้เจริญบุญ ความดี
พึงสละชีวิตเพื่อรักษาศีล ความหมายก็คือ ให้รักษาศีลอย่างยิ่งยวด อันนี้เป็นสิ่งเปรียบเทียบ ที่จริงแล้ว ศีลยังมีความสำคัญกว่านี้อีก เพราะศีลเป็นสิ่งที่ทำให้เราไปก่อเกิดชาติต่อไป เช่น ทำเหตุบาป ชาติหน้าก็เกิดทุกข์ แต่ถ้าเรารักษาศีล ชาติหน้าก็จะสุข นี่แหละ สำคัญไม่ใช่แค่หมดลมหายใจ ยังต่อภพต่อชาติ
ศีลนำพาไปสู่สันติสุขทุกชาติได้ ทุศีลนำไปสู่ความทุกข์ทุกชาติได้
ในเมื่อทำดีก็เป็นวิบากในการไปเกิดชาติหน้าอีก เสวยสุขอีก?
ก็เรายังอยู่ห่างไกลจากนิพพาน เราก็ต้องปิติในการเวียนว่ายตายเกิด ฉะนั้น เราก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดให้ดีเถิด เพราะเรายังห่างนิพพานเยอะ แล้วอยู่ดีๆ แล้วเราจะไปเอานิพพานแล้ว มันจะได้ยังไง ก็ในเมื่อไม่มีเหตุ อันนี้เป็นคนบ้าติงต้อง ฉะนั้น เราจะต้องพึงพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ จะอยู่ยังไงให้ได้ดี เพื่อนำไปสู่นิพพาน ถ้าระหว่างอยู่ไม่ได้ดี แล้วจะไปนิพพาน ได้อย่างไร?
พวกที่อยากไปนิพพานต้องฟังตรงนี้ ไม่งั้นก็ไม่มีเส้นทาง ก็จะโม้เอา เพราะทั่วไปไม่ได้บอกเหตุว่าทำยังไงถึงจะได้ไป ได้แต่กว้างๆ คร่าวๆ
เราจะเอาปลาไปปล่อย แต่เอาปลามาเลี้ยงก่อนปล่อย จะเป็นการถนอมเขาก่อนที่เราจะปล่อย
^_^ ..._/_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต