Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Bloody revenge Part3

บทที่ 19
ซาอิ ลงมือสำรวจทันทีที่เข้ามาในห้องเย็น เขาเริ่มสำรวจจากศพของฮางาตะ เป็นศพแรก ซาอิดูทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋ากางเกง เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที
“เค็นจิ โว้ย มานี่หน่อย”
เค็นจิ ที่กำลังเพ่งศพของอานามิยะ อิเนะ ก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาซาอิ
“ตอนที่รุ่นพี่ชันสูตร เค้าบอกมั๊ยว่าเจอรอยนี่น่ะ” ซาอิชี้นิ้วไปที่รอยเจอบริเวณใกล้ ๆ กับต้นขา
“ไม่มีนี่นา”
“นั่นไงว่าแล้ว”
“เดี๋ยว ๆ ซาอิ ขอฉันถามอะไรนายหน่อยนึงนะ”
“จะถามอะไร”
“ทำไม ถึงคิดว่าเป็นรุ่นพี่”
“ไม่สังเกตบ้างเลยเหรอไง เค็นจิ”
เค็นจินิ่งเงียบ พลางคิดตามที่ซาอิ พูดออกมา
“ที่ฉันว่ามันผิดปกติคือ การที่รุ่นพี่บอกว่าคุณเซโตะ เป็นฆาตกรไง ยังไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง แต่กลับพูดอย่างนั้น”
“นั่นมันก็จริงนะ แต่ถ้าดูกันตามเวลาที่ตายของเพื่อน ๆ คุณเซโตะ แล้ว รุ่นพี่ไม่อาจจะเป็นคนร้ายได้เลย”
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ นี่มันก็จะบ่ายแล้ว รีบ ๆ เข้าเถอะ”
นาฬิกาบนข้อมือของซาอิ ดังขึ้น ซาอิตั้งเวลาไว้นั่นเอง
“ตั้งเวลาทำไม”
“ไปได้แล้ว ต้องไปดูอีกที่นึง”
“ว่าอะไรน่ะ”
“ทางแยกอีกทางที่นายยังไม่ได้ไป” ซาอิ พูดจบก็ปิดประตูห้องเย็น แล้วก็รีบเดินไป เค็นจิก็เดินตามหลังด้วยอาการสับสนงุนงงเล็ก ๆ
เมื่อมาถึงทางแยก ซาอิเห็นภาพด้วยตาตัวเองแล้ว มันผิดกับจินตนาการที่เขาคิดไว้มากทีเดียว
“เอาล่ะ ไปกันเหอะ”
ซา อิค่อย ๆ เดินไปช้า ๆ บริเวณข้าง ๆ ค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาเดินไปจนสุดใช้เวลาประมาณ 5 นาที สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าแสงอันน้อยนิดที่ทะลุตามช่องกำแพงเข้ามา ทำให้พอจะมองเห็นได้บ้าง ซาอิเอามือค่อยลูบสัมผัสตามที่ต่าง ๆ
“อะไรอยู่ข้างหน้าน่ะ”
“เอ่อ คือฉันไม่แน่ใจนะ แต่มันเหมือนประตูแบบผลักนะ ล็อกจากข้างใน”
“เดี๋ยวสิ ซาอิ เดี๋ยวก่อนนะ”
“อะไรเหรอ”
“คือฉันก็ไม่กล้ายืนยัน 100% หรอกนะ แต่จุดนี้มันก็ใกล้ ๆ กับผนังตึกด้านที่คุณอานามิยะ ถูกแขวนคอเลยนี่นา”
ซาอิสะดุ้ง เลิกเอามือดันประตู หันกลับมามองเค็นจิ
“นายรู้ได้ไง”
“ก็สังเกตจากต้นไม้ข้าง ๆ นะ คืนที่พวกเราเจอศพของคุณอานามิยะ ฉันก็เห็นต้นนี้นะ”
“มั่นใจมากแค่ไหน”
“ไม่ 100% เพราะไม่รู้ว่ามันมีต้นแบบนี้ต้นเดียวรึเปล่า ก็ไม่รู้”
“งั้นก็ทดสอบสิ” พูดจบ ซาอิเอามือยื่นออกไปตามช่องหน้าต่าง แล้วก็เอามือรูดใบไม้ให้มากที่สุด
“งั้น ก็รีบลงไปดูเถอะ”
“ใจเย็นไว้ก่อน”
“ตอนนี้เราก็พอจะรู้แล้วว่าทางตรงนี้มันตัน เดินก็ไม่นาน ไว้มาใหม่ละกัน ตอนนี้ไปดูรูปที่นายเจอดีกว่า”
“จะดูว่าเป็นคน ๆ เดียวกับรูปที่นายเจอในห้องนั้นใช่มั๊ย”
“ใช่”
และซาอิ กับเค็นจิ จึงเดินกลับออกมาแล้วก็เดินไปทางที่มีรูปภาพอยู่
ที่ห้องโถง ทาคามิ จุน พูดกับพ่อของตัวเอง
“พ่อครับ พรุ่งนี้เรือจะมารับประมาณกี่โมงครับเนี่ย”
“ก็ประมาณช่วงบ่ายน่ะ”
“เหรอครับ”
“มีอะไรมั๊ย จุน”
“ไม่มีครับ”
“จุนเห็น มิวะจัง กับคุณเซโตะ มั๊ย”
“ถ้า เป็นมิวะจัง ก็เห็นนะครับ อ่านนิตยสารของผู้หญิงอยู่ข้างนอกนะครับ ส่วนคุณเซโตะ บอกว่าขึ้นไปชั้น 2 นะครับ ผมเลยลงมาข้างล่าง”
“นี่มันก็จะเย็นแล้วนะ ฤดูหนาวยิ่งมืดเร็วอยู่ด้วย ไปไหนกันหมดนะ”
“งั้น เดี๋ยวผมจะไปตามทุกคนมานะครับ ผมว่าพ่อทำอาหารไว้คอยดีกว่านะครับ”
“หึ หึ มื้อสุดท้ายก่อนถึงบ้านใช่ไหม”
“ใช่ครับ เต็มที่เลยนะครับ”
“หนูเป็นผู้ช่วยให้มั๊ยค่ะ” เสียงของไอโกะ มิวะ ดังขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก มิวะจัง ไปดูนิตยสารเถอะ”
“ให้หนูช่วยเถอะค่ะ เพราะถ้าไม่หาอะไรทำ ภาพที่มันไม่ดีชอบเข้ามาอยู่ในหัว”
ทาคามิ จุน เห็นแววตาที่เศร้าหมองของไอโกะ มิวะ จึงพูดกับพ่อของตัวเอง
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ ให้มิวะจัง ช่วยเถอะ อีกอย่างผมว่าผู้หญิงน่าจะถนัดงานแบบนี้มากกว่านะครับ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
“ขอบคุณค่ะ หนูจะพยายามเต็มที่”


บทที่ 20
โช ชิยะ ซาอิ และเค็นจิ โอโทโมะ กำลังเดินคุยกัน ระหว่างที่กำลังลงมาชั้น 2 ก็พบทาคามิ จุนเดินออกมาจากห้องพร้อมกับ โอนิวะ เซโตะ
“มาก็ดีแล้วนะ พวกนาย 2 คน”
“มีอะไรเหรอครับ คุณเซโตะ”
“ไม่มีอะไรหรอกแค่พ่อของฉันทำอาหารไว้ให้นะ เป็นมื้อสุดท้าย เพราะพรุ่งนี้ก็จะกลับกันแล้ว”
“งั้นเหรอครับ”
“เป็นอะไรไปซาอิ ดูไม่ร่าเริงเลย”
“คือ ผมพึ่งนึกอะไรบางอย่างออกนะครับ” ซาอิ ทำท่าลังเลก่อนจะพูดออกไป
“วัน ที่ชันสูตรศพของคุณฮางาตะ น่ะครับ ผมกับเค็นจิ ไม่ได้ดู คือผมอยากรู้ว่าใครเป็นคนชันสูตรมากกว่ากันครับ ระหว่างคุณเซโตะ กับรุ่นพี่”
“คนที่ชันสูตรน่ะ จุนคุง ผมแค่บอกวิธีบางอย่างให้แค่นั้น”
“สรุปคือ รุ่นพี่เป็นคนชันสูตรสินะครับ”
“ใช่ มีอะไรเหรอ”
“เจออะไรแปลก ๆ มั้งมั๊ยครับ”
“แปลก ๆ เหรอ แบบไหนล่ะ”
แล้วทาคามิ จุน ก็เดินขึ้นบันไดไป

“ก็นอกจากรอยกรีดที่ข้อมือ กับที่คอแล้ว ไม่เจอรอยอื่นเหรอครับ”
“ใช่”
“ทุกจุดแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้ว”
“เอ่อ ตอนนั้นคุณเซโตะ อยู่ด้วยรึเปล่าครับ”
“เปล่า พอผมสอนเสร็จก็เดินไปสูบบุหรี่น่ะ ไม่ทันได้สังเกตอะไร”
“มีอะไรเหรอ ซาอิ”
“ไม่มีครับ คุณเซโตะ ผมถามเผื่อว่ายังชันสูตรไม่ครบ ผมจะได้ไปดูอีกรอบน่ะครับ”
“เรียบร้อยหมดแล้วล่ะ” ทาคามิ จุน ตอบชัดถ้อยชัดคำ
“งั้นก็ไปกินข้าวกันดีกว่านะครับ” เค็นจิ พูดขึ้น
หลัง จากที่ทุกคนมารวมกันที่ห้องโถงแล้ว อาหารประมาณ 4 – 5 อย่างที่ ทาคามิ วาชิโร่ กับไอโกะ มิวะ ช่วยกันทำขึ้นมา เมื่ออาหารวางเสร็จ ทุกคนก็ประจำที่นั่ง
“เดี๋ยวก่อน นะครับ”
“มีอะไรเหรอ จุน”
“ผมไปเอาน้ำมาก่อน”
“นั่นสิ ลืมไปเลย”
หลังจากที่ทุกคนได้น้ำแล้ว ก็กินอาหารกัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนกับลืมเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งหมด กินไปได้สักพัก
“เอ่อ หนูขอถามอะไรนิดนะค่ะ” ไอโกะ มิวะ พูดออกมา
“มีใครง่วงบ้างมั๊ยค่ะ”
“มิวะจัง ด้วยเหรอ” ทาคามิ จุน ตอบ
“จริงด้วยนะครับ”
“อะไรจริงงั้นหรือ ซาอิคุง”
“ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ คุณวาชิโร่ ทำไมมันง่วงพร้อมกันแบบนี้”
“เดี๋ยวก่อนซิ ทำไมฉันไม่เห็นง่วงเลยล่ะ”
ทุกคนมองไปทางเซโตะ ก่อนที่จะหลับไป
“อูย” ซาอิตื่นขึ้นมา เห็นไอโกะ มิวะ สลึมสลืออยู่ แล้วคนอื่น ๆ ก็ตื่นขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเราเนี่ย”
“เรื่องนั้นไว้ทีหลังเถอะครับ คุณวาชิโร่”
“ซาอิ กี่โมงแล้ว”
“อีก 20 นาที ก็ 5 ทุ่มแล้ว”
“แล้วคุณเซโตะ ล่ะ” ทาคามิ จุน ถามขึ้นมา
“จริงด้วย”
“มีใครหายไปอีกมั๊ยครับ”
“ไม่มี มีคุณเซโตะ คนเดียว” ทาคามิ จุน พูดพร้อมกับขยี้ตา
“งั้นรีบตามหาเถอะครับ”
“แล้วจะหาตรงไหนล่ะ”
คำถามของเค็นจิ ทำให้ ซาอิ เงียบไปสักครู่นึง
“งั้นก็หาจากชั้น 3 ก่อนละกัน แล้วก็ไล่ลงมา”
“หนูเห็นด้วยกับความคิดของคุณจุน นะค่ะ”
“งั้นก็รีบเถอะ”
ทุกคนออกหาตัวเซโตะ ตามห้องต่าง ๆ
“เอ่อ ทุกคนมาทางนี้หน่อย” เสียงของทาคามิ จุน ดังขึ้น
เมื่อ มาถึง ก็พบอักษรเลือดเขียนไว้ที่กำแพง เป็นลายมือเดียวกับประโยคแรกที่พบ มีใจความว่า “ภารกิจในโลกนี้จบสิ้น ขอไถ่บาปทั้งหมดแก่ผู้ที่เคยทำผิดไป”
“หมายความว่าไงกัน ประโยคนี้”
“ช่างมันเถอะครับ รีบหาคุณเซโตะ เถอะครับ” เสียงของซาอิ ดูกระวนกระวาย
“แบ่งเป็น 2 กลุ่ม นะครับ หรือจะไปพร้อมกัน”
“หมายความว่าไง จุน”
“ก็มันมีทางแยก 2 ทางนี่ครับ” พูดจบ ทาคามิ จุน ก็ชี้ให้พ่อเห็น
“งั้น ก็เอาทางที่มือชี้ก่อนเถอะครับ เพราะทางมันสั้นกว่า”
“ทำไมถึงรู้ล่ะ เค็นจิ”
“เอ่อ รุ่นพี่ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นครับ คือวันนี้ผมกับ ซาอิ ลองมาดูแล้วครับ”
“งั้นรีบเถอะ”
“หนูขอรอตรงนี้ได้มั๊ยคะ”
“ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวเจออะไรร้าย ๆ อีก” ซาอิ พูดจบก็เดินไปตามทางแยกพร้อมกับคนอื่น ๆ
ซา อิ ลองเอามือผลักประตู คราวนี้มันเปิดออกอย่างง่ายดาย ภายในห้องกลิ่นเหม็นสาบรุนแรงโชยออกมา ซาอิ เอามือปิดจมูกแล้วก็เอามืออีกข้างคลำหาสวิทซ์ไฟ ขณะที่หาอยู่แสงไฟก็สว่างขึ้น ซาอิมองไปข้าง ๆ เห็น ทาคามิ จุน เป็นผู้เปิดไฟ
ห้องนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์ผ่าตัดจำนวนมาก มีเครื่องมือหลายชิ้นที่ไม่เหมือนกับอุปกรณ์ผ่าตัดเลย ที่มุมห้องมีโต๊ะอยู่ และสิ่งที่ทุกคนเห็นคือ ศพของโอนิวะ เซโตะ ที่พิงกับเก้าอี้ แขนทั้ง 2 ข้างห้อยลงมาข้างๆ
หน้าแหงนขึ้น ตาเปิดไม่มาก ปากอ้านิดหน่อยมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากด้านขวา ที่ตัวมีมีดปักทะลุหัวใจ


บทที่ 21
ร่างอันไร้วิญญาณของโอนิวะ เซโตะ ถูกพบเมื่อเวลา 23.15 นาฬิกา
“ฆ่าตัวตายงั้นรึ”
ซาอิ เค็นจิ มองไปทางทาคามิ จุน ที่เอามือล้วงกระเป๋าอยู่
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับ”
“ก็ดูที่มือข้างขวาของคุณเซโตะ ซิ”
ซาอิ มองตามที่ ทาคามิ จุน พูด มือของโอนิวะ เซโตะ ข้างขวามือที่บริเวณสันมือมีเลือดติดอยู่อย่างเห็นได้ชัด
“คงจะกำมือแล้วก็เขียนตัวหนังสือบนกำแพงนั่น แล้วก็ค่อยมาฆ่าตัวตายล่ะมั้ง”
“ถ้างั้น จุน ลูกอย่าบอกน่ะว่า”
“ครับ อย่างที่พ่อคิดนั่นแหละ ฆาตกรฆ่าตัวตายไปแล้วก็จบ”
“เป็นอะไรหรือซาอิ ทำหน้าตาเหมือนกับมีอะไรสงสัย”
“ไม่มีครับ เอ่อ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับ ให้มิวะจัง รออยู่ข้างนอกคนเดียวไม่ดี”
“จริงด้วย”
ทุกคนพากันเดินออกมา ส่วนซาอิ และเค็นจิ ก็นำศพของโอนิวะ เซโตะ ออกมาทีหลัง
“ทุกคนลงไปก่อนนะครับ แล้วผมจะตามลงไป”
“อืมได้เลย” ทาคามิ จุน พูดพร้อมกับเดินลงไปพร้อมกับไอโกะ มิวะ และทาคามิ วาชิโร่ผู้เป็นพ่อ
ซาอิ สังเกตจนเห็นว่าทั้ง 3 ลงไปแล้วจึงพูดกับเค็นจิ
“ชัดเจนเลย”
“อะไรเหรอ”
“คุณเซโตะ ถูกฆาตกรรม”
“ซาอิ นายก็คิดงั้นเหมือนกันเหรอเนี่ย”
“ใช่ แล้วนายรู้ได้ไงว่าโดนฆาตกรรม”
“มีด ไง”
“มีด ?”
“เวลา ที่คนฆ่าตัวตายแบบนี้น่ะ เมื่อแทงมีดทะลุหัวใจตัวเองแล้ว จะตายแทบในทันที มือจะไม่ห้อยลงมาข้างตัวแบบนี้ และอีกอย่างนึง เวลาที่จะแทงตัวเองน่ะ มีดต้องแหลมมาก ๆ เลย ถึงจะทะลุหัวใจได้”
“คือ ชั้นไม่เข้าใจประเด็นที่ 2 น่ะ”
“คือ เวลาจะแทงใส่ตัวเอง แขนทั้ง 2 จะเหยียดตรงใช่มั๊ยล่ะ”
“อ๋อ.. นั่นก็คือแรงจากความยาวแขนไม่ถึงเมตร คงจะไม่ทะลุถึงหัวใจหรอก”
“สมเป็นนายน่ะ ซาอิ เข้าใจอะไรได้เร็วดี”
“แสดงว่า สิ่งที่ยืนยันว่าคุณเซโตะ ถูกฆาตกรรมก็มี 3 อย่างสิ”
“ทำไมถึง 3 อย่างล่ะ”
“ก็มีที่ชั้นคิดไว้อีกหนึ่ง”
“ยังมีอีกเหรอ”
“เลือด ที่มือไง มันมากเกินไป เพราะถ้าเขียนเสร็จแล้วมันน่าจะแห้งกว่านี้ แล้วก็ถ้าคุณเซโตะ เขียนไว้จริง แล้วจะเอาเลือดจากไหนล่ะ”
“ฆาตกรยังคงอยู่สินะ”
ซา อิ ยิ้มให้แล้วก็ช่วยนำศพของโอนิวะ เซโตะ เข้าไปที่ห้อง แล้วเดินลงมาข้างล่าง พร้อมกับเค็นจิ ที่ห้องโถง ทาคามิ วาชิโร่ นั่งจิบกาแฟอยู่ ส่วนทาคามิ จุน ก็นั่งคุยกับไอโกะ มิวะ
“ทุกคนครับ ผมมีอะไรจะพูดเล็กน้อยนะครับ”
“อะไรเหรอ โอโทโมะคุง”
“ครับ ผมขอพูดเลยนะครับ” ซาอิ ไอเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้น
“คุณเซโตะ ถูกฆาตกรรม ครับ”
“ว่าอะไรนะ” ทาคามิ จุน ตะโกนออกมา
“คุณเซโตะ ถูกฆาตกรรม ชัดเจนมั๊ยครับ”
“ซาอิ เรื่องนี้นายเอาอะไรมายืนยัน”
“อันนี้ ผมขอปิดไว้ก่อนนะครับ”
“ทำไมต้องปิดด้วยล่ะ ซาอิ”
“มิวะ จัง ไม่ต้องอยากรู้ขนาดนั้น เพราะเมื่อถึงเวลาทุกคนก็รู้เอง” เค็นจิกล่าวออกมา เมื่อเห็นทุกคนนั่งเงียบก็พูดต่อ
“ขอโทษทุกคนยกเว้นซาอิ อยู่ที่ห้องโถงนี้ด้วยนะครับ”
“หา ทำไม”
“ดูรุ่นพี่ร้อนรนชอบกล ๆ นะครับ”
“เปล่านี่ ชั้นก็แค่ตกใจว่าการสันนิษฐานของชั้นไม่น่าผิดพลาด”
เค็นจิมองดูนาฬิกา จากนั้นก็พยักหน้าให้ซาอิ
“เอาล่ะครับ เหตุผลไว้ก่อนนะครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ผมอยากให้ทุกคนอยู่ที่นี่นะครับ ส่วนซาอิ จะไปหาอะไรบางอย่าง”
“หาอะไร ซาอิ”
ซาอิ มองหน้าทาคามิ จุน แล้วก็เดินตรงไปหยิบไฟฉาย แล้วก็เดินจากไป....
แสงของดวงอาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้า ลมหนาวพัดโชยเข้ามา
“เค็นจิ กี่โมงแล้ว” ไอโกะ มิวะ ถามออกมา พร้อมกับเอมือมาถูกัน เพราะความหนาว
“อีก 10 นาทีก็ 6 โมงแล้ว”
“ซาอิคุง ไปนานจัง”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ว่าแต่คุณวาชิโร่ ไม่ง่วงนอนเหรอครับ”
“เมื่อวานก็นอนเต็มที่แล้ว”
“นั่นไง ซาอิ มาแล้วค่ะ”
“ไง นายเจออะไรมั๊ย”
“ไม่เลย”
“หมายความว่าไง ซาอิคุง”
“หาหลักฐานไม่ได้เลยครับ”
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ
“เห็นมั๊ยล่ะ ชั้นบอกแล้วว่าฆาตกรฆ่าตัวตายไปแล้ว นายจะหาอะไรเจอ จริงมั๊ย”
“นั่นสินะ ครับ”
“เอ่อ คุณวาชิโร่ ครับ”
“มีอะไรเหรอ ซาอิคุง”
“เรือจะมารับพวกเรากี่โมงครับ”
“ก็ประมาณช่วงบ่าย ๆ น่ะ”
“ยังมีอาหารเหลือมั๊ยครับ”
“ก็พอมี”
“งั้น ผมว่า เรามากินอาหารเช้ากันดีกว่านะครับ เรื่องร้าย ๆ ก็จบไปแล้ว”
“จริง อย่างที่ซาอิ พูดนะครับพ่อ”
“งั้น ก็ช่วย ๆ กันทำล่ะกัน”
ทุกคนช่วยกันทำอาหารอย่างสนุกสนาน.....
หลัง จากกินอาหารกันเสร็จ ทุกคนแยกย้ายกันไป ทาคามิ จุน ถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ซาอิ ก็พูดขึ้นกับเค็นจิ และไอโกะ มิวะ ส่วนทาคามิ วาชิโร่ ก็เก็บเครื่องมือเครื่องใช้ จนเวลาประมาณ 11 โมง
“ทุกคนไปเก็บสัมภาระของตัวเองได้แล้วนะ แล้วเที่ยงตรงมาเจอกันที่นี่เข้าใจมั๊ย”
“พ่อครับ แล้วสัมภาระของพวกคุณเซโตะ ล่ะครับ”
“จริงด้วยซิ”
“ผม ว่า สัมภาระของพวกเขาเอาไปบางส่วนดีกว่านะครับ แล้วก็ฝังศพให้พวกเขาด้วย ถ้าทางรัฐบาลมาเจอเรื่องจะไปกันใหญ่” ทาคามิ จุน เสริม
“เรื่องนั้นไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ไปเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนดีกว่า”
“นั่นสินะ”
ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปเก็บของตามห้องตัวเอง
“ได้เวลาแล้ว” ซาอิ พูดกับตัวเองเบา ๆ


Create Date : 02 ตุลาคม 2552
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 20:24:55 น. 0 comments
Counter : 142 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

neovalics
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add neovalics's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.