ฉันเกลียดวันวาเลนไทน์
เกลียดวันแห่งความรักของใครต่อใคร เกลียดบรรยากาศหวานๆ อันแสนเลี่ยนชวนอ้วก จนแทบไม่อยากจะก้าวเท้าออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว
แค่คิดว่าต้องออกไปเดินท่ามกลางคู่รักที่จูงมือกันราวคนตาบอด ท่ามกลางดอกกุหลาบหลากสีและช็อกโกแลตหลากหลายแบบก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
เพราะไอ้บรรยากาศแบบนี้มันแสลงกับคนโสดอย่างฉันดีนักแล...เฮ้อ!!!!!!
แถมปีนี้ความเกลียดยังพุ่งสูงปรี๊ดจนแทบจะทะลุเพดาน เพราะอาจารย์ประจำวิชาลีลาศ ซึ่งเป็นวิชาเลือกบังคับ เพิ่งจะแจ้งข่าวดี (สำหรับคนอื่น) และข่าวร้าย(สำหรับฉัน) ให้นักศึกษาฟัง
นั่นคือ การเก็บคะแนนภาคปฏิบัติครั้งใหญ่ของรายวิชา โดยการจัดงานลีลาศขึ้น ทั้งยังบังคับให้นักศึกษาทุกคน ต้องเข้าร่วมงานอีกด้วย
ยัง ยังไม่พอ อาจารย์ที่เคารพ ท่านยังจำเพาะเจาะจงต้องจัดงานในวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ได้บรรยากาศโรแมนติก โรแมนติกกับนรกน่ะสิ! ใครมันจะอยากไปโรแมนติกกัน สำหรับคนอื่นอาจจะใช่ แต่ขอเว้นฉันไว้คนเถอะ
แค่ไปร่วมงานยังพอทน นี่บังคับให้พาคู่ไปด้วย แล้วคนโคตรจะโสดอย่างฉันจะไปขุดคู่มาจากไหน(วะ) แฟนสักตัว เอ๊ย! สักคนก็ยังไม่มี ไอ้พวกเพื่อนๆ (ผู้ชาย)ตัวดีก็ระริกระรี้ไปหลีสาวคณะอื่น (ไอ้เพื่อนทรยศ) ปล่อยให้ฉันกลุ้มใจจนเส้นเลือดในสมองแทบจะแตกอยู่อย่างนี้ ร่ำๆ คิดจะโดดหลายร้อยรอบ แต่ก็กลัวถูกตัดคะแนน จนทำให้เกิดมลทินกับเกรดสวยๆ ของฉัน แย่ แย่ที่สุด! พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อยากจะกลั้นใจตายให้มันรู้แล้วรู้รอด
แป้ง แป้งกินข้าวได้แล้วลูก
เสียงเรียกของแม่ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ก่อนจะตะโกนตอบกลับไป
ค่า แม่
ฉันเดินซึมกะทือไปยังโต๊ะอาหารที่พ่อกับแม่นั่งอยู่ก่อนแล้ว พอแม่เห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากในชีวิตของฉันก็เลยถามขึ้น
ยังเครียดเรื่องนั้นอยู่เหรอแป้ง
แม่ถามพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน เรื่องนั้น ที่ฉันเล่าให้ฟังเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แล้วท่านทั้งสองก็หัวเราะกันไม่หยุด จนฉันต้องรีบเบรกเพราะกลัวกรามจะค้างกันซะก่อน โธ่! มันเป็นเรื่องเครียดสำหรับฉันน๊า มันน่าขำตรงไหนกัน ชิ!
ฉันนั่งกินข้าวอย่างเนือยๆสักพักก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่ริมรั้วหน้าบ้าน
คุณน้าครับ คุณน้า
พอได้ยินเสียง แม่ก็กระวีกระวาดลุกขึ้นเดินไปหน้าบ้าน ได้ยินเสียงคุยกันแว่วๆก่อนที่แม่จะเข้ามาพร้อมผู้ชายคนหนึ่ง
เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แข็งแรง ผิวสีแทนเหมือนคนที่โดนแดดเป็นประจำ หน้าคมๆ ประกอบด้วยคิ้วเข้มรับกับตาเรียวใหญ่นัยน์ตาสีดำคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักมีรอยยิ้มประดับอยู่ จึงทำให้ดูอ่อนโยนน่ามองจนฉันเผลอมองอยู่เป็นนาน
แป้งนี่พี่ทิศ เพื่อนบ้านของเราที่แม่เคยเล่าให้ฟังไงจ๊ะ
เสียงของแม่ทำให้ฉันละลายตาจากผู้ชายตรงหน้าแล้วยกมือไหว้พร้อมเอ่ยคำทักทาย
สวัสดีค่ะ
เขายกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้มแล้วตอบด้วยน้ำเสียงทุ่มสุ่มน่าฟัง
สวัสดีครับน้องแป้ง เจอกันสักทีนะครับ
ทิศ เป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นของผู้ชายคนนี้ (รู้จากที่แม่เคยเล่าให้ฟัง) คนอะไรหน้าตาก็ดี แต่ชื่อสั้นพิลึก ฟังทีไรนึกถึงพระที่เพิ่งสึกใหม่ทุกทีเลย
ครอบครัวของฉันย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งปีแล้ว ดูท่าพ่อกับแม่จะปลื้มเพื่อนบ้านน่าดู ฉันกลับบ้านทีไรก็จะได้ยินชื่อเพื่อนบ้านทุกคน โดยเฉพาะพี่ทิศที่แม่มักชื่นชมให้ฟังทุกที แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอสักครั้ง เพราะฉันพักอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย จะกลับบ้านก็เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และปิดเทอม แต่ก็แปลกที่สวนกันไปสวนกันมา ไม่เคยเจอกันสักที เพิ่งครั้งนี้นี่แหละที่ได้จ๊ะเอ๋กันจังๆ
ฉันลอบมองพี่ทิศถือแตงโมลูกใหญ่ 2ลูกกับส้มโอลูกใหญ่อีก 3 ลูกไปวางไว้ข้างตู้เย็น แม่บอกว่าบ้านเขาทำไร่ทำสวนผลไม้มากมายและเอามาฝากแม่บ่อยๆ แบบนี้แหละ แม่ถึงได้ปลื้มนักหนา เพราะได้ของฟรีบ่อยๆนี่เอง หึๆ
เออ พ่อทิศ วันวาเลนไทน์เดือนหน้าพ่อทิศว่างรึเปล่าจ๊ะ
ฉันหันไปมองแม่อย่างแปลกใจเมื่อได้ยินคำถาม เขาทำท่าคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้แม่แล้วตอบ
ว่างครับ คุณน้ามีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ
ฉันกำลังกินน้ำอยู่เห็นแม่เหล่มองมาอย่างมีเลศนัยแล้วพูดต่อ
คือ ถ้าพ่อทิศว่างน้าจะรบกวนให้พ่อทิศช่วยเป็นคู่ลีลาศให้ยัยแป้งหน่อยน่ะจ้ะ
พรวด! ฉันสำลักน้ำแล้วไอจนหน้าดำหน้าแดง ไม่รู้ว่ามันแดงเพราะสำลักหรือแดงเพราะความอายกันแน่
ได้ยินเสียงแม่พึมพำเข้าหูว่า สกปรกจริงไอ้ลูกคนนี้ แล้วมันเป็นเพราะใครกันเล่า!!!!!
แม่ ฉันเรียกแม่เสียงหลง แม่มองฉันอย่างรำคาญ
จะเรียกทำไม แป้งหาคู่ลีลาศอยู่ไม่ใช่เหรอ ก็ให้พ่อทิศนี่แหละเป็นคู่ให้ ไม่รบกวนไปใช่ไหมลูก แม่หันไปถามเขาต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับเวลาพูดกับฉันลิบลับ
ถ้าน้องแป้งไม่รังเกียจ ก็ไม่รบกวนหรอกครับ พูดจบนัยน์ตาคมๆที่มีประกายวิบวับก็หันมามองฉันยิ้มๆ
ฉันได้แต่ยิ้มตอบแหยๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่อย่างนั้น
น่า อย่าเล่นตัวเลยลูก รับพ่อทิศไปเถอะ ไหนๆก็ไม่มีคู่แล้วนี่
นั่น! ไม่รักษาหน้ากันบ้างเลยแม่ฉัน แล้วคำถามนี้ หมายถึงคู่ลีลาศอย่างเดียวใช่ไหม?
ฉันนิ่งคิดไปครู่หนึ่งนึกถึงเกรดที่จะเรียงตัวสวยงามในอนาคต แล้วหันไปสบตาเขา เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนกับแววตาที่มองมาอย่างจริงจังเต็มไปด้วยความเต็มอกเต็มใจก็เลยตอบไป
รบกวนพี่ทิศด้วยนะคะ
นัยน์ตาคู่นั้นเปล่งประกายระยิบระยับ แถมยังยิ้มกว้างขึ้นอีก ทำให้หน้าตาเขาดูอ่อนวัยน่ามองยิ่งขึ้นจนทำให้ฉันตาพร่าขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงต้องกลับบ้านเพื่อมาซ้อมลีลาศกับพี่ทิศตั้งแต่เย็นวันศุกร์และวันเสาร์-อาทิตย์ทั้งวัน
ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดยิ่งทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงความใจดีมีน้ำใจ ความอ่อนโยน และความเป็นสุภาพบุรุษของเขา แถมยิ่งนานวันก็ยิ่งหวั่นไหวอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผู้ชายดีๆขนาดนี้มาก่อนเลย (จนนึกว่าผู้ชายดีๆ สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว) แต่ฉันไม่รู้จะจัดการกับไอ้ความรู้สึกนี้ยังไงนี่สิ เฮ้อ!
ฉันสะดุ้งเมื่อเผลอเหยียบเท้าของพี่ทิศเป็นรอบที่สิบของวัน ฉันยิ้มแหยๆ ให้ก่อนจะเอ่ยขอโทษอ่อยๆเป็นรอบที่สิบเหมือนกัน
ขอโทษค่ะพี่ทิศ แล้วก็ได้รับรอยยิ้มอ่อนโยน ไม่มีร่องรอยของความหงุดหงิดแม้แต่น้อยกลับมาเหมือนเดิมทุกครั้ง
ไม่เป็นไรครับ น้องแป้งมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ ดูไม่มีสมาธิเลย
ฉันหลุบเปลือกตาลงเพื่อซ่อนความรู้สึกเอ่ยตอบเขาไปเบาๆ
ไม่มีอะไรค่ะ สงสัยแป้งจะเครียดเรื่องเรียนมากไปหน่อย
เขาหรี่ตามองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่พูดอะไร
วันนี้พอแค่นี้ก่อนไหมคะ พี่ทิศจะได้พักก่อน โดนแป้งเหยียบเท้าไปหลายรอบเท้าคงระบมน่าดูเลย ให้แป้งดูหน่อยสิคะ
ฉันก้มลงมองเท้าของเขาด้วยความเป็นห่วงเจ้าของเท้า
ไม่เป็นไรหรอกครับ หนังพี่หนา แค่นี้ไม่สะเทือนหรอก
พูดจบก็ยิ้มให้เหมือนเคย คนอะไรยิ้มได้ยิ้มดี อย่างกับคนเมากัญชา แต่พักนี้นอกจากฉันจะไม่ค่อยปกติแล้ว รอยยิ้มของพี่ทิศก็ดูไม่สดใสเท่าที่ควร ดูเหมือนเครียดๆ ยังไงพิกล อยากถามใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้า พอพักซ้อมทีไรเขาก็แอบไปโทรศัพท์ทุกที อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน
แป้ง แม่เอาขนมกับน้ำมาให้ ไปตามพ่อทิศมาทีไป
แม่ยกขนมมาให้ คนโปรด โดยไม่ถามฉันสักคำ ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้หัวเน่าๆ ยังไงพิกล
ฉันเดินไปหาพี่ทิศที่สวนหลังบ้าน ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ดังแว่วๆเมื่อไปถึงกำลังจะอ้าปากเรียกก็ได้ยินคำพูดที่ทำให้ฉันยืนนิ่งเหมือนถูกสาปอยู่ตรงนั้น
...พี่รัก...
เพียงแค่คำคำเดียวที่เขาพูดให้คนอื่นก็ทำให้สมองอื้ออึงจนนึกอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนจ้องแผ่นหลังของเขาอยู่อย่างนั้นจนเขาวางโทรศัพท์ ถอนหายใจและหันกลับมาเจอฉันเข้า
อ้าว น้องแป้ง มีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น
ฉันไม่รู้ว่าทำสีหน้ายังไงออกไป จึงไม่รู้ว่าหน้าอย่างนั้นของเขาน่ะอย่างไหน ได้แต่พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วฝืนยิ้มให้
คือแป้ง เอ่อ แม่ให้มาเรียกที่ทิศไปทานขนมค่ะ
พูดจบก็หันหลังกลับแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที
แล้วรอยยิ้มของฉันก็หายไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาทิตย์สุดท้ายของการซ้อม เขาถามมาคำฉันก็ตอบไปคำเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วง พ่อกับแม่ก็แปลกใจกับอาการของฉัน แต่ก็ไม่ได้ถามเพราะรู้ดีว่าฉันจะไม่ตอบ ไอ้ความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจนี่ฉันรับมือไม่ถูกเลยจริงๆเฮ้อ!
พอถึงวันงานฉันก็อยู่ที่หอของมหาวิทยาลัยแทบจะไม่ก้าวเท้าออกจากหอเลยถ้าไม่จำเป็น ก็แหม บรรยากาศแบบนี้ ใครมันจะอยากออกไปตอกย้ำตัวเองกันเล่า พอตอนเย็นๆ ฉันกับเพื่อนๆ ก็แต่งตัวกันที่หอแล้วรอคู่ของตัวเองมารับเพราะงานจัดที่โรงแรมหรู(เปลืองงบประมาณชะมัด) ระหว่างนั้นพี่ทิศก็โทรมาถามทางมาที่หอพอเขาบอกว่ามาถึงแล้วฉันก็เดินลงไปข้างล่าง
พี่ทิศของฉัน (ขอโมเมสักวันเถอะ)สลัดคราบเกษตรกรออกจนไม่เหลือคราบ ชุดสูทสีดำทำให้เขาร่างสูงใหญ่นั้นดูสง่าและหล่อเข้มจนฉันแทบละสายตาไม่ได้ โอ๊ย! ฉันอยากจะละลาย
ส่วนฉันใส่เดรสสีโอลโรสซึ่งขับผิวขาวๆให้ดูผ่องใสขึ้น ผมดัดเป็นลอนรวบไว้ด้านข้างพันด้วยเถาดอกไม้สีขาวเล็กๆทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็วันนี้
เราสองคนจ้องตากันอยู่อย่างนั้นจนพี่ทิศเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อน ส่งยิ้มให้ฉันแล้วผายมือไปทางรถอย่างล้อเลียน
เชิญครับเจ้าหญิง
ฉันเขินจนขาแทบสะดุดได้แต่เดินก้มหน้าหาเหรียญแล้วก้าวขึ้นรถไป ระหว่างทางมีแต่ความเงียบ เหมือนต่างคนต่างจมอยู่ในภวังค์ของตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกถึงกลิ่นอายหวานๆลอยวนอยู่ในอากาศที่หายใจ (ฮิ้ววววว)
เมื่อไปถึงงานฉันพี่ทิศก็ส่งแขนให้ฉันคล้องเมื่อลงทะเบียนเสร็จเราสองคนก็ก้าวเข้าไปในงาน ฉันรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เราสองคนเต้นรำด้วยกันเพลงแล้วเพลงเล่า มีคนอื่นมาขอเต้นรำกับฉันบ้าง และมีผู้หญิงมาขอเต้นรำกับพี่ทิศบ้างจนฉันเผลอส่งสายตาพิฆาตไปหลายครั้งอย่างลืมตัวจนงานเลิกพี่ทิศก็ส่งฉันกลับหอ
พี่ทิศจอดรถหน้าหอแล้วหันมาทางฉันยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเช่นเคย แสงไฟจากที่จอดรถทำให้เห็นแววตาพร่างพรายไปด้วยความรู้สึกที่ฉันไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง
ถ้าน้องแป้งไม่รังเกียจพี่ อยากจะขอโอกาสคบกับน้องแป้งน่ะครับ น้องแป้งเป็นแฟนกับพี่นะ
พูดจบทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ฉันรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นเร็วจนกลัวว่ามันจะทะลุออกมานอกอก แต่พอนึกถึงบางอย่างมาได้ก็ถามกลับเขาไปเพราะไม่อยากให้มันค้างคา
แล้วคนที่พี่ทิศบอกรักล่ะค่ะ
เขาทำหน้างงๆ
คนที่พี่บอกรักใครกันครับ
แป้งได้ยินพี่บอกรักใครบางคนทางโทรศัพท์เมื่อตอนที่มาซ้อมลีลาศกับแป้งที่บ้าน ฉันพูดแผ่วๆ เพราะยังรู้สึกหนักๆ ในอกไม่หาย
พี่ทิศทำท่าคิดอยู่พักใหญ่ก่อนนัยน์ตาคู่นั้นจะเปล่งประกายระยิบระยับ
น้องแป้งหึง พูดจบก็ยิ้มกว้างจนน่าตบสักทีสองที
ฉันหันไปค้อนเขาแล้วหันหน้าไปทางหน้าต่างอย่างแสนงอน(ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะมีอาการแบบนี้นี่แหละ ต้องโทษเขาคนเดียวเลย)
พี่ทิศหัวเราะเบาๆก่อนจะเรียกฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
น้องแป้งครับ คนที่พี่บอกรักวันนั้นเป็นน้องสาวของพี่เอง พี่เขาชื่อรุ่งอรุโณทัย หรือเรียกสั้นๆ ว่าโณทัยก็ได้ ถ้าพี่เขากลับมาพี่จะแนะนำให้รู้จัก
ฉันหันมามองเขาตาโต น้องสาว แล้วคนบ้าอะไรชื่อยาวขนาดนั้นท่าทางพ่อแม่เขาจะมีปัญหาเรื่องการตั้งชื่อลูก เอ่อ แต่นั้นมันไม่ใช่ประเด็น ฉันมองรอยยิ้มอ่อนโยนของเขา นานๆทีจะมีผู้ชายดีๆ (มาก) มาตกหลุม ถ้าปล่อยให้หลุดมือก็คงจะโง่เต็มที ฉันยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวานก่อนจะตอบเขาไป
ค่ะแป้งตกลงเป็นแฟนกับพี่ทิศ
แล้วฉันก็ได้รับรอยยิ้มจากเขามาเหมือนกับทุกครั้ง จะโลภไปไหม น่าฉันอยากจะเก็บรอยยิ้มเขาไว้คนเดียวตลอดไป
ช่วงนี้ยิ้มไม่ค่อยจะออก เพราะงานยุ่งจนหัวปั่นตั้งแต่ต้นเดือนแถมมายุ่งมากๆ ช่วงกำหนดอัพตะพาบ
วันที่ 9 ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4เดินทางไปทำงานข้างนอกกลับมาบ่าย 5 โมงครึ่ง กินข้าวแล้วเพลียแดดจนสลบไปเลย
วันที่ 10 ตื่น 6 โมง กลับมาบ่าย 3 โมงครึ่ง พอ 6 โมงเย็นก็ต้องไปปากคลองตลาดไปช่วยหอบดอกไม้มาจัดงานที่ทำงานมาถึงตีหนึ่งกว่าจะได้นอนก็ตี2
วันที่ 11 ไปช่วยเขาจัดดอกไม้ตั้งแต่8 โมง จนถึง 4 ทุ่มครึ่ง กลับไปห้องอาบน้ำเสร็จก็สลบเลย
วันที่ 12จัดดอกไม้ต่อตอนเย็นก็มีงานมีเลี้ยงข้าวก็ไปช่วยตักอาหารงานเลิก 3 ทุ่มกว่า
วันที่ 13เข้าครัวหน้าที่รับผิดชอบคือปลาสามรส เป็นแค่ลูกมือแหละ เพราะขืนทำเองคงได้รสเดียว คือ เค็ม เค็ม และเค็ม
วันนี้ก็เลยว่างมาแต่งต่อ แต่งไม่ได้ดังใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ช้ากว่าชาวบ้านชาวช่องเขามากแล้วก็เลยต้องลง อยากเขียนอ่ะ คิดไว้ตั้งนานแล้วแต่เขียนไม่จบสักที เพิ่งเข้าใจนักเขียนว่าเวลาไม่มีอารมณ์มันเขียนไม่ออกจริงๆ
จำพี่ทิศได้ไหมคะ พี่ชายของรุ่งอรุโณทัย มาเป็นพระเอกสักที ที่จริงขี้เกียจคิดชื่อตัวละคร ฮ่าๆๆๆๆ ก็เลยเอาตัวเก่าๆนี่แหละมาเป็นตัวเอก ง่ายดี หึๆ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ทุกคนนะคะ
เอาดอกกุหลาบและน้องหมีจากปากคลองตลาดมาฝากวันนั้นกุหลาบแค่มัดละ 60 - 100 บาทวันนี้คงจะไม่ใช่แค่นี้แน่
แป้งน่ารักจังมีหึงด้วย อิอิ
พี่ทิศก็น่ารักเหมือนกัน