ว่าด้วยเรื่องฤกษ์แต่งงานสุดป่วน

วันนี้จะมาแอบเขียนเรื่องป่วนๆของฤกษ์ยามให้ฟังค่ะ

เพื่อนๆที่กำลังจะแต่งงาน ทุกๆคู่คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่าด้วยฤกษ์ยามค่ะ ยิ่งบ้านไหนยิ่งมีความเชื่อเรื่องฤกษ์ยาม อาจจะต้องดูกันหลายหมอเลยทีเดียว

แพรเองตอนแต่งยอมรับว่าบ้านสามีเป็นคนไทยแต่มีเชื้อสายจีน ญาติๆฝ่ายเจ้าบ่าวก็อยากให้ดูฤกษ์แบบจีน พยายามจะเกลี้ยกล่อมคุณแม่สามีว่าต้องไปดูนะ จะเอาเเบบไทยอย่างเดียวหรอ จะดีหรอ ต่างๆนาๆ ดีที่ว่าคุณแม่สามีน่ารักและค่อนข้างตามใจเรา เลยได้ใช้ฤกษ์ไทย และจัดแต่พิธีไทยเพียงอย่างเดียว แพรจะมาถ่ายทอดเรื่องฤกษ์ยามแบบไทยให้ฟังนะคะ

การดูฤกษ์แบบไทย ไม่ยุ่งยากเท่าแบบจีนค่ะ เอาแค่ วัน เดือน ปี เกิด ของคุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปดูเท่านั้น ซึ่งต่างกับแบบจีน ต้องเอาวัน เดือน ปี เกิด ของพ่อแม่ไปดูด้วยค่ะ สถานที่ดูก็ตามที่ครอบครัวเราเคยๆไปดูกันนั่นเเหละค่ะ ถ้ามาถามว่าที่นั่นดีไม๊ ที่นี่ดีไม๊ อันนี้แพรขอตอบว่าแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบ้านค่ะ เอาเป็นว่าคุณพ่อคุณแม่เคยไปดูหมอ หรือพระที่ไหนที่สนิทก็ไปให้ท่านผูกฤกษ์ให้เถอะค่ะ ของอย่างนี้เหมือนซื้อความสบายใจ

ข้อควรจำในการไปดูฤกษ์ก็คือ อย่าไปดูหลายที่ค่ะ เพราะหลายๆที่ดูมาแล้วไม่ตรงกัน เครียดเปล่าๆ

ยกตัวอย่าง ตอนคุงแฟนบวช ก็ให้เจ้าคุณที่วัดดูฤกษ์สึกให้ ปรากฎว่าคุณพ่อแพรบอกว่า ไม่ดี ต้องเป็นอีกเวลา เสียเวลาไปคุยกับพระครึ่งวันค่ะ นั่งถกกันไปถกกันมาเรื่องดวง คือความรู้แน่นทั้งคู่ ไม่รู้จะเอาตำราไหนดี สรุปบ้านแฟนก็ต้องตามใจคุณพ่อเพราะเป็นพ่อเรา อะไรเเบบนี้ คือในมุมมองของแพรคือ ถ้าบ้านเราปักใจเชื่อคนไหน ก็ไปคนนั้นค่ะ จะได้ไม่วุ่นวาย

ฤกษ์แต่งงาน หากไปดูควรจะขอฤกษ์สำรองไว้ด้วยนะคะ เพราะคุณโรงแรมที่เราชอบ อาจจะไม่ได้ว่างเสมอไปในวันที่เราต้องการจัดค่ะ ฤกษ์ที่เราได้มา มักจะเป็นวันดี และก็จะไปดีตรงกับฤกษ์ของชาวบ้านซะเป็นส่วนมากด้วยค่ะ

ถ้าบ้านไหนไม่เคร่งเรื่องฤกษ์ยามมาก ให้ขอฤกษ์แบบประกอบพิธีได้ตลอดทั้งวันค่ะ เช่นเริ่มแห่ขันหมาก 9.09 เป็นต้นไป ต่อจากนั้นจะสวมแหวน หลั่งน้ำ จะสวมมงคล เจิมหน้า เลี้ยงพระ หรือส่งตัว ก็ต่อๆๆกันได้เลย ไม่ต้องสะดุดค่ะ อันนี้จะเป็นผลดีแก่ตัวท่านเอง เพราะพิธีจะไม่ฉุกละหุก ไม่ต้องรอ หรือไม่ลากยาวจนเกินไป การขอฤกษ์แบบนี้ จะดูวันเป็นหลักว่าวันเป็นวันมงคล ฤกษ์บน ฤกษ์ล่างไม่เสีย และไม่เป็นอริแก่คู่บ่าวสาวค่ะ

การแต่งงานของคนไทย จะนิยมแต่งในเดือนคู่ และนิยมแต่งในวันศุกร์ค่ะ
แต่ถ้าข้อห้ามของหมอดู จะไม่นิยมให้จัดงานในวันพระ และวันพุธ วันเสาร์ บางตำราไม่ค่อยนิยมค่ะ

หลายคนบอกอ้าวก็วันเสาร์เป็นฤกษ์สะดวก ถ้าเป็นพิธีหมั้นหลั่งน้ำควรเป็นวันศุกร์ค่ะ แต่จะไปฉลองมงคลสมรส คือจัดเลี้ยงวันเสาร์ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
สรุปเรื่องฤกษ์เน้นๆคือตอนวันหมั้น หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และส่งตัวค่ะ วันฉลอง (งานเลี้ยง ) ฤกษ์สะดวกดีกว่า เพราะยังไงจัดเสาร์อาทิตย์ก็น่าจะสะดวกแก่ทั้งเจ้าภาพและแขกมากกว่าค่ะ

ถ้าคุณพ่อว่างจะให้เขียนเรื่องฤกษ์ยามโดยละเอียดมาแบ่งให้เป็นความรู้นะคะ

Create Date : 20 มกราคม 2552		3 comments
Last Update : 20 มกราคม 2552 12:34:18 น.
Counter : 1002 Pageviews.
Share Tweet