|
The Force of Gravity of Love
ผมเคยมาคิดเอาเองเล่นๆบ่อยๆเกี่ยวกับแฟนผมว่า ระหว่างสองเรานั้นมีพลังแห่งแรงดึงดูดบางอย่างที่มองไม่เห็น มาคอยขับเคลื่อนชีวิตคู่ของเราอยู่ มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่ผมคิดไปเองเล่นๆก็ได้ความจริงแล้วไม่อะไร แต่ยังไงซะเมื่อผมคิดขึ้นมามันทำไห้ผมอดที่จะรู้สึกยิ้มในใจไม่ได้ ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับความรักของเราที่ไม่มีใครเหมือน และก็ไม่มีใครเข้าใจด้วย
แรงดึงดูดดังกล่าวนั้นบางครั้งมันอาจจะมาในรูปแบบของความ บังเอิญ หรือสำหรับบางคนมันอาจเป็น ปาฏิหาริย์ แต่สำหรับผมแล้ว...จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ...ผมเรียกว่า เรื่องมหัศจรรย์ ดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณก่อนเริ่มที่จะเข้าหน้าฝนปีที่แล้วผมรู้มานานแล้วล่ะว่าเธอชอบร่มที่เป็นแบบใสๆ ผมก็เลยคิดเอาไว้ว่าเข้าหน้าฝนเมื่อไรผมจะซื้อให้เธอรับรองว่าเธอต้องชอบแน่ๆ พอเข้าหน้าฝนผมก็ไปหาซื้อให้เธอจนได้... แน่นอนเธอดีใจมากๆ ไอ้ผมก็เห็นเธอดีใจผมก็มีความสุขไปด้วย...แต่แล้ว
วันหนึ่งเธอลืมมันไว้บนรถเมล์หรืออะไรซักอย่างน่ะแหละ มันหายไป...ส่วนผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไม่เคยคิดที่จะไปโกรธเธอซะด้วยซ้ำเพระผมคิดว่ามันไม่ใช่ความผิดใครเลย ใครๆมันก็ลืมกันได้ (อย่างผมเนี่ยประจำเลย) แล้วไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก...เธอรู้สึกผิด ผมก็ไม่อยากให้เธอคิดแบบนั้นเราจึงไปหาอันใหม่ด้วยกัน ปรากฏว่า มันขาดตลาดไปแล้วหาซื้อยากมาก
ผมก็ไม่รู้จะทำไง พอดีว่าปกติแล้วผมอ่านนิตยสาร bioscope อยู่จำไม่ได้แล้วว่าเล่มอะไร แล้วนิตยสารนั้นมันดันมีเกมให้เล่นชิงรางวัลซึ่งปกติแล้วผมไม่ค่อยจะเล่นนักหรอกเพราะคิดว่าโอกาสได้มันคงยากมากๆรางวัลก็น้อยต้องไปจับฉลากหาผู้โชคดีอีกยุ่งยาก แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนก่อนคือเมื่อผมได้เห็นของรางวัลที่จะได้รับแล้วมันกลับทำให้ผมยอมเสียเวลาซักนิดหน่อยลองเสี่ยงดูเพราะของรางวัลนี่มันคือ ร่มใส แถมเป็นอย่างดีซะด้วย...
ก็อย่างที่ทุกคนพอจะเดาได้จากการเกริ่นของผมแหละ ว่าผมได้มันมา...
แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกว่าจะได้ก็แค่เห็นว่ามันมีโอกาสก็ส่งๆไปโดยผมส่งไป 2 ชื่อซึ่งก็คือชื่อผมเองกับอีกชื่อนึงก็แฟนผมน่ะแหละเผื่อว่าโอกาสได้มันจะมีมากขึ้นหน่อย ต้องใช้เวลารอกว่าจะรู้ผลเพราะว่ามันจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในอีกเล่มถัดไปของถัดไป ( bioscope ออกเดือนละเล่ม)เอาเป็นว่าผมรอจนเกือบจะลืมเลยแหละส่วนแฟนผมก็หาซื้ออันใหม่มาได้แล้วด้วย...แต่แล้วจนเมื่อผมซื้อเล่มที่มีประกาศจับรางวัลมาผมกลับไม่มีความกระตือรือร้นที่จะไปดูหน้าที่ประกาศรางวัลซะด้วยซ้ำเพราะลืมไปแล้ว แต่เมื่ออ่านไปเปิดไป ซักพักก็นึกได้ว่ามันประกาศผลเล่มนี้นี่หว่า แล้วจึงลองไล่รายชื่อดู..เออ เรียกว่าไม่ต้องไล่เลยดีกว่าเพราะชื่อแฟนผมปรากฏเป็นชื่อแรกเลยที่ได้รางวัลนี้
เท่านั้นแหละผมเงี้ยโครตดีใจเลยรีบโทรบอกเธอ ซึ่งเธอก็ดีใจเมือนกันแต่ผมว่าผมดีใจมากกว่าเธอนะ แล้วผมก็เลยคิดขึ้นมาเลยถึงว่า มันต้องเป็นพลังแห่งแรงดึงดูดระหว่างเราแน่ๆระหว่างเรามันมีอะไรที่มองไม่เห็นดึงดูดอยู่ทำให้เกิดเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ขึ้นแน่
ถึงแม้ว่ามันดูจะเป็นเรื่องเล็กๆก็เถอะเป็นแค่จุดเล็กๆจุดนึงในช่วงชีวิตชีวิตนึงเดี๋ยวก็ลืม แต่ผมว่าบางครั้งไอ้เรื่องเล็กๆแบบนี้แหละมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับผมแล้วมันก็แค่นี้เอง...คนส่วนใหญ่อาจเคยคิดว่าเรื่องมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์หรืออะไรก็แล้วแต่ มักจะต้องเป็นเรื่องใหญ่โตและมักจะเกี่ยวกับการได้เงินทองจำนวนมากถึงเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ แต่สำหรับผมแล้วเรื่องนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ผมไม่ได้อะไรเลยทางวัตถุ(ร่มที่ได้มาผมก็ให้เธอไป) แต่สิ่งที่ผมได้นั้นมันคือดวามรู้สึกรับรู้ถึงพลังแห่งแรงดึงดูดระหว่างเราต่างหากว่ามันมีอยู่จริงไม่ใช่ว่าอยู่แต่ในความคิดผมเพียงอย่างเดียว....
Create Date : 07 กรกฎาคม 2548 |
|
2 comments |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2548 17:47:40 น. |
Counter : 739 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: May the force be with you... (Le Petit Panx ) 7 กรกฎาคม 2548 19:21:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอร์ IP: 202.57.138.43 30 ตุลาคม 2548 23:23:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Everyone should have a reason to believe.So I still believe that LIGHTNING could STRIKES TWICE for me Yeah Yeah Yeah !!
LIGHTNING STRIKES TWICE Saint Etienne
|
|
|
|
|
|
|
รักแฟนก็มากๆ ก็ดี แต่อย่าลืมว่าเรายังมีพ่อแม่พี่น้องอยู่ด้วยนะจ้ะ
เรื่องนี้เคยฟังแล้ว แต่ก็รู้สึกดีด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกะแฟน เราจะเรียกว่าเป็นความโชคดีที่เหมาะเจาะ ไม่ถึงกะมหัศจรรย์มาก อิๆๆ
เข้าใจความรุ้สึกผิดของคนที่ทำของที่คนรักให้หายไปเหมือนกัน อ่านแล้วทำให้นึกถึงสมัยก่อน ตอนที่เรายังมีแฟนอยู่
แฟนเราซื้อผ้าคลุมโต้ะเขียนแบบให้ แต่ที่พิเศษคือ ปักชื่อให้เราด้วย ทำให้ผ้าธรรมดา กลายเป็นงานชิ้นเดียวในโลก เราก็รู้สึกดี แล้วก็เอาไปคลุมโต๊ะใช้อยู่ที่มหาลัย วันปิดเทอม เราลืมเก็บกลับบ้าน แล้วพอมาหาอีกที ก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว พอหายไปนั่นแล่ะ ทำให้เรารู้สึกผิดโคดๆๆๆ
เนี่ยซึ้งเลย ........... กว่าจะซึ้งก็สายเกิน ง่ะ
ที่สำคัญมันหายไปแล้วไม่กลับมาด้วยอะดิ เซ็งชะมัด