เรื่องราวเรื่อยๆ´¯)

MOnKEy_PrAi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่ผู้หญิงธรรมดา เกิดมาในสมัยที่เครื่องพิมพ์ดีดยังรุ่งเรือง เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ถึงแม้หน้าตาและท่าทางน่าจะไปเรียนช่างยนต์ ช่างซ่อมมากกว่าก็เถอะ 555+ สนใจทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จะไม่สนใจก็แค่เรื่องที่ไม่น่าสนใจเท่านั้น เอ๊ะยังไงหว่า ชอบทำอะไรตามใจ ที่ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน เลยกลายเป็นผู้หญิงแปลก ผสมกับ สติแตกนิดๆ ใครจะเกลียดจะหมั่นไส้ไม่สนใจ ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร 555+

ทุกท่านที่เดินผ่านมาในบล๊อก เราก็ดีใจ แต่ถ้าท่านจากไปโดยไม่ฝากคอมเมนท์ไว้ให้ เราก็แอบเคืองล่ะค่ะ ก้ากกกกก+
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
6 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MOnKEy_PrAi's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
และแล้วก็ขึ้นปีใหม่-คนเยอะชิบหายบนรถไฟฟ้า-fusion food ตามสูตรอัมพิกา-หิมะตกแล้วจ้า หนาวค่อดๆเล้ยยย

1.และแล้วก็ขึ้นปีใหม่

ผ่านปีใหม่มาเดือนกว่าแล้ว เพิ่งได้อัพบล๊อค 55555+ ช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ที่นี่เค้าก็จะมีจัดแสดงไฟ เค้าท์ดง เค้าท์ดาวน์ เราไม่่ผ่อน นู่น นี่นั่น ก็ว่ากันไป ส่วนอัมพิกาเหรอคะ ใช้เวลาแห่งการสังสรรค์โดยการนอนอยู่ในห้องตลอดเวลา....... ก็มันหนาวม๊ากกกกกกกนี่คะ นอนอยู่ในห้องอุ่นสบายกว่าเย๊อะ

แต่ก็ได้ฝ่าลมหนาวออกไปข้างนอกที่อุณหภูมิใกล้จุดเยือกแข็งอยู่ค่ะ แต่ก็แค่ไปซื้ออุปกรณ์ดำรงชีพเฉยๆแหละค่ะ ซึ่งก็ได้แก่ น้ำ ขนม ของสด ของแห้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปไหนอีกตลอดช่วงวันหยุดปีใหม่ทีเหลือ

ระหว่างทางที่เดินไปซูเปอร์มาร์เก็ทใกล้ๆหอ เริ่มตั้งแต่หน้าหอตัวเองเลย ก็จะมีต้นไม้ประหลาดๆตกแต่งอยู่ เดินผ่านบ้านคน หรือร้านค้าก็จะมีต้นไม้พวกนี้ จำได้เลาๆ่ว่า เด็กบอกว่า เป็น วัฒนธรรมของที่นี่ ทุกปีใหม่จะมีการจัดต้นไม้แบบนี้ไว้หน้าบ้าน มันต้องมีความหมายดีๆอะไรซักอย่างแหละค่ะ อัมพิกาก็ไม่รู้ และก็ไม่คิดจะถามด้วยยย ถึงอัมพิกาจะไม่ฉลาด แต่อัมพิกาก็โง่นะคะ



2.คนเยอะชิบหายบนรถไฟฟ้า

รถไฟฟ้าของที่นี่มีสองแบบเหมือนบ้านเราที่มี BTS กะ MRT นั่นแหละค่ะ ของที่นี่ ก็จะเป็น JR และ Metro... แล้วแต่ละแบบก็ยังแยกย่อยไปอีก เป็นแบบ local ก็จะช้าหน่อย จอดทุกสถานี บางสถานีก็จอดนานด้วย หรือที่เรียกว่า รถไฟหวานเย็นนั่นแหละค่ะ อีกแบบก็เป็นแบบ Rapid หรือ Express จอดแค่บางสถานีเท่านั้น

JR เป็นรถไฟฟ้าบนบก แอบมุดลงใต้ดินบ้างบางครั้ง คนโดยสารจะเยอะมากด้วยค่าบริการที่ถูก และก็มีหลายสายที่ออกนอกเมือง... บัตรที่ใช้เป็นตั๋วเดือน หรือบัตรที่ใช้เติมเงินเพื่อความสะดวก เวลานั่งรถไฟฟ้าเพื้อที่จะไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วนั้น เรียกว่าบัตร SUICA หากขึ้นรถไฟ JR เวลาบัตรนี้ไปทาบ ก็จะดังตู้ดเดียว ถ้าเป็นบัตรของรถไฟ Metro ก็จะดังสองตื้ดดด อัมพิกาช่างสังเกตขนาดนั้น 555555+

Metro เป็นรถไฟใต้ดิน แอบไฮโซนิดหน่อย ค่าตั๋วแพงกว่ากันนิดหน่อย บัตรที่ใช้เป็นตั๋วเดือน หรือบัตรที่ใช้เติมเงิน เรียกว่าบัตร PASMO บัตรนี้สามารถใช้ซื้อน้ำจากตู้ด้วยนะเออ เอาไปทาบให้มันดังตู้ดๆ ก็ได้น้ำกิน เงินที่จ่ายก็หักเอาจากในบัตร ตอนนี้อัมพิกา็ใช้บริการรถไฟใต้ดินทุกวันค่ะ ก้แหงล่ะมันอยู่ใกล้หอ 55555+ และก็เหมือนเดิม ถ้าาบัตร SUICA มาทาบเครื่องของ MEtro ดังสองตื้ด แต่ถ้าใช้ PASMO ดังตื้ดเดียว... ค่ายใครค่ายมันแบบนั้นแหละค่ะ


เคยเขียนไปแล้วว่าเวลาอัมพิกาเจอคนเยอะบนรถไฟใต้ดินเป็นยังไง และแล้วอัมพิกาก็ได้ไปเจอประสบการณ์ใหม่บนรถไฟฟ้า JR มันอภิมหาอลังการโคตรพ่อโคตรรแม่ของความเยอะของคนจริงๆค่ะ....


ได้ยินว่าตอนนีี้บีทีเอสที่เมืองไทยก็คนเยอะต่อแถวคนยาว บางคนรอสี่ห้าขบวนก็ยังไม่ได้ขึ้น ไม่ต้องตกใจนะคะพี่น้องชาวไทย เพราะที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน เป็นมานานแล้วด้วย... นี่ขนาดระบบขนส่งทางรถไฟฟ้าของที่นี่ สลับซับซ้อน มีเป็นสิบๆสาาย เชื่อมต่อกันหมด คนก็ยังเยอะอย่างนี้ พี่น้องชาวไทยทนไปอีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินค่ะ


คราวที่แล้วว่าคนเยอะมากๆแล้ว ถึงขนาดว่่าต้องจัดเรียงตัวแบบ closed pack แต่คราวนี้มากกว่าหลายๆเท่า ต้องจัดเรียงตัวกันเป้นกลุ่มก้อนเดียวกัน เรียกได้ว่า ถ้าสามารถสิงร่างกันได้ก็ให้สิงร่างกันเข้าไปเลยล่ะค่ะ


คนที่นี่มีวิธีการขึ้นรถไฟฟ้าในเวลาที่คนเยอะมากๆได้อย่างน่าทึ่ง จะเรียกว่าวิธีการขึ้นรถไฟฟ้าก็ไม่ใคร่จะถูกนัก ใช้คำว่า วิธีการยัดตัวเองเข้าไปในรถไฟฟ้า น่าจะถูกต้องและเห็นภาพชัดเจนกว่า.. ถึงขนาดต้องมีฝรั่งดึงกล้องออกมาถ่ายรูปเอาไว้ เพราะความ อเมซิ่งแจแปน อันนี้ล่ะ่ค่ะ


ส่วนวิธีการยัดตัวเองเข้าไปในรถไฟฟ้าเป็นอย่างไร อัมพิกาก็จะแจกแจงให้ฟังในตอนนี้ล่ะค่ะ พี่น้องชาวไทยคนไหนที่ต้องใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แ้ล้วบังเอิญเดินผ่านมาอ่านบล๊อคนี้พอดี จะเก็บเอาไปใช้ดู็ก้ได้นะคะ แต่ว่าถ้าเกิดผิดพลาดพลัดผลูประการใด อัมพิกาไม่ขอรับผิดชอบในทุกกรณีค่ะ


ก่อนอื่นต้องจินตนาการภาพต่อไปนี้ไว้ในหัวก่อนนะคะ นึกถึงคนเยอะม๊ากกกกกกกถึงมากกกกกกกกกที่สุดเข้าไว้ ยืนรอรถไฟกันอย่างเบียดเสียดเยียดยัด พอรถไฟมาึถึง ประตูเปิด คนก็กรูกันเข้าไปข้างใน เบียดกันเข้าไปเบียดกันเข้าไป เบียดกันจนคนสุดท้ายที่เข้าได้ หันหน้าออกประตู เท้าเหยียบธรณีประตูรถไฟฟ้าไว้ครึ่งเท้า คือเอาเท้าเข้าไปได้ไม่หมดนั่นเอง (รู้จักกันอยู่เน๊อะ ธรณีประตู ก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาใช้ให้เห็นภาพอ่ะค่ะ 55555+) ตอนนนี้แหละค่ะ กระบวนการอเมซิงแจแปนก็จะเริ่มขึ้น จากบุคคลอื่นๆที่เข้าไปในรถไฟไม่ได้ แต่รีบอยากจะโดยสารไปกับขบวนเวลานี้


1. หากต้องการยัดตัวเองเข้าไป ให้มองหาช่องว่างที่จะวางเท้าไว้ เมื่อเจอ ให้เล็งให้ดี เวลาขึ้นหันหน้าออกมาทางประตูรถไฟฟ้า ยกเท้าหนึ่งข้างไปเหยียบจองที่เอาไว้

2. ยกมือจะหนึ่งข้างหรือสองข้างแล้วแต่ความแข็งแรง เกาะขอบประตูรถไฟฟ้าด้านบนเอาไว้

3. เมื่อแน่ใจว่ามือจับไว้อย่างแน่นหนา แล้วรอจนกว่าสัญญาณที่บอกว่ารถไฟกำลังจะออกดังขึ้น จากนั้น ให้ยกเท้าอีกข้างที่ยังไม่ได้อยู่ในรถไฟฟ้าขึ้นไป แน่นอนว่าครึ่งนึงของเท้าทั้งสองข้าง โผล่เลยประตูออกมา แต่อย่าได้แคร์ ทำหน้ามึนๆเข้าไว้

4. เมื่อมือจับไว้แน่น เท้าวางได้สองข้าง สัญญาณเตือนดัง ก็ทำการเอนหลังเพื่อเบียดคนข้างในเข้าไปอย่างสุดแรงเกิด (นึกถึงภาพคนโหนอะไรซักอย่างไว้ค่ะ) เอนหลังเบียดเข้าไปจนกว่าคนจะขยับ เมื่อเบียดสำเร็จ เท้าทั้งสองข้างก้จะสามารถไปอยู่หลังธรณีประตู พร้อมกันนั้นประตูรถไฟฟ้าก็จะปิดพอดี ถึงหน้าจะแนบกระจก จนทำให้หน้าตาบู้บี้ ก็อย่าได้แคร์ ให้ตีหน้ามึนเข้าไว้เช่นเดิมค่ะ


อัมพิกาเห็นภาพกระบวนการอันน่าทึ่งเหล่านี้แล้ว....... ถึงกับต้องยกมือประสานกันที่หน้าอก ทำตาโต แล้วอุทานเบาๆว่า....... คุงพะ!! ในตอนแรกเด็กพยายามที่จะดันอัมพิกาให้ขึ้นรถไฟไปให้ได้ อัมพิกาถึงกับส่ายหัวแล้วบอกว่า... อิมพอสสิเบิ้ลเนะ (เติมเนะเข้าไปท้ายคำเพื่อให้ได้กลิ่นไอญี่ปุ่นนิดหน่อยค่ะ 5555+ คำว่าเนะของญ่ปุ่น มีความหมายเทียบเ่ท่ากับ คำว่านะ ในภาษาไทย) ส่วนในใจก็พูดว่า ม๊ายยยยยยยยย ไม่ไป กุไ่ม่รีบบบ ค้าาา -*-


เด็กก็หัวเราะ แล้วก็รอขบวนถัดไป พอประตูรถไฟเปิด อัมพิกาก็ถูกดันโดยกระแสมหาชนให้เข้าไปในรถไฟฟ้า ไม่ต้องเหนื่อยออกแรงเดินเลยค่ะ มันเป้นอัติโนมัติมาก เราจะไม่สามารถควบคุมร่ายกายของเราได้จริงๆค่ะ


จากนั้นก้จะมีคนเบียดๆๆๆเบียดกันเข้ามา โดยกระบวนการที่ได้บอกไปแล้ว จะโดนเบียดเข้ามาเรื่อยๆจนกว่าประตูจะปิดนั่นแหละค่ะ พอรถไฟเคลื่อนตัวเท่านั้น รถเมล์สายไหนของไทยก็ไม่มีทางเทียบเท่า... นี่อัมพิกาอยู่ที่ไหนเนี่ยยยยยยยยยยยยยย!!!! จะมีคนมาพาเราเอนโดยพร้อมเพรียงกัน ซ้ายทีขวาทีแต่ว่าไม่มีล้ม ไม่มีทางล้มลงกองกับพื้นแน่นอน เพราะคนเยอะจนมันล้มลงไม่ได้ -*-


เด็กก็ถามใหญ่ว่าอัมพิกาไม่เป็นไรใช่มั้ย!!!! จะให้กุตอบว่าไงคะ...... ก็ต้องตอบกลับไปด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม ว่า ไม่เป็นไรจ้าาาา


แต่พอหลุดออกมาได้เท่านั้นแหละ ถึงกับเอวเคล็ดกันเลย -*-


ใครมาญี่ปุ่นอย่าลืมมาเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟสาย JR นะคะ ^^"


ไม่มีรูปรถไฟฟ้าตอนคนเยอะมาให้ดู ไม่กล้าหยิบขึ้นมา กลับเก็บไม่ทันอ่ะค่ะ -*-
เอารูปท้องฟ้าหน้าหนาวมาลงละกัน ถ่ายที Terrace น้อยเหมือนเดิม จริงๆบางวัันตอนพระอาทิตย์กำลังตกสวยมากๆเลยค่ะ แต่ขี้เกียจถ่ายรูป




3.fusion food ตามสูตรอัมพิกา

มาอยู่ไกลบ้านไกลเมืองนึกอยากกินอาหารที่บ้านเราก็หายากค่ะ ราคาแอบแพงด้วยนิดหน่อย อย่ากระนั้นเลย ไหนๆเครื่องปรุงเครื่องแกงก็พอหาซื้อได้ในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ทของไทยที่มีที่เดียวในโตเกียว เราก็ทำเองสิคะ ทำเองอร่อยเอง สูตรดั้งเดิมเป็นไงไม่รู้ เราก็อาศัยจินตนาการคิดเอาว่ามันควรจะเป็นแบบนี้แหละ 55555+ ส่วนใหญ่ถ้าได้ทำอาหารไทยก็จะถ่ายรูปไว้ค่ะ แต่หายไปไหนหมดก็ไม่รู้


ที่สำคัญช่วงหลังๆมากินแต่ราเมงคับ ทำสถิติกินราเมงคัพติดต่อกันหนึ่งเดือนมาแล้ว ส่งผลให้ตอนนี้กางเกงเหลือที่ใส่ได้แค่สองตัวเองค่ะ


ครัวไทยอย่างที่รู้ๆกันค่ะ อุปกรณ๋เครื่องของเยอะแยะไปหมด อัมพิกาก็ทำเท่าที่ทำได้ ครบบ้างไม่ครบบ้าง ยกตัวอย่างเช่น อยากกินน้ำพริกกะปิแต่ไม่มีครกกะสาก ทำไงล่ะทีนี้ ก็ต้มน้ำเลยค่ะ ใส่หมูสับนิดๆให้ได้รสชาดกลมกล่อม สับกะเทียมลงไปคลุกกะกะปิลงไปละลายในน้ำร้อน เทพริกป่นลง บีบมะนาว ใส่น้ำตาล หั่นพริกสดลงไปลอยอยู่ข้างหน้า รสชาดออกมาเป็นน้ำพริกกะปิเป๊ะๆ 55555555+ แล้วก็ทำมะเขือชุบไข่ทอดด โอวว มายก๊อดดด ทำไมอัมพิกาเก่งเยี่ยงนี้


คึกอยากกินข้าวผัดน้ำพริกนรก สเต๊ก พะแนง ข้าวคลุกกะปิ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งงไข่เจียว อัมพิกาก็ทำอย่างที่ใจคิด อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่อร่อยก้ไม่เป็นไรกินได้เหมือนเดิม เพราะเป็นรสชาติที่เราอยากกิน


หรือแม้แต่อยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆกะน้ำปลาหวาน หรือนึกอยากกินยำมะม่วง มะม่วงไม่มี ใช้สตรอเบอรี่กะกีวีก็ได้ เปรี้ยวพอกล้อมแกล้ม จับมาคลุกใส่ น้ำตาล น้ำปลา พริก กะปิ โอววววววว อร่อยม๊ากกกกกกกก 555555+


ตอนนี้อยากกินแหนมเนืองม๊ากกกก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าจะทำมันออกมาได้ยังไง ต้องนั่งทางในกันนานหน่อยค่ะเมนูนี้

นึกแล้วก็อยากกลับไทยเร็วๆ ไม่ใช่ที่ีนี่ไม่น่าอยู่นะคะ แต่อยุ่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนอยู่บ้านเราหรอกเน๊อะ




4.หิมะตกแล้วจ้า หนาวค่อดๆเล้ยยย

หิมะตกในโตเกียวมาแล้วครั้งนึงเมื่อเดือนก่อนค่ะ แต่อัมพิกาไม่รู้ มารู้ตอนเด็กพูดว่าเมื่อคืน รอบๆโตเกียวหิมะตกนะ แหม อิฉันก็หลับอุตุในผ้าห่มไม่ได้ไปรู้เรื่องอะไรกับเค้าหรอกค่ะ

แต่มาคราวนี้ได้เห็นหิมะจะๆ ตัวเป็นๆ หลังจากที่เสร็จสิ้นงานเลี้ยงงานนึง ซึ่งยังไม่ทันได้เขียนบล๊อค พอออกมาหน้าร้าน หิมะกำลังตกหนักเล้ยยย อัมพิกาได้แต่ร้องกรี๊ดในใจ.. เกิดมาไม่เคยเจอมาก่อน อยากแปลงร่างเป็นนางเอกนิยายเดินไปพร้อมชายหนุ่มท่ามกลางหิมะ แอร๊ยยยยยยยย โรแมนติก (ตื่นได้แล้วเ้ว้ยยยเฮ้ยยยย -*- )

เด็กๆก็ถามใหญ่นี่เป็นครั้งแรกของอัมพิกาใช่มั้ยที่เห็นหิมะ อ่ะช่ายจ้าเด็กๆ ครั้งแรกของป้าเลยล่ะ แล้วเพื่อให้หิมะแรกของอัมพิกาน่าจดจำ อัมพิกาก็จัดการชิมซะเลย อยากรู้ว่า รสชาดมันจะเหมือนลูกเห็บบ้านเรามั้ย!!!

และแล้วก็ได้รู้ว่าแตกต่าง หิมะจะฟูๆนิ่มๆเหมือนน้ำแข็งใส ราดน้ำแดงน้ำเขียวใส่เฉาก๊วยลงไป โอ้วววววคิดถึงเมืองไทยจังเลย (มาเป็นกลอนประตูเลยกุ)

ในวันนั้นก็ได้แต่ภาวนาให้หิมะตกทั้งคืน เพราะอยากเห็น white tokyo ตื่นเช้ามาก็ได้เห็นจริงๆค่ะ แต่เป้น semi-white tokyo แค่นั้นเอง




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 0:53:43 น. 4 comments
Counter : 633 Pageviews.

 
พี่เคยโดนประตูรถไฟในโตเกียวหนีบค่ะ ขึ้นไม่ทัน แต่อาศัยหุ่นบึก โชคดีมันเด้งกลับ เลยไม่ได้ลงข่าวหน้า 1
แหนมเนืองก็ลูกชิ้นหมูปิ้ง อยากกินอะไร ก็ห่อเข้าไป น้ำจิ้มก็
อืม อยากนิ น้ำจิ้มไก่ ตราแม่ประนอม พอไหวมั้ยคะ
บ้านเราร้อนแล้วค่ะ
มะม่วง มะปราง ออกแล้วค่ะ


โดย: kim_tiger วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:16:18 น.  

 
รูปแรกต้นไม้นั่นเป็น mistletoe ครับ เขาจะประดับไว้หน้าประตูบ้าน เห็นว่าถ้าผู้ชายกับผู้หญิงยืนอยู่ใต้ต้นนี้พร้อมกันต้องจูบกันด้วยนะครับ


โดย: จิรเดช IP: 203.129.26.158 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:58:52 น.  

 
จริงหรอคะพี่ปอ.... เค้าต้องไปหาต้นไม้ต้นนี้ให้ได้!!!!


โดย: MOnKEy_PrAi วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:16:44 น.  

 
เล่าเรื่องได้สนุกและน่าติดตาม บรรยายได้สุดยอดเห็นภาพตามไปด้วยเลย

เรื่องความแน่นของรถไปเนี่ย มีเพื่อนคนญี่ปุ่่นที่อยู่เมืองไทยเล่าว่า
บีทีเอสของไทยที่ว่าแน่นๆ เนี่ย ที่ญี่ปุ่นยังสามารถอัดคนเข้าไปอีก
ได้ถึงสามสี่เท่า ...ถ้าเลือกได้พัชคงไม่เข้าไปอยู่สถานการณ์นั้นหรอก
กลัวได้เสียเป็นผัวเป็นเมียกับคนข้างๆ กร๊ากกกก


โดย: GutChy วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:30:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.