กันยายน 2553

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
17 กันยายน 2553
คิดถึงพี่เกี๊ยว
พี่เกี๊ยวเป็นดัชชุนหนุ่มที่คงจะไม่แท้เท่าไหร่ เพราะพี่เกี๊ยวหูสั้น ตัวใหญ่ เกี๊ยวรักแม่มากๆ เกี๊ยวฟังรู้เรื่องทุกอย่าง จับหนูเก่งเป็นเลิศ ชอบวิ่งเล่นกับน้องๆ ติดแม่ ไม่ว่าแม่จะอยู่ตรงไหน พี่เกี๊ยวจะตามมาอยู่ใกล้ๆเสมอแม้กระทั่งในห้องน้ำ
วีรกรรมพี่เกี๊ยวไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากจับหนูเก่งแล้ว พี่เกี๊ยวกัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ครั้งนึงแม่ลืมพี่เกี๊ยวไว้หลังบ้าน พี่เกี๊ยวกัดรั้วซะพังกระจาย ร้องโหยหวนเหมือนจะตาย กว่าแม่จะกลับมา พี่เกี๊ยวก็กัดประตูหลังบ้านจนถลอกปอกเปิกไปหมด
ครั้งนึงมีน้องมานอนที่บ้าน กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ พี่เกี๊ยววิ่งตามเข้าไปด้วย น้องเค้าก็ไล่ออกมา แล้วรีบปิดประตู แต่หางพี่เกี๊ยวถูกประตูงับขาดจนกระดูกหางหลุดไปหนึ่งข้อ เลือดไหลไม่หยุดเลย แม่รีบพาพี่เกี๊ยวไปหาหมอ เย็บแผล พี่เกี๊ยวอดทนมาก ร้องแค่ตอนแรกเท่านั้น น้องคนที่ทำบอกว่า เดี๋ยวหางก็งอก หมานะเว้ย ไม่ใช่จิ้งจก หางจะได้งอกเองได้อ่ะ
พี่เกี๊ยวดุและกัด วันนึงทะเลาะกับเกี้ยมอี๋ พี่เกี๊ยวกัดแล้วสะบัดจนเกี้ยมอี๋ร้องลั่น แม่พยายามแยกอยู่นาน เหมือนเค้าประสาทหลุดไปเลย พอเริ่มรู้สึกตัว ได้ยินเสียงแม่ เค้าถึงยอมปล่อยเกี้ยมอี๋ งานนั้นเกี้ยมอี๋เย็บนับไม่ท้วน
หลังจากนั้นถ้าเริ่มมีแววว่าจะกัดกัน แม่ต้องคอยล็อคเกี๊ยวไว้ก่อน เพราะไม่อยากให้ตัวไหนบาดเจ็บรุนแรงอีก
ปกติเกี๊ยวจะค่อนข้างเกรงใจแม่ เวลาแม่ดุหรือห้ามเค้า เค้าจะเชื่อฟังโดยดี เพราะรักแม่ กลัวแม่โกรธ ครั้งนั้นเพียงครั้งเดียวที่เกี๊ยวขาดสติจนเกิดบาดเจ็บรุนแรง แม่รู้และเค้าก็รู้ว่าเค้าต้องทำยังไง เราสื่อสารกันได้ด้วยหัวใจเสมอ
เกี๊ยวผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แม่จึงพาไปหาหมอ ตรวจเลือด พบว่าเกี๊ยวเป็นโรคไต ค่าไตขึ้นถึง4 วันนั้นหมอให้admit แม่หวั่นใจว่าเกี๊ยวจะอยู่ได้เหรอ!!! ตอนค่ำแม่ไปเยี่ยม หมอฟ้องมากมาย เกี๊ยวพังกรงชั้นบนแล้วกระชากสายน้ำเกลือล้มระโยงระยาง กระโดดลงมาจากกรงข้างบน หมอต้องย้ายลงมาอยู่กรงข้างล่าง แม่ขอหมอเอาเกี๊ยวกลับบ้าน หมอบอกว่าลองดูสักคืน เดี๋ยวก็สงบ
เช้ามา แม่ไปเยี่ยมเกี๊ยว เกี๊ยวอยู่กรงที่ย้ายเป็นครั้งที่สาม เพราะเกี๊ยวโวยวายอาละวาดกัดสายน้ำเกลือเป็นสิบเส้น หมอเอาหลักฐานให้ดูด้วย หมอขอให้แม่รับเกี๊ยวกลับ แล้วเอาไปให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังที่คลีนิคแทน แม่อ๊าย อายหมอ หลังจากนั้น เวลาหมอนัด พอเจ้าหน้าที่เจอเกี๊ยว จำได้ทุกคนเลยค่ะ
ทุกครั้งที่ไปหาหมอ เกี๊ยวจะวิ่ง ร่าเริง สามารถยกขาฉี่และปล่อยอึลงมาได้พร้อมๆกัน นี่แหละความสามารถพิเศษของเกี๊ยว
เกี๊ยวต้องกินkd แต่เกี๊ยวไม่ชอบเอาซะเลย กินบ้างนิดหน่อยเพื่อเอาใจแม่บางครั้งเท่านั้น แม่เองก็สงสารลูก ให้กินขนมและอาหารเหมือนเดิม ซึ่งนั่นคือการเร่งให้ลูกจากไป...
เกี๊ยวต้องให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน เริ่มป่วยประมาณเดือนพย.2552 สามเดือนเต็มๆที่แม่พาเกี๊ยวขึ้นรถไปคลีนิคเพื่อรับน้ำเกลือทุกวัน สังเกตอาการและพบหมอตามกำหนดเสมอ ปกติทุกวันศุกร์และเสาร์ แม่ต้องไปดูร้านให้เจ้านายทุกอาทิตย์ แต่คืนวันเสาร์ที่30 มค 53 แม่เห็นเกี๊ยวอาเจียนเป็นสีเหลืองๆ ไม่อยากทิ้งเค้าไว้ กลัวเป็นอะไรแล้วกลับมาไม่ทัน คืนนั้นจึงอยู่บ้านกับเค้า เกี๊ยวนอนกับแม่เพื่อดูอาการตั้งแต่เค้าเริ่มป่วย แม่เปิดไฟไว้เพราะต้องคอยเฝ้าเค้า เผลอหลับไปงีบนึง พอลืมตาขึ้นมาเห็นเกี๊ยวกำลังชัก ใจแม่หายทันที ทำอะไรไม่ถูกเลย อยู่คนเดียวด้วย รีบอุ้มเกี๊ยว(ซึ่งหนัก13กิโล)ลงมาข้างล่าง วางเค้าไว้ที่พื้น บอกเค้าว่าอย่าเป็นไรนะลูก เดี๋ยวแม่จะพาไปหาหมอนะ กลับขึ้นไปเอาต้นหอมลงมาไว้ข้างล่าง เพราะไม่งั้นเธอจะเห่าถ้าต้องอยู่ข้างบนคนเดียว ใส่คอนแทคเลนส์ เปิดประตูบ้าน อุ้มเกี๊ยวขึ้นรถ ปิดประตูบ้าน ตอนนั้นประมาณตีหนึ่ง ไม่รู้จะโทหาใคร เพราะตอนนั้นแฟนยังอยู่เมืองนอก ขับรถไปร้องไห้ไป พูดกับลูกตลอดเวลาว่าอย่าทิ้งแม่ไปนะ อยู่กับแม่ก่อนนะ เกี๊ยวตัวแข็งทื่อในตอนแรก แล้วก็เริ่มทุรนทุราย ร้องเสียงต่ำๆใน
ลำคอ เค้าคงเจ็บปวดทรมาน...
บ้านอยู่ประชาชื่น ต้องขับรถไปที่มหิดล ศาลายา เพราะประวัติการรักษาของเกี๊ยวอยู่ที่นั่น ไม่อยากให้เค้าต้องเริ่มต้นใหม่ที่อื่น โชคดีที่เวลานั้นไม่ค่อยมีรถ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงรพ. ไปถึงจอดรถ เปิดประตูรถ อุ้มเกี๊ยวไปห้องฉุกเฉินคนเดียวไม่มีคนช่วยเลย เรี่ยวแรงไม่รู้มาจากไหน ปกติไม่เคยอุ้มเค้าไหว แต่วันนั้นทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง หมอให้น้ำเกลือ ตรวจอาการ ให้ยากันชัก แล้วบอกให้แม่กลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยม แม่ตามไปส่งเกี๊ยวที่กรง ตาเกี๊ยวแดงมาก เลือดออกที่ตาและผิวหนัง แม่บอกเกี๊ยวว่ารอแม่นะ พรุ่งนี้แม่จะมาเยี่ยม
เช้าวันรุ่งขึ้น ไปถึงรพ11.00น ตรงเป๊ะ เข้าเยี่ยมเค้า อาการเค้าไม่ดีเลย ทุรนทุราย อึเป็นเลือดตลอดเวลา แต่พอได้ยินเสียงและเห็นหน้าแม่ เค้าก็เริ่มสงบลง แม่อยู่กับเค้าจนหมดเวลาเยี่ยม เยี่ยมได้อีกทีตอนบ่ายโมง แม่เลยรออยู่แถวนั้น เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา เกี๊ยวอาการแย่ลง คุณหมอบอกว่าเค้าเสียเลือดมาก แต่ก็ให้เลือดไม่ได้ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร แม่อยู่กับเกี๊ยวจนหมดเวลาเหมือนเดิม ร้องไห้จนไม่รู้จะเอาน้ำตามาจากไหนอีก เยี่ยมได้อีกทีตอนหนึ่งทุ่ม เลยกลับบ้านไปนอนเอาแรงพักนึง ตื่นมาห้าโมงเย็น รีบอาบน้ำเพื่อจะไปหาเค้า ประมาณหกโมงเย็น รพ.โทมาบอกว่าเกี๊ยวเสียแล้ว....
หมอบอกว่าช่วยเต็มที่แล้ว แต่เค้าไม่ไหวจริงๆ เลือดออกมากมาย หมอจะเตรียมใส่ถุงดำไว้ให้ เพราะของเสียยังไหลอยู่ แม่บอกหมอว่า ขอเถอะนะคะ เดี๋ยวแม่จะไปรับเค้า จะเอาผ้าไปอุ้มเค้าเอง หมอก็เข้าใจ บอกว่าจะทำความสะอาดและอุดรูต่างๆไว้ให้
ขับรถไปรับลูก ร้องไห้ไปตลอดทาง แม่ขอโทษนะพี่เกี๊ยว ที่แม่ทิ้งพี่เกี๊ยวไปโดยไม่ได้ร่ำลากันเลย ถ้าแม่ไม่กลับบ้าน ถ้าแม่อยู่แถวนั้นหรือขอหมอเฝ้าเกี๊ยว เกี๊ยวคงตายตาหลับเพราะมีแม่อยู่ให้อุ่นใจ แต่แม่ไม่คิดว่าเกี๊ยวจะจากไปเร็วขนาดนี้....
วันที่31 มค 53 คือวันที่แม่เสียใจที่สุด แม่ขอโทษนะลูก...
เกี๊ยวอายุได้ 7 ปี แค่นั้น ทุกวันที่สวดมนต์หรือไปทำบุญที่วัด แม่ไม่เคยลืมที่จะอุทิศบุญที่แม่มีให้ลูกเสมอ
แม่นอนร้องไห้ถึงเกี๊ยว ดูรูปเกี๊ยวทีไร แม่ไม่เคยทำใจได้สักที แต่แม่รู้ดี ว่าเกียวยังอยู่กับแม่ ในหัวใจของแม่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

รักเกี๊ยวนะลูก



Create Date : 17 กันยายน 2553
Last Update : 17 กันยายน 2553 18:35:00 น.
Counter : 377 Pageviews.

2 comments
  
เสียใจกับความสูญเสียครั้งนี้ด้วยน่ะครับ
ที่บ้านก็มีดัชชุนสาวอยู่ตัวนิสัยคล้ายๆหนุ่มเกี๊ยวเลย
เข้มแข็งไว้น่ะครับ
โดย: Don't try this at home. วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:18:50:14 น.
  
เกี้ยวหมดกรรมแล้วค่ะ แต่เราคงต้องสู้ สู้นะคะ
โดย: น้ำหวานกับน้ำพุ วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:0:45:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prettyninja
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตร่วมกับลูกๆ13ตัว มีความสุขกับการได้เก็บอึ๊ เช็ดฉี่ ถูบ้านเช้า เย็นด้วยตัวเอง ถึงแม้บางครั้งจะแอบคิดเล็กๆว่า เอ๊ ตกลงเจ้าหมาน้อยพวกนี้มันมีบุญมากกว่าเราใช่มั้ย ที่มีคนปรนนิบัติพัดวี หาข้าวหาน้ำ พาไปหาหมอ ทำความสะอาดบ้านให้ งั้นชาติหน้าแม่ขอเกิดเป็นหมามั่งเนอะ อิอิ