แกงน้ำย่านางผักรวม(กับ)เห็ด
ตอนแรกจะตั้งชื่อเป็น แกงมรกตผักรวม อย่ากระนั้นเลย เดี๋ยวจะมีคนสงสัยว่าแกงมรกตมันเป็นยังไง ต้องมาคอยอธิบายกันอีก 555 ใครจะไปรู้ล่ะเนอะว่าเธอช่างจินตนาการ เปรียบสีเขียวของน้ำใบย่านางว่าเป็นสีเขียวมรกต เอากันแบบเข้าใจง่ายๆ ไปเลยว่าแกงน้ำย่านางนี่แหละ % ~ หน้าฝนอย่างนี้ใบย่านางที่บ้านใบดกงามมาก จะปล่อยไว้ให้มันแก่แห้งเหี่ยวไปก็ไร้ประโยชน์เนอะ งั้นไปเก็บมาแกงดีกว่า ความจริงใบย่านางเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลายอย่างนะ หมอแผนโบราณเค้าบอกว่ามันมีฤทธิ์เย็น เดี๋ยวนี้เค้าฮิตเอามาคั้นน้ำกิน เป็นน้ำใบย่านางสีเขียวๆ วันหลังค่อยลองทำ...วันนี้เอามาทำแกงก่อนดีกว่า ~ ~ นี่ไงซุ้มย่านางที่บ้าน ใบเยอะมากๆ วัตถุดิบ 1. ผักที่อยากจะกินหรือที่มีเหลือๆ ในตู้เย็น เช่น ยอดตำลึง ผักหวาน ผักโขม บวบ ฟักทอง กระเจี๊ยบสด ผักชีลาว ต้นหอม ฯลฯ มีอะไรก็ใส่ไปไม่มีผิดค่ะ แต่ที่ทำรอบนี้ไม่มีอะไรในตู้เย็น ก็เลยซื้อๆ มาที่อยากจะกินค่ะ 2. เห็ดที่ชอบ จะเป็นเห็ดหูหนู เห็ดเข็มทอง เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดนางฟ้า นางรม ฯลฯ ได้ทั้งนั้น 3. ใบย่านาง 4. พริกสด หอมแดง หรือจะหั่นตะไคร้เป็นท่อนๆ ใส่ลงไปด้วยก็ได้ 5. กะปิ หรือถ้ามีปลาเค็มทอดที่ค้างๆ อยู่ ก็เอามาใช้ได้ แต่ถ้าเป็นคนอีสานเค้าก็จะใส่น้ำปลาร้าค่ะ วิธีทำ 1. เตรียมผักก่อนนะคะ ล้างให้สะอาดก่อน แล้วก็หั่นเตรียมไว้ค่ะ รอบนี้จะใส่ฟักทองทั้งฟักทองแก่และฟักทองเบ่บี๋ บวบหอม กระเจี๊ยบสด และเห็ด 3 อย่าง บวบหั่นแฉลบๆ ใช้บวบหอมนะ จะหอมอร่อยกว่าบวบเหลี่ยม (แกงหม้อนี้ใส่บวบเยอะไปหน่อยนึง) กระเจี๊ยบสด แกงจะอร่อยเข้มข้นก็เพราะเจ้านี่แหละค่ะ เลือกฝักอ่อนๆ หน่อยนะคะ ถ้แก่เปลือกมันจะแข็งค่ะ หั่นทุกอย่างเตรียมไว้ เห็ดรอบนี้ใส่ไปแค่ 3 อย่าง ความจริงเห็ดฟาง เห็ดเข็มทองก็อร่อยดีนะ แต่ซื้อหลายอย่างก็หลายบาท เพราะฉะนั้นเอาแค่ 3 อย่างพอ 2. เด็ดใบย่านางล้างน้ำให้สะอาดแล้วก็คั้นน้ำค่ะ จะใช้มือขยี้หรือใช้เครื่องปั่นก็ตามสะดวก สำหรับเราขอใช้เครื่องปั่นนะคะ ถ้าใช้มือขยี้กลัวมืออันแสนจะบอบบางของเราจะแตกกร้านน่ะค่ะ 3. ใช้กระชอนและผ้าขาวบางกรองเอากากออกเหลือแต่น้ำย่านางสีเขียวๆ กรองแล้วหน้าตาแบบนี้ ฟองเยอะมองไม่เห็นความเขียวเลยเนอะ 4. ใส่หม้อตั้งไฟเลยค่ะ 5. โขลกเครื่องแกง อันได้แก่ หอม พริก โขลกแค่พอบุบๆ ไม่ต้องละเอียดมากค่ะ เอออออ แล้วทำไมจะต้องถ่ายให้มันเบลอๆ ด้วยนะเนี่ย 6. พอน้ำเดือดก็ปรุงรสด้วยกะปิหรือปลาเค็ม เติมเกลือ น้ำปลานิดหน่อย 7. ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน รอบนี้ฟักทองสุกยากสุดก็ใส่ลงไปก่อน 8. แล้วค่อยใส่ผักที่สุกง่ายและเห็ดตามลงไป 9. เดือดได้ที่แล้วก็ปิดไฟ เสร็จแล้วค่ะ หน้าตาจะออกมาประมาณนี้ค่ะ น้ำแกงจะเหนียวๆ ข้นๆ เพราะเจ้ากระเจี๊ยบสดค่ะ เป็นอาหารเมนูสุขภาพ กินเท่าไรก็ไม่อ้วนค่ะ (นอกจากมีเชื้ออ้วนเป็นทุนติดตัวอยู่แล้ว) ว่างๆ ลองทำดูนะคะ
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2555 12:20:13 น. |
|
24 comments
|
Counter : 23046 Pageviews. |
|
|