ความรู้มีไว้แบ่งปัน

CM Triplets
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add CM Triplets's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 

ของโปรดของสาวๆ “โยเกิร์ต” ให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด!?

ของโปรดของสาวๆ “โยเกิร์ต” ให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด!?

เป็นที่รู้จัก และคุ้นเคยกันมานาน สำหรับ โยเกิร์ต (Yoghurt) อาหารเพื่อสุขภาพอีกอย่าง ที่สาวเรานิยมรับประทานกันนัก เพราะนอกจากจะมีรสชาติอร่อยลิ้นแล้ว ยังเชื่อกันว่าเป็นอาหารที่กินแล้วจะอายุยืนด้วยล่ะ

ความเชื่อนี้สืบทอดกันมาจากชนเผ่า ทราเซียน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวบัลแกเรีย โดยชนเผ่านี้นิยมเอาน้ำนมใส่ไว้ในถุงที่ทำด้วยหนังแกะ คาดไว้ที่เอว เพื่อตุนไว้กินระหว่างออกไปเลี้ยงแกะ หรือทำงานในทุ่ง ทว่าการพกนมไว้ที่เอวนั้น ความร้อนจากร่างกายได้ส่งผลให้อุณหภูมิของนมสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิของนมเริ่มอุ่นๆ และไปผสมกับเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในหนังแกะ ไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็นนมที่มีลักษณะข้นๆ กึ่งแข็ง กึ่งเหลว แถมมีรสเปรี้ยวคล้ายบูดเน่า แต่พอกินเข้าไปแทนที่จะท้องเสีย ดั๊นมีสุขภาพดีขึ้นซะอีก ชาวบัลแกเรียจึงนิยมกิน และมีความเชื่อเรื่องกินโยเกิร์ตแล้วสุขภาพดี อายุยืนกันมาเนิ่นนาน

แต่สาวยุคใหม่หลายคน อาจยังสงสัยว่า จริงๆ แล้วเรื่องกินโยเกิร์ตแล้วอายุยืน จะเป็นเรื่องจริงมั้ย แค่อิงนิยายหรือเปล่า เมื่อสบโอกาสได้พบกับ รศ.พญ. นลินี จงวิริยพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในงานเปิดตัวแคมเปญใหม่ของโยเกิร์ตแอคทีเวีย อาจารย์หมอได้นำความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการกินโยเกิร์ต มาบรรยายให้สาวๆ ที่กำลังสงสัย ในเรื่องนี้หายคับข้องใจไปเลยค่ะ

โยเกิร์ตคืออะไร ..เหมือนกับนมเปรี้ยวมั้ย?

คุณหมอนลิณีกล่าวว่า ทั้งโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักนม โดยมีการเติมเชื้อจุลินทรีย์ลงไป ซึ่งโยเกิร์ตแบ่งได้ 2 ประเภท คือ โยเกิร์ตชนิดครีม (Cream Yoghurt) นั่นคือโยเกิร์ตแบบเป็นถ้วยที่มีลักษณะเหลว ต้องใช้ช้อนตักทาน และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม (Drinking Yoghurt) หรือนมเปรี้ยวที่มีลักษณะเป็นน้ำนมเหลวที่บรรจุในกล่อง หรือขวด

“โยเกิร์ตก็คือ นมเปรี้ยวชนิดหนึ่งค่ะ เป็นนมเปรี้ยวที่ผ่านการฆ่าเชื้อ จุลินทรีย์ที่เป็นโรคถูกกำจัดไปหมดแล้ว นมชนิดนี้ได้รับการหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตราย ที่ต้องเน้นว่าจุลินทรีย์ ไม่เป็นอันตราย เพราะถ้าพูดถึงจุลินทรีย์ เราจะรู้จักทั้งจุลินทรีย์ที่ก่อโทษ และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในกระบวนการผลิตโยเกิร์ตนั้น เราจะใช้เฉพาะจุลินทรีย์ที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น”

ท้องผูก-ท้องเสีย ..โยเกิร์ตช่วยได้

อาจารย์หมอใจดีบอกถึงประโยชน์เด่นของโยเกิร์ตว่า เป็นพระเอกในเรื่องการสร้างสมดุลของระบบขับถ่ายค่ะ เพราะการรับประทานโยเกิร์ตอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาเรื่องท้องผูก ท้องเสียได้เป็นอย่างดี

“ประโยชน์ที่จะได้จากโยเกิร์ตก็คือ การปรับสมดุลร่างกาย คือช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ลดปัญหาเรื่องท้องอืด อึดอัด แน่นท้องไม่สบายท้อง ซึ่งในคนที่มีปัญหาท้องผูกก็จะช่วยได้ เพราะว่าโยเกิร์ตจะมีจุลินทรีย์ที่ดี ที่ช่วยในเรื่องการทำงานของลำไส้ ทำให้ระบบดูดซึมมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขับถ่ายก็จะดีขึ้น

ส่วนคนที่มีปัญหาท้องเสียบ่อยๆ ก็รับประทานโยเกิร์ตได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มอาการท้องเสีย เพราะจุลินทรีย์ที่อยู่ในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งจะช่วยยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี และเพิ่มภูมิต้านทานให้ระบบย่อยในลำไส้ เมื่อลำไส้แข็งแรง โอกาสที่เชื้อโรคจากภายนอกเข้าไปแล้วจะก่อให้เกิดท้องเสียก็น้อยลง”

ดื่มนมแล้วท้องอืด ท้องเดิน ..ต้องลอง “โยเกิร์ต”

กรณีคนที่ดื่มนม หรือกินอาหารที่ทำจากนมแล้วท้องอืด ท้องเสีย จนเป็นปัญหาทรมานกาย ทรมานใจ บางคนถึงกับต้องเลิกดื่มนมกันไปเลย ซึ่งไม่เป็นผลดีอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดแคลเซียมส่งผลให้เป็นโรคกระดูกได้ง่ายๆ คุณหมอจึงแนะนำว่า หากมีปัญหาเหล่านี้ให้ลองรับประทานโยเกิร์ตดูค่ะ

“หลายท่านมีปัญหาว่าพอดื่มนม หรือรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น เนย ชีส แล้วจะท้องอืด ท้องเสีย อันนั้นเกิดจากการที่ลำไส้ใหญ่ผลิตน้ำย่อยที่ชื่อว่าแลคเตส (Lactase) น้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส (Lactose Intolerance) ซึ่งเป็นน้ำตาลที่อยู่ในนมได้ เมื่อย่อยน้ำตาลในนมไม่ได้ จึงทำให้เกิดภาวะ มีแก๊สในท้อง ปวดท้อง ท้องอืด และท้องเสีย

ภาวะนี้พบได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ จะมีปัญหานี้กันมาก เพราะร่างกายชาวเอเชียจะเป็นแบบนี้ เมื่ออายุเยอะขึ้น ลำไส้ใหญ่จะผลิตน้ำย่อยแลคเตส ได้น้อยลง ซึ่งเป็นไปตามพันธุ์กรรม และไลฟ์สไตล์การทานอาหาร ที่ชาวยุโรปจะชินกับการทานอาหารประเภทนม แต่ในประเทศเราส่วนใหญ่ มักรับประทานนมตอนเด็กๆ เท่านั้นพอโตมาก็เลิกทาน จึงเป็นอีกส่วนที่ทำให้พออายุเยอะขึ้น ร่างกายจะไม่ค่อยผลิตน้ำย่อยแลคเตส ไว้ย่อยน้ำตาลที่มีอยู่ในนม”

เมื่อถามว่าตัวช่วยในการสร้างเอนไซม์แลคเตสนี้ สามารถหาได้จากที่ไหนบ้าง คุณหมอนลินีตอบเสียงดังฟังชัดว่า หาได้จากในอาหารประเภทโยเกิร์ตนี่แหละค่ะ

“ตัวช่วยสร้างเอนไซม์แลคเตสนี้ ในต่างประเทศจะมียาที่ช่วยเพิ่มน้ำย่อยตัวนี้ แต่ในเมืองไทย เท่าที่ทราบยังไม่มียาประเภทนี้จำหน่าย ดังนั้นการจะช่วยสร้างน้ำย่อยตัวนี้ ต้องอาศัยเชื้อจุลินทรีย์จากโยเกิร์ตอย่างเดียวเลยก็ว่าได้ เพราะในอาหารประเภทอื่นจะไม่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ช่วยสร้างเอนไซม์แลคเตสนี้อยู่”

กินโยเกิร์ตยังไง ให้ถูกวิธี?

“ถ้าถามว่าต้องทานบ่อยแค่ไหน คงต้องตอบว่า ถ้าทานได้ทุกวันก็จะดี คือ ต้องบอกว่าโยเกิร์ตเป็นอาหาร ไม่ใช่ยา ดังนั้นคงไม่ใช่ว่ากินวันสองวันเห็นผลทันตา เหมือนอย่างเป็นไข้ ทานยาแก้ไข้ก็หาย ก็คงไม่ใช่ เพราะมันต้องใช้เวลา และระยะเวลาในการทานก็ต้องมีความต่อเนื่องด้วย ไม่ใช่กินแค่สองสามวันแล้วก็หยุด อันนั้นก็อาจจะไม่ได้เห็นผลเรื่องการช่วยให้ระบบขับถ่ายดี”

สำหรับวิธีการการรับประทานโยเกิร์ตที่ดีต่อสุขภาพ คุณหมอแนะนำให้เลือกรับประทานโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติก (Probiotics) หรือจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งสังเกตได้จากข้อความที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ ปริมาณในการรับประทาน คืออย่างน้อย 1 ถ้วย ระยะเวลาติดต่อกัน 14 วันขึ้นไป จึงจะเห็นผล

“ถ้ากรณีปกติที่ร่างกายเราไม่เป็นอะไรเลย จะสามารถทานได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะ เพราะโยเกิร์ตคืออาหาร เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ จุลินทรีย์ที่มีอยู่ ไม่ทำให้เกิดโทษแน่นอน แถมยังจะช่วยเรื่องสมดุลร่างกาย ช่วยเรื่องภูมิต้านทาน ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ อย่างเช่นเวลาเราไปกินอาหารที่ อาจจะไม่ระมัดระวัง พลาดไปทานอาหารไม่สะอาด จุลินทรีย์ที่ดีๆ พวกนี้ ก็จะช่วยลดปัญหาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพได้”


manager.co.th
สาเหตุที่โยเกิร์ต เหมาะกับสาวๆ เป็นที่สุด

โยเกิร์ตนั้นเหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะคุณสาวๆ ทั้งหลาย เนื่องจากผู้หญิงเราต้องได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง มิฉะนั้นเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน มวลกระดูกของเราจะผุกร่อนเกิดเป็นโรคกระดูกผุได้ง่ายๆ ดังนั้นคุณหมอจึงแนะนำว่า หากสาวคนไหนทานนมตอนเช้าไม่ได้ ก็ให้ทานโยเกิร์ตก่อนในตอนเช้า แล้วช่วงเที่ยง หรือค่ำ ค่อยรับประทานนมสดเสริมแคลเซียมอีกก็ได้ค่ะ

“ในโยเกิร์ตมีแคลเซียมไม่เท่านม ดังนั้นถ้าถามว่าทานโยเกิร์ตหนึ่งถ้วย จะได้ปริมาณแคลเซียมเท่ากับทานนมในปริมาณหนึ่งถ้วยด้วยมั้ย ก็คงไม่เท่า แต่ก็ถือว่าเป็นอีกทางที่ทำให้ได้รับแคลเซียม และอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าโยเกิร์ต ช่วยให้ลำไส้ ย่อยน้ำตาลที่มีในนมได้ ดังนั้นการทานโยเกิร์ตจึงเป็นอีกทาง ที่สร้างสมดุลให้ลำไส้ พร้อมที่จะรับประทานนมได้ง่ายขึ้น”

อีกสาเหตุที่โยเกิร์ตเหมาะกับสาวๆ คือ เรื่องความงามค่ะ แม้อาจารย์หมอนลินี จะบอกว่าเราไม่ได้กินโยเกิร์ตเพื่อให้สวย แต่นั่นก็เป็นผลพลอยได้ส่วนหนึ่งค่ะ

“ประโยชน์ของโยเกิร์ตสำหรับผู้หญิงนั้น คงต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าเราจะกินโยเกิร์ตเพื่อให้สวยนะคะ มันเป็นประโยชน์ทางอ้อมมากกว่า เพราะโยเกิร์ตช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ ดังนั้นถ้าระบบขับถ่ายเราดี สุขภาพก็จะดี ผิวพรรณก็จะผ่องใสตามมาค่ะ”

::ข้อคำนึง ก่อนเลือกซื้อโยเกิร์ต

- ไม่ควรลืมเด็ดขาด ที่จะสำรวจดูวันหมดอายุ ที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์

- บรรจุภัณฑ์ ต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ขาด ไม่รั่ว หรือบุบ หากมีสภาพไม่ดีก็อย่าเสี่ยงซื้อเพราะรอยตำหนิเหล่านั้นอาจส่งผลต่อคุณภาพของโยเกิร์ตที่อยู่ภายในได้

- หากเป็นโยเกิร์ตชนิดครีม ก่อนทานต้องพิจารณาดูว่ามีลักษณะข้น ไม่แยกชั้นระหว่างน้ำกับนม
หากเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่ม (นมเปรี้ยวแบบขวด) ต้องไม่มีตะกอนที่ก้นขวด

- แม้จะยังไม่หมดอายุ แต่ก่อนทานควรมีการสำรวจว่าผิดสี ผิดกลิ่นไปจากเดิมหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจเกิดการผิดพลาดที่ร้านค้า เก็บไว้ในอุณหภูมิไม่เหมาะสม จนทำให้โยเกิร์ตบูดเน่าก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ก็เป็นได้

manager.co.th




 

Create Date : 03 กันยายน 2553
4 comments
Last Update : 3 กันยายน 2553 9:50:51 น.
Counter : 1349 Pageviews.

 

 

โดย: นาฬิกาสีชมพู 3 กันยายน 2553 10:17:37 น.  

 

สนับสนุนๆ ของเค้าดีจิงๆ

 

โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ 3 กันยายน 2553 10:45:14 น.  

 

กินโยเกิร์ตแล้วจะช่วยทำให้ผอมได้ไหมน้อ??

 

โดย: แมวน้ำจ๊วบๆ 3 กันยายน 2553 12:31:20 น.  

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ชอบทานโยเกิร์ตเหมือนกันค่ะ

 

โดย: diamondsky 3 กันยายน 2553 19:45:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.