ตอนที่ 6 : นั่งรถไฟยาว ๆ ข้ามไปเมือง Freiburg im Breisgau ในเขต Black Forrest

Day 6 : Monday 11 April 2011 เดินทางสู่ Freiburg im Breisgau


วันนี้เช้าวันจันทร์ ได้เห็นชาวเยอรมัน เร่งรีบเดินทางไปทำงาน



เราใช้ German Pass เพราะวันนี้เราต้องนั่งรถไฟแบบ ICE – InterCity-Express และต้องไปต่อ IC – InterCity อีกขบวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม กว่า


ICE จะเป็นรถไฟที่วิ่งเร็วสุด นาน ๆ จอดที่ เอาไว้วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ ที่นั่งจะสบายกว่า แบบ RE,RB (Regional ต่าง ๆ ที่จอดบ่อย) แถมยังมีส่วนที่เป็น ห้องอาหาร อีกด้วย



รอที่ ชานชาลา



ได้ขึ้นมาละ เราสามารถจองหรือไม่ต้องจองที่นั่งก็ได้ ตรงไหนว่างก็นั่งเลย แต่ถ้าเกิดเรานั่งตรงตำแหน่งที่มีผู้โดยสารจองไว้ เราต้องลุกให้เค้านั่งนะคะ


นั่งเรื่อย ๆ มาถึงสถานี ที่เราต้องลง เพื่อเปลี่ยนขบวน ปรากฎว่า รถไฟคันนี้มาถึงเลท ทำให้ตกขบวนรถไฟสายถัดไป พอพูดถึงเรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่า รถไฟเยอรมันที่เราเจอ เลททุกขบวน ไม่ตรงเวลาเป๊ะ เหมือนในสวิส ทำให้ที่คาดไว้ว่าใช้เวลา 4 ชม. กว่า กลายเป็น 5 ชม. กว่า



เดินแกร่วอยู่ในสถานทีรถไฟ


ต้องรอประมาณ 1 ชม. เห็นจะได้ เลยไปนั่งเล่นร้านกาแฟ




พอได้เวลา ก็เดินไปรอที่ชานชาลา



ได้ขึ้นละ เบาะใหญ่ นั่งสบาย ฮ่า ๆๆ คนนั้นเค้าแอบมองเราถ่ายรูป


ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทาง เราพักที่ Hotel Minerva 2 คืน //www.minerva-freiburg.de/




เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปเดินเล่นในเมืองกัน เดินไปไม่ไกล ก็ถึงย่านช้อปปิ้ง เห็นเด็กนักศึกษามากมาย เพราะเมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องมหาวิทยาลัย


ไม่ค่อยดูแผนที่เท่าไหร่ เดินไปมั่ว ๆ ไกด์บุ๊คก็ไม่ใช้ ตรงไหนสวยหรือชอบก็ถ่ายรูปเก็บไว้


เราชอบถ่ายรูปอาคารบ้านเรือนของผู้คน แนว ๆ นี้แหล่ะ



ไปถึงอากาศกำลังเย็นสบาย เลยเก็บแจคเก็ตใส่เป้ไว้ก่อน





ดอกไม้ สีสดใส



เดินทะลุตรอกซอกซอยไปเรื่อย









สวยดี แปะต้นไม้ไว้ที่กำแพงบ้าน




เดินไปเดินมา ชักขี้เกียจเดิน เลยกระโดดขึ้นรถรางเล่น มีอยู่ไม่กี่สาย นั่งไปสุดสาย ๆ นึง นั่งกลับมา แล้วก็ลองขึ้นสายใหม่ ชมเมืองรอบ ๆ




รถรางที่นี่ คันจิ๋วมาก ขนาดเหมาะสมกับเมืองดี


พอใกล้ได้เวลาอาหารเย็น ก็เริ่มตามหาร้านอาหารวิวดี ๆ



เจอโบสถ์นี้ ชื่อว่า Freiburg Minster รอบ ๆ โบสถ์เป็นวงเวียน มีร้านอาหาร คาเฟ่ และ โรงแรม อยู่บริเวณนี้




เลือกร้านจนถูกใจ ได้สั่งอาหารทันที วันนี้เลือกแบบเป็นเซ็ตเมนู มี ซุป จานหลัก แล้วก็ ของหวาน และ สั่งไวน์ต่างหาก ไวน์ที่นี่ ขายเป็นขวด และ เป็นแก้ว ซึ่งแจ้งปริมาตรไว้ว่า แก้วละ กี่ ซี.ซี. เราเลือกแบบ 25 cc.





ซุปมาแล้วจ้า จำรสชาติไม่ได้แล้วอ่ะ  แต่จำ moment นั้นได้ ฮ่า ๆ



ของคุณสามี



อันนี้ของเรา



อันนี้ Mineral Water แบบ Classic คือ เป็นแบบอัดแก๊ส อยู่ที่นี่ กินน้ำแบบอัดแก๊สตลอด เข้าเมืองตาหลิ่วแล้วนี่นาาาาา



แก้วไวน์ พิมพ์ชื่อร้านเอาไว้



ตบท้ายด้วยของหวาน


กินเสร็จ ฟ้าเริ่มมืด



อากาศเริ่มเย็นขึ้น นั่งต่อซักพัก ก็เดินกลับโรงแรม เดินไกลเหมือนกัน ถ้าคนไม่ชอบเดิน ก็สามารถขึ้นรถราง แต่เราเดินกัน สบาย ๆ ชมเมืองไปด้วย






ถึงโรงแรม หลับสบาย เจอกันใหม่ตอนหน้านะจ๊ะ






Free TextEditor



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 17:27:55 น.
Counter : 2564 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezzie
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เอาไว้เก็บความทรงจำดี ๆ
กุมภาพันธ์ 2555

 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
4 กุมภาพันธ์ 2555
All Blog