Bloggang.com : weblog for you and your gang
คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
แพรจารุ
จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว\"ถนอม ไชยวงษ์แก้ว\"
บ้านใต้เมืองเหนือ"แพรจารุ"
บทกวี"ถนอม ไชยวงษ์แก้ว"
ครอบครัวหมา ๆ แพรจารุ
ที่นี่มีหนังสือให้คุณ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถูกขังลืมเรื่องที่หนึ่ง" ลูกสาวแม่น้ำ"
ขังลืม 2 บรรณาธิการกับเจ้าของสำนักพิมพ์ทะเลาะกัน. แพรจารุ
คอมเมนต์พิเศษ
เรื่องของใครต่อใครมากมาย แพรจารุ
ชนเผ่าพื้นเมือง แพรจารุ
บ้านหลังนั้นอยู่หลังโรงเรียน แพรจารุ
ความลับเรื่องรัก แพรจารุ
ถนนสายเดียวดาย
เรื่องสั้นประทับใจ
งานถั่ว ๆ
มกราคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
5 มกราคม 2552
เขาโกรธที่ฉันเขียน
All Blogs
แปดสิบบาทกับผู้ชายริมทางรถไฟ "สุชาติ สวัสิด์ศรี"
เขาโกรธที่ฉันเขียน
การเดินทางสู่ดินแดนแห่งความรัก
.ใบหน้าของพ่อ
เรื่องสั้นประทับใจ หน้าต่างที่เปิดออก
เขาโกรธที่ฉันเขียน
ฉันไม่ได้เขียนเรื่องสั้นนานแล้ว
เรื่องสั้นเรื่องนี้ ชื่อว่า ยากจนครับผม ลงในมติชนสุดสัปดาห์ 2547 จำได้ว่าหลังจากเรื่องสั้นเรื่องนี้ลงแล้ว มีเอ็นจีโอบางคนไม่ชอบ คนหนึ่งทำเสียงน่าเกลียดว่า ...เขียนดีมาก...(ลากเสียงยาวด้วย)
วันนี้ฉันพบเรื่องนี้ในGoogle และหยุดอ่าน ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเขียนดี (ฮา) แต่ทำไมตอนนั้นจึงหวั่นไหวเมื่อพรรคพวกไม่พอใจ ฉันไม่เอางานชิ้นนี้ไปรวมเล่ม และทิ้งไว้ทำเป็นลืม
วันนี้จึงเอามานำเสนอให้เพื่อน ๆ ชาวบล็อกแกงค์อ่านค่ะ
ปีที่ 24 ฉบับที่ 1269 [10-16 ธ.ค. 2547]
ยากจนครับผม
ภายหลังจากที่พวกเขาไปแล้วหนึ่งวัน ข้าพเจ้าสะกดรอยตามพวกเขาไป ฝนฟ้าคะนองตั้งแต่ค่ำคืน บนดอยฝนคงจะตกหนักกว่านี้ คงจะทุลักทุเลน่าดู พวกนักเขียนสาวๆ ลื่นล้มก้นกระแทก
ข้าพเจ้ารู้มาว่า มีผู้จัดตั้ง เพื่อนำพวกนั้นเดินทางไปยังบ้านบนดอยสูง ที่มีชนเผ่าอยู่มากมาย
เท่าที่เห็นก็มีเด็กสาวหน้าตาตลกๆ คนหนึ่ง ผอมหลังโกงเล็กน้อย ขับมอเตอร์ไซค์ พูดโทรศัพท์มือถือ ได้ยินเธอแทนตัวเองว่าอิ๋วๆ อีกคนหนึ่งผอมแห้งพอๆ กัน แต่คนนี้หน้าหวานเรียกตัวเองว่าอ๋อย ๆ
มีเด็กสาวๆ หนุ่มๆ ในบ้านไม้อีกสองสามคน พวกหน้าตาน่ารักทั้งนั้น แต่พวกเขาล้วนแต่ผอมบาง เหมือนคนขาดอาหาร
นี่แหละพวก เอ็นจีโอ...
เขาว่ากันว่า เอ็นจีโอ เป็นมนุษย์ที่อยากเห็นโลกสงบสุข และชอบเข้าไปตามที่ต่างๆ เป็นพวกตาสับปะรด หูทศกัณฐ์ แน่นอนเขาย่อมเห็นและได้ยินมากกว่าผู้อื่น แต่พวกนี้เป็นคนใจอ่อน ขี้แย มีลักษณะคล้ายๆ กันและทนอะไรไม่ค่อยจะได้
พวกนี้จะหายไปจากโลก เมื่อโลกสงบสุข มีสันติภาพ หรือไม่ก็ไม่มีโลก ทั้งสองอย่างจึงเป็นไปไม่ได้
เอ็นจีโอ โตขึ้นมาได้เพราะผู้คนทั้งหลายใช้พวกเขาเป็นดุลถ่วงกับรัฐราชการ ครั้งหนึ่งใช้เจ้าพ่อดุลกับราชการ ข้าพเจ้าคิดว่าเอ็นจีโอไม่น่ากลัวหรอก แต่ที่น่ากลัวก็คือ ชาวบ้าน หลังจากพวกเขาไปคบกับพวกเอ็นจีโอ พวกเขาก็ฉลาดทัน รับมือกับใครๆ และเริ่มรู้ว่ารับมือกับข้าราชการอย่างไร และให้เอ็นจีโอมาช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ปัญหาใหญ่อยู่ตรงนี้เอง
ตามข้าพเจ้ามาต่อไปเถิด
สายแล้ว ฝนยังคงตกหนักต่อไป ข้าพเจ้าเกือบเลิกล้มความตั้งใจที่จะสะกดรอยไป แต่ไม่ได้ ถ้าใครรู้ว่าข้าพเจ้ากลัวฝน นักสะกดรอยเช่นข้าพเจ้าจะเสียชื่อแย่
ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้สะกดรอยตามพวกนักเขียนมาถึง พวกนักเขียนถูกขังอยู่ในอาคารเล็กๆ เพราะออกไปไหนไม่ได้ ฝนตกเปียกแฉะและเลื่อนไหล ถนนดินแดงยามเมื่อเปียกน้ำมันจะลื่นล้มลง ความจริงแล้วการขังรวมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกนี้ เพราะจะมีเวลาพูดกันมากขึ้น คิดกันมากขึ้น
พวกนักเขียนหนุ่มพูดอย่างกังวลว่าจะกลับออกไปได้อย่างไร ท่ามกลางพายุฝน
อะ ฮ่า ผิดคาด ใจเสาะครับ อยากกลับบ้าน
พวกนักเขียนสาวพูดเบาๆ ว่า ไม่เห็นน่าอยู่เลย เขาให้ย้ายก็น่าจะย้ายไป จะมาอยู่ทำไมในป่า
"แต่ถ้าเขาอยากอยู่ในป่าก็น่าจะให้เขาอยู่ไป แล้วควบคุมดูแลเขา ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไร"
"นั่นนะซิฉันถึงว่า เขาอยากอยู่ในป่าก็ให้เขาอยู่ไปเถอะ" เสียงหนุ่มหนึ่งพูดตอบเป็นคนเดียวกับที่กังวลว่าจะออกจากป่าไปได้อย่างไร
"แต่เขาจะทำลายป่านะซิ ป่าจะหมดแล้ว รัฐบาลเขาถึงอยากตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลป่า" อีกคนหนึ่งพูดขึ้น
"แกไม่รู้อะไร แกเชื่อเหรอว่ารัฐบาลจะทำได้ เชื่อเหรอ ถ้ารัฐบาลทำได้ ทำได้นานแล้ว เพราะกรมป่าไม้มีมานานแล้ว มันไม่น่าจะเกี่ยวกับคนอยู่ในป่าหรือออกจากป่า แกว่าที่ป่าหมดเพราะคนดงคนดอยพวกนี้นะเหรอ แกรู้อยู่แล้วว่าเพราะข้าราชการชั่วร่วมมือกับพ่อค้าเลวและนักการเมืองโฉด ตัวการในการทำลายป่า"
นักเขียนสาวคนนี้เข้มมาก เธอพูดฉอดๆ จนข้าพเจ้าชักขยาด ข้าพเจ้าคิดว่าคนอย่างนี้ข้าพเจ้ากลัวเหลือเกินที่จะได้หล่อนเป็นเมีย
"ฉันไม่รู้หรอก ฉันแค่อยากมาเที่ยวป่าเท่านั้นเอง ฉันมีโฟว์วีลฉันก็อยากเข้าป่าบ้างไปเที่ยวตามใจฉัน ไม่ใช่ว่าคนอยู่ในเมืองก็อยู่ในเมืองไป คนอยู่ในป่าก็อยู่ในป่า คิดดูเถิดฉันมีโฟร์วีลแล้วฉันก็อยากเข้าป่า"
"ก็ดีแล้ว แต่แกเข้าใจหรือยังเรื่อง พ.ร.บ.ป่า"
หญิงสาวส่ายหน้า "ฉันทำข่าวบันเทิง ที่มานี่เพราะเขาชวนมา ฉันอยากมาเที่ยว ฉันไม่สนใจข่าวพ.ร.บ.ป่าชุมชนหรอก ฉันเขียนข่าวคนเอากัน คนเลิกกันดีกว่า"
"แล้วเธอสงสัยไหมว่า ถ้า พ.ร.บ.ป่าชุมชน ไม่ผ่านแล้วเกิดอะไรขึ้น" อีกคนหนึ่งถาม "ฉันจะอธิบายให้ฟัง"
"...ก็เกิดการย้ายคนออกจากป่า หาที่ทำกินใหม่ให้เขา และเขาอาจจะอยู่ในที่ทำกินใหม่ไม่ได้ เพราะที่ทำกินใหม่ที่รัฐบาลจัดส่วนใหญ่จะทำอะไรกินไม่ได้ พื้นที่แห้งแล้ง ชุมชนล่มสลายลงทันใด และผู้คนจะอพยพกันเข้าเมืองมากขึ้น โสเภณีจะเพิ่มขึ้น เด็กเร่ร่อนจรจัด ตลอดจนขอทานเพิ่มขึ้น ไม่มีแหล่งอาหารให้หากิน ต้องพึ่งภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก" หล่อนอธิบาย
"ฉันไม่อยากสนใจเลย ปวดหัว ปวดหมอง" หล่อนพูดเบาๆ
"แล้วถ้ามี พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่ว่านั่นนะ" สาวหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถามขึ้น และเริ่มมีคนอื่นให้ความสนใจเรื่องที่เธอพูดมากขึ้น กวีหัวเกรียนนั่นก็อีกคน งานไหนงานนั้นครับท่านเริ่มพูดอีกคนหนึ่งแล้ว และยืนยันเรื่องสิทธิในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชนอีก มันบอกว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องทรัพยากรของชุมชน อะไรของมัน ไม่เข้าใจครับท่าน
"คนก็ยังอยู่ในป่าได้ ภายใต้กฎหมายที่เอื้อต่อชีวิตและความเป็นอยู่ อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างผิดกฎหมายเหมือนเช่นทุกวันนี้ เธอว่าดีไหมล่ะ เธอลองคิดดูถ้าเราอยู่อย่างผิดทุกวัน ใครจะมีกำลังใจทำอะไรเล่า"
"แต่เมื่อกี้ฉันฟังๆ คล้ายๆ กับว่า คนเมืองเข้าป่าไม่ได้ ฉันมีโฟว์วีล ฉันก็อยากเข้าป่าบ้าง" หล่อนพูดอีกครั้ง
"ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ป่ากับเมืองไม่ได้ตัดขาดกัน เธอเข้ามาได้ เหมือนที่อื่นๆ ประโยชน์ที่จะได้รับได้รับกันเป็นชั้น ๆ อย่างเช่น คนอยู่ในป่าเขาก็ได้เก็บของกินจากป่า ได้อยู่ใกล้ชิด อย่างคนในเมืองเข้ามาก็ได้ประโยชน์ แต่ได้ต่างกัน คนในเมืองเข้ามาก็ได้ชื่นชมบรรยากาศ...เข้าใจไหม ?"
อีกมุมหนึ่ง หญิงสองชายหนึ่งกำลังถกเถียงกันว่า มิดะ ในบทเพลงของ จรัล มโนเพ็ชร มีจริงหรือเปล่า คนหนึ่งบอกว่าไม่จริง อีกคนหนึ่งว่าน่าจะจริง เธอเชื่อว่ามีตำนานมีความเชื่อหลายอย่างที่เมื่อผ่านยุคสมัยมาแล้วผู้คนไม่ยอมรับเพราะอาย ซึ่งความจริงแล้วมันมีที่มาที่ไปซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า
และเนื้อเพลงนี้เพียงเล่าเรื่องราวแห่งตำนวนเท่านั้น ในตำนานนั้นบอกว่า บนดอยสูงมีสาวงาม ผู้ซึ่งเป็นครูสอนเรื่องเพศให้กับคนหนุ่มๆ ก่อนที่จะออกไปครองเรือน มีครอบครัว
"เราสงสัยว่าเมื่อไหร่จะได้กินข้าวและออกกลับไป เราจะออกกลับไปได้อย่างไร" นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น
"เราไม่ได้สนใจอะไรหรอก มาให้กำลังใจคนจัดงาน" หนุ่มคนเขียนบทเพลงให้บริษัทผลิตเพลงในเมืองไทย ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
"ฮิฮิ ดูน้องนักเขียนสายเดี่ยวมาเที่ยวป่าด้วยซิ" เสียงหนุ่มๆ ซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้น แต่มันทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขขึ้นทันทีและอยากอยู่ที่นี้นานๆ
ข้าพเจ้ารีบหันไปดูน้องสายเดี่ยวที่ว่า โอ...น้องสาว เธอคนนี้เป็นนักเขียนร้อนๆ
เธอชอบเขียนเรื่องเซ็กซ์ ความเท่าเทียม และดนตรี เธอสูบบุหรี่นอกซองขาว
ในที่สุดคนที่พวกเขารอคอยก็มาถึง เป็นชาวดอยอาวุโส ซึ่งพวกเขายกย่องว่า เป็นปราชญ์บนดอย ข้าพเจ้าเคยเห็นเขาในหลายๆ ครั้ง เขาเคยไปร่วมประชุมกับวุฒิสมาชิก
ตอนนี้มีการผูกข้อมือกัน ท่ามกลางสายฝนเทลงมา แม้ถนนจะลื่นไหลอย่างไร แต่พวกเขาก็เดินทางมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนักเขียนแล้วยังมีนักวิชาการอีกสองสามคน
นักวิชาการอาจารย์จากมหาวิทยาลัย พูดเสียงดังและใครๆ ก็ฟังกัน พวกเขาพูดถึงสิทธิในการความเท่าเทียมและการอยู่กับป่าอย่างพึ่งพาอาศัยกัน การบุกรุกของนายทุนเพื่อสร้างรีสอร์ต เขายกตัวอย่างเรื่องบ้านพักของข้าราชการที่มาดูแลต้นน้ำถูกเผา
พวกชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช่พวกเขา และยังสันนิษฐานอีกว่า บ้านถูกเผาโดยเจ้าของเพื่อสร้างสถานการณ์และทำลายหลักฐานบางอย่าง
และแล้วพวกเขาก็ต้องออกจากป่ากันมาอย่างทุลักทุเล ต้องลงไปลากรถ เข็นรถขึ้นจากหลุม ลื่นล้มเปียกปอน
ฮาฮา พวกเขาได้รวมพละกำลังจริงๆ แล้ว--เข็นรถขึ้นจากหล่มที่ลื่นไหล บ้างใช้เชือกลากดึงไปข้างหน้า
ข้าพเจ้าจบการสะกดรอยแล้ว ข้าพเจ้าทำรายงานถึงเจ้านายได้แล้วว่า อย่ากังวลเลยเจ้านาย นี่เป็นเพียงกลุ่มคนยากจน มันจนอะไรอย่างนี้ มันกินเหล้าดอยและอยากให้มีเหล้าเสรี เพราะมันไม่มีเงินซื้อวิสกี้ดีๆ นะซิ มันอินโนเซนต์และยากจนนะเจ้านาย งานเขียนของนักเขียนใครจะอ่านสักกี่คนละเจ้านาย
แต่ที่น่ากังวลก็คือกลุ่มชาวบ้านที่รู้จักพวกมันนั่นแหละ ข้าพเจ้าคิดว่าเราต้องตั้งองค์กรขึ้นมาสักองค์กรหนึ่งที่เข้ามาเสียบลงให้พอดิบพอดี คล้ายๆ กับองค์กรของพวกมันนี่แหละ
พวกมันพูดเรื่องสิทธิ เรื่องการเป็นเจ้าของ เรื่องดูแลรักษา มันเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก ดังนั้น เราจะต้องลดความเหนื่อยยากลง ให้ลืมเรื่องสิทธิไปก่อน แต่จะพบกับความร่ำรวย ไม่ต้องดูแลรักษา ทุกคนมีเงินมีทองใช้ มีไฟฟ้า ประปา มีโทรศัพท์ มีตู้เย็น และมีรถยนต์ใช้
เจ้านายเห็นว่าเป็นเช่นไร และพวกเอ็นจีโอที่ว่า เราต้องได้ตัวดีๆ มาไว้ที่หน่วยงานของเราสักสองสามคน อย่าให้มากกว่านี้ ถ้ามากกว่านี้จะยุ่งยากเพราะเขาจะระดมความคิดกันได้และสร้างเครือข่ายขึ้นมาจะลำบาก
นี่เป็นข้อเสนอของผมครับ ถ้าเจ้านายพิจารณาอย่าลืมพิจารณาผมด้วยนะครับ ผมอยากกลายร่างเป็นคนตามเดิมแล้วครับผม ครับผม
เนื้อที่โฆษณาค่ะ
นานแล้วที่ไม่เขียนคอลัมน์ประจำตามหน้านิตยสาร ปีนี้ฉันเริ่มต้นเขียนคอลัมน์ประจำตามหน้านิตยสารอีกครั้ง
ชื่อคอลัมน์ เริงรำไปใต้ดวงตะวัน ฉบับนี้เขียนเรื่อง กินเห็ดหล่มที่บ้านทุ่งยาวค่ะ
ปกหนังสือฉบับที่ฉันเริ่มต้นเขียนอีกครั้งกำลังวางแผงอยู่ขณะนี้
ติดตามหาซื้อหาอ่านกันได้นะคะ นอกจากนี้ยังมีงานของไพวรินทร์ ขาวงาม พิบูลศักดิ์ ละครพล และนิยายของขจฤทธิ์ รักษาด้วยค่ะ
Create Date : 05 มกราคม 2552
Last Update : 6 มกราคม 2552 12:04:10 น.
9 comments
Counter : 928 Pageviews.
Share
Tweet
มาแวะชมผลงานค่ะ เขียนดีนะคะ ไม่ต้องหวั่นไหวไปกะคนไม่ชอบหรอก คนเราต่างใจ คนที่เขาชื่นชมก็ยังมี
มอลลี่เขียนนิยาย คอมเมนต์นิ่งยังเขียนต่อเลย แต่ตอนนี้ขอพักก่อนค่ะ คิดไรไม่ค่อยออกละ
โดย:
Tukta21
วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:18:41:40 น.
โดย:
beautyswan
วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:18:42:28 น.
โดย:
หนูใบข้าว
วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:18:43:40 น.
ขอบคุณหนูใบข้าว
Tukta21 และ beautyswan นะคะ
มีความสุขเช่นกันค่ะ
โดย:
แพรจารุ
วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:11:08:54 น.
ผมมีเพื่อนเป็นเอ็นจีโอด้วยครับพี่
ขบเหลี่ยมกันบ่อย
เพราะเธอทำเพื่อชาวบ้าน
แต่ผมทำงานกับระบบทุน
บางที "ความเข้าใจ" นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะถ้าเราคิดว่าเรา "ถูก" อยู่ฝ่ายเดียว
เราก็จะผลักป้าย "ผิด" ไปแขวนคอคนอื่นอยู่ร่ำไป
โดย: ก.ก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:6:42:30 น.
สวัสดีปีใหม่ครับ
ขอให้มีความสุขตลอดไปน่ะครับ
ด้วยมิตรภาพ
โดย:
ดอกเสี้ยวขาว
วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:12:36:47 น.
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่ยายแพรฯ
-----------------------------------
มีเรื่องดีดี นำมาให้อ่านสม่ำเสมอนะค๊า
โดย:
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:17:26:52 น.
หนูก็ยากจนค่ะพี่
โดย:
เช้านี้ยังมีเธอ
วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:13:07:22 น.
ไปหลงทางอยู่ตั้งนานกว่าจะเข้ามาถูกไปหลงอยู่กับเมืองกาญจน์ของฝนแสนห่าภาพเค้าสวยมากเลยครับพี่แพร...ตีสองจะตีสามแล้วยังมาจมจ่อมกับเรื่องจีโอของพี่แพรจารุอยู่เลย...
โดย: จสต.จินตวีร์ เกียงมี IP: 58.8.174.116 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:2:37:17 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
..
۞
บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท
..
۞
จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
pu_chiangdao
shadow-of-art
ม่วนน้อย
ดาริกามณี
ปะหล่อง
karnlaka
big onion
สีน้ำฟ้า
ป้ามด
ปอมปอมเกิร์ล
สัญจร ดาวส่องทาง
ฟ้าดิน
มันอยู่ในปอด
jomyutjieng
ชมจันทร์
กะว่าก๋า
9A
เนยสีฟ้า
sugarhut
ยิปซีสีน้ำเงิน
ชบาฉาย
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
pantamuang
นกแสงตะวัน
addsiripun
แสงแรก ประดับดิน
ปักเป้าจุด
lukkongpoka
ปลายแปรง
ตานลวิน
malarn cha
เสือจุ่น
ฟ้ากระจ่าง
Nilz
ShadowServant
ตาพรานบุญ
คุณน้องเต้
ดอกเสี้ยวขาว
เขาพนม
เช้านี้ยังมีเธอ
ไผ่เมือง
สายลมอิสระ
พ่อพเยีย
last_tibetstone
ร่มไม้เย็น
PenKa
p_tham
girl from sea
แม่ไก่
แพรจารุ
เจ๋วะรัฐถะ
กล้วยเน่า
Webmaster - BlogGang
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
ประชาไท
ภาคีคนฮักเชียงใหม่
เครือข่ายนักเขียน
เนชั่นแนลแนลจีโอกราฟฟิค
แคนโต้
เดลินิวส์
ซิมมี่
เงาศิลป์
สมาคมนักเขียน
คนชายขอบ
บทเพลงนางฟ้าสีขาวฯสุวิชานนท์
ปิ่นโตปลอดเนื้อ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มอลลี่เขียนนิยาย คอมเมนต์นิ่งยังเขียนต่อเลย แต่ตอนนี้ขอพักก่อนค่ะ คิดไรไม่ค่อยออกละ