ข้อสอบ(อีกแล้วหรอ)
วันนี้ไปสอบเข้า ป.โท มา (ต้องกลับไปเรียนอีกครั้งแล้ว T^T)

เพื่อนๆบอกว่า "เฮ้ย ง่าย เป็นชอยส์ ไม่ต้องซีเรียส"

เจ้านายบอกว่า "ทำได้อยู่แล้ว ความรู้พื้นฐาน ทำงานอย่างเราทำได้อยู่แล้วแหละ เป็นชอยส์" (เจ้านายเคยสอบ)

กิ๊กบอกว่า "ออกตัคเจอร์นิดหน่อย คอนกรีตออกประมาณกำลังอัดสูงสุดในกี่วัน ไม่ยากหรอก เป็นชอยส์"



แปดโมงเช้า ก้าวขึ้นรถรางหน้าโรงกลางด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ถึงคณะ ทักทายเพื่อนๆด้วยกริยารื่นเริง ซื้อนมไทย-เดนมาร์คกิน เพราะได้ข่าวว่าจะเจ๊งแล้ว (ไม่เกี่ยว!)

เก้าโมง ขึ้นห้องสอบ ด้วยสีหน้าและแววตาเปี่ยมหวังและกำลังใจ ช่างเป็นเช้าที่สดใสเหลือเกิน



"ปิดมือถือด้วยนะคะ เขียนชื่อในกระดาษทุกใบ แล้วเริ่มทำข้อสอบได้เลยค่ะ"

สิ้นเสียงปุ๊บ เปิดกระดาษข้อสอบ และแล้ว....

เฮ้ยยยยย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!! มันไม่ใช่ชอยส์

เป็นข้อเขียน 5 ข้อ



1. เป็นรูปคาน มีจุดรองรับโคดเยอะ ทั้งฟิกซ์ทั้งโรลเลอร์ อาจารย์จัดเต็มมาก แรงใส่มาเพียบ กะไม่ให้ผุดให้เกิด

"จงหา Stiffness Matrix ของคานต่อเนื่องโดยใช้วิธี Matrix Structure Analysis"

ฮ้าาา!!! ใครจะไปจำได้ฟระ ตอนสอบก็เปิดหนังสือสอบ ให้เมตริกซ์มาก็จริงแต่เป็นเมตริกซ์ของเฟรม

ทำไมไม่ให้เมตริกซ์คานมาเนี่ย (ถ้าให้เมตริกซ์คานแล้วจะทำได้? - ไม่ได้อยู่ดี T^T)

ขอโทษค่ะอาจารย์นเรศ ที่อาจารย์อุตส่าห์สอนเมตริกซ์หนูมาแทบตาย ตอนนี้จำไม่ได้แล้วค่ะ เอวัง...



2. เป็นรูปคาน จัดเต็มเหมือนเดิม ใส่มาเลย ซับพอร์ตเยอะๆ แรงหลายๆแบบ ค่า I สองสแปนไม่เท่ากัน เอาเลย เอาให้สะใจ

"จงหาโมเมนต์ที่ปลายของคานต่อเนื่อง โดยใช้วิธี Moment Distribution"

เอิ่ม.... ปกติหาโมเมนต์โดยโปรแกรมไมโครฟีบและเอ็กเซลน่ะฮ่ะ

ไอ้โมเมนต์ดิสทริบิวชั่นเนี่ย ใช้ตอนสอบสตรัคเจอร์แล้วก็ยังไม่เคยได้ใช้อีกเลยจนผ่านมา 2 ปีแล้ว อาจารย์คิดว่าหนูจะจำได้หรอเนี่ย



3. "จงบอกสารประกอบทั้ง 4 ชนิดในปูนซีเมนต์ และบอกประโยชน์ของสารประกอบทั้ง 4 ชนิด"

เหยด!!!!!!!!!!!!! จำได้ก็บ้าละค้าบบบบบบบ

คำตอบ(ที่ไม่ได้ตอบไป) :
ไตรแคลเซียม ซิลิเกต C3S ทำให้ปูนซีเมนต์มีกำลังรับแรงได้เร็วภายใน 14 วัน

ไดแคลเซียม ซิลิเกต C2S ทำให้ปูนซีเมนต์มีกำลังรับแรงได้ช้า ความร้อนเกิดขึ้นบ่อย

ไตรแคลเซียม อะลูมิเนต C3A ทำให้ปูนซีเมนต์เกิดปฏิกิริยาเริ่มแข็งตัวเกิดความร้อนสูง มีกำลังรับแรงเร็ว

เตตตราแคลเซียม อะลูมิโน เฟอไรต์ C4AF มีผลน้อย ให้ความแข็งแรงเล็กน้อยเติมเข้าไปเพื่อลดความร้อนที่เกิดขึ้น

(เครดิต : อาจารย์กูเกิ้ล)



4. จงวาด Shear Force Diagram และ Bending Moment Diagram พร้อมทั้งบอกตำแหน่งที่เกิดโมเมนต์และเชียร์สูงสุด

XD เป็นข้อแรกที่ทำได้ ใจมาหนึ่งกอง



5. "จงบอกความแตกต่างของ Rigid Bodies และ Elastic Bodies"

What is this??? ทำไมต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es มาให้กรูงง

ตอนเรียนก็เป็น body ธรรมดา หรือถ้าเป็น bodies แล้วพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปหรือไม่ เติม es แล้วจะกลายเป็นช่องสองรึเปล่า

คนที่ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ "เลว" อย่างข้าพเจ้า แยกความแตกต่างระหว่าง body กับ bodies ไม่ออกจริงๆ

ก็ซุยไป ว่าริจิดก็คือวัตถุแข็งเกร็ง ส่วนอีลาสติกก็คือวัตถุยืดหยุ่น (เหมือนจะไม่ได้ตอบคำถาม แค่แปลเท่านั้นเอง 555)



ยอมรับสารภาพว่า เป็นข้อสอบที่ทำให้รู้สึกจนมุมมากที่สุดในชีวิต เกิดมาไม่เคยเจอข้อสอบที่ทำไม่ได้มากขนาดนี้มาก่อน

ข้อสอบ 5 ข้อ ทำได้ข้อเดียว



ผ่านไป 5 นาที ทำข้อ 4. เสร็จ กำลังคิดว่า จะนั่งต่อโดยไร้ประโยชน์ดี หรือจะโชว์เทพโดยออกจากห้องสอบเลยดี

เมื่อหันไปมองรอบข้าง ทุกคนกำลังตั้งใจทำ นนท์ที่นั่งโต๊ะข้างๆ เขียนเมตริกซ์ข้อ 1. ลงไปแล้ว

เลยคิดได้ว่า ถ้าเราออกจากห้องสอบตอนนี้ จะเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจ และสมาธิของผู้ร่วมสอบคนอื่นๆ

เพราะพวกเค้าเหล่านั้นจะคิดว่าเราทำได้ เลยออกจากห้องเร็ว

(จริงๆแล้วอาจจะไม่มีใครสนใจแก และทุกคนก็คิดว่าแกทำไม่ได้แน่ๆเลยออกเร็วขนาดนี้ก็ได้ นังปริม)

พยายามหันกลับไปทำข้อ 1. และคิดว่า นนท์ทำได้ เราก็(น่าจะ)ทำได้ ลืมคิดไปว่า อย่าเอานนท์เป็นมาตรฐาน

นนท์เป็นคนที่เหนือมาตรฐาน คนที่เสพย์ติดการเรียนอย่างนนท์ อย่าดึงลงมาเกลือกกลั้วกับคนที่เสพย์ติดเฟซบุคอย่างเรา



พอหมดเวลา ก็ซึ้งแล้วว่า เสียเวลาในการพยายามทำข้อ 1. ไป 55 นาทีเต็มๆ

แทนที่จะได้ลงไปสั่งยำมาม่าใต้คณะมาเยียวยากระเพาะอันว่างเปล่า

แถมยังต้องทนปวดอึอีกประมาณ 20 นาที เพราะไม่กล้าลุกออกจากห้องสอบ

ไม่เข้าใจ ปกติท้องผูกมาก จะเบ่งยังไงก็ไม่ยอมออกมาง่ายๆ

แต่พอมีสอบทีไร เจ้าตัวเล็กๆทั้งหลายก็พร้อมใจกันมารวมตัวกันที่ลำไส้ใหญ่

ถ้ามีสอบบ่อยๆ สงสัยจะหายท้องผูกเป็นแน่ บ๊ายบายระดมพล ต่อไปไม่ต้องกินยาถ่าย แค่หาสนามสอบไปเรื่อยๆก็จะขี้ง่ายถ่ายคล่อง



ออกจากห้องสอบ แน่นอนจะต้องมีการพูดถึงการสอบที่เพิ่งจบไป ถกประเด็น นินทาคนออกข้อสอบกันจนอิ่มหนำสำราญใจ

ก็ไปเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ต่อ ตรวจข้อสอบกันตรงนั้น ด่ากันตรงนั้น ทำข้อไหนไม่ได้ อาจารย์ผู้สัมภาษณ์จะถามตรงนั้นเลย

พอถึงคิว(คนที่ 20 คิวสุดท้าย) อาจารย์เรียกเข้าไปสัมภาษณ์ทีเดียว 6 คน เพราะเป็นเด็กเก่า อาจารย์จำหน้าได้ ไม่ต้องคุยมาก

อาจารย์สายันต์บอกว่า "อ่าว นุชนภางค์ ทำข้อ 4. ได้เต็มนี่ โอเค ผ่านๆ ไปได้"

????????????????????????? แค่เนี้ย??

แล้วเราพยายามทำอีก 4 ข้อที่เหลือไปเพื่อ??

คือข้อ 4. นี่เป็นตัววัดว่าใครผ่านไม่ผ่าน ส่วนข้อที่เหลือให้มาเพื่ออะไร ตอนนี้ก็ยังไม่รู้แน่แก่ใจ

แต่ดีใจ ที่อีก 4 ข้อที่เหลือ ไม่ได้เป็นตัววัด เพราะถ้าเอาทั้ง 5 ข้อมาวัด รับรองได้ว่า นุชนภางค์ต้องไปสอบรอบหน้าแน่นอน

เป็นข้อสอบที่ยากที่สุดในชีวิต แต่พอสัมภาษณ์เสร็จ กลับรู้สึกว่าเป็นข้อสอบที่ง่ายที่สุดในชีวิต



ฉลองด้วยการไปกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างร้านไจแอนท์ที่ฟิวเจอร์กับเพื่อนๆร่วมชะตากรรม

อิ่มอร่อยมาก แบกพุงหลามๆกลับบ้านด้วยอาการสุขใจ ^^



Create Date : 07 เมษายน 2554
Last Update : 7 เมษายน 2554 14:53:02 น.
Counter : 4817 Pageviews.

6 comments
  
ยากมาก...แต่น่าจะสอบได้ครับ
ว่าแต่สอบเข้าเรียนที่ใหนครับคุณพริม
ประกาศผลแล้วจะรอแสดงความยินดีนะครับ
โดย: panwat วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:15:11:22 น.
  
ยินดีด้วยครับคุณพริม
ต่อไป ก็คือ สู้ๆ หนักกว่าการทำงานอีกนะครับ
โดย: panwat วันที่: 8 เมษายน 2554 เวลา:11:01:05 น.
  
เที่ยงๆแวะมา
มีของฝากมาฝากครับ
อร่อยๆจากบ้านคุณโอ "เนินน้ำครับ"


โดย: panwat วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:12:42:01 น.
  
Photo Frames. Black and White Swans
แวะมาทักทาย ขอโทษที่หายไปเสียนาน คุณปิ๋ม สบายดีนะคะ
โดย: ดรสา วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:13:07 น.
  
image by free.in.th
ฝากรูป
แวะมาทักทายค่ะคุณปิ๋ม หวังว่าคงสบายดีนะคะ
โดย: ดรสา วันที่: 6 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:58:24 น.
  
สวัสดีครับ

สบายดีครับ พริมเป็นไงบ้าง
หายไปนานจริงๆ
โดย: panwat วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:7:35:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pRiMpRiM
Location :
Siegen  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เมษายน 2554

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30