การเดินทางสู่ดินแดนแห่งความรัก พ่อได้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งนี้แล้วก่อนเดินทางไกลสามวัน พ่อไปโรงพยาบาลตามหมอนัด เพื่อไปตรวจสุขภาพตามปกติ พ่อกลับมาคุยว่าสุขภาพดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรสักอย่าง เลือด น้ำตาล ความดัน ตรวจหมด ดีมากเลยพ่อ มะเร็งพ่อก็ไม่เป็นแล้ว คนเป็นมะเร็งเหนื่อยไม่มีแรงหรอก พ่อไม่เหนื่อยเลย พ่อควบคุมมันได้ ได้ ตอนพ่อเป็นใหม่ๆ พ่อกินแต่ปลา กินน้ำต้มหญ้าปักกิ่ง พ่อไปตรวจเขาว่ามันลีบลง ถ้าการเตรียมสุขภาพเพื่อการเดินทางไกลก็นับว่าพร้อม พ่อเตรียมตัวพร้อมจริง ๆ ธรรมดาพ่อจะหาไม้เก่า ๆ และกิ่งมะขาม มาทำฟืนเตรียมไว้สำหรับหุงข้าว พ่อผ่าฟืนมาตั้งแต่เล็ก พวกลูก ๆ สู้พ่อไม่ได้ พ่อคุย ฉันช่วยหอบฝืนมารวมไว้ แกให้เตาอังโล่หนึ่งเตา เมื่อรู้ว่าฉันจะทำกับข้าวด้วยฟืนเช่นกัน ฉันรู้สึกสนุกกับการทำครัวนอกบ้าน ด้วยไม้ฟืน ไม่ใช่แค่นั้นเรายังล้างจานล้างหม้อด้วยขี้เถ้าด้วย มาอยู่ที่นี่ทำให้มีเวลาเพียงพอ ไม่ต้องรีบเร่ง จะติดไฟสักครึ่งชั่วโมงทำกับข้าวสักครึ่งวัน ขุดดินปลูกต้นไม้และยังได้นั่งขี้เกียจมองยอดไม้ไหว เหมือนพ่อจะทดสอบพละกำลังของตัวเองอีกครั้ง ในช่วงบ่าย ๆ วันต่อมาพ่อปีนขึ้นไปบนโต๊ะสูงเพื่อเก็บดีปลีที่มันไตขึ้นไปบนต้นชมพู่มะเหมี่ยว ซึ่งวัยของพ่อควรจะหยุดปีนป่ายได้แล้ว ลากมันลงมาทั้งหมดเลย ไม่นานมันก็แตกใหม่ออกเองแหละพ่อ ฉันบอกพ่อเมื่อแกทำท่าจะปีนขึ้นหลังคา จะเก็บไว้ตำน้ำพริกแกง ใส่แกงแค ไม่เก็บมันก็เน่าหมด แกว่า ใช้ไม้สอยเอาดีกว่าพ่อ ฉันเสนอทางออกอีกครั้ง เมื่อพ่อพยายามที่จะขึ้นไปให้สูงขึ้น โดยเอาเก้าอี้ต่อขึ้นไปวางบนโต๊ะและจะขึ้นไปบนหลังคา ในที่สุดพ่อลงมายืนที่พื้นแหงนหน้ามองดีปลีที่สุกแดง ฉันรีบไปหาไม้ไผ่ให้แก ไม่เอาไม้มันยังสดอยู่ เอาไม้แห้ง ๆ แกว่าและเดินมองหาไม้ไผ่เอง ฉันเดินเข้าไปหลังบ้านเพื่อตากผ้าที่ซักไว้และคิดว่าคงอีกนานกว่าพ่อจะหาไม้เหมาะมือได้ แต่ที่ไหนได้แค่หันกลับไปมองก็เห็นพ่อปีนขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคาแล้ว และไม่เพียงแค่นั้นจากหลังคาพ่อปีนต้นชมพูต่ออีก ฉันเดินเข้าไปบอกลูกชายของแกว่า พ่อขึ้นต้นไม้ ห้ามแกก็ไม่เชื่อหรอก ปล่อยแกเขาว่าและอ่านหนังสือต่อ เขาเป็นพ่อลูกกันมานานถึง 50 ปี ดังนั้นเขาจึงรู้นิสัยกันดีกว่าฉันที่เพิ่งเข้ามาอยู่ หญิงชายคู่หนึ่งมาหาลูกสาวกับลูกเขยของแก พวกเขาไม่อยู่บ้านเข้าไปในเมือง พ่อตะโกนคุยมาจากข้างบนบอกให้เขาและเธอมาใหม่ในตอนเย็น ฉันเดินไปที่ใต้ต้นไม้อีกครั้งด้วยความเป็นห่วงและพบว่าน่าห่วงจริง ๆ พ่อเอาเก้าอี้วางบนโต๊ะและเอาถังพลาสติกใส่สีวางบนเก้าอี้อีกทีหนึ่ง และก้าวขึ้นไปบนหลังคา พ่อดื้อจริง ๆ เหมือนที่ลูกชายแกว่า และซนเหมือนเด็ก ๆ แกนุ่งกางเกงหลวม ๆ ที่มีกระเป๋าสองข้าง เก็บดีปลีแล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงจนเต็มเมื่อถึงตอนที่จะลง ฉันเอาใจช่วยพ่อให้แกลงมาได้อย่างสง่างามแต่เป็นเรื่องยากมาก แกต้องเหยียบถังพลาสติก แล้วค่อย ๆ ก้าวลงมาที่เก้าอี้ พ่อนั่งลงก่อน นั่งพักก่อนลงทีละช่วง เออ นั่งก่อนก็ได้ เหนื่อยแกว่าและนั่งพักที่โต๊ะ ฉันเอาถังพลาสติกและเก้าอี้ออกเพื่อให้แกได้นั่งพักสบาย ๆบนโต๊ะ ในที่สุดพ่อก็ลงมาได้ อย่างทุลักทุเล แม่มันปลูกไว้ แม่มันห่วงมากดีปลีนี้ ดอกไม้สีเหลืองนั้น แม่มันก็ชอบมาก แกพูดพลางเดินไปตากดีปลีใกล้ ๆ พุ่มดอกไม้เหลือง แม่มันไป 1 ปี 4 เดือน กับ3 วันแล้ว มันไม่ใช่แค่ดีปลีธรรมดาแต่เป็นดีปลี และดอกไม้ของคนที่แกรัก แกจะปล่อยให้มันตกเรี่ยราดอย่างไรเล่า ฉันเคยเขียนนินทาพ่อไว้ในสมุดบันทึกว่า ผู้ชายที่รักเมียมากนับวันที่เธอจากไปทุกวัน แต่ไม่ไปทำบุญให้เลย หรือพ่อจะคิดว่าอยู่ที่ใจของแกเพราะความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ในวันที่ฉันกับลูกชายของแกย้ายจากในเมืองมาสร้างบ้านเล็ก ๆ อยู่ใกล้บ้านแก ฉันบอกว่าให้เพื่อนหาฤกษให้แล้วแต่พ่อกลับพูดว่า วันดีมีทุกวันพร้อมวันไหนก็วันนั้น พร้อมวันไหนก็วันนั้นพ่อคงพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางไกล พ่อตื่นแต่เช้าเช่นทุกวัน แกจะต้มน้ำด้วยกาที่ดำปี๋และเดินข้ามมา เพื่อเอาน้ำร้อนมาให้ฉันใส่กระติกไว้ดื่ม เพราะฉันไปถามหาน้ำร้อนจากแกในวันหนึ่งและนับจากวันนั้นแกก็ต้มน้ำร้อนมาให้ทุกเช้า ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่คิดในทางกลับกันดูเหมือนจะเป็นความสุขของแกที่ได้เดินมาดูลูกชายของแกว่าตื่นหรือยัง เช้านี้ดูเหมือนพ่อจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แกร้องทักหลานสาววัยสี่ขวบ วันนี้ตื่นเร็วจริงนะ แกหัวเราะหยอกเล่นกับหลาน ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปตลาด และกลับมาทำกับข้าวกินเหมือนเช่นทุกวัน และเผื่อแผ่มาให้ฉันอีกหนึ่งถ้วย ฉันรู้สึกผิดอยู่บ้าง ฉันควรจะทำกับข้าวให้แกกินแบบลูกสะใภ้ที่ดีเหมือนที่แม่สอนไว้ก่อนออกเรือน แต่ฉันคิดว่ามันเป็นกิจกรรมที่พ่อภาคภูมิใจและแกคงอยากจะทำให้ลูกชายของแกที่เพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน วันนี้แกมีน้ำพริกน้ำปู๋ ที่ดำปี๋ และผักต้มอีกหนึ่งจานวันนี้เป็นวันเสาร์พ่อจะต้องฟังเพลงซอทุกวัน และทุกคนที่อยู่ในบริเวณบ้านเดียวกับพ่อก็ต้องฟังเพลงซอไปด้วย เพราะพ่อจะเปิดเสียงดัง ก็ดูดีดูบ้านมีศักดิ์มีศรีเหมาะสมที่เป็นดินแดนแห่งศิลปะวัฒนธรรมแบบล้านนา ฉันคิดเช่นนี้และฟังจนรู้สึกเพราะและสนุกได้ เพื่อจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข วันนี้พ่อเตรียมตัวฟังเพลงซอแต่เช้า ขึ้นไปเปิดฟังเพลงลูกทุ่งพลาง ๆ ก่อน เพราะจบเพลงลูกทุ่งแล้วก็จะเป็นเพลงซอ ฉันคิดว่า พ่อน่าจะเดินทางไปพร้อม ๆ กับที่เพลงซอขึ้น ดูจากรายงานของหมอที่บอกว่าพ่อไปแล้วสองชั่วโมง แกนอนฟังเพลงซอและหลับไปอย่างสบายใจ เรื่องเศร้า เศร้าที่ใจของฉัน เพราะฉันอยากจะรักแกแทนพ่อของตัวเองที่เดินทางไกลไปก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่พระเจ้าให้เวลาแค่ 30 วันเท่านั้นในระหว่างที่เศร้า ๆ อยู่กับความรู้สึกว่าทำไมแค่ 30 วัน พลันฉันก็คิดขึ้นได้ว่า ฉันควรจะพอใจ ที่ฉันได้เวลาตั้ง 30 วัน ฉันได้เรียกหาพ่อเป็นร้อยครั้ง ได้คุยกับแกทุกวันใน30วัน ฉันได้มีเวลาที่มีความรู้สึกดี ๆ ถึง 30 วันที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เวลาดี ๆ ตั้ง 30 วัน ไม่ใช่เรื่องเศร้า การเดินทางครั้งสุดท้ายของพ่อในวัย 78 ปี ฉันเชื่อว่า ใจของแกได้เดินทางไปก่อนหน้านี้แล้ว ในทุกวันที่แกนับวันที่เมียแกจากไป เราต้องเชื่อว่าทั้งสองจะตามหากันเจอในดินแดนแห่งความรัก*************
พี่ยายคะ..
นกเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดว่า "คู่แท้จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ถึงแม้อีกฝ่ายจะตายจากไป อีกไม่นานอีกคนก็จะตามไปในระยะเวลาใกล้กัน"
"ฉันได้มีเวลาที่มีความรู้สึกดี ๆ ถึง 30 วันที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เวลาดี ๆ ตั้ง 30 วัน".......ประทับใจจังค่ะ