ช่วงสงกรานต์ ที่เมืองกาญจน์ ..
สวัสดีอีกครั้งครับ พอดีว่าช่วงนี้ทำงานหนักมากๆๆ เลยไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนเลย อาศัยช่วงเวลาว่างๆ(นิดหน่อย) ขอมา update blog บ้างซะเถอะ ก่อนที่ข้อมูลมันจะเก่าเก็บเกินไป อิอิ เรื่องของเรื่องในช่วงวันหยุด ที่ ย๊าว ยาว (สงกรานต์) ไม่รู้จะไปไหน นอนอยู่บ้านแบบ ซังกะตายมากเลยครับ พอ ออนเอ็ม เจอเพื่อนหมู เลยชวนกันออกไปเที่ยว .. ตอนแรกว่าจะไปภูกระดึง แต่คิดไปคิดมา ไปกันสองคนมันก็ดูไม่เข้าที่ อะนะ หาคนไปเพิ่มดีกว่า .. เลยไปหาเพื่อน รัช ที่สุพรรณ แต่มันก็ ดั๊น ไม่ว่าง ต้องส่งงานให้อาจารย์ ตอนนั้นก็นั่ง search ข้อมูลไปเรื่อยๆ ครับว่าจะไปที่ไหนดี
เลยเจอ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู .. น่าสนใจดีๆ ลองไปสักหน่อยจะเป็นไรไป ใกล้ๆ สุพรรณด้วยหละ วันรุ่งขึ้นเลย เตรียมตัวไปเลยครับ ได้เพื่อนร่วมทริปมาอีกคน เพื่อนที ที่บ้านอยู่ เมืองกาญจน์ พอดี
วิวสองข้างทาง ก่อนที่จะเข้าตัวเมืองกาญจน์ พอถึงเมืองกาญจน์ เพื่อนทีก็จัดการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเรียบร้อย เร็วสุดๆ แล้วก็ออกเดินทางกันเลย .. วันนี้ เราจะัไปสังขละกัน .. แต่ว่า คืนนี้ตรูจะนอนที่ไหนยังไม่รู้เลย เอาวะ ไปก่อนแล้วกันน่า ..
ออกจากเมืองกาญจน์ประมาณบ่ายสอง หรือบ่าย 3 ได้ครับ ระหว่างทางก็มีฝนตก ให้ตกใจเล่น สลับกับแดดออก สองข้างทางสวยงานและชุ่มชื่นมากทีเดียว
แม่น้ำสีเขียว ชื่อวัดแปลกดีก็เลยถ่ายมาให้ดูกันครับ เวลาประมาณ 5 โมงครึ่ง ก็ใกล้ถึงสังขละบุรีแล้วครับ แต่คงจะมืดก่อนเป็นแน่แท้ เลยลงไปเดินเล่นที่จุดชมวิวข้างทางเสียก่อน เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ อิอิ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ขัยรถ กิินลมชมวิวไปเรื่อยๆ หนะครับเพราะสองข้างทาง วิว ค่อนข้างที่จะสวยงาม เลยทีเดียวแหละ
จุดชมวิว นี่ก็สองข้างทางเหมือนกันครับ เวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ เราก็เดินทางมาถึงสะพานมอญแล้วครับ ที่นี่คนค่อนข้างเยอะทีเดียว รีสอร์ทเต็มทุกห้อง ... โอ้ คืนนี้เราจะทำอย่างไรดี จากสะพานมอญ ในมุมมองคุ้นๆ ตา บรรยากาศนั้นดูเงียบสงบมากๆ ครับ ไม้ใหม่ๆถูกนำมาวาง สีขัดกันกับความเก่ามากมาย ใกล้มืดแล้วครับ หลังจากขั้นพวกเราก็เดินไปที่อีกฝั่งของสะพานมอญ ลองชิมขนมจีนหยวกกล้วย ที่แม่ค้าบอกว่า ไม่กิน ถือว่ามาไม่ถึงสังขละ นะจ๊ะ ใช้ได้ครับ เบิ้ลไป สองเลย อิอิ
อร่อยนะ จะบอกให้ พอดีว่าวันนี้มีงานของชาวมอญพอดีเลย ชาวมอญเขาจะขึ้นจากเรือมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ก็เลยลองไปเที่ยวครับ เหมือนงานวัดทั่วๆ ไป มีการแสดงบนเวทีด้วยนะ
วันนี้ ขอลองเล่น โยนกาละมังหน่อย ครั้งละ 20 ถ้าโยนลงไปครอบพวกขวดน้ำได้พอดี ก็ เอาไปเลย ตามคาดครับ แห้ว ยากชิบเป้ง ..
ไม่ง่ายอย่างที่คิด ว่าแล้วก็ไปหาอะไรรองท้องกันสักหน่อยครับ ไปเจอร้านเด็ดมา อยู่ก่อนเข้าสังขละ เป็นร้านข้างทางครับ ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้ แต่จิ้มจุ่มอร่อยมาก สุดๆเลยหละ ว่าแล้วก็อยากจะกลับไปอีก ... หลังจากที่อะไรเรียบร้อยหมด พวกเราก้เริ่มตระเวนหาที่นอนครับ เพราะเริ่มจะดึกแล้ว (สามทุ่ม) ... งั้นไปนอนที่ อช.เขาแหลมกัน .. ทุกคน OK หมดเพราะว่าดูปลอดภัย และ รีสอร์ทแถวนี้มันก็เต็มหมด สักพักก็เดินทางไปถึงและกางเต๊นท์นอนกันเลยครับ
ตื่นมา 7 โมงเช้่า เตรียมลุยต่อ ..
จะบอกว่าอุทยานแห่งชาติ ที่นี่ ดีมากมายเลยครับ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยละ
ดอก ดาหลา ที่อุทยาน ดูแล้วสดชื่นขึ้นมาทันตา รุ่งเช้า กลับไปที่สังขละ เพื่อที่จะไปวัดหลวงพ่อ อุตตมะครับ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แวะถ่ายภาพข้างทางตามใจเรียกร้องครับ
โค้งค่อนข้างเยอะครับ ที่นี่ สูงจนเมฆอยู่ใกล้แค่เอื้อม ธรรมชาติสร้างสรรค์ ของจริงสวยกว่านี้มากมาย ก่อนเข้าตัวเมืองสังขละบุรี แวะวัดทางด้านบนก่อนเข้าเมืองก่อนครับ ชื่อวัดสมเด็จ วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้เห็นทิวทัศน์ได้ไกลสุดสายตาเลยหละ
วัดสมเด็จ พระองค์ใหญ่ที่เรียงราย สองข้างทาง หมู่บ้านด้านหลังวัดครับ หลังจากนั้นก้ไปที่วัดหลวงพ่ออุตตมะครับ มีชาวมอญมาทำบุญกันมากมายเลย .. เจดีย์ พุทธคยา อีกมุมหนึ่งครับ ชาวมอญกำลังเดินทางมาทำบุญกันครับ ด้วยแรงศรัทธา ชาวมอญเวลาที่เขามาทำบุญกัน เขาแต่งตัวกันงดงามมกๆเลยครับ หลังจากนั้นก็เตรียมตัวไปที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ ครับ
สะพานมอญจากมุมไกลๆ แม่น้ำที่เงียบสงบ ออกเดินทางได้ไม่นานก็ถึงแล้วครับ ด่านพระเจดีย์สามองค์ เชื่อว่าคนไทยทุกๆ คนรู้จักแน่ๆ ..
เจดีย์สามองค์ องค์เล็กๆ ครับไม่ใหญ่อย่างที่คิด ที่ด่านมีตลาดขายของและร้านอาหารพอสมควรครับ ผมตัดสินใจซื้อของเล็กๆ น้อยๆเป็นที่ระลึก แล้วเราก็ไปทานอาหารกลางวันกันที่นี่แหละครับ
ดาราพม่า สวยใช่เล่นนะเนี่ย ขอเดินไปดูด่านฝั่งพม่าซักหน่อย ทำไมมันดูเงียบเหงากันจัง
พม่าจ้า อ่านไม่ออก เวลาประมาณเที่ยงๆ ได้เวลาออกเดินทางไปตามจุดประสงค์หลัก ของ trip นี้.. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู .. โฮ้ มันไม่ใช่อย่างที่คิดแล้วหละ จอร์จ ทางลูกรังอย่างนี้ เก๋งอย่างเราจะไปได้ หรือ .. เอ้า ก็ลองดู ..
เอารถมาทรมานจริงๆเชียว แค่นี้ยังชิวๆ ระหว่างทาง เป็นหลุมเป็นบ่อ ขึ้นเนินบ้าง ลงเนินบ้าง แต่เพื่อนหมู ก็สามารถขับรถเข้ามาได้อย่างสบายๆ เทพว่ะเพื่อน !!
ขั้นตอนแรกนั้น เราสอบถามถึงการที่จะเข้าไปที่ถ้ำชื่อดัง ถ้ำนกนางแอ่น และถ้ำเสาหิน พบว่า ต้องไปตอนเช้าและต้องเหมา 4wd เข้าไป เราซึ่งมากัน 3 คน รู้สึกว่าไม่คุ้มอย่างเน่นอน adventure ขนาดนี้ต้องไปกันเยอะๆ จะได้ช่วยกันได่ถ้ามีอะไร เราเลยถอยไปก่อนครับ กะว่าครั้งหน้าจะมาใหม่(หน้าแล้ง) แต่ยังมี high light อีก 1 ที่คือ น้ำตกนางครวญ .. เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว ขอปีนน้ำตกก่อนละกัน
ถึงแล้วครับท่าน บรื้นๆ แล้วก็ถึงทางเข้าน้ำตกครับ น้ำตกที่นี่เขาบอกว่ามีน้ำตลอดปี มีอยู่ สี่ชั้น ทางลื่นมากๆ ครับ ผมจับกบไปหลายครั้งมาก แต่ก็ยังสู้นะ แฮ่ๆๆๆ
หินปูนแบบนี้ไม่มีลื่นครับ ลุยน้ำ ข้ามฝั่งไป - มา หลายรอบมากครับ ชั้น 1 กับชั้น 2 นี่ยังไม่เท่าไหร่ แต่ชั้นสามนี่สิ สวยงามลงตัวมากมายครับ ประดับด้วยต้นไม้ป่า และโขดหิน ซึ่งวางตำแหน่งได้สวยมาก อย่างกับมีใครมาจัดสวนไว้หนะ
อีกอย่าง คนไม่มีเลยครับ private สุดๆ
น้ำตกชั้นสาม ธรรมชาติ นักจัดสวนชั้นยอด .. สูดความสดชื่นให้เต็มปอด กับน้ำตกในป่า(ไม่ค่อย)ลึก ไม่อยากจะบอกว่าสวรรค์กลั่นแกล้ง กำลังดื่มด่ำกับความสดชื่นของน้ำตกอยู่ดีๆ ฝนตกครับ ฝนตก ทำผมตัวเปียกเป็นลูกหมาเลยทีเดียว รีบเดินออกจากป่าทันทีทันใดครับ เพราะกลัวจะลื่นไปมากกกว่าเก่าหนะ .. จับกบไปอีก 1 ที ระบมไปหมดแล้วตรู ..
ออกเดินทาง เวลา 5 โมงกว่าๆ เดินทางออกจากอุทยานครับ แล้วเราจะมาเยี่ยมอีกนะ ลำคลองงู (ครั้งหน้าตรูขอ 4wd) เป้าหมายต่อไป น้ำตกเกริงกระเวีย ครับ เข้าถึงง่ายมากๆ อยู่ติดถนนเลย
น้ำตกสวยข้างทาง หินสวยน้ำใสเข้าข่าย perfect ใกล้มืดแล้ว จึงทานอาหารเย็นกันที่น้ำตกนั้นแหละครับ (ยุงเยอะมากๆ) พออิ่มกันเรียบร้อยแล้วก้เตรียมเดินทางไปที่ตัวเมืองกาญจน์ .. คืนนี้จะกลับไปนอนที่กาญจน์ เพราะเราจะไปนั่งรถไฟเล่นกัน ..สักหน่อย
วันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามาแต่ไก่โห่เลยครับ เพื่อเตรียมที่จะไปนั่งรถไฟ บนทางรถไฟสายมรณะ .. รถออก ก่อน 06.00 ครับ เลยต้องไปก่อน ตกใจกับค่าโดยสารครับ .. 0 บาท โอ้แม่เจ้า นั่งรถไฟฟรี ..
0 บาทเท่านั้น รถยังไม่ออกเลยครับ รถออก late มากๆ แต่ไม่เป็นไรยังเช้าอยู่ พอเริ่มออกเดินทางก็นั่งไม่อยู่กับที่เลยครับ ถ่ายรูปตลอดเลย อิอิ บรรยากาศดีมากจริงๆๆ
บนสะพานข้ามแม่น้ำแคว แสงแดดยามเช้า สองข้างทางที่เป็นทุ่งนาและทิวเขา แสงแรกของวันใหม่ ประทับใจมากครับ ... นั่งผ่านเทือกสวนไร่นาของชาวบ้าน .... กินลมชมวิว มีความสุขจริงๆ .. ช่วงขึ้นสะพานครับ และแล้วก็ถึงปลายทางครับ สถานีน้ำตก พวกเรากะว่าจะไปที่น้ำตกไทรโยคน้อยกัน มีรถสองแถวครับ คนละ 10 บาท
สถานีน้ำตก ที่สถานีรถไฟ ออกมาได้ไม่นาน ก้ถึงแล้วครับ น้ำตกไทรโยคน้อย .... เอ่อ ไม่นึกว่าจะน้อยขนาดนี้หนะ นึกว่าน้ำตกปลอม ..
ป้ายน้ำตก ตรงป้ายน้ำตกนั้น ปรากฏชื่อถ้ำวังบาดาล น่าสนใจครับว่าเป็นอย่างไร เลยเดินเข้าไปดูสักหน่อย มีค่าเข้า 30 บาทครับ เจ้าหน้าที่จะพาเข้าไปดูเอง ..
เดินเข้าไปในป่า ประมาณ 1 กิโลมั้งครับ(ลืมอะ) ป้ายชื่อ ถึงแล้วครับถ้ำวังบาดาล มีเจ้าหน้าที่รออยู่สองท่าน เด็กกับผู้ใหญ่ อัธยาศัยดีมากมาเลยครับ จะบอกว่าถ้ำนี้ลื่นมากๆ เลย ผมจับกบตั้งแต่ยังไม่ำด้เดินเข้าถ้ำเลยอะ
ก่อนเข้าถ้ำต้องไหว้พระก่อนนะ ห้องโถงใหญ่ของถ้ำ ปรากฏหินรูปหัวช้าง หินงอกหินย้อยภายในถ้ำครับ .. มาตรวัดระดับน้ำ เมื่อหลายพันปีก่อน .. ถ้ำนี้น้ำเคยท่วมมาถึงระดับนี้เลยหรือนี่ .. หินรูปน้ำตก ห้องโถงอีกชั้นหนึ่ง หินรูปเด็กครับ (แอบหลอนน่ะ) การปรากฏตัวของแมงมุมถ้ำ ตัวเขื่อง กับลูกๆ ถามเจ้าหน้าที่ ว่าทำไมถ้ำนี้ถึงชื่อว่าถ้ำวังบาดาล .. เพราะว่าถ้านี้มีถ้ำน้ำอยู่ด้านล่างครับ แต่ว่าตอนนี้ ปิดตายไปแล้ว .... เพราะว่าเมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวเข้าไป แล้วหลงอยู่ข้างใน สามวัน !!
ทางลงถ้ำน้ำ ขึ้นแล้วครับ จากนั้นก็เดินกลับมาด้านนอกครับ ขอไปชม ตาน้ำของน้ำตกไทรโยคน้อยหน่อย น้ำใสน่าเล่นมากเลยครับ เสียดายว่าคนเยอะไปหน่อย
ตาน้ำ ที่มาของน้ำ .. แฮ่ๆ ไหลอย่างกับฉี่ ทานอาหารกลางวันที่น้ำตก แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับครับ
แดดร้อนเปรี้ยงเลย แวะไหว้พระอีกถ้ำหนึ่งก่อน ปิดท้่ายด้วยน้ำตกไทรโยคน้อยครับ .. คนตรึม .. เอาหละสิ หลังจากนั้นไม่รู้จะกลับกันยังไง ไม่เคยมาซะด้วย เลยนั่งรอรถไปเรื่อยๆ ครับ (ร้อนจิงๆ อากาศนี่ 40 องศาได้มั้ง) ได้รถแดงครับ นั่งเข้าเมืองกาญจน์ ถึงจุดหมายอย่างสวัสดิภาพ หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้า กทม กันครับ โดยไม่ลืมที่จะำำไปก่อเจดีย์ทรายกับเพื่อนๆ ในวันสงกรานต์ด้วย
ทริปที่แสนสนุก และประทับใจ จบลงไปอีกหนึ่ง ..
Create Date : 04 ตุลาคม 2552 |
|
26 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 17:35:26 น. |
Counter : 2121 Pageviews. |
|
|
|
ขนมจีน..แม้จะหม่ำไปมั่งแล้ว..แต่ก็ยังน่าหม่ำ ท่าทางจะอร่อยนะคะ..
ลองไปนั่งรถไฟเล่นแถว ๆ เมืองกาญจน์มั่งดีกว่า..เนอะ..