เชียงใหม่วันที่ 1

เชียงใหม่วันที่ 2

ถึงเวลามาต่อวันที่ 3 กันแล้วนะคะ หลังจากที่ปล่อยให้รอนานมาหลายวันมากๆ ขอโทษทีค่ะ

หลังจากวันที่2 ผ่านพ้นไป ล่วงเข้าวันที่ 3 โปรแกรมของเรา ตั้งแต่แรกก็คือ จะมีคนพาไปเที่ยวน้ำตก จะไม่เที่ยวในเมือง แต่เกิดการผิดพลาดขึ้น ไม่สามารถติดต่อคนพาเที่ยวได้ เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน วันนี้เราเลยตั้งใจว่า จะเดินเที่ยววัดในคูเมืองกัน ไม่ผิดหรอกค่ะ เราจะเดินกัน

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ 10 โมงเช้า เราก็เดินออกจากที่พัก ผ่านประตูช้างเผือก จากคู่มือการกินไม่รักไม่บอก4 บอกเราว่า แถวๆ ประตูช้างเผือก มีร้านโจ๊กเจ้าอร่อยอยู่แถวๆ นี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านนี้กันทันที และไปพิสูจน์ว่า จะอร่อยตมคำล่ำลือหรือเปล่า ไปถึงเราก็สั่งโจ๊กกันคนละชาม พร้อมติ่มซำ




ร้านสมเพชร ร้านโจ๊กขึ้นชื่อของเชียงใหม่

และเราก็ไม่ผิดหวังค่ะ อาหารของเค้าอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ด้วย หลังจากเติมพลังในมื้อเช้า(ตอน11โมง) กันเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรก นั่นก็คือวัดเชียงมั่น ซึ่งอยู่ใกล้ร้านสมเพชรมากที่สุด เราก็เดินเตร็ดเตร่กันไปเรื่อย ท่ามกลางแดดร้อนๆ เดินยังไม่ทันเหนื่อยเท่าไหร่ เราก็มาถึงกันแล้วค่ะ วัดเชียงมั่น



มาถึงวัด เราก็เข้าไปไหว้พระ นั่งพักถ่ายรูปกันซักพักใหญ่ๆ เราก็กางแผนที่เพื่อจะไปยังจุดหมายต่อไป แต่แอบดีใจนิดหน่อย คุณลุงที่วัดเชียงมั่น เห็นแป๋วแล้วก็ร้องทักว่า "Where are you from ?" แหะๆ แป๋วก็ออกอาการงงงวยเล็กน้อย หน้าตาเราไม่เหมือนคนไทยรึไงนะ แป๋วก็ยิ้มๆแล้วตอบคุณลุงกลับไปว่า "มาจากกรุงเทพค่ะลุง" ลุงก็หัวเราเสียงดังลั่น พร้อมกับบอกว่า "อ้าวเหรอ ลุงก็นึกว่าเป้นคนญี่ปุ่น" เอ่อ ลุงคะ หน้าตาหนูหมวยได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ตาโตๆ แบบนี้น่ะเหรอ แต่ก็ฮาดีค่ะ ^^

พออกจากวัดเชียงมั่น จุดหมายต่อไปของเรา ตั้งใจว่าจะไปชมสะตือเมืองเชียงใหม่ แต่เดินไปเดินมา มาเจออนุสาวรีย์สามกษัตริย์เข้าซะก่อน และที่ตรงนี้นี่เอง ที่ดึงเวลาของเราไปเกือบหมดวัน เพราะที่ด้านหลังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ คือหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ ที่เก็บรวบรวมเรื่องราว ประวัติของเมืองเชียงใหม่เอาไว้ ขอบอกว่าน่าสนใจมากๆ ค่ะ แต่เราถ่ายรูปกันมาไม่มากนัก มัวแต่ชมนู่นชมนี่กันอยู่





เราใช้เวลากันที่หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่กันนานมากๆ เข้าห้องนู่นออกห้องนี่กันเพลินเลยค่ะ เค้าจำลองวัฒนธรรม ชีวิตการเป็นอยู่ของชาวเชียงใหม่ตั้งแต่สมัยก่อนจำถึงปัจจุบัน นอกจากจะมีเรื่องราวให้อ่านแล้ว ยังมีหุ่นปั้น แล้วก็จำลองบรรยากาศ เหมือนของจริงๆ มากค่ะ แบบไม่กล้าเดินคนเดียวเลย กลัวอาแปะร้านขายของ คุณยายในตลาดจะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ยิ่งในห้องพระพุทธรูป ขอบอกว่าหลอนเอามากๆ แป๋วไม่กล้าเข้าไปดูเลยล่ะ ออกจากหอศิลปวัฒนธรรมฯ ก็น่าจะราวๆ บ่ายสามโมง เดินออกมาสิ่งแรกที่สะดุดตาเลยก็คือ ร้านขายโสการ์ด ไม่รอช้าค่ะ เรา2คง รีบตรงดิ่งเข้าไปทันที เลือกซื้อเลือกชม เสียเงินไปหนำใจกันแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของเราในคราวแรกคือ สะตือเมือง แต่พอเราไปถึงวัด (วัดอะไรจำชื่อไม่ได้ค่ะ) ถามคุณลุงคุณป้าที่อยู่แถวนั้นก็เกิดอาการงงๆ ไม่รู้ว่าสะตือเมืองอยู่ตรงไหน คนนึงบอกอย่าง อีกคนก็บอกอีกอย่าง เราก็เลยตัดสินใจ เปลี่ยนจุดหมายแทน แล้วเราก็มากันที่นี่ค่ะ วัดพันเตา





มาถึงวัดพันเตา เราก็เข้าไปไหว้พระ ถ่ายรูปกันเล็กน้อย นั่งพักผ่อนกันซักพัก เพื่อนแป๋ว (เรียนอยู่ที่มช.ค่ะ) ก็โทรมาถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว จะพาเที่ยวต่อ พอดีเพื่อนเพิ่งว่างค่ะ (ไม่ใช่คนที่นัดกันไว้ว่าจะพาไปน้ำตกนะคะ) ก็เลยบอกว่าอยู่วัดพันเตา กำลังจะไปวัดเจดีย์หลวง เพื่อนก็เลยบอกว่า ให้ไปเจอกันที่วัดเจดีย์หลวง จะพาไปเที่ยวต่อ



แล้วเราก็เดินมาถึงวัดเจดีย์หลวง มาถึงไม่นานเพื่อนก็มารับ หาขับรถไปจอดอีกด้านของวัดเจดีย์หลวง พร้อมกับเป็นไกด์ แนะนำ อธิบาย เรื่องราวคร่าวๆ ให้ฟัง แล้วก็ปล่อยให้เราถ่ายรูป ไหว้พระกันไป และเราก็ต้องขอแชะภาพกันซักหน่อย



แล้วเพื่อนก็พาออกจากวัดเจดีย์หลวง ไปต่อกันที่วัดพระสิงห์ค่ะ ที่สัดพระสิงห์เราใช้เวลากันน้อยมากๆ เก็บภาพได้เล็กน้อย เพราะเวลานั้นเริ่มเย็นแล้ว เค้ากำลังเริ่มตั้งของขายที่ถนนคนเดิน ถ้าเราออกไปช้า รถจะไม่สามารถออกไปได้ เพราะเค้าจะปิดถนนค่ะ เราก็เลยต้องทำเวลากันนิดนึง



ออกจากวัดพระสิงห์ เราก็เริ่มหิวกันนิดหน่อย เพื่อนก็เลยพาไปร้านเค้กเจ้าอร่อย ไม่ถึงกับขึ้นชื่อ แต่รับรองว่าอร่อยจริงๆ ค่ะ ชื่อร้าน Fern Forest Cafe อยู่ไม่ไกลจากวัดพระสิงห์ซักเท่าไหร่ แต่ต้องขออภัยจริงๆ แป๋วจำพิกัดไม่ได้แล้วค่ะ


บรรยากาศภายในร้าน


เมนูที่เราสั่งกันมา ขอย้ำว่าอร่อยจริงๆ ค่ะ

หลังจากที่เราจัดกับกับมื้อเล็กๆ ของเรากันแล้ว นั่งคุยนั่งเม้าท์กันซักพัก เพื่อนแป๋วก็พาขับรถต่อ พาไปชมในม.เชียงใหม่ค่ะ ที่แรกที่พาไปแวะ ก็คือคณะวิจิตรศิลป์ ซึ่งเป็คณะของเพื่อนแป๋วเองค่ะ





หลังจากนั้นเพื่อนก็พาขับรถชมบรรยากาศภายในมหาลัย แล้วก็พาขึ้นไปยังอ่างเก้บน้ำด้านหลังมหาลัย วิวสวยมากๆ ค่ะ มองลงมาเห็นเมืองเชียงใหม่ได้กว้างไกลมากๆ แล้วเพื่อนก็พาขับรถวนไปรอบๆ เมือง พาชมนู่นชมนี่ เนื่องจาก เรามีเวลากันไม่มากนัก เพื่อนแป๋วต้องไปทำธุระต่อ ก็เลยได้แค่ขับรถชมเมือง แต่แค่นี้ก็ต้องขอบคุณแล้วค่ะ เนื่องจากเราไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าอันหล่อเหลาของเพื่อนแป๋วได้ ชมด้านหลังแทนแล้วกันนะคะ อิอิ เป็นเพื่อนตั้งแต่มัธยมเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับไกด์ ชะโงกทัวร์นะจ๊ะ



หลังจากที่เพื่อนพาไปชะโงกทัวร์แล้ว เพื่อนก็กลับมาส่งเรา ณ จุดเดิมที่มารับไป เพราะเพื่อนต้องไปทำงานต่อ เวลานั้นน่าจะประมาณเกือบๆ 5โมง เราก็เลยเข้าไปนั่งเล่นที่สัดพระสิงห์รอเวลาให้ร้านในถนนคนเดินจัดตั้งกันให้เรียบร้อย ก็นั่งคุยนั่งเม้าท์กันไปเรื่อย จนถึงเวลาเรา เราก็ออกเดินกันอีกครั้ง เดินถนนคนเดิน ทุกซอกซอย แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรติดมากลับมาเลยซักชิ้น นอกจาก...เดินไปเจอร้านภมรการ์ด ของพี่ภู่ เรา2คนก็ไม่รอช้า ปรี่เข้าไปทันที พร้อมกับถามว่า พี่รู้จักหนูมั้ยค่ะ ( --" ) แล้วทำไมเค้าต้องมารู้จักแป๋วใช่มั้ยคะ พอดีว่าพี่เค้าก็อยู่ในคลับโปสการ์ดน่ะค่ะ ก็เลยเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า พี่รู้มั้ยว่าหนูมาจากไหน พี่เค้าก็เลยตอบกลับมาว่า เสื้อก็บ่งบอกอยู่แล้ว มาจากคลับโปสการ์ด พูดคุยกันพอเป็นพิธี เราก็เริ่มปฏิบัติการเขียนโปสการ์ด เบือกกันมาได้คนละ3-4ใบ ก็ก้มหน้าก้มตาเขียน เมื่อหย่อนลงตู้เรียบร้อย ก็คุยกับพี่ภู่อีกซักพักแล้วก็ต้องเดินออกมา เพราะมีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อยๆ



เราสองคนก็เตร็ดเตร่ๆ กันอีกซักพัก พอพ้นถนนคนเดินออกมา เราก็มุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก อาบน้ำนอนกันเลยทันที เพราะว่าหมดแรงกันค่ะ เหนื่อยมากๆ แต่ก็สนุกดีนะ

ยังไม่หมดค่ะ ยังเหลือการผจญภัยอีก 1 วันที่เชียงใหม่ ยังไงอย่าเพิ่งหายไปกันนะคะ แป๋วจะพยายามรีบๆ มาอัพต่อไวไวค่ะ ^^