ผู้กำกับ “Chris Columbus” เป็นหนึ่งในบรรดาผู้กำกับที่คลุกคลี อยู่กับการทำหนังแนวเด็กๆ ผจญภัย ที่มีผลงานเด่นๆเยอะมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ ไม่ว่าจะเป็น Home Alone (1990), Mrs. Doubtfire (1993) และBicentennial Man (1999) เป็นต้น รวมไปถึงการนั่งเก้าอี้เป็น Producer ให้กับหนัง Night at the Museum ทั้ง 2 ภาคด้วย แต่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดก็คงจะไม่พ้นการคุมงานสร้างกำกับหนังพ่อมดที่ฮิตที่สุดในประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์ อย่าง Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) และ Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) ซึ่ง นั่นทำให้การที่ Percy Jackson & the Olympians : The Lightning Thief มาอยู่ภายใต้มือของ Chris จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง และ ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาดครับ เขาสามารถสร้างโลกของเทพเจ้าที่ร่วมสมัยและค่อนข้างน่าตื่นตาตื่นใจ เขายังคงรักษามาตรฐานการสร้างหนังให้ดูสนุกและเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวได้อย่างไม่มีตกหล่น การที่ Percy Jackson มีความเป็นแอกชั่นและแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะค่อนข้างโดดเด่นมีแนวทางของตนเองที่ชัดเจน จึงทำให้มีผู้ชมส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า Percy Jackson ฉบับภาพยนตร์ยังคงให้อารมณ์สดใส และดูเด็กไปหน่อย ทั้งที่ตัวหนังสามารถดึงเอาอารมณ์และฉากต่างๆให้ดุดันและอลังการกว่านี้ได้อีกก็ตาม แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า Percy Jackson ของ Chris นั้นกลมกล่อมและกำลังพอดีไม่ขาดและไม่เกินจนเกินไป
(มีหลายฉากในหนังที่ทำให้นึกไปถึงหนัง Harry Potter สองภาคแรก อาจจะด้วยการที่ลักษณะการนำเสนอการตัดต่อ มุมกล้องที่คล้ายกัน ยกตัวอย่างฉากการต่อสู้ระหว่าง เพอร์ซีย์ แจ็คสัน กับ มิโนทอร์ (Minotaur) ที่ทำให้นึกไปถึงฉากแฮร์รี่ พอตเตอร์ สู้กับโทรลล์ เพื่อช่วยเฮอร์ไมโอนี่ ในหนังพ่อมดน้อยภาคแรกในทันที เป็นต้น)
มองในด้านของการที่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนิยาย Percy Jackson ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ “ดี” เลยทีเดียวครับ เพราะเมื่อลองเอามันไปเทียบกับภาพยนตร์ที่หยิบเอานิยายมาขึ้นจอที่ไม่ใช่ซี่รี่ย์พ่อมดน้อยแล้วส่วนมากล้วนคว่ำไม่เป็นท่า อาทิ Eragon หนังการผจญภัยของนักรบคู่มังกรที่มาพร้อมกับสเปเชี่ยวเอฟเฟคส์ระดับเกรดบีที่หลอกตาอย่างสุดๆ, The Golden Compass หนังกำเนิดเข็มทิศทองคำที่แม้ได้ดารารุ่นใหญ่มาร่วมแสดงอย่างล้นหลาม แต่ก็ไม่ช่วยให้หนังดูดีขึ้นแต่อย่างไร ทั้งการเดินเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย และ โปรดักชั่น ต่างๆในหนังดูไม่สมราคาที่ทุ่มทุนลงไปเลยสักนิด , Inkheart หนังหัวใจน้ำหมึกที่ถ้าไม่ใช่ว่าสร้างมาจากนิยาย ก็แทบจะไม่มีอะไรน่าจดจำเลย หรือ เมื่อลองเอามาเทียบกับ The Chronicles of Narnia ที่ดูจะดีกว่า 3 เรื่องแรกที่กล่าวไปตรงที่หนังภาคแรกค่อนข้างประสบความสำเร็จ และ มีภาคต่อออกมาอีก 1 ภาค (ซึ่งภาค 3 กำลังจะเข็นตามมาหลังมีปัญหาเรื่องความเสี่ยงในการสร้างเพราะกลัวจะได้ไม่คุ้มเสียมานาน) เมื่อนำมาเทียบกับ Percy Jackson แล้ว ด้านความลงตัว การเล่าเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ของ “ความบันเทิง” หนังพ่อหนุ่มกับสายฟ้าที่หายไป ดูเหมือนจะเหนือกว่าอยู่พอสมควรครับ (หนังมาพร้อมทุนสร้าง 95 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหนังจากนิยายเรื่องอื่นๆ)
โดยรวมแล้ว Percy Jackson & the Olympians : The Lightning Thief ถือเป็นหนังแฟนตาซีที่ดูสนุกและให้ความบังเทิงมากเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงภาพโลกในยุคไอทีที่ผสมเข้ากับโลกของนิยายกรีกโบราณได้อย่างกลมกลืนและน่าตื่นตาตื่นใจ และเชื่อเลยว่าชื่อ Percy Jackson จะเป็นชื่อที่คอหนังทั่วโลกรู้จักและตั้งตารอคอยให้มีภาคต่อๆไปเรื่องหนึ่งในอนาคตเป็นแน่ !