เปิดทวารรับพลังแห่งความเป็นทิพย์
    พลังมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ขึ้นอยู่ว่าเราจะสามารถรับรู้พลังและรับพลังได้เหมือนไม่ การที่เราจะรับพลังได้เราต้องเปิดทวารก่อน พลังจึงจะสามารถผ่านเข้าไปได้

    ตัวที่ทำให้เราเปิดรับพลังและปิดรับพลังคือ "จิต" จิตนี้จะเป็นตัวสั่งเปิด/ปิด รับพลัง

    ลึกลงไปอีกจะเป็นจุดภวังค์ ถ้าเราเปิดรับ ปิดภวังค์ไม่แน่น พลังก็จะเริ่มเข้ามา ยิ่งถ้าเราได้อัญเชิญพลัง หรืออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลังนั้นก็จะเข้าได้เร็วขึ้น และพลังเข้าได้เยอะขึ้น แน่นแฟ้นขึ้น

    ทวารเราจะมีการเปิดปิดช่อง ตัวปิดของเราก็คือจิต จิตก็จะสั่งปิด คือ ตัวสามัญสำนึกจะสั่งปิดหรือสั่งเปิด ตรงนี้เอาหรือไม่เอา

    บางครั้งจิตของเราตกใจ ก็จะต้านไปต้านมา ถ้าเราไม่ประกาศอัญเชิญก็จะเป็นการก้ำๆ กึ่งๆ พลังเข้าๆ ออกๆ แต่ถ้าเราประกาศ บัดนี้เราขออัญเชิญสิ่งที่เป็นพลังมงคล เทวดา ร่วมสร้างกุศล พลังหรือเทวดาก็จะสามารถเข้ามาในตัวเราได้

    สิ่งที่จะทำให้พลังเข้ามาได้ก็จะเข้ามาทางทวาร ทวารของเรามี ๑๒ ช่องทาง แบ่งออกเป็นภายนอก ๖ ภายใน ๖ เรียกว่าอายตนะ ซึ่งแปลว่า  ที่เชื่อมต่อ, เครื่องติดต่อ หมายถึงสิ่งที่เป็นสื่อสำหรับติดต่อกัน ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้น แบ่งเป็น ๒ อย่างคือ

    ๑. อายตนะภายใน หมายถึง สื่อเชื่อมต่อที่อยู่ในตัวคน บ้างเรียกว่า อินทรีย์ ๖ มี ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งหมดนี้เป็นที่เชื่อมต่อกับอายตนะภายนอก ภายในนี้จะเป็นทางด้านจิตวิญญาณ

    ๒. อายตนะภายนอก หมายถึง สื่อเชื่อมต่อที่อยู่นอกตัวคน บ้างเรียกว่า อารมณ์ ๖ มี 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นคู่กับอายตนภายใน เช่น รูปคู่กับตา หูคู่กับเสียง เป็นต้น

    ทวารทางตา เช่น ตาทิพย์ หรือตาใน ของทิพย์ จะมีจิตวิญญาณเกี่ยวกับตา คือ เราเห็นแล้วสามารถแปลรหัสออกได้หรือไม่

    ตัวที่ทำให้เราแปลรหัสออกได้นี่คือปัญญา เป็นปัญญาทางตา ปัญญาทางหู ปัญญาทางจมูก ปัญญาทางลิ้น ปัญญาทางจิตใจ

    ทวารทางหู     เช่น หูทิพย์ เสียงทิพย์ เช่น ถ้าหูเราได้ยินเสียง เราก็สามารถรับรู้ได้ว่ามันคือเสียงอะไร แต่บางครั้งจะมีหูแว่ว ทางคุณหมอบอกว่าการมีหูแว่วเป็นโรคทางจิตเภทอย่างหนึ่ง แต่การหูแว่วนี้ ถ้าเราแปลรหัสไม่ออก ไม่รู้เรื่องเราเรียกว่าหูแว่ว แต่ถ้าเราแปลรหัสของเสียงออก ถ้าเรารู้เรื่อง เราเรียกว่า หูทิพย์ แต่ถ้าไม่รู้เรื่องราวก็เรียกว่า หูแว่ว

    อย่างเช่น เจ้าแม่กวนอิมได้ยินเสียง สัตว์โลกกำลังมีทุกข์ภัย ท่านก็จะเสด็จไปลงไปช่วยเหลือ โอ้ทางนี้มีเรื่องเดือดร้อนขอให้ท่านช่วย โอ้ทางนี้มีการกล่าวสรรเสริญยินดี สาธุ เป็นสิ่งมงคล เสียงระฆังมาแล้ว เต็งๆๆ นี่เสียงทุกข์ร้อนมาก ต้องรีบลงไปช่วย โอ้นี่เสียงมีความสุข

    เราจะเห็นได้ว่า ถ้าเราฟังแล้วต้องแปลให้ออก ถ้าแปลไม่ออกก็จะเป็นหูแว่ว แต่ถ้าแปลออกก็จะเรียกว่า หูทิพย์ มีเหตุและผลเป็นสัดเป็นส่วนให้เราได้เข้าใจ

    ทวารทางจมูก เช่น กลิ่นทิพย์ คือ ทางจิตวิญญาณของเราจะได้รับกลิ่นต่างๆ กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นอะไร กลิ่นนั้นมีความหมายว่าอย่างไร เราสามารถแปลรหัสออกหรือไม่ กลิ่นต่างๆ นี้ก็ไม่เหมือนกัน เช่น สมมติว่าเราได้กลิ่นเหม็น แต่กลิ่นเหม็นนี้เหม็นอะไร บางครั้งเราไม่รู้ แต่ถ้าเป็นปัญญาแห่งจมูก เราก็จะรู้ว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นอะไร กลิ่นนี้แปลว่าอะไร กลิ่นนี้เป็นกลิ่นผี กลิ่นเทวดา กลิ่นทางอัปสร กลิ่นเทพธิดา กลิ่นอันนี้ท่านต้องการอะไร เช่น นี่เป็นความหอมของนางอัปสร นี่เป็นความหอมของนางฟ้าเทวดา อันนี้กลิ่นของพระแม่ฯ เราก็จะรับรู้ได้  ทำไมเขาได้กลิ่นแล้วทราบได้ว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นอะไร มาจากไหน กลิ่นสายไหน เป็นต้น สิ่งที่เราแปลสัญญาณรหัสออกว่า นี่เป็นกลิ่นอะไรเรียกว่า ปัญญาแห่งจมูก หรือ จมูกทิพย์ กลิ่นทิพย์ ปัญญาเกิดขึ้นทางจมูก 

    ถ้าเราไม่มีปัญญาทางจมูก เราดมก็ไม่รู้ว่ากลิ่นนี้แปลว่ากลิ่นอะไร ทั้งๆ ก็รู้ว่าหอม แต่ไม่รู้ว่าหอมเป็นอย่างไร คือใคร องค์เทพองค์ไหน เช่น นี่เป็นความหอมของนางอัปสร นี่ความหอมของนางเทวดา ความหอมของผี นี่กลิ่นของพระแม่ นี่กลิ่นพระแม่อุมา นี่กลิ่นพระแม่ลักษมี ฯลฯ นี่เป็นปัญญาทางสายจมูก แยกแยะให้ออก

    ทวารทางลิ้น คือ ลิ้นทิพย์ รสทิพย์ อาหารทิพย์ เช่น ความขม ความขมจะขมไม่เหมือนกัน ถ้าเรามีปัญญาเราจะรู้ว่านี่ขมเป็นยา นี่ความขมเป็นพิษ ความหวานก็เหมือนกัน นี่หวานเป็นพิษกับหวานเป็นยา เป็นต้น ทั้งๆ หวานเหมือนกัน หวานนี่มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ขมยาพิษ หรือหวานยาพิษ สิ่งที่เรารู้นี่แหละ คือ ปัญญาทางลิ้น เราเรียกว่า ลิ้นทิพย์ 

    ทวารทางกาย คือ กายทิพย์ การแสดงกิริยาอาการต่างๆ สื่อออกมาแล้วเราสามารถแปลรหัสแห่งพฤติกรรม หรือกิริยาอาการเหล่านั้นได้หรือไม่ ถ้าแปลได้ เราก็มีตาทิพย์สามารถรับรู้กายทิพย์ได้

    ตาทิพย์ คือ ตาใน สมมติว่าเรามองปั้บ แล้วเราแปลออก กิริยาอย่างนี้คืออะไร แปลว่าอะไร ตาทิพย์คือสามารถอ่านจิตใจเขาได้ มองท้องฟ้าเดี๋ยวพายุจะมาอะไรอย่างนี้ เขาเกาหัว เขาชี้หน้า แปลว่าอย่างไร

    ทวารทางใจ หรือมโน เช่น จิตใจ ลางสังหรณ์เกี่ยวกับทางจิตใจ อย่างนี้เรียกว่าความฝัน ความฝันเกิดจากใจ "มโน" ความฝันเป็นรูป เรามีปัญญาก็เข้าใจอีกด้านหนึ่ง เราแปลได้ บอกได้ ให้ความหมายได้

    เราต้องมีปัญญาทะลุทะลวงเราถึงจะรู้ว่าสิ่งนั้นซ่อนอยู่ข้างในคืออะไร นี่แหละเราจึงเรียกว่าทะลุมิติ 

    ขันธ์ ๕ ก็ต้องมีรูปและนามหรือข้างใน เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง ลมนี้มีรูปไหม ตอบว่า มี แต่ตานอกของเรามองไม่เห็น เช่น สิ่งที่เป็นวิญญาณข้างนอก เราออกมาให้เห็นว่าไอ้แดง ยั่วะ โกรธ อะไรอย่างนี้ แต่ข้างในก็มีวิญญาณแห่งความโกรธ วิญญาณของนอก ก็คือ วิญญาณออกมาแล้ว เหมือนกับธรรม ปรากฏออกมาเป็นใบไม้สีเขียว สีอะไร เขาเรียกว่าเป็นมารยาแห่งธรรม ออกมาให้รับรู้ แต่ใบไม้ก็ยังมีธรรมลึกอยู่ข้างใน

    ภาษาจีนเขาเรียกว่า "ลิ้งค์" ทางเราเรียกว่า "เจตภูติ"

    ความเจ็บอยู่ข้างใน แต่ถ้าไม่มีเจตสิกเราก็ไม่รู้เรื่อง

    วิญญาณทางรูป คือ แสดงออกถึงรูปนั้น ให้เขาเห็นว่า นี่นิ้ว นี่มือ นี่คน นี่สิ่งของ    เบี้ยว แหลม คม เป็นวิญญาณของสิ่งนั้นๆ อย่างเช่น แก้วน้ำ วิญญาณ ก็คือมีสภาพเป็นแก้ว ทรงกระบอก ใส่น้ำได้ นี่เป็นวิญญาณของแก้วน้ำ แต่อย่าเติมจิตลงไป เพราะว่าแก้วน้ำไม่มีจิต แต่มีรูปแสดงให้สื่อกันได้ ถ้าไม่มีวิญญาณ เราก็มองไม่รู้ว่ามันกลม

    สิ่งต่างๆ เหล่านี้ หนังสือเขียนยาก คำว่า "รัก" หนังสือมันตายตัว การพูดยังมีเสียงหนักเบา เสียงอ่อน เช่น โน๊ตดนตรีเหมือนกัน แต่ทำไมวงดนตรีนั้นเล่นได้ดีกว่าวงนี้ ทั้งๆ โน๊ตเหมือนกัน

    ฉะนั้น ถ้าเราเปิดทวารรับพลังหรืออัญเชิญเทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เราต้องเข้าในการเปิดทวาร และให้เป็นไปตามธรรมชาติ พลังจะจะเข้ามาได้มากขึ้น ไม่ต่อต้าน

^_^  ..._/_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2562
Last Update : 22 พฤษภาคม 2562 13:35:58 น.
Counter : 1383 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมสิทธิ์
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
New Comments
Group Blog
พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31