Bloggang.com : preutipong : ข้ออักเสบโรครูมาตอยด์ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข

ข้ออักเสบโรครูมาตอยด์ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข

ผลระยะยาวของผู้ป่วยข้ออักเสบโรครูมาตอยด์

โรครูมาตอยด์มีเบาตั้งแต่หายเองได้ ไปจนถึงหนักแบบเดี้ยงถาวร แต่สถิติบอกว่าการใช้ยา DMARD ทำให้สองในสามของคนป่วยโรคนี้มีชีวิตปกติได้ตลอดไปโดยไม่มีความพิการหรือทุพลภาพแต่อย่างใด

เนื่องจากโรครูมาตอยด์จะมีความรุนแรงต่างกันในแต่ละคน โรคแทรกซ้อนก็ต่างกันทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้แม่ยำ แต่จากการศึกษาพบว่า

ผู้ป่วย75% ของผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บข้อ ข้อบวมเป็นๆหายๆ
ผู้ป่วย20% จะมีการอักเสบของข้ออ่อนๆ
ผู้ป่วย5% จะมีข้อผิดรูปอย่างมาก
แพทย์จะประเมินความรุนแรงของโรคจากการตรวจเลือดและภาพทางรังสีเพื่อวางแผนในการรักษา ดังนั้นการรับประทานยาตามแพทย์สั่งและการปฏิบัติตัวจะช่วยลดการกำเริบของโรค ปัจจัยที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือโรครูมาตอยด์จะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าคนทั่วไปซึ่งสามารถป้องกันได้ โดยการควบคุมโรครูมาตอยด์ คุมปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น การคุมความดันโลหิต การคุมไขมัน เบาหวาน หยุดสูบบุหรี่

การมีหลังคด (scoliosis) เป็นไปได้สองอย่าง คือเป็นมาแต่เกิด หรืออาจเป็นเพราะข้อหลังมันเพิ่งมาผิดรูป (deform) เอาเมื่อเป็นรูมาตอยด์ ปัญหาการที่ข้อต่างๆผิดรูปไปนี้เป็นปัญหาใหญ่อันหนึ่งของโรครูมาตอยด์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ป้องกันได้ด้วยยาแถวแรกที่ใช้รักษาข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือที่หมอข้อเขาเรียกกันว่า DMARD ย่อมาจาก disease modifying antirheumatic drug เช่น metrhotrexate, sulfasalazine, leflunomide, hydroxychloroquine เป็นต้น ดังนั้นคนเป็นโรคนี้หากมีข้อผิดรูปเริ่มเกิดขึ้นแล้ว การกินยาให้เต็มแม็กตามที่หมอบอกจึงเป็นเรื่องสำคัญ

การดูแลตัวเองของคนเป็นโรครูมาตอยด์ นอกจากการรักษาด้วยยาเพื่อป้องกันไม่ให้ข้ออักเสบจนผิดรูปมากแล้ว ก็คือการดูแลสุขภาพให้ดีตามมาตรฐานของคนธรรมดาทั่วไป อันได้แก่การขยันออกกำลังกายให้ได้ระดับมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ โภชนาการที่มีผักและผลไม้มากแต่มีแคลอรี่ต่ำ ที่ต้องเน้นย้ำมากกว่าคนทั่วไปคือวัคซีนป้องกันโรคสำคัญๆต้องได้ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิดต่างๆ เพราะยารักษารูมาตอยด์มักมีพิษต่อตับ ตับจึงต้องดี อะไรจะทำให้ตับเสียหายหากป้องกันได้ต้องป้องกัน อีกอย่างหนึ่งตับอักเสบจากไวรัสมีอาการที่ทำให้แพทย์สับสนกับตัวโรครูมาตอยด์เองได้ ดังนั้นอย่าเป็นสองโรคดีที่สุด

————-

ด้วยความรักจากใจ อยากเห็นคนรุ่นใหม่ห่างไกลจากโรคข้อเข่าเสื่อม

Create Date : 20 ตุลาคม 2556

Last Update : 20 ตุลาคม 2556 8:17:52 น.

0 comments

Counter : 782 Pageviews.