ตรวจพลังพระชินธาตุเจ้าดอยตุง
    ในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ตรงกับวันมาฆบูชา ข้าพเจ้าได้เดินทางไปนมัสการยังพระชินธาตุเจ้าดอยตุง พอไปถึงก็มีการกล่าวประกาศโองการบวงสรวงพระธาตุ ข้าพเจ้าจึงได้เข้าไปร่วมไหว้ด้วย โดยนั่งบนเก้าอี้ห่างจากพระธาตุประมาณ ๒๐ เมตร

    ระหว่างนั้น ข้าพเจ้ามีจิตตัวหนึ่งที่อยากรู้ถึงพลังของพระธาตุว่าเป็นอย่างไร พระธาตุจึงได้สื่อบอกให้เข้าใจถึงความเป็นพลังแห่งองค์พระธาตุ

    พระธาตุเจดีย์มีพลังได้อย่างไร ตัวองค์พระธาตุจริงๆ ไม่มีพลัง เราจะเห็นได้จากองค์พระธาตุประกอบด้วย ตัวพระอัฏฐิธาตุ ปูน ทองคำ ทองเหลือง เพชร พลอย นิลจินดา ของมีค่าต่างๆ ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ ประกอบกันขึ้นเป็นรูปร่างพระธาตุ

    แต่พระธาตุมีพลังได้อย่างไร พลังเกิดจากในธรรม เพียงแต่พระธาตุเจดีย์เป็นสื่อที่ดีนำพลังในธรรมออกมา

    อุปมาอุปมัยให้เข้าใจง่ายๆ พระเจดีย์เปรียบเสมือนกับกระทะทอดไข่เจียว กระทะเฉยๆ ไม่สามารถทอดไข่เจียวให้สุกได้ กระทะจะต้องอาศัยไฟมาลนก้นกระทะ กระทะจึงจะเกิดความร้อนขึ้นได้ เราจึงตอกไข่แตกแล้วเทลงไปยังกระทะ ไข่นี้จึงจะสุกได้

    เช่นเดียวกันกับพระธาตุเจดีย์ พระธาตุเจดีย์มีพลังเกิดขึ้นมาได้เนื่องจากเจตนาของบุคคลที่ต้องการขอพลัง หรือขอพรจากพระธาตุเจดีย์ เราจึงมีของบูชาต่างๆ มีดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น มาบูชาพระธาตุเจดีย์ เพื่อให้ได้รับพร ไปถวายพระธาตุเจดีย์ บุคคลที่มีวิชชาปัญญานี้ก็จะตั้งสัจจะอธิษฐานขอพลังในธรรม โดยผ่านสื่อจากพระธาตุเจดีย์มายังตนเองหรือบุคคลอื่น

    บุคคลในที่นี้ที่ขอพร ขอพลังจากพระธาตุเจดีย์ หมายถึง คน สัตว์ เจ้าที่ เทวดา สัมภเวสี ฯลฯ ได้หมด เพียงแต่ว่าบุคคลเหล่านี้จะมีสิทธิการิยะในการขอเข้าถึงพลังแห่งพระธาตุเจดีย์นี้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับบุญกุศล วาสนา บารมี ของบุคคลนั้นๆ สิ่งนั้นๆ

    เมื่อเรารับพลังมาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเอาพลังนั้นไปทำอะไร เช่นเดียวกับเราทอดไข่เจียว บางคนก็ทอดอร่อย บางคนก็ทอดจนไหม้เกรียมไม่อร่อย

    พอข้าพเจ้าเข้าใจเช่นนี้ จะนำสมุดปากกามาจดก็กลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ตกลงรถล้มและยางรั่ว ทำให้ข้าพเจ้าต้องคิดหนักขึ้น เพราะว่ายางรถไม่รั่วที่ไหนแต่ดันมารั่วบนพระธาตุดอยตุง สูงริบริ้ว แล้วจะหาช่างซ่อมปะยางที่ไหนละเนี๊ยะ พอเห็นอย่างนี้ก็กำหนดจิตว่าเกิดจากสาเหตุใด

    เกิดจากข้าพเจ้าอหังการในการไปขอสื่อตรวจพลังของพระธาตุเจดีย์ ซึ่งความจริงแล้วไม่ควรทำในวันที่มีการบวงสรวง โดยเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นวันมาฆบูชาเช่นนี้ เหตุผล เพราะว่า เทวดาที่ดูแล หรือพลังต่างๆของวันนี้จะมีการเข้าๆ ออกๆ เป็นจำนวนหลายสาย หลายด้าน หลากหลายพลัง เราลองย้อนกลับมาดูตัวเราเอง ถ้าเราจัดงานยิ่งใหญ่ สมมติว่างานขึ้นบ้านใหม่ก็ได้ คนทั่วทั้งจังหวัดมาที่บ้านเรา เราก็จะต้องต้อนรับแขก ไหนจะต้องจัดเตรียมสิ่งของ ของชำร่วย คำอวยพร เตรียมข้าวปลาอาหาร ฯลฯ แต่อยู่ดีๆ ก็มีบุคคลคนหนึ่งมาตรวจมาเช็คร่างกายเจ้าภาพ แล้วผลจะเป็นอย่างไร

    นี่แหละไม่มีอกเขา-อกเรา ไม่เอื้อ-เกื้อ-กัน ผลก็จึงทำให้ทราบให้มีอะไรติดขัดบ้าง  นี่ยังดีที่ท่านยังเมตตาต่อข้าพเจ้า ไม่ตำหนิลงโทษอะไรมากนัก ได้ทราบถึงกฎระเบียบในธรรมเป็นเช่นใด

    ข้าพเจ้าขอน้อมรับ และขอขมาต่อพระชินธาตุเจ้าดอยตุง เทวดา และองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกต่อไป และจะสรรเสริญ จรรโลง ทนุบำรุงรักษา สืบทอดพระศาสนาสืบต่อไปอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

^_^  ..._/_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต


 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2562
Last Update : 22 พฤษภาคม 2562 13:34:11 น.
Counter : 201 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมสิทธิ์
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
New Comments
Group Blog
พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31