คนเขียนหนังสือ ชีวิตเบิกบานในการงาน
Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

เขาโกรธที่ฉันเขียน

ฉันไม่ได้เขียนเรื่องสั้นนานแล้ว

เรื่องสั้นเรื่องนี้ ชื่อว่า ยากจนครับผม ลงในมติชนสุดสัปดาห์ 2547 จำได้ว่าหลังจากเรื่องสั้นเรื่องนี้ลงแล้ว มีเอ็นจีโอบางคนไม่ชอบ คนหนึ่งทำเสียงน่าเกลียดว่า ...เขียนดีมาก...(ลากเสียงยาวด้วย)

วันนี้ฉันพบเรื่องนี้ในGoogle และหยุดอ่าน ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเขียนดี (ฮา) แต่ทำไมตอนนั้นจึงหวั่นไหวเมื่อพรรคพวกไม่พอใจ ฉันไม่เอางานชิ้นนี้ไปรวมเล่ม และทิ้งไว้ทำเป็นลืม

วันนี้จึงเอามานำเสนอให้เพื่อน ๆ ชาวบล็อกแกงค์อ่านค่ะ

ปีที่ 24 ฉบับที่ 1269 [10-16 ธ.ค. 2547]



ยากจนครับผม

ภายหลังจากที่พวกเขาไปแล้วหนึ่งวัน ข้าพเจ้าสะกดรอยตามพวกเขาไป ฝนฟ้าคะนองตั้งแต่ค่ำคืน บนดอยฝนคงจะตกหนักกว่านี้ คงจะทุลักทุเลน่าดู พวกนักเขียนสาวๆ ลื่นล้มก้นกระแทก

ข้าพเจ้ารู้มาว่า มีผู้จัดตั้ง เพื่อนำพวกนั้นเดินทางไปยังบ้านบนดอยสูง ที่มีชนเผ่าอยู่มากมาย

เท่าที่เห็นก็มีเด็กสาวหน้าตาตลกๆ คนหนึ่ง ผอมหลังโกงเล็กน้อย ขับมอเตอร์ไซค์ พูดโทรศัพท์มือถือ ได้ยินเธอแทนตัวเองว่าอิ๋วๆ อีกคนหนึ่งผอมแห้งพอๆ กัน แต่คนนี้หน้าหวานเรียกตัวเองว่าอ๋อย ๆ

มีเด็กสาวๆ หนุ่มๆ ในบ้านไม้อีกสองสามคน พวกหน้าตาน่ารักทั้งนั้น แต่พวกเขาล้วนแต่ผอมบาง เหมือนคนขาดอาหาร

นี่แหละพวก เอ็นจีโอ...

เขาว่ากันว่า เอ็นจีโอ เป็นมนุษย์ที่อยากเห็นโลกสงบสุข และชอบเข้าไปตามที่ต่างๆ เป็นพวกตาสับปะรด หูทศกัณฐ์ แน่นอนเขาย่อมเห็นและได้ยินมากกว่าผู้อื่น แต่พวกนี้เป็นคนใจอ่อน ขี้แย มีลักษณะคล้ายๆ กันและทนอะไรไม่ค่อยจะได้

พวกนี้จะหายไปจากโลก เมื่อโลกสงบสุข มีสันติภาพ หรือไม่ก็ไม่มีโลก ทั้งสองอย่างจึงเป็นไปไม่ได้

เอ็นจีโอ โตขึ้นมาได้เพราะผู้คนทั้งหลายใช้พวกเขาเป็นดุลถ่วงกับรัฐราชการ ครั้งหนึ่งใช้เจ้าพ่อดุลกับราชการ ข้าพเจ้าคิดว่าเอ็นจีโอไม่น่ากลัวหรอก แต่ที่น่ากลัวก็คือ ชาวบ้าน หลังจากพวกเขาไปคบกับพวกเอ็นจีโอ พวกเขาก็ฉลาดทัน รับมือกับใครๆ และเริ่มรู้ว่ารับมือกับข้าราชการอย่างไร และให้เอ็นจีโอมาช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ปัญหาใหญ่อยู่ตรงนี้เอง

ตามข้าพเจ้ามาต่อไปเถิด

สายแล้ว ฝนยังคงตกหนักต่อไป ข้าพเจ้าเกือบเลิกล้มความตั้งใจที่จะสะกดรอยไป แต่ไม่ได้ ถ้าใครรู้ว่าข้าพเจ้ากลัวฝน นักสะกดรอยเช่นข้าพเจ้าจะเสียชื่อแย่

ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้สะกดรอยตามพวกนักเขียนมาถึง พวกนักเขียนถูกขังอยู่ในอาคารเล็กๆ เพราะออกไปไหนไม่ได้ ฝนตกเปียกแฉะและเลื่อนไหล ถนนดินแดงยามเมื่อเปียกน้ำมันจะลื่นล้มลง ความจริงแล้วการขังรวมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกนี้ เพราะจะมีเวลาพูดกันมากขึ้น คิดกันมากขึ้น

พวกนักเขียนหนุ่มพูดอย่างกังวลว่าจะกลับออกไปได้อย่างไร ท่ามกลางพายุฝน

อะ ฮ่า ผิดคาด ใจเสาะครับ อยากกลับบ้าน

พวกนักเขียนสาวพูดเบาๆ ว่า ไม่เห็นน่าอยู่เลย เขาให้ย้ายก็น่าจะย้ายไป จะมาอยู่ทำไมในป่า

"แต่ถ้าเขาอยากอยู่ในป่าก็น่าจะให้เขาอยู่ไป แล้วควบคุมดูแลเขา ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไร"

"นั่นนะซิฉันถึงว่า เขาอยากอยู่ในป่าก็ให้เขาอยู่ไปเถอะ" เสียงหนุ่มหนึ่งพูดตอบเป็นคนเดียวกับที่กังวลว่าจะออกจากป่าไปได้อย่างไร

"แต่เขาจะทำลายป่านะซิ ป่าจะหมดแล้ว รัฐบาลเขาถึงอยากตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลป่า" อีกคนหนึ่งพูดขึ้น

"แกไม่รู้อะไร แกเชื่อเหรอว่ารัฐบาลจะทำได้ เชื่อเหรอ ถ้ารัฐบาลทำได้ ทำได้นานแล้ว เพราะกรมป่าไม้มีมานานแล้ว มันไม่น่าจะเกี่ยวกับคนอยู่ในป่าหรือออกจากป่า แกว่าที่ป่าหมดเพราะคนดงคนดอยพวกนี้นะเหรอ แกรู้อยู่แล้วว่าเพราะข้าราชการชั่วร่วมมือกับพ่อค้าเลวและนักการเมืองโฉด ตัวการในการทำลายป่า"

นักเขียนสาวคนนี้เข้มมาก เธอพูดฉอดๆ จนข้าพเจ้าชักขยาด ข้าพเจ้าคิดว่าคนอย่างนี้ข้าพเจ้ากลัวเหลือเกินที่จะได้หล่อนเป็นเมีย

"ฉันไม่รู้หรอก ฉันแค่อยากมาเที่ยวป่าเท่านั้นเอง ฉันมีโฟว์วีลฉันก็อยากเข้าป่าบ้างไปเที่ยวตามใจฉัน ไม่ใช่ว่าคนอยู่ในเมืองก็อยู่ในเมืองไป คนอยู่ในป่าก็อยู่ในป่า คิดดูเถิดฉันมีโฟร์วีลแล้วฉันก็อยากเข้าป่า"

"ก็ดีแล้ว แต่แกเข้าใจหรือยังเรื่อง พ.ร.บ.ป่า"

หญิงสาวส่ายหน้า "ฉันทำข่าวบันเทิง ที่มานี่เพราะเขาชวนมา ฉันอยากมาเที่ยว ฉันไม่สนใจข่าวพ.ร.บ.ป่าชุมชนหรอก ฉันเขียนข่าวคนเอากัน คนเลิกกันดีกว่า"

"แล้วเธอสงสัยไหมว่า ถ้า พ.ร.บ.ป่าชุมชน ไม่ผ่านแล้วเกิดอะไรขึ้น" อีกคนหนึ่งถาม "ฉันจะอธิบายให้ฟัง"

"...ก็เกิดการย้ายคนออกจากป่า หาที่ทำกินใหม่ให้เขา และเขาอาจจะอยู่ในที่ทำกินใหม่ไม่ได้ เพราะที่ทำกินใหม่ที่รัฐบาลจัดส่วนใหญ่จะทำอะไรกินไม่ได้ พื้นที่แห้งแล้ง ชุมชนล่มสลายลงทันใด และผู้คนจะอพยพกันเข้าเมืองมากขึ้น โสเภณีจะเพิ่มขึ้น เด็กเร่ร่อนจรจัด ตลอดจนขอทานเพิ่มขึ้น ไม่มีแหล่งอาหารให้หากิน ต้องพึ่งภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก" หล่อนอธิบาย

"ฉันไม่อยากสนใจเลย ปวดหัว ปวดหมอง" หล่อนพูดเบาๆ

"แล้วถ้ามี พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่ว่านั่นนะ" สาวหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถามขึ้น และเริ่มมีคนอื่นให้ความสนใจเรื่องที่เธอพูดมากขึ้น กวีหัวเกรียนนั่นก็อีกคน งานไหนงานนั้นครับท่านเริ่มพูดอีกคนหนึ่งแล้ว และยืนยันเรื่องสิทธิในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชนอีก มันบอกว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องทรัพยากรของชุมชน อะไรของมัน ไม่เข้าใจครับท่าน

"คนก็ยังอยู่ในป่าได้ ภายใต้กฎหมายที่เอื้อต่อชีวิตและความเป็นอยู่ อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างผิดกฎหมายเหมือนเช่นทุกวันนี้ เธอว่าดีไหมล่ะ เธอลองคิดดูถ้าเราอยู่อย่างผิดทุกวัน ใครจะมีกำลังใจทำอะไรเล่า"

"แต่เมื่อกี้ฉันฟังๆ คล้ายๆ กับว่า คนเมืองเข้าป่าไม่ได้ ฉันมีโฟว์วีล ฉันก็อยากเข้าป่าบ้าง" หล่อนพูดอีกครั้ง

"ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ป่ากับเมืองไม่ได้ตัดขาดกัน เธอเข้ามาได้ เหมือนที่อื่นๆ ประโยชน์ที่จะได้รับได้รับกันเป็นชั้น ๆ อย่างเช่น คนอยู่ในป่าเขาก็ได้เก็บของกินจากป่า ได้อยู่ใกล้ชิด อย่างคนในเมืองเข้ามาก็ได้ประโยชน์ แต่ได้ต่างกัน คนในเมืองเข้ามาก็ได้ชื่นชมบรรยากาศ...เข้าใจไหม ?"

อีกมุมหนึ่ง หญิงสองชายหนึ่งกำลังถกเถียงกันว่า มิดะ ในบทเพลงของ จรัล มโนเพ็ชร มีจริงหรือเปล่า คนหนึ่งบอกว่าไม่จริง อีกคนหนึ่งว่าน่าจะจริง เธอเชื่อว่ามีตำนานมีความเชื่อหลายอย่างที่เมื่อผ่านยุคสมัยมาแล้วผู้คนไม่ยอมรับเพราะอาย ซึ่งความจริงแล้วมันมีที่มาที่ไปซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า

และเนื้อเพลงนี้เพียงเล่าเรื่องราวแห่งตำนวนเท่านั้น ในตำนานนั้นบอกว่า บนดอยสูงมีสาวงาม ผู้ซึ่งเป็นครูสอนเรื่องเพศให้กับคนหนุ่มๆ ก่อนที่จะออกไปครองเรือน มีครอบครัว

"เราสงสัยว่าเมื่อไหร่จะได้กินข้าวและออกกลับไป เราจะออกกลับไปได้อย่างไร" นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

"เราไม่ได้สนใจอะไรหรอก มาให้กำลังใจคนจัดงาน" หนุ่มคนเขียนบทเพลงให้บริษัทผลิตเพลงในเมืองไทย ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี

"ฮิฮิ ดูน้องนักเขียนสายเดี่ยวมาเที่ยวป่าด้วยซิ" เสียงหนุ่มๆ ซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้น แต่มันทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขขึ้นทันทีและอยากอยู่ที่นี้นานๆ

ข้าพเจ้ารีบหันไปดูน้องสายเดี่ยวที่ว่า โอ...น้องสาว เธอคนนี้เป็นนักเขียนร้อนๆ

เธอชอบเขียนเรื่องเซ็กซ์ ความเท่าเทียม และดนตรี เธอสูบบุหรี่นอกซองขาว

ในที่สุดคนที่พวกเขารอคอยก็มาถึง เป็นชาวดอยอาวุโส ซึ่งพวกเขายกย่องว่า เป็นปราชญ์บนดอย ข้าพเจ้าเคยเห็นเขาในหลายๆ ครั้ง เขาเคยไปร่วมประชุมกับวุฒิสมาชิก

ตอนนี้มีการผูกข้อมือกัน ท่ามกลางสายฝนเทลงมา แม้ถนนจะลื่นไหลอย่างไร แต่พวกเขาก็เดินทางมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนักเขียนแล้วยังมีนักวิชาการอีกสองสามคน

นักวิชาการอาจารย์จากมหาวิทยาลัย พูดเสียงดังและใครๆ ก็ฟังกัน พวกเขาพูดถึงสิทธิในการความเท่าเทียมและการอยู่กับป่าอย่างพึ่งพาอาศัยกัน การบุกรุกของนายทุนเพื่อสร้างรีสอร์ต เขายกตัวอย่างเรื่องบ้านพักของข้าราชการที่มาดูแลต้นน้ำถูกเผา

พวกชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช่พวกเขา และยังสันนิษฐานอีกว่า บ้านถูกเผาโดยเจ้าของเพื่อสร้างสถานการณ์และทำลายหลักฐานบางอย่าง



และแล้วพวกเขาก็ต้องออกจากป่ากันมาอย่างทุลักทุเล ต้องลงไปลากรถ เข็นรถขึ้นจากหลุม ลื่นล้มเปียกปอน

ฮาฮา พวกเขาได้รวมพละกำลังจริงๆ แล้ว--เข็นรถขึ้นจากหล่มที่ลื่นไหล บ้างใช้เชือกลากดึงไปข้างหน้า

ข้าพเจ้าจบการสะกดรอยแล้ว ข้าพเจ้าทำรายงานถึงเจ้านายได้แล้วว่า อย่ากังวลเลยเจ้านาย นี่เป็นเพียงกลุ่มคนยากจน มันจนอะไรอย่างนี้ มันกินเหล้าดอยและอยากให้มีเหล้าเสรี เพราะมันไม่มีเงินซื้อวิสกี้ดีๆ นะซิ มันอินโนเซนต์และยากจนนะเจ้านาย งานเขียนของนักเขียนใครจะอ่านสักกี่คนละเจ้านาย

แต่ที่น่ากังวลก็คือกลุ่มชาวบ้านที่รู้จักพวกมันนั่นแหละ ข้าพเจ้าคิดว่าเราต้องตั้งองค์กรขึ้นมาสักองค์กรหนึ่งที่เข้ามาเสียบลงให้พอดิบพอดี คล้ายๆ กับองค์กรของพวกมันนี่แหละ

พวกมันพูดเรื่องสิทธิ เรื่องการเป็นเจ้าของ เรื่องดูแลรักษา มันเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก ดังนั้น เราจะต้องลดความเหนื่อยยากลง ให้ลืมเรื่องสิทธิไปก่อน แต่จะพบกับความร่ำรวย ไม่ต้องดูแลรักษา ทุกคนมีเงินมีทองใช้ มีไฟฟ้า ประปา มีโทรศัพท์ มีตู้เย็น และมีรถยนต์ใช้

เจ้านายเห็นว่าเป็นเช่นไร และพวกเอ็นจีโอที่ว่า เราต้องได้ตัวดีๆ มาไว้ที่หน่วยงานของเราสักสองสามคน อย่าให้มากกว่านี้ ถ้ามากกว่านี้จะยุ่งยากเพราะเขาจะระดมความคิดกันได้และสร้างเครือข่ายขึ้นมาจะลำบาก

นี่เป็นข้อเสนอของผมครับ ถ้าเจ้านายพิจารณาอย่าลืมพิจารณาผมด้วยนะครับ ผมอยากกลายร่างเป็นคนตามเดิมแล้วครับผม ครับผม


เนื้อที่โฆษณาค่ะ

นานแล้วที่ไม่เขียนคอลัมน์ประจำตามหน้านิตยสาร ปีนี้ฉันเริ่มต้นเขียนคอลัมน์ประจำตามหน้านิตยสารอีกครั้ง

ชื่อคอลัมน์ เริงรำไปใต้ดวงตะวัน ฉบับนี้เขียนเรื่อง กินเห็ดหล่มที่บ้านทุ่งยาวค่ะ






ปกหนังสือฉบับที่ฉันเริ่มต้นเขียนอีกครั้งกำลังวางแผงอยู่ขณะนี้



ติดตามหาซื้อหาอ่านกันได้นะคะ นอกจากนี้ยังมีงานของไพวรินทร์ ขาวงาม พิบูลศักดิ์ ละครพล และนิยายของขจฤทธิ์ รักษาด้วยค่ะ




 

Create Date : 05 มกราคม 2552
9 comments
Last Update : 6 มกราคม 2552 12:04:10 น.
Counter : 925 Pageviews.

 

มาแวะชมผลงานค่ะ เขียนดีนะคะ ไม่ต้องหวั่นไหวไปกะคนไม่ชอบหรอก คนเราต่างใจ คนที่เขาชื่นชมก็ยังมี
มอลลี่เขียนนิยาย คอมเมนต์นิ่งยังเขียนต่อเลย แต่ตอนนี้ขอพักก่อนค่ะ คิดไรไม่ค่อยออกละ

 

โดย: Tukta21 5 มกราคม 2552 18:41:40 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: beautyswan 5 มกราคม 2552 18:42:28 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: หนูใบข้าว 5 มกราคม 2552 18:43:40 น.  

 

ขอบคุณหนูใบข้าว

Tukta21 และ beautyswan นะคะ

มีความสุขเช่นกันค่ะ

 

โดย: แพรจารุ 6 มกราคม 2552 11:08:54 น.  

 

ผมมีเพื่อนเป็นเอ็นจีโอด้วยครับพี่
ขบเหลี่ยมกันบ่อย
เพราะเธอทำเพื่อชาวบ้าน
แต่ผมทำงานกับระบบทุน

บางที "ความเข้าใจ" นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก

เพราะถ้าเราคิดว่าเรา "ถูก" อยู่ฝ่ายเดียว
เราก็จะผลักป้าย "ผิด" ไปแขวนคอคนอื่นอยู่ร่ำไป









 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 7 มกราคม 2552 6:42:30 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ครับ
ขอให้มีความสุขตลอดไปน่ะครับ

ด้วยมิตรภาพ

 

โดย: ดอกเสี้ยวขาว 7 มกราคม 2552 12:36:47 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะพี่ยายแพรฯ
-----------------------------------
มีเรื่องดีดี นำมาให้อ่านสม่ำเสมอนะค๊า

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 7 มกราคม 2552 17:26:52 น.  

 

หนูก็ยากจนค่ะพี่

 

โดย: เช้านี้ยังมีเธอ 8 มกราคม 2552 13:07:22 น.  

 

ไปหลงทางอยู่ตั้งนานกว่าจะเข้ามาถูกไปหลงอยู่กับเมืองกาญจน์ของฝนแสนห่าภาพเค้าสวยมากเลยครับพี่แพร...ตีสองจะตีสามแล้วยังมาจมจ่อมกับเรื่องจีโอของพี่แพรจารุอยู่เลย...

 

โดย: จสต.จินตวีร์ เกียงมี IP: 58.8.174.116 9 มกราคม 2552 2:37:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แพรจารุ
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..
۞ บทกวีและเรื่องสั้น ถนอมไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท

..
۞ จากกระท่อมทุ่งเสี้ยว โดยถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อัพเดท 17 ต.ค.51
http://www.youtube.com/watch?v=L21lhWsu8QQ&feature=related object width="315" height="80">
หา โค้ดเพลงhi5 : hi5 song code search
Friends' blogs
[Add แพรจารุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.