7th / EPL.2 : ลิเวอร์พูล 1-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล 1-0 ซันเดอร์แลนด์
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 1-0 ชาบี้ อลอนโซ่ นาที 24
ผู้ชม : 44,913 คน
เจ้าถิ่นที่ได้ลงสนามที่แอนฟิลด์ เป็นนัดแรกในเกมพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ แต่ราฟา ยังคงยึดมั่นกับระบบ 4-5-1 อยู่กับทีมชุดที่บุกไปเสมอมิดเดิลสโบรห์ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเปลี่ยนแค่ถอดเอาหลุยส์ การ์เซีย ออกและให้ฌิบริล ซิสเซ่ ลงมาเล่นแทน ส่วนมิลาน บารอส ที่มีข่าวว่าใกล้ย้ายไปลียง ยังมีชื่อเป็นตัวสำรองอยู่
ด้านทีม "แมวดำ" ที่นัดแรกโดนชาร์ลตัน ยำเละ 3-1 คาถิ่น เกมนี้มิค แม็คคาร์ธี่ย์ ได้กองหลังตัวเก๋าอย่างอลัน สตั๊บบ์ส กลับมายืนเฝ้าแนวรับอีกครั้ง แต่ไม่มีชื่อของจอน สเตด ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง เช่นเดียวกับอองโตนี เลอ ตัลเล็ค ที่ยืมมาจากลิเวอร์พูล และลงสนามไม่ได้เนื่องจากติดข้อตกลงผูกพันกันไว้
เกมนี้คิกออฟดีเลย์กว่าปกติไปประมาณ 15 นาทีเนื่องจากปัญหาจราจรติดขัด แต่พอเปิดฉากมาได้แค่ 2 นาทีเศษ เจ้าถิ่นก็เกือบได้เฮก่อนจากจังหวะที่เจอร์ราร์ด ได้บอลก่อนตัดสินใจโยนลึกไปทางเสาสองแต่เควิน เดวิส ประตูซันเดอร์แลนด์ ชะงักไม่ออกมาเล่นบอลปล่อยให้ลูกโค้งไปชนเสากระดอนออกมา ก่อนที่มอริเอนเตส จะได้โฉบโหม่งจากลูกเตะมุมในจังหวะต่อมาแต่ลูกก็ออกข้างเสาไปอีก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 13 เจ้าถิ่นก็มีโอกาสได้อีกครั้งเมื่อคาร์ราเกอร์ วางบอลยาวมาให้เซนเด้น วิ่งสอดเข้ามาโหม่งออกข้างไปไม่ไกล แต่รูปเกมกลับค่อนข้างจืดชืด โดยทั้งสองทีมยังคงเล่นอย่างรัดกุมไม่วู่วามง่ายๆ
อีก 4 นาทีถัดมา แฟนๆในแอนฟิลด์ ก็ได้ครางฮือด้วยความเสียดายอีกครั้งเมื่อซิสเซ่ ได้มีจังหวะชาร์จโล่งๆหน้าประตูแต่กลับเข้าบอลไม่ถึงอย่างน่าเสียดาย ขณะที่รูปเกมเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อเจ้าถิ่นดูจะครองบอลบุกได้มากขึ้น แต่ก็โดนทีมเยือนใช้เกมโต้กลับเร็วมาเป็นระยะ และทำให้เจอร์ราร์ด ต้องเสียใบเหลืองแรกของเกมไปหลังไปเสียบเจมี่ ลอว์เรนซ์ ในจังหวะเคาน์เตอร์แอ็ทแทก
แต่เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 24 จากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา คราวนี้เป็นชาบี้ อลอนโซ่ ที่รับอาสาปั่นไซด์โค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปแบบงามหยดชนิดที่เควิน เดวิส มองเห็นพุ่งทันแต่หมดปัญญาเซฟ
ซันเดอร์แลนด์ เสียประตูแรกไปก็พยายามที่จะบุกทวงคืน และพยายามใช้เกมรุกริมเส้นกับการโยนเข้ากลางจู่โจม แต่จังหวะหวาดเสียวสุดๆนั้นเป็นจังหวะที่ดีน ไวท์เฮด ได้บอลจ่ายทะลุช่องหลุดเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายพยายามปาดกลับเข้ากลางแต่ไม่มีเพื่อนเติมขึ้นมา
เจ้าถิ่นเริ่มโดนบุกหนักก็มีออกอาการเป๋เหมือนกัน โดยเฉพาะแบ็กสองข้างที่โดนเจาะเกือบตลอด แถมเกือบเสียจุดโทษจากจังหวะที่บอลมาโดนมือซิสโซโก้ จากลูกเตะมุมของทีมเยือนแต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้ทำให้ยังรอดตัวมาได้สำหรับลิเวอร์พูล ก่อนจะเล่นประคองตัวรักษาสกอร์นำ 1-0 ไปจนจบครึ่งแรก
กลับมาลงสนามกันใหม่ในครึ่งหลัง เล่นไปได้ทันครบ 5 นาทีดีทั้งคูก็เกือบมีมวยกันเมื่อเจอร์ราร์ด ไปเข้าชาร์จสตั๊บบ์ส จนร่วงลงไปกองกับพื้นแต่ซิสเซ่ ที่เก็บบอลได้ไม่ยอมเตะทิ้งให้แถมยังลากบอลเข้ามายิงในกรอบเขตโทษออกไปอีก ทำให้ผู้เล่นซันเดอร์แลนด์ ไม่พอใจเข้ามาหาเรื่องดาวยิงจอมเปลี่ยนทรงผมแต่ดีที่แบร์รี่ ไนท์ ผู้ตัดสินเข้ามาห้ามทัพไว้ทัน
ถัดมาในนาทีที่ 55 ราฟาเอล เบนิเตซ ก็เปลี่ยนเอาสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ที่มีอาการบาดเจ็บออกและให้หลุยส์ การ์เซีย ลงมาแทนพร้อมปรับกลับไปใช้แผน 4-4-2 อีกครั้ง ก่อนที่อลอนโซ่ จะได้โอกาสลงซัดฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาอีกครั้งแต่คราวนี้ยิงแฉลบกำแพงออกไป ตามด้วยจังหวะที่อลอนโซ่ วางบอลให้ซิสเซ่ ได้มีโอกาสวอลเลย์เหน่งๆคนเดียวในเขตโทษแต่กลับยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย
ซิสเซ่ ได้มีโอกาสแก้ตัวอีกในนาทีที่ 63 และคราวนี้สามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จจากจังหวะสอดขึ้นมาจิ้มบอลโล่งๆหน้าประตูจากลูกโยนฟรีคิก แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
จากนั้นเกมดำเนินไปอย่างค่อนข้างจืดชืด ขุนพลเจ้าถิ่นไม่สามารถครองบอลรุกเอาใจแฟนบอลได้เลย แต่ลิเวอร์พูล ก็มาได้เปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่นเหมือนเกมก่อน เมื่อแอนดรูว์ เวลช์ ไปเข้าชาร์จหลุยส์ การ์เซีย นอกเกมทำให้ผู้ตัดสินให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่มิลาน บารอส จะได้โอกาสลงสนามแทนซิสเซ่ ซึ่งอาจเป็นการลงสนามนัดสุดท้ายในสีเสื้อแดงเพลิงของลิเวอร์พูล แล้ว
ช่วงเวลาที่เหลือทีมแชมป์ยุโรป เล่นปิดเกมเน้นการครองบอลทันที ขณะที่ทีมเยือนพยายามเพรสซิ่งเกมแต่ไม่ได้ผล ก่อนที่จะจบเกมไปด้วยชัยชนะแบบจืดๆของทีม "หงส์แดง" แต่ก็ยังได้ 3 แต้มแรกในฤดูกาลนี้มาจนได้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า 6 ,สตีฟ ฟินแนน 7,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7,ซามี่ ฮูเปีย 6,สตีเฟ่น วอร์น็อค 6,โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ 7,ชาบี้ อลอนโซ่ 8,ฌิบริล ซิสเซ่ 5 (มิลาน บารอส น.75 6) ,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6 (หลุยส์ การ์เซีย น.55 6) ,เบาเดอไวน์ เซนเด้น 5 (ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ น.63 7) ,เฟอร์นันโด มอริเอนเตส 5
สำรองไม่ได้ลงสนาม : สกอตต์ คาร์สัน ,โฆเซมี่
ใบเหลือง : เจอร์ราร์ด น.21 ,ซิสโซโก้ น.35
ซันเดอร์แลนด์ : เควิน เดวิส 6,ไนรอน นอสเวิร์ทธี่ย์ 7,แกรี่ บรีน 6,อลัน สตั๊บบ์ส 7,ฮูลิโอ อาร์ก้า 7,เลียม ลอว์เรนซ์ 6 (สตีเฟ่น เอลเลียต น.66 6) ,ดีน ไวท์เฮด 6 ,ทอมมี่ มิลเลอร์ 7 ,คาร์ล โรบินสัน 7 (มาร์ติน วู้ดส์ น.81 6) ,แอนดรูว์ เวลช์ 7,แอนดี้ เกรย์ 6 (คริส บราวน์ น.66 6)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : โจ เมอร์ฟี่ย์ ,สตีเฟ่น คัลด์เวลล์
ใบเหลือง : บรีน น.11 ,โรบินสัน น.24 ,นอสเวิร์ทธี่ย์ น.88
ใบแดง : เวลช์ น.74
ผู้ตัดสิน : แบร์รี่ ไนท์
ที่มา : //www.soccersuck.com
******************************
England - Premier League 20/08/05
Man U. 1 - 0 Aston Villa (Van Nistelrooy 66) Blackburn 2 - 1 Fulham (Pedersen 15,Tugay 71 // McBride 49) Charlton 1 - 0 Wigan (D. Bent 42) Liverpool 1 - 0 Sunderland (Alonso 24) Newcastle 0 - 0 West Ham Tottenham H. 2 - 0 Middlesbrough (Defoe 49,Mido 75) W.B.A. 2 - 1 Portsmouth (Horsfield 2,59 // Robert 63) Birmingham 1 - 2 ManC. (Butt 7 // Barton 20,Cole 47)
21/08/05
Bolton 0 - 1 Everton (Bent 52) Chelsea 1 - 0 Arsenal (Drogba 73)
**************************
ข่าวอัพเดต...
หัวขิงสังเวยชัยชวดซดโซเฟีย ยันต้องรีบอุดปีกขวาด่วน
ราฟาปัดข่าวขายใต้ซือให้เฮียเยร์
ลือหงส์จ้องปาดหน้าผีแดงซิวซิซินโญ่
Create Date : 22 สิงหาคม 2548 |
|
33 comments |
Last Update : 22 สิงหาคม 2548 19:06:02 น. |
Counter : 550 Pageviews. |
|
|