|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
G INCEPTION
สวัสดีครับ
ห่างหายกันไปนานอีกตามเคยนะครับ สำหรับการเขียนบล็อกของผม
วันนี้จะมาลุคใหม่ซะหน่อยครับ คือ ตามปกติเขียนบล็อกนี่เน้นเขียนเอาฮา ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่วันนี้เป็นเรื่องสาระ(เกือบจะ)ล้วน ๆ กันเลยทีเดียว
ยังไงก็คงไม่หนีความ กวน มึน ฮา ไปมากน้อยสักเท่าไรหรอกน่า ^-^
******************************************
หลังจากไปชม INCEPTION กลับมา ผมก็คิดได้ว่า อืมมมม นะ ถ้ามีใครที่เราอยากทราบอะไร ๆ อย่างพระเจ้า(ถ้ามีอะนะ) ก็ขอให้ท่านช่วยมาเฉพาะกิจ เพื่อให้สัมภาษณ์กันแบบ INCEPTกันไปเลยน่าจะดีนาครับ
ดังนั้นท่านก็เลยจัดให้เป็นพิเศษ เนื่องในเดือนสำคัญ อย่างเดือนสิงหา อย่างนี้ไงครับ ^-^
******************************************
เวลา 10.00 25 / 8/ 2010 ผม พี คิว: บันทึกการสัมภาษณ์
แขกรับเชิญพิเศษ: พระเจ้า
เริ่มการสนทนาช่วงแรก
ผม - สวัสดีครับท่าน
พระเจ้า - อืมมม สวัสดี
ผม - วันนี้ก็ขออนุญาตสัมภาษณ์ท่านแบบ เกิดมาคุยเลยดีไหมครับท่าน หรือจะเอาแบบไฮโซอย่างสุริวิภาวดี
พระเจ้า - แบบไหนก็ได้ ตอบได้ก็ตอบนะ ตอบไม่ได้ก็ผ่าน
ผม - ครับผม จริง ๆ มีเรื่องอยากจะถามเยอะแยะตาแป็ะกึ่มเลยครับ เช่น เรื่องมนุษย์มาจากไหน โลกมาจากไหน
พระเจ้า - อันนั้นมันไกลตัวไป ให้นักดาราศาสตร หรือนักชีว เค้าตอบเหอะ
เอาเรื่องใกล้ตัว ๆ แบบที่มีประโยชน์มากกว่าดีกว่า
ผม - แล้วเรื่องอะไรดีละครับ
พระเจ้า - ก็อย่างเช่น เรื่อง โลกร้อน จริง ๆ บางทีก็เย็น
ผม - โลกร้อนเนี่ยะนะ
พระเจ้า - อืมม สิ
ผม - โลกร้อนก็งดใช้ถุงพลาสติกสิครับ ประหยัดไฟ ลดก็าซอะไรทำนองนั้น
พระเจ้า - ไอ้แบบนั้นมันก็ดี แต่เดี๋ยวก่อน นั่นยังไม่พอ
ผม - มีอะไรมากกว่านั้นอีกหรือครับ
พระเจ้า - ใช่ ถ้าเจ้าโทรมาภายในสิบนาที เราจะลดราคาให้พร้อมกิฟว็อยเชอร์
ผม - ไม่ใช่แล้วมั้งครับท่าน
พระเจ้า - โทษทีละกัน เราึนึกว่าทีวีไดเร็ก อะแฮ่ม ๆ เข้าเรื่อง ๆ
ที่โลกร้อนทุกวันนี้ แน่นอน ว่าส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือมนุษย์ แต่อีกส่วนที่มนุษย์ไม่รู้
นั่นฝีมือของซาตาน
ผม - ทาร์ซาน เอ็ ทาร์ซาน มาเกี่ยวอะไรด้วยครับท่าน
พระเจ้า - ซาตาน ซาตาน ได้ยินไหมนี่ ว่าง ๆ เจ้าไปแคะขี้หูซะบ้างนะ
ผม - อ๋อ ๆ ขอประทานโทษครับท่าน ว่าแต่ซาตาน มีตัวตนด้วยหรือครับ
พระเจ้า - อ้าวววว พระเจ้ายังมีได้เลย
ผม - อ๋อ ครับผม ยังไงครับท่าน ชัีกน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆแล้ว
พระเจ้า - ซาตานนี่นะ เค้า เอ็ย ท่านต้องการทดสอบมนุษย์
ผม - อ้าว ไม่ใช่พระเจ้าหรือครับที่ต้องการทดสอบ
พระเจ้า - จะบ้าหรือ เราจะไปอยากทดสอบทำไม พระเจ้ามีไว้ช่วยต่างหาก ขืนทดสอบก็จะยุ่งยากมากกว่าเดิมสิ
ผม - อ้าว ถ้างั้นยิ่งงงครับ แล้วซาตานจะมาทดสอบมนุษย์ทำไมละครับ
พระเจ้า - ก็เพื่อการเลือกสรรไงละ
ผม - เลือกสรรอะไรครับ ซาตานต้องการเลือกอะไร
พระเจ้า - คืองี้ ซาตานมีความเชื่อว่ามนุษย์นั้นแบ่งเป็น 2 พวก
พวกหนึ่งเป็นคนบุญ อีกพวกหนึ่งเป็นคนบาป ซาตานต้องการเลือกตรงนี้
ผม - หมายความว่าพระเจ้าไม่ได้คิดอย่างนั้นหรือครับ
พระเจ้า - เดิมทีเราก็คิดเช่นนั้น แต่ครูบาอาจารย์ผู้มีญานทัศนะ อันแจ่มใสยาวไกล ได้บอกเรา
ผม - บอกว่าไงครับ
พระเจ้า - บอกว่าจริงอยู่ถึงมนุษย์จะมีทั้งคนบุญ และ คนบาป และหนำซ้ำ คนบาปมีมากกว่าด้วย แต่วิธีการแก้ไขนั้น ไม่ใช่การเลือกสรร
พระเจ้า - แต่เป็นการชี้ทางต่างหาก เผื่อคนที่ไม่ดีจะกลับใจ-คนดีจะดียิ่งขึ้น และเเน่นอนตามพระราชดำรัสของในหลวง สนับสนุนคนดีให้มีบทบาท
พระเจ้า - ถ้าทำอย่างที่ซาตานว่า มันก็คือการทำลายคนจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งเราก็ว่ามันเป็นบาป เราจึงไม่เห็นด้วยกับท่านซาตาน
พระเจ้า -แต่เราก็ไม่เห็นทางว่าจะแก้ปัญหาอะไร ได้อย่า่งไร
จนครูบาอาจารย์มาบอก บอกให้ช่วยกัน-ทำการชี้ทางถึงทางออก
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ให้แผ่เมตตาไป หรือ ช่วยอะไรโลกได้ที่สมควรก็ช่วย
นั่นคือ สิ่งที่เราทำตาม โดยท่านผู้ประเสริฐ อย่างครูบาอาจารย์พยายามบอก
ผม - โอ ซาตานมีอำนาจขนาดทำลายโลกได้เลยหรือครับ
พระเจ้า - อืมมม ก็ขึ้นอยู่กับมนุษย์ด้วย
ผม - ยังไงกันครับ
พระเจ้า - ยังงี้นะ ซาตานมีความหมายอยู่ทั้ง 2 นัยยะ คือ
ทั้งมีตัวตนและไม่มีตัวตน
ผม -ห าาา
พระเจ้า - ในแง่ของการมีตัวตน ที่เมื่อกี้เราบอกไป
แต่ในอีกแง่หนึ่ง คือ กิเลส
ซาตานในแง่นี้อาศัยกิเลสของมนูษย์เอง ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย
ไม่ช่แค่โลกร้อน-โลกเย็น ทั้งสงคราม เศรษฐกิจ และสังคม เหล่านี้ล้วนเกิดจากกิเลสที่แฝงในตัวมนุษย์
พระเจ้า - สังเกตไหม พระเจ้าเองก็ยังทุกข์
ผม - อ้าว หรือครับ
พระเจ้า - เราจึงมาเพื่อศึกษาธรรมะไปลดกิเลส
จะได้ไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อย ๆ
ผม - ท่านจะทุกข์เรื่องอะไรครับ
พระเจ้า - พูดอย่างนี้เพราะไม่เคยเห็นกิเลสใช่ไหม เอาง่าย ๆ
เคยซึม ๆ ไหม แบบว่าตื่นนอนก็ซึม เซ็ง ๆ ไงชอบกล
ผม - อือ ครับ
พระเจ้า - นั่นแหละ กิเลส แค่นี้ก็เริ่มทุกข์แล้ว
ยัง ๆ ยังๆไม่พอ พระเจ้านี่ความเมตตามากใช่ไหม
ผม - นั่นสิครับ
พระเจ้า - พอเมตตามาก ๆ เข้า ก็เกิดความรัก- ความห่วงใย- คิดถึง ก็ทุกข์อีก แค่คิดถึงก็ทุกข์แล้ว จริงไหม
ผม - จริงครับ
พระเจ้า - เพราะฉะนั้น แม้แต่พระเจ้าเองก็ต้องหาทางลดละกิเลสด้วย
ถูกหรือไม่ การเป็นคนดีมีบารมีมาก ไม่ได้เเปลว่าจะไม่มีกิเลส
คนดีก็มีกิเลสแบบคนดี เช่น อยากทำดีมาก ๆ อะไรทำนองนั้น
ผม - ทำดีมาก ๆ ก็ดีแล้วนี่ครับท่าน
พระเจ้า - ในความจริง มันไม่ใช่ยังงั้นน่ะสิ
พระเจ้า - ใครจะสามารถ ทำดีได้แบบเฟอร์เฟค ยังงั้นโลกมีพระเจ้าสักสิบองค์
มนุษย์ก็จะไม่มีความทุกข์เลยงั้นสิ
ผม - แหม ก็น่าจะยังงั้นไม่ใช่หรือครับ
พระเจ้า - จริง ๆ มันไม่เป็นไปอย่างนั้นหรอก
โลกนี้หรือโลกไหนก็เป็น เรื่องของเหตุและผล
ผม - แบบวิทยาศาสตร์ใช่ไหมครับ
พระเจ้า - ใช่เลย ถูกต้องเลย เช่นถ้าเราต้มน้ำ อุณหภูมิถึง น้ำก็ต้องเดือด - ใช่ไหม
ผม - ครับ แล้วเกี่ยวยังไงกับมนุษย์
พระเจ้า - หมายความว่า ถ้ามนุษย์จำนวนมากพากันทำแต่ความชั่ว
สังคมย่อมไม่สงบสุข จะด้วยเหตุใด ก็ตามจริงหรือไม่
ผม - ครับ
พระเจ้า - แล้วคิดว่า 6000 - 7000 ล้าน บนโลกนี่เป็นไปในทางไหน
ผม - ครับ ก็ค่อนข้างไปในทางไม่สงบครับ
พระเจ้า - แล้วเมื่อคนเหล่านั้นพากันทำเหตุที่เป็นไปในทางนั้น ทุกวัน ๆ
ปัญหาใหม่ ๆ ที่เป็นผลของเหตุการณ์เหล่านั้น ก็ต้องเกิดขึ้นทุกวัน ๆ
ต่อเนื่องกันไปไม่รู้จักจบ-จริงไหม
พระเจ้า - ดังนั้นคำตอบมันจึง ไม่ใช่ไปวิ่งไล่แก้ปัญหา ถูกไหม
เพราะมันไม่มีทางทัน กับจำนวนปัญหาที่เกิดขึ้น
ผม - ครับ
พระเจ้า - ทางที่ถูกก็ คือ อย่างที่บอกตะกี้ ที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำ
ช่วยกันทำให้คนคิดดี ด้วยเหตุผลที่ดี -มีวิธีการฝึกฝนในจิตในใจ
ผม - เพราะคนเราเริ่มทุกอย่างที่ใจ ใช่ไหมครับ
พระเจ้า - ถูกต้องมาก ๆ แล้วเมื่อปัญหามันลดลงถึงจุดที่สมดุล
มันก็ช่วยแก้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ไม่สามารถแก้ได้ทุกปัญหาในทุกคน
ผม - ทำไมละครับ
พระเจ้า - ทางพุทธเค้าเรียกว่า กรรมะ หรือผลส่วนตัวของแต่ละคน ที่ได้ทำเหตุไว้แบบวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งกรรมพันธ์ อายุขัย โรคต่าง ๆ ที่ก็มีบอกไว้ในดีเอนเอ ของแต่ละคน
ถ้ารวม ๆ จะเรียกว่าโชคชะตาก็คงได้เหมือนกัน
ผม - อย่างงั้นมนุษย์ก็ต้องรับโชคชะตาส่วนตนไปงั้นหรือครับ
พระเจ้า - มันก็ห้าสิบห้าสิบไงละ หมายถึงวัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่ง เอ้ยไม่ใช่
ผม - แหม ท่านเรื่องกำลังซีเรียส
พระเจ้า - เอาน่ะซ้อมมุกไว้นิดหนึ่ง คือ มนุษย์สามารถเลือกกระทำได้อีกครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อยแน่นอน เช่น เด็กเกิดในสลัม ต้องเป็นโจรแน่นอนหรือ
มันก็ไม่แน่ จริงไหม ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ที่แน่ ๆ ขึ้นอยู่กับจิตใจของเด็กคนนั้นเองด้วย
ผม - ครับ งั้นแปลว่ามนุษย์มีโอกาส
พระเจ้า - แน่นอน แต่ใครจะรู้ว่าควรทำอะไรเมื่อไหร่
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำ คือควรทำดีด้วยวิจารญานที่รอบคอบ นั่นละที่สำคัญ
และเมื่อทำดีแล้ว ก็ไม่ต้องไปรอคอยว่าจะสำเร็จผลเมื่อไหร
รู้แต่ว่าเป็นคนดีแล้ว ก็ควรจะพอใจ ณ จุดนั้น
ผม - ครับผม เป็นข้อคิดที่น่าสนใจ และเรื่องราวที่แปลกหูกว่าที่เคยได้ยินมากเลยนะครับ
พระเจ้า - โอเค เราก็สบายใจมากขึ้น ที่ได้บอกไป
ไม่เช่นนั้น คนจะว่าเอาได้โดยไม่มีการไตร่ตรองอย่างถูกต้อง
ผม - งั้นถ้ายังไง วันหน้าขอเชิญท่านมา incept ให้พวกเราอีกนะครับ
พระเจ้า - ถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจเพียงพอน่ะนะ
ผม - ครับ ๆ ได้ครับ ขอขอบพระคุณท่านมากครับ
พระเจ้า - ไม่ได้อู้น่ะเฟ้ย จงทำในสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว โอเค ไปละ
ผม - ครับผม ทราบแล้วเปลี่ยน
พระเจ้า - เดี๋ยวๆๆ อีกนิด เกือบลืม
ผม - ครับ เชิญครับผม
พระเจ้า - มีอีกเรื่องที่คนชอบเข้าใจผิดกันมาก
แบบว่าเวลาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่แก้ไขปัญหากันได้เองอยู่แล้วนะจ็ะ
อย่าลืมสิ ไม่ใช่ว่า เออะอะไรก็ พระเจ้า ๆ ฝนตกแดดออก
ขนาดปัญหาใหญ่ ๆ ถ้าเรายังแก้ไม่ทัน หรือบางทีก็ต้องวางตัวอุเบกขาเล้ย
เข้าใจไหม
ผม - ครับ เข้าใจแล้วครับ
พระเจ้า - อืมมม อยู่ดีมีสุข และมีปัญญานะ
ผม - ครับผม ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
****************************************
เรียบร้อยครับ กับเวลาชั่วโมงครึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ โอกาสหน้าถ้ามีเรื่องเด็ด ๆ ผมจะเรียนเชิญท่านมาตอบคำถามอีกนะครับพี่น้อง
วันนี้ก็ขอจบรายงานไว้ทีึ่่บล็อกแห่งนี้ เพียงเท่านี้สำหรับเดือนสิงหาปีนี้ก่อนนะคร้าบผม
Create Date : 25 สิงหาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 13:56:25 น. |
Counter : 749 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 25 สิงหาคม 2553 14:20:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 10 กันยายน 2553 14:49:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 10 กันยายน 2553 14:54:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 26 กันยายน 2553 13:37:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 26 กันยายน 2553 13:39:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 26 กันยายน 2553 16:00:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Q BOY 7 ตุลาคม 2553 22:44:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|