รีวิวท่องเที่ยว "มาเลเซีย" .... เรื่องเล่าเม้าท์ๆให้เหมือนเราไปด้วยกัน Day1 #2 หลังจากเติมพลังกันแล้ว เราก็ออกเดินค่ะ เริ่มเลย วันนี้ เรามุ่งหน้าจะไปมัสยิดด้านซ้าย อ้างอิงจากรูปด้านบน ที่เราได้บอกไว้แล้วก่อนหน้า ว่าเราจะไป พวกเราก็เริ่มออกเดินกันเลยจ้า เราเดินข้ามถนนออกมาฝั่งตรงข้ามตลาดก็คือ สถานี Pasar Seni เพื่อจะข้ามถนนค่ะ เดินขึ้นด้านบน จะมีสะพานลอยเชื่อม
เดินไปเรื่อยๆ เริ่มมองไม่เห็นด้านบน คราวนี้ ป้าแก่ 2 นางก็เริ่มเกิดอาการ งง และ ไมมั่นใจ ว่าจะไปต่อหรือกลับหลังดี เพราะเราใบ้มาก ไม่มีแผนการอะไรเลย เอาตรงๆ คือ แผนที่ที่ได้มา ดูกันกี่ทีก็ยัง งงๆ อ่ะค่ะ ว่าจะไปยังไง ยังไม่รู้ทิศรู้ทาง ก็เลยคิดไปว่า ถอยหลังกลับกันดีไม๊ โดยเพื่อนสาวเป็นผู้เสนอ idea ว่า เราไม่ควรไปต่อ เพราะไม่มีจุดหมายที่ชัดเจน แต่จุดหมายที่ชัดเจนของเรา คือ สถานี KLCC อันนี้เรารู้กันแล้วว่าไป ตึกแฝดต้องลงสถานีนี้และง่ายด้วย ก็ขึ้นรถจากบ้านเรานั้นแหละ ไม่กี่สถานีเอง เอาว่ะ !! วิว2ฝากถนนที่เราเดินผ่าน เก็บบรรยากาศมาฝาก เห็นฟ้าเป็นฟ้าแบนี้ พอจะนึกออกใช่ป่าวคะ ว่าแดดมันจะร้อนขนาดไหน มันแบบว่า ร้อนแสบผิวค่ะ แล้วนี่ดันเปลี่ยนกางเกงยีนส์ออกแระ มานุ่งสั้นแทน เป็นไงล่ะ ร้อนสาดดดดดผิวแสบบบบบ กันเลยทีเดียว หุหุ พวกเราเดินย้อนกลับ ไปถึงแค่ทางรถไฟเก่า ไม่ได้ไปต่อ เพราะอย่างที่บอกว่า "เราไม่ชัวร์" "กลัว" และ"ไม่มั่นใจ" กลับมาที่สถานีขึ้นรถมุ่งหน้าไปสถานี KLCC แต่ระหว่างที่ขึ้นไป เราเห็นป้าย Masjid Jamek คุ้นๆ ว่าเห็นในแผนที่กางดู .... อ่าว สถานที่แนะนำซะด้วย แวะก่อนไม๊ มองหน้ากันปุ๊บ "เครคร๊าคุณเพื่อน.. ป่ะ ลงก่อนป้ายเดียว จัดไป" บรรยากาศบนรถ ดูแล้วเป็นไงบ้างคะ อิอิ นี่จ่ะ มาถึงแล้ว มัสยิด จาเมก เรื่องเริ่มเกิดจากตรงนี้จ่ะ ทางออกจะมีหลายฝั่ง ขอเรียกว่า ด้านหน้าถนน กับด้านข้าง เราก็ด๊านน ดันเผลอออกด้านข้าง เลยไม่เห็นมัสยิด ซึ่งจริงๆ คือมันอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม ข้ามถนนไปก็เจอ แต่.... พวกเราเดินออกจากถนนด้านข้าง เรียบตึกไป ถึง สี่แยก แล้วก็เลี้ยวขวา แล้วก็ตรงไป แล้วก็เลี้ยวขวาอีกที ( นั่นจากที่ถามทางมา ได้ความว่ามัสยิดต้องไปทางนั้น อ่าว นี่ฉันเดินเป็นวงกลมอีกแล้วหราฟร่ะ ห่านเอ๊ย !!! ) เนี๊ยะ !!! เดิน เดิน เดิน อ้อมไปทั่วเลย
ฟินที่ 1 ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้จะอ้อมมากก็ตาม ตอนนี้ไปสถานีต่อไปดีกว่าจ่ะ KLCC go to Petronas Twin Towers ... Let's Go >>> นั่งรถมาไม่กี่สถานีค่ะ เราก็มาถึงห้าง Suria ออกประตูตามชาวบ้านเค้ามาเลยค่ะ เดินยาวๆ แต่ออกประตูไหนก็ได้ เพราะว่า มีห้างให้เดินเล่นทั้ง 2 ฝั่งแล้วก็ข้ามถนนได้ง่าย สบายๆ เลย ถนน เล็กๆ เท่านั้นเอง เดินออกห้างมาก็เจอเลยค่ะ ตึกแฝดดดด Check Point ของที่นี่ ไม่งั้นเด๋วเค้าหาว่ามาไม่ถึงมาเลฯ
อีกภาพนะจ๊ะ ตอนนี้เวลาเหลือเฟือ เพลินๆ ยาวๆ เลยจ่ะ หลบร้อนมาเดินแอร์กันต่อ เดินวนไปวนมา หากาแฟกิน หาร้านโดนัทชื่อดังไม่เจออ่ะ จ๋อย จ๋อยกันไป เลยออกไปนั่งเล่นรอเวลาด้านนอกดีกว่า พวกเราคุยกันว่าจะอยู่รอดูไฟตอนกลางคืนเลยดีไม๊ แต่เพื่อนสาวอีกคน นางเหนื่อยและเพลียมาก หมดรูปอ่ะ เห็นสภาพแล้ว น่าสงสารเป็นที่สุด เลยคิดไม่ออกว่า เราควรจะทำอะไรดี กลับที่พัก หรือควรจะรอดีนะ ... คิด คิด คิด สุดท้ายก็ตัดสินใจว่ากลับที่พักดีกว่าค่ะ เพราะว่า ตอนนี้พวกเราเริ่มเพลีย เริ่มล้ากันจริงๆ แระ หมดสภาพ ในเป้มีน้ำมีมาม่าที่คาดว่าคืนนี้จะลอง และมีข้าวผัดกล่องเบ้อเริ่มที่ไม่ได้กินจากเมื่อตะกี้ เอากลับมา ไม่อยากจะคิดเลยว่า คืนนี้น้ำหนักจะขึ้นแค่ไหน อยากลองชิมผลไม้ แวะซื้อผลไม้ ด้านนอก 1.0 RM ด้านในถนนคนเดิน 1.3 RM แพงกว่านิดหน่อย แต่มันส์ เพราะเจ้ แกพูดไทยได้นิดหน่อย แซวกันเพลินเลย เราชี้ชิ้นที่เป็นชิน แกหยิบชิ้นที่หั่นให้เราแล้ว ก็เลยบอกแกไปว่า "No ...i want this " พร้อมเอามือชี้ๆ " 2 piece" ป้าแกก็รีบอบกเลยจ๊า คงได้ยินเราพูดกันภาษาไทยว่า เอาสับปะรด เอาแตงโมด้วยไม๊ อะไรเงี๊ยะค่ะ "เหมือนกัน หั่นกินง่าย อร่อย" ป้าแกก็รีบพูดเลย "ราดกะปิไม๊ " พร้อมหยิบขวด น้ำจิ้มตั้งๆ ตรงนัั้นน่ะ จะราด พวกเรารีบปฏิเสธ มองหน้ากัน งง นิดๆ ว่า ที่นี่เค้ากินสับปะรดกับ น้ำจิ้มกะปิหราวะ 55+ ปล. แตงโมที่นี่ บางเฉียบมาก พวกเราเลยตั้งฉายาว่า แตงโมกระดาษ เหตุที่แพง อาจเพราะที่นี่ ขายส่งแตงโมเป็นกิโล ไม่ได้ขายเป็นลูกจ่ะ ถ้าลูกใหญ่มาก ก็คงหนักและแพงมากเช่นกัน ไอ้น้ำดำๆ นี่ตอนแรก ไปส่องๆ จะซื้อ ไม่รู้เฉาก๊วยหรือน้ำขิง หรือน้ำอะไร ยังไม่ทันจะถึงหน้าร้านตรงๆ เพราะเราเดินต่อไปตอนรอซื้อผลไม้ แต่อยู่ดี เห็นกลุ่มทัวร์จีนกลุ่มนี้จ่ะ มาถึงปุ๊บ รุม เราซึ่งยืนอยู่ก่อน เลยจำต้องถอยฉากออกมาให้ทันที .. ใช่ซี๊ ฉันมันตัวคนเดียว พวกเธอมากันเป็นกลุ่ม ชิชะ ยอมก็ได้ย่ะ ... ก็ว่าไปนั่น ไอ้บร้าาาาาา
นี่ค่ะ ตอนดึก ๆ ตั้งของเรียบร้อย ทางเดินก็จะแคบมาก เวลาพวกเราเดินมองของซ้ายขวา ขนาดคุยกันเบาๆ เค้ายังได้ยิน และรู้ว่าเราเป็นคน ก็รีบทักทายเป็ฯภาษาไทย กันยกใหญ่ "สวัสดีพี่สาวคนสวย" "ของฝากไม๊" "กระเป๋า นาฬิกา ซื้อไม๊ เด๋วลดราคาให้" ก็จะมีคำพูดพวกนี้ค่ะ ดังตามตลอดๆ สายการเดินกลับ ผ่านไปในคืนแรกที่มาถึง เล่นเอาเหนื่อยและล้า เพลียโพดๆๆๆๆ คืนนี้ขอจบไว้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ผากผนวก บทที่ 1 : ป้าแก่ 2 นางนี้ สายตาไม่ดีทั้งคู่ ดังนั้นสังเกตุจากรูปถ่ายว่าจะเอียงๆ ไม่ตรง อาจจะมึนงงกันเล็กน้อยได้ และรูปมาจากกล้องมือถือ และกล้อง Canon บางส่วน ซึ่ง ถ่ายไม่เก่งมากๆ อาจจะไม่ชัด ดูเบลอๆ โปรดให้อภัยด้วยค่ะ สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 1 นะคะ ค่ารถบัส 10*2 =20 มัดจำห้องพัก =100 ขนม putu =3 7-11 =9.6 Food =17.8 ค่ารถ 5.2+3.2 =8.4 ขนม =2.5 กาแฟ =9 ช็อปปิ้ง =15 Total =185.3 RM *** จบตอนแล้วจ้า *** เห็นเดินแล้วเหนื่อยแทนเลยจริงๆค่ะ
โดย: noo_jar
![]() |
ดญ_คณิตกร
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() คนเก่ากับชื่อใหม่แต่ติดใจBloggangเหมือนเดิม ให้อภัยนู๋ด้วยนะคะ เพราะใจรักจริงๆอ่ะ ยิ่งกับพันทิพย์นี้ ต้องเสพทุกวัน ^^ เรามาช่วยเพิ่มสีเขียว ลดโลกร้อนกันเถอะ^^ *************************** ชอบท่องเที่ยว ขอบเทคโนโลยี แต่ก็อยากสวยไปด้วย ก็ผู้หญิงนี่นา อย่าหยุดสวย ตอนนี้ Blog มันเน่า กำลังโมฯใหม่จ๊า เดี๋ยวจะสวยแล้ว ใจเย็นๆ กันน๊าท่านผู้ชม ![]() Create your badge All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |