Bloggang.com : negima

Paul - "เอเลี่ยนสุดเกรียนพบมนุษย์เนิร์ดสุดมึน !"

“บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกที่จะเสี่ยง !”

Graeme กับ Clive คือ 2 หนุ่มเพื่อนซี้ที่หลงใหลในเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวอย่างหนักและความฝันของพวกเขาคือการได้ มาเยือนเทศกาลงาน Comic Con สักครั้งเพื่อมาพบปะผู้คนที่ชื่นชอบในเรื่องราวไซไฟเช่นเดียวกับพวกเขา โดยทั้งคู่ยังถือโอกาสนี้เช่ารถอาร์วีคันหนึ่งตะลุยไปยังสถานที่ต่างๆในอเมริกาที่มีเรื่องเล่าต่างๆนานามานับเกือบ 60 ปีถึงการค้นพบเอเลี่ยนบ้างหรือเป็นจุดตกของยานอวกาศบ้าง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อรถของพวกเขาปาดหน้ารถยนต์คันหนึ่งจนเสียหลักลงข้างทาง ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าเจ้าของรถคันนี้นั้นเป็นเอเลี่ยนตัวเป็นๆนามว่า Paul ที่กำลังหนีการตามล่าของรัฐบาลอยู่ ! งานนี้นอกจากจะช็อคสุดขีดแล้ว พวกเขายังต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเอเลี่ยนตัวนี้แตกต่างจากนิยายไซไฟที่พวกเขาจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง และระหว่างทางช่วยเพื่อนต่างดาวไปยังจุดที่ยานแม่จะมารับนั้น พวกเขาก็ได้ค้นพบบางอย่างร่วมกันท่ามกลางเหตุวุ่นวายต่างๆว่า ฮีโร่เกิดได้ทุกสถานะการณ์และมิตรภาพเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลา !

Simon Pegg กับเพื่อนซี้ Nick Frost คือ 2 นักแสดงที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าขึ้นจอพร้อมกันเรื่องไหน เรื่องนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และสำหรับผลงานเรื่องนี้ก็เช่นกัน แม้หนังจะไม่ได้มาแบบขึ้นหิ้งอย่าง Shaun of the Dead หรือแอกชั่นตรึงใจอย่าง Hot Fuzz แต่ “Paul” มาพร้อมองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจและให้ความรู้สึกชวนติดตามตลอดต้นจนจบเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ตัวละครเอกทั้ง 2 เพื่อนซี้เป็นพวกคลั่งเรื่องราวไซไฟที่ทำให้เรื่องราวสนุกมากขึ้นเมื่อทั้งสองพบกับเอเลี่ยนด้วยตัวเองว่าจะมีข้อถกเถียงอะไรกันบ้าง หรือแม้แต่การใส่บุคลิกของเอเลี่ยนในเรื่องให้เกรียนแตกสุดๆชนิดเถียงคำไม่ตกฟากที่ให้ความรู้สึกแปลกดีทีเดียว

ในส่วนของการดำเนินเรื่องหนังมีครบทุกองค์ประกอบครับ ทั้งแอกชั่นเล็กๆ,ดราม่ากำลังดี,เรื่องราวไซไฟชวนสงสัย และ ความฮาขนาดพอดีคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุกตลกที่มาจากบทสนทนาต่างๆของเหล่าตัวละครเอกในเรื่อง และการที่หนังมีตัวละครหญิงอย่าง Ruth หญิงสาวจากครอบครัวคลั่งศาสนาที่ตกกระไดพลอยโจนต้องมาร่วมเดินทางกับทริปส่งเอเลี่ยนกลับยานแม่ครั้งนี้ ที่ถือเป็นสีสันที่ทำให้เกิดมุกตลกดีๆและเนื้อหาที่หลากหลายขึ้นไปอีก (อาทิ มุกลายบทเสื้อของRuth ที่เป็นภาพพระเยซูถือปืนยิงใส่ชาร์ล ดาร์วิน นี่ฮาแตกจริงๆ)

ด้านความเป็นดราม่าหนังนำเสนอได้อย่างน่าพอใจผ่านเหตุการณ์ระหว่าง Paul กับ Tara หญิงสาวมนุษย์คนแรกที่ช่วยชีวิตเขาออกมาระหว่างที่ยานของเขาตกลงบนโลก ซึ่งหลังจากรัฐบาลนำเอเลี่ยนตนนี้ไปกักบริเวณไว้ในพื้นที่ลับสุดยอดแล้ว ชีวิตของ Tara นับตั้งแต่วันนั้นจนล่วงเลยผ่านมากว่า 60 ปีแทบจะพังทลายลงไป เพียงเพราะไม่มีใครที่เชื่อเรื่องที่เธอเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเลย แต่เมื่อ Paul มาหาเธอครั้งสุดท้ายก่อนจะกลับไปยังดาวของตน เพื่อขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำไว้กับเธอ ซึ่งประโยคที่ตัวละคร Tara ตอบกลับไปนั้นแม้จะสั้นๆ แต่สะกิดหัวใจเอเลี่ยนและผู้ชมไปพร้อมๆกันทีเดียวที่ว่า

'ไม่สำคัญที่เกิดอะไรขึ้น แต่ในวันนี้เธอมาที่นี่ และ เธอมีตัวตนจริงๆ ชั้นไม่ได้บ้าอย่างที่คนอื่นล้อมาตลอดชีวิต แค่นั้นก็พอแล้ว’

สำหรับนักแสดงเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เบาทีเดียวเพราะนอกจาก Simon Pegg และ Nick Frost แล้ว หนังยังได้สาวฮา Kristen Wiig มารับบทสาวคลั่งศาสนาสุดเปิ่นอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้เธอดูสวยและฮาดีครับ รวมไปถึงรายของ Jason Bateman ในบทเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ตามล่าเอเลี่ยนอย่างไม่ยอมลดละ โดยพี่แกเน้นมาดเข้มตลอดเรื่องดูแล้วก็ขรึมๆน่าเชื่อถือดี นอกจากนี้ตัวประกอบต่างๆก็ล้วนเกรดเอทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Bill Hader, Joe Lo Truglio, Jane Lynch และ Sigourney Weaver

โดยรวมแล้ว “Paul” เป็นหนังไซไฟ-คอมเมดี้ ที่Simon Pegg และ Nick Frost รวมถึงผู้กำกับ Greg Mottola จัดให้ผู้ชมแบบเต็มๆความบันเทิงครับ ที่สำคัญเมื่อชมจบแล้วคุณจะพบว่า บางช่วงเวลาของชีวิตคนเราก็ต้องเลือกที่จะเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อท้าทายสิ่งใด แต่เพื่อค้นพบบางหนทางที่ดีกว่าจนเราคาดไม่ถึงต่างหาก

คะแนน 7/10

Create Date : 26 กรกฎาคม 2554

0 comments

Last Update : 26 กรกฎาคม 2554 21:56:13 น.

Counter : 5513 Pageviews.