อลินนอนกระดิกเท้าดูซีรี่เกาหลีอยู่บนโซฟาอย่างมีความสุข มือที่ว่างก็คว้าชมพู่แก้มแหม่มจิ้มพริกเกลือเข้าปากเป็นระยะ จนชมพู่ทั้งกะละมังเริ่มจะพร่องลงบ้างแล้ว
วันนี้เป็นวันหยุดของเธอ หลังจากเหนื่อยกับงานมาหลายวัน จึงขอพักสบายๆ ด้วยการดูซีรี่เกาหลีที่ดูค้างไว้ให้จบสักที
ระหว่างที่กำลังจะส่งชมพู่เข้าปากอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น เธอเอื้อมมือไปหยิบมาดูกดปุ่มพักหนังก่อนจะกดรับสาย
โหลแม่ มีอะไรคะ ลืมปิดก๊อกน้ำหรือว่าลืมว่าลืมปิดไฟในห้อง
เสียงโวยวายจากปลายสายทำให้เธอหัวเราะ
แม่ไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้นนะยัยลิน
เหรอ แล้วเมื่อวานใครเปิดน้ำทิ้งไว้ทั้งวันจนน้ำไปเที่ยวถึงไหนต่อไหน
ฮึ เมื่อเถียงไม่ออกก็ได้แต่กระแทกเสียงในคอ ถ้าอยู่ตรงหน้าแม่คงค้อนเธอแทบกลับแน่เลย หึๆ
แล้วแม่มีไรอ่ะ ถึงได้โทรมาเนี่ย ตอนนี้อยู่ที่งานบวชไม่ใช่เหรอคะ
ก็ ไม่มีอะไร แม่แค่จะฝากแกซื้อหวยให้หน่อยน่ะ พอดีน้าแกได้เลขเด็ดมาจากพระอาจารย์ดัง เผื่อจะมีโชคกะเค้ามั่ง
อลินได้แต่กลอกตา อย่างงี้ทุกที ได้หวยเด็ด สุดท้ายก็โดนแดก เอ้ย! โดนกินเรียบ เสร็จเจ้ามือกันหมด
พอเห็นเธอเงียบไปแม่ก็พูดเสียงเบากว่าเดิม เพราะรู้ว่าหญิงสาวไม่ค่อยจะพอใจนัก
เอาน่า แม่ซื้อไม่เยอะหรอก ถ้าไม่ติดว่ามางานนะจะไม่วานแกเลย นี่ก็แอบมาข้างนอก โทรหาน้าแกก็ไม่รับ ต้องเข้าไปร่วมงานแล้วด้วย ไม่ว่างโทรอีก หาปากกาได้รึยัง จดนะ
พูดเสร็จก็ให้เธอจดบัญชียาวเป็นหางว่าว เนี่ยนะไม่เยอะ เลขเด็ดอะไรมันจะเยอะขนาดนี้ ดูท่าน่าจะเด็ดตั้งแต่ 0-9 เลยละมั๊งเนี่ย มันเรียกว่าเลขเด็ดตรงไหนฟะ
แล้วไอ้ที่ไม่เยอะของแม่รวมๆไปก็เป็นพัน อลินเห็นจำนวนเงินแล้วจะเป็นลม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยห้าม ห้ามจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่ได้ผล บ่นก็ไม่เคยฟัง จนต้องเลิกบ่นไปเอง จะแช่งให้เจ้ามือโดนจับก็ไม่ได้ เพราะคนขายก็น้าเธอเอง เฮ้อ! เวรกรรมจริงๆ อีกอย่างแม่ก็ใช้เงินตัวเองซื้อ บอกว่าความสุขเล็กๆ น้อยๆแค่นี้จะห้ามแม่ทำไม นั่น เธอก็ไปไม่เป็นสิทีนี้
อลินถอนหายใจเฮือกก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์หาน้า ขี้เกียจเดินไปหา เสียเวลาดูซีรี่ ยิ่งถึงจุดไคลแมกซ์อยู่ นางเอกเพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และกำลังพลัดพรากจากพระเอกอยู่ แต่พอกดโทรไป 2-3รอบสายก็ไม่ว่างตลอด ธุรกิจรัดตัวจริงๆน้าเธอ
เอาไว้ค่อยโทรใหม่ดีกว่า หญิงสาวคิดในใจก่อนจะหันมากดปุ่มเล่นหนังแล้วนั่งดูต่อ เธอดูหนังอย่างเพลิดเพลิน มือก็ปาดน้ำตาเป็นระยะ หนังอะไรจะรันทดขนาดนี้ฟะ นางเอกตายด้วยโรคมะเร็ง พระเอกก็ล้มละลายแถมตรอมใจตายอีกต่างหาก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนเธอสะดุ้งก่อนจะเอื้อมไปหยิบมารับ
ฮัลโหล
ลินโทรหาน้าทำไม
หญิงสาวยังคงเอ๋อๆ เพราะยังอินกับหนังไม่เลิก
อะไรนะคะ
น้าถามว่าลินโทรหาน้าทำไมตั้งแต่เช้า
อลินเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง หันไปมองนาฬิกา บ่าย 3 กว่าๆ แล้วร้องดังลั่น
ตายห่าแล้ว
เอ๊ะ ไอ้เด็กคนนี้นี่ ทำไมพูดไม่เพราะเลยฮะ
ขอโทษค่ะน้า พอดีลินตกใจไปหน่อย โอย ตายๆๆๆ ตายแน่ๆ เลย ลินลืมซื้อหวยให้แม่อ่ะน้า ทำยังไงดี
น้าถอนหายใจเฮือกก่อนจะตอบกลับมา
จะให้ทำยังไงล่ะ ก็ต้องทำใจน่ะสิ จะซื้อตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
ฮือ ถ้าถูกขึ้นมาลินโดนแม่ฆ่าแน่เลยน้า
ก็ภาวนาให้มันไม่ถูกก็แล้วกันนะ อ้อ แค่นี้นะลิน น้าไปลุ้นหวยก่อน
ไม่ใช่แค่น้าหรอกที่ต้องไปลุ้น อลินรีบปรี่ไปเปิดอินเตอร์เน็ต เปิดวิทยุออนไลน์เพื่อจะลุ้นด้วย
หญิงสาวนั่งตัวเกร็ง ถือโพยหวยของแม่ แล้วก็ฟังผลไปเรื่อยๆ จนถึงเลขท้าย 2 และ 3ตัวก็ลุ้นจนแทบจะหัวใจวายตาย แต่พอออกมาก็รีบจดแล้วไล่ดูในโพยของแม่แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็มาลุ้นรางวัลที่ 1 เพื่อดูเลขท้าย 2 และ3 ตัวบนต่อ
รางวัลที่ 1 เลขที่ออกได้แก่...
เธอจดผลรางวัลที่ 1 มือไม้สั่น ก่อนจะไล่ดูตัวเลขในกระดาษอีกครั้ง แล้วก็ถอนหายใจเฮือก เพราะมันไม่ตรงกับเลขตัวไหนของแม่สักตัว หญิงสาวทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้อย่างโล่งอก เสียงเปิดประตูบ้านทำให้เธอหันกลับไปมองก็เห็นแม่กำลังเดินตรงมา
เป็นไงลิน ถูกไหม แม่เธอถามอย่างตื่นเต้น
ถูก ถูกกินไง พูดจบก็หัวเราะเมื่อแม่เธอค้อนไปหลายตลบ
แล้วนี่แม่ต้องจ่ายน้าแกกี่บาทเนี่ย แม่เธอพูดพร้อมถอนหายใจ
ไม่ต้องจ่ายเลยสักบาท เพราะลินลืมซื้อให้แม่
แม่เธอหันกลับมามอง หรี่ตาลงแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ
นี่กลัวความผิดก็เลยมานั่งเช็คล่ะสิท่า ถ้าถูกขึ้นมาล่ะน่าดู
น่า ก็มันไม่ถูกแล้วนี่นา ดีนะเนี่ย ไม่เสียเงินสักบาท
ย่ะ แต่ก็โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้ซื้อจะได้มีเงินไว้ซื้องวดต่อไป พูดจบก็เดินทิ้งไปปล่อยให้อลินค้อนตามหลัง
ยัง ยังไม่เข็ด ยังคิดจะซื้ออีกนะ
เธออดจะยิ้มออกมาไม่ได้ โชคดีจริงๆ ที่ไม่ถูก ไม่งั้นแม่เธอคงงอนไปอีกนานเลยทีเดียว
ฉันเป็นคนที่ไม่มีโชค เคยดูดวงจากตำราพรหมชาติบอกว่า อย่าหวังพึ่งโชคลาภ อยากได้อะไรต้องทำเอง เห็นด้วยอย่างที่สุด! เพราะเป็นแบบนี้มาตลอด
สิ่งที่ถือเป็นโชคดีในชีวิตก็คงจะเป็น
โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อแม่ที่รักฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข ยิ่งจากอุบัติเหตุที่ผ่านมาก็ยิ่งทำให้รู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน
โชคดีที่มีน้องๆที่ถึงจะไม่รักกันหนักหนา แต่ก็ถือว่าสนิทกันพอสมควร คุยกันได้ทุกเรื่อง
โชคดีที่ได้เจอเพื่อนๆ ดีๆตั้งแต่ประถม มัธยม อุดม เป็นเพื่อนที่พาไปแต่ในทางที่ดี ไม่พาเข้ารกเข้าพง
แต่โชคดีที่สุดในช่วงนี้ก็คงจะเป็น โชคดีที่โดนรถไฟชนแล้วไม่ตาย! ยังมีโอกาสได้กลับมาใช้ชีวิตในสังขารนี้ต่อ ได้มีโอกาสได้ทำสิ่งที่อยากทำต่อไป
ช่วงนี้ยุ่งมากกกกก ถึงมากที่สุด เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.56 หยุดงานพาเพื่อนไปหาหมอ นั่งรถจากบ้านโป่งตั้งแต่ 7 โมงเช้า - รับเพื่อนที่เพชรบุรี(9 โมง) - กรุงเทพฯ (11 โมงกว่า)
ไปถึงก็รอพบหมอ หมอมาเที่ยงกว่าๆ หมอให้ดูฟิล์ม X-Ray ก็เห็นลวดที่ยึดกระดูกยังกระเดิกอยู่เหมือนเดิม หมอบอกว่าต้องรอดูอีก 6 เดือนหลังผ่าตัด ว่าเนื้อเยื่อจะยึดลวดกลับไปหรือเปล่า ตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ให้ใส่ปลอกคอดามคอไปก่อน ห้ามไปทำอะไรผาดโผน ฉันฟังไปขำไป อะไรที่มันถือว่าผาดโผนมั่งหว่า
หมอนัดอีกทีวันที่ 31 ก.ค.56เพื่อนผอมอ่ะ สูง 165 หนักแค่ 39 ก.ก. เอง เบากว่าฉันตั้งเยอะแน่ะ ช่วงนี้หมอให้กินแคลเซียมเยอะๆ จะได้เสริมกระดูก แล้วให้เริ่มทำงานได้วันที่ 1 ก.ค. นี้
พอเรียบร้อยแล้วก็กลับ ฝนตกตลอดทางเลย ไปถึงเพชรบุรี พ่อเพื่อนก็ซื้อกับข้าวและเฉาะลูกตาลไว้รอ กินข้าวเสร็จก็รีบกลับ กว่าจะถึงบ้านโป่งก็ 6 โมงเย็น วันนี้ทั้งวันอยู่แต่ในรถ เมื่อยชะมัดเลย
ตื่นมาตอนเช้าเจ็บคอซะอย่างงั้น คงจะเพราะถูกละอองฝน แปลกนะ ถ้าโดนจนเปียกไปทั้งตัวจะไม่เห็นเป็นอะไร แต่พอโดนแค่ละอองทีไรมีอาการทุกที
หลังจากวันนั้นก็ยุ่งตลอด ช่วงนี้ต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆแทบจะไม่ได้อยู่ห้องทำงานเลย ฝนก็ตกตลอด อากาศชื้นๆแบบนี้ทำให้ห้องทำงานและห้องนอนอับ ก็ทำให้เจ็บคอมากขึ้นและไอแทบทุกคืนต้องปิดพัดลมนอนถึงจะนอนได้
พอเพื่อนจะมา หลังเลิกงานก็ต้องสังคายนาห้อง จากที่อยู่คนเดียวอย่างไร้ระเบียบสิ้นดี ก็ต้องจัดห้องใหม่ ตั้งแต่จัดของบนชั้นวางของและเครื่องสำอาง จัดของใต้เตียง
จัดหนังสือ นี่แหละงานหนัก เพราะไม่รู้ปาไปกี่ร้อยเล่ม ใช้เวลาหลายวันมาก ไปหาตู้มาใส่ แล้วก็ทำรายการหนังสือไว้เพราะบางเรื่องมีถึง 3 เล่ม แม่เจ้า! บ่งบอกว่าสมองปลาทองจริงๆปัดฝุ่นเสร็จแล้วก็เก็บเข้าตู้
รื้อตะกร้าจานชามไปล้าง รื้อผ้าปูที่นอนเครื่องนอนทั้งของเตียงตัวเองและเตียงเพื่อนไปซัก ยิ่งเจอฝุ่นก็ยิ่งไอ ยิ่งหอบ ทยอยทำวันละนิดวันละหน่อย กว่าจะเลิกแต่ละวันก็ตี1 ตี 2 ตอนนี้ก็นอนไปไอไป แสบคอแสบปอดไปหมดทรมานชะมัดเลย
จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมช่วงนี้ถึงไม่ค่อยโผล่หน้ามา จะเข้ามาส่องบ้างเพื่ออวยพรวันเกิดให้เพื่อนทั้งในบล็อกและเฟส เช็คหนังสือที่ขายแล้วก็ชิ่งไป ขนาดนิยายยังไม่ได้อ่าน จะลงแดงอยู่แล้วววววว
ตอนนี้จัดห้องเสร็จแล้ว เหลือเก็บรายละเอียดนิดหน่อย ขอพักมั่งเถอะ เหนื่อยอ่ะ แต่พอเห็นห้องโล่งขึ้น ก็ดูน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ
พรุ่งนี้ต้องออกไปข้างนอกอีกเหมือนเคย คิดว่าพอเพื่อนกลับมาคงจะว่างมากกว่านี้ เอาไว้ว่างๆ จะแวะไปทักทายนะคะ
โชคดีที่ไม่ถูกจริงๆด้วยค่ะ อิอิ
ไม่งั้นคงโดนแม่บ่นหูชาแน่ๆ
ยุ่งแต่ก็ยังมาอัพตะพาบให้อ่าน
ขอบคุณมากๆนะคะ