เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ กับน้ำใจรายทาง..
กลับมาแล้วครับกลับมาแล้ว ... ผมไม่ได้ไปไหนไกลครับวนเวียนอยู่แถวนี้เช่นเดิมครับ ^^ แค่งานยุ่งมากๆๆๆ แต่นั้นเอง คอมก็ดันมาเจ๊งเสียอีก .. ตอนนี้งานเริ่มเบาบางแล้ว คอมก็ซ่อมแล้ว .. ได้เวลากลับมาเล่าเรื่องอีกครั้งแล้ว เย้ ..
สืบเนื่องมาจากปีก่อนๆ ..ผมดูทีวี ช่อง 7 .. รายการของคุณสัญญา เค้าพาไปรีสอร์ทหรู และสุดแพง(sixth sense นั้นเอง) สะดุดตากับวิวครับ .. วิวสวยมาก.. ได้ทราบชื่อเกาะ .. "เกาะยาวน้อย" เกาะอะไรเนี่ย ชื่อตลกดี .. ไป search อากุ๋เพิ่ม ดันมีเกาะยาวใหญ่ เกาะไข่ ซะอีกด้วย ... อยากไปดูวิวสวยๆ แบบนั้นบ้างจัง.. แต่ให้ไปนอนรีสอร์ทระดับนั้น เสียดายเงินแย่ --" คนไป ค้นมา ที่เกาะนี้เขาดังมากเรื่องโฮมเสตย์ ได้รับรางวัลการันตีมามากมาย .. ผู้คนมีน้ำใจ เป็นชุมชนมุสลิมที่อยู่กันอย่างสงบสุขและเรียบง่าย .. ได้ยินมาแบบนี้ ...ต้องร้อง ว้าว ..โอเคเลยครับ ช่วงนี้เริ่มเบื่อสังคมเมือง.. ทำงานด้วยกัน ..ควรที่จะร่วมมือกันก็ไม่ทำ ..เอาแต่โจมตีกัน(พอแล้วเดี๋ยวยาว..) ชีวิตขาดความสุขไปนาน .. ให้ชาวบ้านที่นี่เป็นที่พักใจก็ดีไปอีกแบบ.. ..
ชายหาดบริเวณจังหวัดพังงาครับ วันที่ 17 ก.พ. 2554
พวกเราออกเดินทาง เวลาประมาณ 08:40 ครับ เครื่องจอดที่สนามบินภูเก็ต เวลาประมาณ 10:00 น. ครับ พอถึงแล้ว เราต้องรีบทำเวลา เพื่อไปขึ้น airport Bus ครับ โชคดีที่ขึ้นทันพอดี .. รถออกเวลา 10.30 น. ครับโชคดีไป .. เราตั้งใจที่จะไปลงรถกันที่ "อนุสาวรีย์ ท้าวเทพกษัตรี" เพื่อจะต่อสองแถวไปที่ท่าเรือบางโรง อีกทอดหนึ่งครับ.. แต่เราก็ไม่เคยไป ไม่รู้จักทาง เลยได้แต่บอกให้พี่คนขับ เค้าแวะจอดให้ด้วยครับ เวลาประมาณ 11 : 05 น. เราก็มาถึงแล้วครับ พี่กระเป๋ารถเมล์ อธิบายเราว่า เราควรต้องไปรอรถที่ไหน และรถจะมาในเวลาใด ... ขอบคุณมากคร๊าบพี่...
เราแวะทานข้าวกันก่อน ที่น้านขายข้าวมันไก่ / ข้าวหมกไก่ข้าง เซเว่น ตรงอนุสาวรีย์ครับ .. และก็ได้พบเจออัธยาศัยไมตรีที่ดีของคนที่นี่อีกครั้ง.. หลังจากสั่งข้าวเรียบร้อย ..
พี่เจ้าของร้าน : น้องจะไปไหนกันหรอ .. เรา : ไปท่าเรือบางโรงครับ พี่เจ้าของร้าน : หรอ งั้นนั่งรอที่ร้านพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ช่วยดูรถให้ หลังจากนั้น พี่เขาก็ไปบอกคนในร้านอีก 3 คน ให้ช่วยดูรถสองแถวที่เราจะขึ้น ด้วย .. เราทานข้าวกันเสร็จแล้ว .. ตอนนี้เวลาเที่ยงตรง .. รถยังไม่มาสักที .. พี่เจ้าของร้าน : วันนี้แปลกๆ นะน้อง ปกติ รถมันจะมาทุกชั่วโมง แต่ไม่เป็นไร .. เดี๋ยวอีกสักพักคงมาแล้วล่ะ ..
บ่ายโมง .. พี่เจ้าของร้าน : .. เดี๋ยวอีกสักพักคงมาแล้วล่ะน้อง .. รออีกสักนิด ..
บ่ายสองโมง ลุงจุน เจ้าของร้าน มานั่งรอรถเป็นเพื่อนอีกคนครับ .. รถคันแล้ว คันเล่า .. แต่ก็ไม่มาสักที ....
บ่ายสองครึ่ง : ร้านขายข้าว ขายทุกอย่างหมดเกลี้ยง.. ปิดแล้ว .. ลุงจุน เจ้าของร้าน ตัดสินใจขับรถเก๋งมาส่งเราที่ท่าเรือ แบบฟรีๆเลยครับ เราช่วยยกข้าวของ หม้อ กะทะ ขนใส่รถลุงเป็นการตอบแทน (ถึงมันจะทดแทนกับคาน้ำมันไม่ได้ก็เถอะ) ประทับใจลุงจุนมากครับ (โอย เจอคนใจดีอีกแล้ว)
สรุปว่า .. เรานั่งรอรถกัน 3 ชั่วโมงครึ่ง ครับ.. ^^ และในที่สุดเราก็มาถึงท่าเรือบางโรงกันเรียบร้อยแล้ว..
ท่าเรือบางโรง และป่าชายเลน เราขึ้น speedboat รอบบ่ายสามโมง มาที่เกาะยาวน้อยกันครับ สนนราคาค่าโดยสารนั้นอยู่ที่ 200 บาทต่อคน กับเวลาสั้นๆ ประมาณ 20 นาที .. เรือออกเดินทาง น้ำทะเลนิ่ง และสงบมาก...
น้ำทะเลเรียบราวกระจก เดินทางออกมาได้สักพัก ก็มาถึงเกาะยาวใหญ่แล้วครับ .. เรือจะแวะจอดที่นี่ก่อนครับ ..และค่อยไปจอดที่เกาะยาวน้อย ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน .. พอเราถึงเกาะยาวน้อย .. ก็ตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์ทันที โดยเช่าในราคา 250 บาท/วัน (เกียร์ auto ครับ)
เส้นทางในเกาะยาวน้อยนั้นค่อนข้างขับขี่ง่าย ไม่ซับซ้อนมาก .. ผมลองขี่มอเตอร์ไซค์มาเรือยๆ ผ่านสวนยางพารา ขึ้นเขา..ลงเขา เลียบหาด และในที่สุดก็ถึงแล้วครับ ..
"สันติสุขรีสอร์ท"
รีสอร์ที่นี่ ผมประทับใจตั้งแต่โทรไปจองแล้วครับ .. ไม่ต้องโอนเงินเลยสักบาท ..^^ และเบื้องหน้า ... วิวป่าเกาะ ครับ ในที่สุด เราก็ได้เห็นแล้ว .. ภาพจริง เหล่าเกาะแก่งที่เห็น จะใหญ่กว่าในรูปครับ เต็มตาดีครับ ..
แปลกใจนิดนึงว่าชายหาดวิวสวยๆ แบบนี้เนี่ย ไม่ยักมีคนเลยนะ ทุกสิ่งทุกอย่าง เงียบสงบ .. คงเป็นเพราะว่าที่นี่ยังไม่เป็นที่นิยมกระมัง เพราะว่าน้ำมันไม่ใส เหมือนกับเกาะอื่นๆ
หาดทรายยามน้ำลง สามารถเดินลงไปได้นับร้อยเมตรเลยครับ จากนั้นเราก็ออกตระเวนขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะกันครับ .. ที่เกาะนี้ก็มีตลาด มีเซเว่น มีร้านขายเสื้อผ้าและของ ที่ระลึก มีวิวสวยๆ ให้ถ่ายภาพเยอะแยะเลยครับ .. แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเลย ^^
เราทานข้าวเย็นกันที่ร้านชื่อดังทางด้านล่างของเกาะ(อยากรู้ว่าร้านอะไรถามทีหลังนะครับ) แต่ว่าก็ค่อนข้างผิดหวังเพราะว่าราคาแพงและไม่อร่อยซะเลยครับ.. กลับมาที่รีสอร์ทก็ได้เวลานั่งเล่น ดูละคร ^^ และก็ผลอยหลับไปด้วยความเพลีย .. เดินทางมาทั้งวัน ..
18 มีนาคม 2554
เราตื่นกันแต่เช้า .. เพื่อที่จะมาดู พระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางเกาะแก่งของ จังหวัดกระบี่ .. ไม่ผิดหวังครับ .. วิวนี้เป็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งนึงที่เคยดูมาในชีวิตเลยครับ ....
ตะวันดวงโตมากครับ
ใหญ่เท่าเรือเลย ^^
ทะเลที่นี่ราบเรียบมากครับ
สันทราย สวยไปอีกแบบครับ
งดงามเหนือคำบรรยาย ^^
แสงสีทอง.. เรากลับมาที่รีสอร์ท เพื่อเตรียมตัวไปพักที่โฮมเสตย์ที่เราได้ทำการติดต่อไว้ครับ โดยเราทานข้าวเช้ากันที่นี่ครับ (อร่อยและราคาถูกดีครับ) โดยอาหารเข้าของเราคือไก่ทอด กุ้งผักซอสมะขาม และ ปลานึ่งมะนาวซึ่งตัวละ 100 บาทเองครับ
ที่รีสอร์ทครับ
และแล้วเวลาประมาณ 10.30 น. ทางโฮมเสตย์ก็มารับเราแล้วครับ เราได้ไปพักที่บ้านของบังญ๋าน และ จ๊ะหยาม ซึ่งอัธยาศัยไมตรีดีมากครับ จ๊ะหยามเล่าให้ฟังหลายเรือง เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่เกาะนี้ .. และเราก็ได้ทราบมาว่า นักท่องเที่ยว .. หายไปจากโฮมเสตย์เกาะยาวน้อยมาหลายเดือนแล้ว .. โดยก็ไม่รู้ว่าทำไม ความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ก็ลดลง ได้ฟังแล้วก็สงสารชาวบ้านครับ ..
และก็เล่าถึงประวัติของบ้านที่เราเข้าไปพักครับ ว่าปลูกให้กับแจกที่มาพักโดยเฉพาะครับ หลังใหญ่ และดีมาก ห้องนอนเป็นแอร์ทั้งหมด ^^
บ่้านหลังใหญ่ เที่ยงแล้ว จ๊ะหยามเอาอาหารมาเสิร์ฟ เป็นปลาชิ้นใหญ่ กุ้งตัวใหญ่ และอาหารอื่นๆอีกครับ อร่อยมากกินกันจนอิ่มแปล้เลย ^^ จัดแจงเก็บจานชามกันเสร็จ ก้ไปนอนไกวเปลคุยเล่นกันใต้ถุนบ้านครับ
ประมาณบ่ายสาม ทางบังญ๋านเค้าจะพาออกไปเที่ยวรอบเกาะครับ ผมก้าวขาลงจากบ้าน ขึ้นรถ .. หันหลังไปเห็นว่าประตูบ้านยังไม่ปิดเลย จึงถามบัง ว่าเดี๋ยวขอขึ้นไปปิดประตูบ้านก่อนได้มั้ย เพราะว่าไม่มีคนอยู่บ้านเลย บัง บอกว่าไม่ต้องปิดหรอก ของไม่หาย .. เราก็เลยปล่อยเลยตามเลยครับ .. ไม่ปิดก็ไม่ปิด ^^
บัง เล่าว่า อยู่ที่นี่ กุญแจรถที่ขับอยู่.. ตั้งแต่ใช้มายังไม่เคยถอดออกจากรถเลย กลัวกุญแจหาย ไม่ได้กลัวรถหาย ^^
ชมวิถีชีวิตชาวบ้านครับ .. เพลินๆ ดี
กระชังปลาของชาวบ้านครับ
มะพร้าว
ที่เกาะนั้นมีทุ่งนาด้วยครับ ชาวบ้านจะทำนาในช่วงฤดูฝนครับ ช่วงนี้ฤดูแล้งเลยทิ้งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าครับ
ควายครับ บนฝั่ง การไถนาอาจเปลี่ยนไปใช้รถไถกันหมดแล้ว แต่ที่นี่ยังทำนาในรูปแบบดั้งเดิมอยู่ครับ ^^ ตกเย็น บังญ๋านพาไปดูพระอาทิตย์ตกที่สวนสาธารณะครับ.. บรรยากาศสวยงามมากครับเห็นหมูเกาะน้อยใหญ่ของอ่าวพังงา ที่นี่มีชาวบ้าน ทั้งลูกเด็กเล็กแดงมาเต้นแอโรบิกยามเย็นกันเยอะเลย น่ารักมากๆ
สะพาน ที่สวนสาธาณะ
พระอาทิตย์ตก
บรรยากาศยามเย็นที่สวยงามมาก
น้องๆ ชาวเกาะยาวครับ
พระอาทิตย์ตกแล้วครับ เรากลับมาที่บ้านพักกันครับ ประตูยังเปิดอยู่เช่นเดิม ข้าวของทุกอย่างอยู่อย่างปกติ ^^ วันนี้ ทางจ๊ะหยามทำอาหารให้อลังการเช่นเคย พิเศษมากที่วันนี้มีปู .. ปูที่นี่เนื้อแน่นมากครับ อร่อยมากๆๆๆ ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครก็ชมใน Guestbook ของบ้านนี้ ^^
หลังจากทานอาหารอันเอร็ดอร่อย ก็ได้เวลานั่งคุยกันหน้าทีวี เราถามทางบังญ๋านว่าถ้าพรุ่งนี้เราจะไปนอนที่เกาะยาวใหญ่ ต้องทำอย่างไรบ้าง .. บังญ๋านช่วยหาที่พักให้ครับ (และก็ถูกใจเรามาก..) เราเข้านอนกันเวลาประมาณเที่ยงคืนด้วยความสุข .. แต่ก็ใจหายว่าพรุ่งนี้เราต้องจากที่นี่ไปแล้วสินะ
19 ภุมภาพันธ์ 2554
หกโมงเช้า เราตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้งครับ จุดนี้ เป็นอีกจุดหนึ่งต่างกับเมื่อวาน ..เบื้องหน้า เป็นเกาะห้อง และเกาะแก่งน้อยใหญ่ของทางกระบี่ครับ
เกาะแก่งน้อยใหญ่ สลับกันไปครับ
ตะวันดวงโต โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแล้ว..
เบื้องหน้าคือเกาะห้อง จ.กระบี่ครับ
... แสงสีทอง ฉายเข้ามายังฉากหน้าที่เป็นหมู่เกาะ ดูอย่างไรก็ไม่เบื่อ ..
เรือลำน้อยกับภูเขารูปร่างแปลกตา.. หลังจากนั้นบังญ๋านก็พาเราไปทานข้าวเช้าครับ เป็นร้านอาหารของชาวบ้าน มีเมนูให้เลือกหลายรายการเลย มีข้าวยำ ข้าวหมกไก่ ขนมจีน วุ้นเส้น เราเก็บข้าวของและเตียมตัวไปเที่ยวกันครับ วันนี้เราจะไปเกาะห้อง กัน
และเราจะขึ้นเรือกันที่นี่ครับ ..
หลังจากขึ้นเรือ บังญ๋านพาเรามาแวะที่กระชัง บ้านมังกรครับ มีปลาหลากหลายและกุ้งมังกรตัวโตๆ ครับ.. ปลาบางตัวนี่มันควรจะอยู่ที่ปะการัง กลายเป็นมาอยู่ในกระชังซะงั้นนะครับ
บ้านมังกรฟาร์ม..
เหล่าปลาสีสวยๆ เชื่องมือกันหมดแล้วครับ
ปลาปั๊กเป้า ในอุ้งมือผมเองครับ
มีปลาฉลามด้วยครับ
ปลาปั๊กเป้าครับ หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางสู่เกาะห้องครับ รอบข้างเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ ที่จัดเรียงสวยงามราวกับมีคนมาตั้งไว้ครับ
หมู่เกาะที่ จ.กระบี่ และแล้วก็ถึงเกาะห้องแล้วครับ..
เกาะห้อง กับน้ำทะเลสีเขียวมรกต
อ่าวภายในเกาะห้องครับ
ประตูห้องครับ เราจะแวะเล่่นน้ำกันที่หาดนี้ครับ ..น้ำค่อนข้างใสและมีชายหาด เหมาะกับการเล่นน้ำครับ ..
เหล่าเรือหางยาว ที่เกาะห้อง
น้ำค่อนข้างใสเลยครับ
....
วันนี้ คนไม่เยอะเท่าไหร่ครับ สบายๆ และหลังจากนั้นเราก็ลงเล่นน้ำกันครับ น้ำน่าเล่นอย่างนี้ อดใจไม่ไหว ^^ ช่วงเที่ยง เราพักทานข้าวกันที่อีกหาดของเกาะห้องครับ ปูเสื่อทานภายใต้หินผา บรรยากาศสุดยอดมาก..
ที่พักทานข้าว..
หลังจากนั้นเราก็ล่องเรือไปที่เกาะผักเบี้ย และเดินทางไปที่เกาะยาวใหญ่ ซึ่งจะเป็นที่พักในคืนนี้ของเรา
เกาะแก่งและน้ำทะเลสีฟ้าอ่อน
อากาศดี ..น้ำทะเลนิ่งสงบ ไม่มีคลื่นใดๆเลย และแล้ว เราก็ถึงท่าเรือที่เกาะยาวใหญ่ครับ .. เราเดินทางไปที่อ่าวโล๊ะจาก อีกด้านของเกาะ เพื่อที่จะไปพักรีสอร์ที่ติดต่อไว้ครับ .. .."ฟ้าใส รีสอร์ท" .. พอมาถึง ก็ชอบแล้วครับ สองสาวเจ้าของรีสอร์ทให้การต้อนรับดีมาก เรานั่งรอเข้าห้อง ..อยู่ที่ร้านอาหารและนั่งเลือก postcard ไปพลางๆ (ที่นี่ Check out ได้ถึงบ่ายสามครับ)
บังกะโล และห้อง OK เลย คุ้มกับราคา 500 บาทมาก สะอาดและหอมด้วยครับ ^^
อยู่คิดหาดโล๊ะจาก หาดที่น้ำใสและน่าเล่นมาก
ใต้ถุนบ้านเป็นป่าชายเลนครับ เวลาที่น้ำขึ้น น้ำจะท่วมหมดเลย
.. เราออกไปเดินเล่นที่หาดกันครับ หาดที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นธรมชาติอยู่ สังเกตจากปลาดาวที่มีเป็นจำนวนมากจริงๆ
นับดาว..
ที่เกาะนี้ค่อนข้างเงียบสงบมาก เวลาเดินช้า.. พวกเรานั่งเล่นกันอยู่ที่ชายหาด เวลาเย็นแล้วครับ .. ถึงคราวที่พระอาทิตย์จะตกอีกครั้ง
ยามเย็น
ด้านหน้าเป็น จ.ภูเก็ตครับ
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วครับ
...
หลบซ่อนหลังยอดเขา เราได้คุยกับพี่สุ่ย เจ้าของรีสอร์ทครับ บอกว่าพรุ่งนี้จะไปนอนภูเก็ต แต่ไมรู้จะไปนอนที่ไหน พี่เขาเลยจัดแจงให้เรียบร้อยเลยครับ ^^ ขอบคุณมากครับ .. เย็นวันนั้นเราทานอาหารกันที่รีสอร์ทครับ ..ปลาทอด กุ้ง เนื้อ หลายอย่างครับ อร่อย.. และทุกอย่างถูกมาก ถูกเหลือเชื่อครับ .. กับข้าวจานใหญ่ๆ อย่างละ 50 -60 เอง ทั้งๆที่กุ้งเต็มจาน เรานอนเปลญวณอยู่ริมหาด เดินเล่นสักพักท่ามกลางความเงียบสงบ ... ที่หาไม่ได้ง่ายจากที่อื่น
20 กุมภาพันธ์ 2554
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของ Trip เรานอนตื่นสายและตั้งใจที่จะเล่นน้ำกันหน้าหาดครับ .. น้ำใสน่าเล่นมาก.. ยามน้ำขึ้นเต็ม หาดจะสวยเป็นพิเศษเลยครับ ..
หาดสวย
น้ำขึ้นมาที่รีสอร์ทครับ
เวลาประมาณบ่าย 2 เราก็เตรียมตัวเก็บข้าวของเพื่อที่จะขึ้นเรือรอบบ่าย 3 โมงกลับฝั่งแล้วครับ.. คืนนี้เราจะนอนที่เมืองภูเก็ตกันครับ .. ในใจคิดว่ายังไม่อยากกลับเลย เพราะชักจะติดใจบรรยากาศและ ความเงียบสงบของที่นี่.. ซะแล้วสิ
... 21 กุมภาพันธ์
เราออกเดินทางตั้งแต่ 06.30 จากสนามบินภูเก็ต และเดินทางไปทำงานต่อในทันที .. กลับไปใช้ชีวิตเดิมๆ Y-Y
ก็ได้แต่หวังว่า..เราจะมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครับ .. กลับมาคิดดู ทริปที่แสนประทับใจทริปนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มี น้ำใจ ของผู้คนที่เราเจอระหว่างทาง ^^
ขอขอบคุณ - พี่คนขับ และกระเป๋ารถเมล์ Airport Bus - ลุงจุน และพี่แดง เจ้าของร้านข้าวแกง - บังญ๋าน และจ๊ะหยาม - สองสาว (พี่สุ่ย และน้อง) สองสาวเจ้าของฟ้าใสรีสอร์ท .. ที่ทำให้ทริปนี้สวยงามและสมบูรณ์ครับ
Create Date : 12 มีนาคม 2554 |
|
39 comments |
Last Update : 12 มีนาคม 2554 21:37:56 น. |
Counter : 22175 Pageviews. |
|
|
|
รบกวนถามหน่อยนะค่ะ
โฮมสเตย์ที่ไปพักราคาเท่าไหร่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ