|
|
เพิ่มภูมิคุ้มกันในฤดูหนาว ด้วยเคล็ดลับดี ๆ แบบนี้
คำแนะนำเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในฤดูหนาว (อาหารและสุขภาพ)
ฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง พร้อมทั้งอาการคัดจมูก มึนศีรษะ และอาการอื่น ๆ อีกมากมาย..นี่แหละหน้าหนาว! Kristi Lees จะมาบอกวิธีเอาชนะโรคฤดูหนาวด้วยวิธีธรรมชาติ
วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรงในหน้านี้ก็คือเร่งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ถ้าเราทำให้ร่างกยอยู่ในสภาพแข็งแรงเสมอ เราก็จะปลอดจากอาการเหล่านี้ตลอดฤดู
เพิ่มความต้านทาน
ระบบภูมิคุ้มกันของเราจำเป็นสำหรับสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยร่างกายเราในการรักษาตั้งแต่แผลถลอกเล็กน้อยไปจนถึงต่อสู้กับไวรัสที่ร้ายแรง ในขณะที่พวกเราส่วนมากมักจะป่วยเป็นหวัดสักปีละครั้งสองครั้ง แต่ถ้ามีอาการรุนแรงหรือเป็นบ่อย ๆ นั่นแสดงว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่แข็งแรงแล้ว เคธี่ ฟอสเตอร์ นักธรรมชาติบำบัดจากเมลเบิร์นกล่าวว่า "จำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้ออยู่เรื่อย ๆ รวมทั้งโรคร้ายแรงอื่น ๆ"
ความเครียด, โภชนาการที่ไม่ดี, การทำงานหนักไป, นอนหลับไม่เพียงพอ, กาแฟ, แอลกอฮอล์, และมลภาวะ เรื่องพื้น ๆ ทั่วไปในชีวิตที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลง ชีวิตสมัยใหม่ทำให้ร่างกายของเราถูกทำลาย และหากเราไม่ทำให้สมดุลก็จะไปมีผลต่อสุขภาพ
"ความเครียดทำให้ต่อมอะดรีนัลหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นออกมา" เคธี่กล่าว "การมีฮอร์โมนนี้มากเกินไปจะไปทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวลดลงแล้วทำให้ต่อมไทมัส ซึ่งคอยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันหดเล็กลง ยิ่งเครียดมากขึ้นเท่าไรก็จะยิ่งไปกดภูมิคุ้มกันมากยิ่งขึ้นเท่านั้น"
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เป็นสารสังเคราะห์
บ่อยครั้งที่เรารู้สึกอ่อนเพลีย เราก็มักจะหันไปหากาแฟเพื่อทำให้เราอบอุ่น และทำให้มีเรี่ยวแรง แต่หากคุณจริงจังกับสุขภาพที่แข็งแรงในฤดูร้อนก็ต้องหันมาใช้ทางเลือก กาแฟทำปฏิกิริยากับร่างกายคล้ายกับความเครียด คือมันกระตุ้นต่อมอะดรีนัลมากเกินไป ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
คุณอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "ให้อาหารกับโรคหวัด..." ซึ่งพอพูดถึงน้ำตาล มันก็คือสิ่งนี้แหละ
เคธี่ กล่าวว่า "การบริโภคน้ำตาล แม้จะมาในรูปน้ำผึ้งหรือน้ำผลไม้ ก็ทำให้นิวโทรฟิล ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่คอยกินและทำลายแบคทีเรียทำงานผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ" เพื่อจะช่วยภูมิคุ้มกัน เคธี่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงน้ำตาลในทุกรูปแบบและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีเป็นเวลา 3 ถึง 4 วัน ตลอดช่วงที่มีการติดเชื้อ นี่เป็นการให้เวลาแก่ร่างกายในการมุ่งไปยังการต่อสู้กับการติดเชื้อโดยไม่ต้องไปรับมือกับน้ำตาลที่คอยกดภูมิคุ้มกันอยู่อีกทาง แอลกอฮอล์ก็มีผลกับร่างกายในลักษณะเดียวกัน ดังนั้นควรงดดื่มสุราจนกว่าจะหายจากหวัด 100 เปอร์เซ็นต์เสียก่อน
สุขภาพที่ดีในขวด
ก่อนที่จะคิดไปถึงอาหารเสริม เอ็มม่าสโกราคิส โภชนาการจากซิดนีย์ก็ให้เคล็ดลับแก่เราอย่างหนึ่ง
"ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นมากกว่าแค่การพึ่งพาวิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ" เธอกล่าว "หากค่า pH (สมดุลกรดและด่าง) ในร่างกายเสียสมดุลไป เท่ากับเราไปสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้จุลชีพและแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อร่างกายเจริญเติบโต และของเสียของมันก็ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง"
ร่างกายมีระดับ pH ที่ดีต่อสุขภาพอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งทำให้ร่างกายทำงานได้ดีที่สุด หากมีความเป็นกรดมากเกินไป ก็จะเกิดสภาพภายในที่ไม่ดีต่อสุขภาพแล้วทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอในที่สุด
เอมม่า แนะนำว่า เมื่อคุณป่วยแล้ว การจะให้มีสุขภาพดีไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่พบได้ในขวด แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ต้องกระทำในแบบองค์รวมไปด้วยกันทั้งหมด
"ให้แน่ใจว่าฝึกพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ เช่นหายใจลึก ๆ, พักผ่อน, ออกกำลังกายเบา ๆ ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์, และได้รับแสงแดดเป็นประจำเมื่อมีโอกาส" เธอกล่าว "นอกจากนี้ ให้รับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างให้มากขึ้น โดยเฉพาะผักใบเขียว, น้ำผัก และผลไม้สดกับผักสดให้มากขึ้น"
เอ็มม่า แนะนำให้รับประทานมะนาว และกระเทียมสำหรับฤดูหนาว
"มะนาวทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง และช่วยอาการหวัด, แสบคอ, และอาการไอได้อย่างดีเยี่ยม" เธอกล่าว นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามิน ซี สูงด้วย
"กระเทียมใช้ต่อต้านแบคทีเรีย, ไวรัส และเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีสำหรับไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และไซนัสอักเสบ" นั่นหมายความว่าดีเยี่ยมสำหรับทั้งการป้องกันและรักษาหวัด
สารอาหารสำหรับฤดูหนาว
ทั้งเคธี่และเอ็มม่าเห็นพ้องกันว่า อาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี, น้ำตาล, อาหารนม และการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานของภูมิคุ้มกันลดลง ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด สารอาหารสำคัญสำหรับช่วงนี้ของปีได้แก่ วิตามินเอ, ซี, อี, ดี, บี 6 และสังกะสี
วิตามินเอ
"วิตามินเอ เพิ่มความต้านทานต่อการติดเชื้อโดยเพิ่มการสร้างแอนติบอดี้" เอ็มม่ากล่าว แหล่งวิตามินเอ จากธรรมชาติ ได้แก่ แครอท, ผักใบเขียว และอัลมอนด์
วิตามินซี
วิตามินซี มีหน้าที่มากมายในการต่อต้านการติดเชื้อ เมื่อเราป่วย ร่างกายของเราจะใช้วิตามินชนิดนี้ในปริมาณสูง ดังนั้นเราจึงต้องให้ร่างกายได้รับอย่างเพียงพอทุกวัน นี่สามารถทำได้โดยรับประทานส้ม, มะนาว, มะนาวผลใหญ่, และเบอร์รี่ต่าง ๆ หรือรับประทานในรูปอาหารเสริม
วิตามินอี
"วิตามินอี เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่สำคัญสำหรับสุขภาพ และในคนที่มีวิตามินอยู่สูงในเลือดจะมีการตอบสนองของภูมิคุ้มกันดี" เคธี่ กล่าว "วิตามินนี้ช่วยป้องกันเซลล์เม็ดเลือดขาว อาหารที่มีวิตามินอี ได้แก่ ผลกีวี, กล้วย และเมล็ดดอกทานตะวัน"
วิตามินดี
เอ็มม่า กล่าวว่า วิตามินดี ก็เป็นสารอาหารสำคัญที่ควรอยู่ในวิจารณญาณ
"วิตามินนี้มีความสำคัญในการกำกับ และควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน" เธอกล่าว "แล้วยังช่วยการดูดซึมของแร่ธาตุอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่จำเป็นต่อภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง"แสงแดดเป็นแหล่งสำคัญของสารอาหารนี้อาหารที่มีวิตามินนี้ได้แก่ เมล็ดพืชงอกต่าง ๆ, ไข่แดง และปลาทะเลน้ำลึกที่มีน้ำมัน
สังกะสี
สังกะสีช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันและพบได้ในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมทั้งผักจากทะเล, อะโวคาโด, เมล็ดงา และเมล็ดฟักทอง
เคธี่ กล่าวว่า "มันเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับภูมิคุ้มกันเพราะมันเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลไกหลายอย่าง"
วิตามินบี 6
เคธี่ กล่าวว่า "บี 6 มีหน้าที่สำคัญในการแบ่งตัวของเซลลฺและจำเป็นในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงสำหรับระบบภูมิคุ้มกัน" อาหารที่มีวิตามิน บี 6 ได้แก่ กระเทียมสด, วอลนัท และธัญพืชขัดสีน้อย
โปรไบโอติคส์ โปรไบโอติคส์ เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร จำเป็นในการทำให้ร่างกานสมดุลและทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีที่สุด ฮิปโปเครติสยังกล่าวเลยว่า "ระบบภูมิคุ้มกันเริ่มต้นที่ลำไส้" โยเกิร์ตธรรมชาติเป็นแหล่งโปรไบโอติคส์ที่ดี
สมุนไพร
สมุนไพรบางชนิดเช่น โกลเด้นชีล, แอสทรากัลส์, เอ็คไคเนเซีย, โสม, กิงโก้ หรือ แปะก๊วย, เซ็นต์จอห์นสเวิร์ต และใบมะกอกน่าจะนำมาพิจารณา สามชนิดแรกมีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พวกนี้ช่วยภูมิคุ้มกันและดีสำหรับการต่อสู้กับการติดเชื้อ ส่วนโกลเด้นชีล, แอสตรากัลส์ และเอ็คไคเนเซียสามารถใช้ได้ทั้งก่อนหรือหลังการป่วยเมื่อไรก็ได้ เอ็คไคเนเซียจะเป็นสมุนไพรที่รู้จักกันมากที่สุด
เคธี่กล่าวว่า "เอ็คไคเนเซียลดโอกาสการติดเชื้อของผู้ที่มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายลง"
"โสมช่วยในรายที่ต่อมอะดรีนัล อ่อนแรง สมุนไพรนี้กระตุ้นและช่วยเกลาการทำงานของระบบ" อย่างไรก็ดี เธอเตือนให้ระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงที่ติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน
แปะก๊วย หรือกิงโก้ และใบมะกอกล้วนมีชื่อเสียงว่าเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ เคธี่ กล่าวว่า "ป้องกันต่อมและเซลล์ต่าง ๆ ของระบบภูมิคุ้มกัน"
เซ็นต์จอห์นสเวิร์ตก็เป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับช่วงฤดูหนาว ไม่เพียงแต่ช่วยอารมณ์ที่ตกต่ำ แต่ยังมีคุณสมบัติต่อต้านไวรัส เคธี่ กล่าวว่าประโยชน์ที่ได้จากมันก็คือ "ผลในการทำให้รู้สึกสงบและซ่อมสร้างระบบประสาท" ผลผสมผสานที่ได้เหล่านี้ช่วยลดผลของความเครียด ดังนั้นจึงมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันด้วย
เคล็ดลับ 5 ประการสำหรับภูมิคุ้มกันจากเคธี่
1. รับประทานเอ็คไคเนเซีย และวิตามินซี กับ สังกะสี โดยเฉพาะช่วงเดือนที่อากาศเย็นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทำให้เราต้านทานได้ดีขึ้น
2. บำรุงแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะเป็นการดีหากเราเตรียมตัวเสียก่อนที่จะเข้าฤดูหนาว ตัวอย่างเช่น ให้รับประทานอาหารเพื่อล้างพิษ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้ซ่อมแซมและหล่อเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียที่ดี ช่วยให้ร่างกายต่อต้านหวัดและหวัดใหญ่ในฤดูหนาวได้ดี
3. ดื่มซุปไก่ (ควรเป็นไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติหรือออร์แกนิค) การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การรักษาแบบพื้นบ้านดั้งเดิมนี้ช่วยให้การทำงานของภูมิคุ้มกันดีขึ้น ในระหว่างการติดเชื้อการดื่มซุปไก่ยังช่วยเพิ่มระดับสารอาหารในร่างกายด้วย
4. นอนหลับให้สนิท การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในการจัดการกับความเครียดและการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในช่วงเวลาที่หลับลึกที่สุด ระบบภูมิคุ้มกันจะหลั่งสารต่าง ๆ ออกมาและการทำงานของภุมิคุ้มกันหลายอย่างจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
5. โภชนาการที่ดี ให้รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน, โปรตีนคุณภาพดี, ผักและผลไม้สด, และหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการขัดสี, น้ำตาล และอาหารมัน ๆ เหล่านี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา : //health.kapook.com/view55505.html
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2556 |
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2556 20:15:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 805 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|