ใกล้รุ่ง ทุ่งนา ยามหน้าหนาว
แหงนดูดาว ดวงเดือน เลือนลับฟ้า
ประกายพรึก เดียวดาย ในสายตา
ก่อนจากลา ลับไป เพียงไม่นาน
ดวงอาทิตย์ สาดแสง ทุกแห่งหน
ขับไล่ความ มืดมน ให้พ้นผ่าน
หมอกเลือนราง จางหาย ไปตามกาล
ความอบอุ่น ซึมซ่าน สู่หัวใจ
หยาดน้ำค้าง แวววาว ราวหยาดเพชร
ดุจดั่งเกล็ด เก็จแก้ว แวววาวใส
แลระยับ จับตา ตราฤทัย
เหมือนอยู่ใน สรวงสวรรค์ ช่างฝันดี
คงจะเข็ดไปอีกนานกับการแต่งกลอนในระยะเวลากระชั้นแบบนี้ กลอนแค่ 3 บท แต่งเป็นอาทิตย์กว่าจะจบ กรรม! เซ็งตัวเองจริงๆ ทั้งแต่งยากแต่งเย็น แต่งให้ได้ดั่งใจก็ยากแสนยาก สรุปว่า ได้แค่นี้แหละ แหะๆ
รู้สึกว่าช่วงนี้สมองด้านพัฒนาการ เอ๊ย! จินตนาการ ฝ่อ และ เสื่อม อย่างบอกไม่ถูก คิดอะไรที่มันสร้างสรรค์ไม่ค่อยจะออก เอ หรือว่าเราจะแก่แล้วหว่า
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.56 พาเพื่อนไปหาหมอมา ตอนแรกหมอนัดวันที่ 31 ก.ค. แต่เจ้าหน้าที่โทรมาเลื่อนตอนเย็นวันที่ 30เพื่อนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บอกว่าฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของมันหรอก อ้าว! ทำไมจะไม่เข้าใจ มันคงจะเป็นอารมณ์ประมาณ เจอหนังสือที่อยากได้มากๆ แล้วมีคนซื้อตัดหน้า ประมาณนั้นมั๊ง แหะๆ ล้อเล่น คงอารมณ์ประมาณตอนที่เพื่อนต้องผ่าตัดแต่ฉันต้องนอนเดี้ยงอยู่คนละโรงพยาบาล อยากจะไปเยี่ยมก็ไปไม่ได้ อารมณ์ประมาณรอคอยอะไรมานานๆ พอถึงวัน ถึงเวลา ดันชวดซะอย่างงั้น มันก็คงจะรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก ฉันว่าฉันเข้าใจน่า จริงๆ นะ
เพื่อนบอกว่าอยากถอดปลอกคอจะแย่แล้ว อยากหาย อยากใช้ชีวิตตามปกติ แล้วก็ร้อง ร้อง และร้องจนตาบวม ฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งทิชชูให้อย่างเดียว แล้วก็ทั้งเอ็ด ทั้งปลอบต่อไปจนกว่าวมันจะหยุดร้อง
วันที่ 1 รถติดมากกกกกกกกก ออกตั้งแต่ 8.40 ไปคาอยู่ตรงทางด่วนถนนบรมราชชนนี ทั้งเวียนหัว ทั้งมึนอย่างบอกไม่ถูก อาการเมารถกำเริบจนอยากจะเดินไปรอข้างหน้าแทนการนั่งอยู่ในรถ กว่าจะถึงโรงพยาบาลก็เกือบเที่ยง เดินเป๋ลงจากรถ อาการย่ำแย่ยิ่งกว่าคนป่วย กว่าจะได้หาหมอกว่าจะได้กลับมาผจญรถติดเหมือนเดิมก็ตอนบ่าย2 พี่ที่พาไปก็พาแวะกินข้าว กินไม่ลงอ่ะ สภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันเป็นอย่างงี้นี่เอง ต้องทนกล้ำกลืนนั่งรถกลับมา กว่าจะถึงที่พักก็ปาไปเกือบ 6 โมง โอย แย่!
ตอนนี้จึงต้องทำหน้าที่ปุ๋ยซาลอนไปพลางๆ เพราะเวลาใส่ปลอกคอเพื่อนจะสระผมเองไม่ได้ ต้องนอนสระ ครั้งแรกๆ เปียกทั้งคนถูกสระ ทั้งคนสระ ทั้งพื้นห้อง น้ำนองเต็มตลิ่งไปหมด ใช้เวลาเป็นชั่วโมง หลังๆ มาเริ่มชำนาญการ สระได้อย่างเรียบร้อย ทั้งสระทั้งไดน์ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เพื่อนวานสระแค่อาทิตย์ละ 2 วัน คือเย็นวันพุธกับวันอาทิตย์ แล้วก็วางโปรแกรมไว้ว่าจะซักผ้าทุกวันอังคาร พฤหัสฯ กับเสาร์ ซักน้อยๆจะขยันหน่อย ซักเยอะๆ ทีไร ขี้เกียจโคตร อ่า หมายถึง ขี้เกียจมากน่ะ แหะๆ เสร็จจากภารกิจนี้ก็ไปซื้อข้าวมากิน เย็นๆ ทีไรเลยหมดสภาพทุกที ไม่มีอารมณ์ทำอะไรอีกเลยแม้แต่อ่านนิยาย อยากจะนอนนิ่งๆ เหมือนมัมมี่ สงสัยจะแก่แล้วแค่นี้ก็เหนื่อยซะงั้น เฮ้อ!
ว่าจะพยายามปลุกให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาหน่อย น่าจะกินกระทิงแดงหรือเอ็มร้อยอย่างน้อยวันละ 2 ขวดคงจะดีขึ้น
มายี่ยมชม มาทักทายครับ
ผมมาตามอ่านงานตะพาบครับ ผมชอบกลอนที่แต่งในบล็อกนี้นะครับ ผมมักจะชื่นชมคนที่แต่งกลอนเสมอ เพราะว่าผมแต่งกลอนไม่เก่งครับ
ภาพประกอบที่นำมาก็สวยดีครับ ดูแล้วในความรู็สึกดีด้วยครับ
แต่ผมแอบงงตอนท้ายเรื่อง ที่พูดถึงเพื่อนป่วย ทำให้เพื่อนต้องใส่ปลอกคอด้วยล่ะครับ? แอบ งง อ่ะ
อิอิ