|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
.....~~Osama Bin Laden สำหรับเกิดมาเป็น CEO โลก~~.....
แหะๆ เพิ่งได้มีโอกาสเข้าเว็บของคุณวิกรม กรมดิษฐ์เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆเดือนค่ะ ขออนุญาตนำบทความของคุณวิกรมมาลงให้อ่านกันนะคะ
//www.vikrom.net/main.html
ส่วนบทความที่เจ้าของบล๊อกเขียนเอง สัญญาว่าจะรีบหาเวลามาเขียนลงค่ะ ตอนนี้ต้องเอาของคนอื่นมาลงแก้ขัดไปก่อน
**********
1 “ โอซามะ บิน ลาเดน” สำหรับ เกิดมาเป็น CEO โลก หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2548 โอซามะ บิน ลาเดน... CEO แห่งโลกผู้ก่อการร้าย ไม่มีใครไม่รู้จัก บิน ลาเดน ชื่อของเขาได้ถูกจารึกไว้ในบันทึกหน้าหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ผู้ก่อการร้ายที่ ทำให้คนทั้งโลกตื่นตะลึง จากผลงานที่เขาได้สร้างไว้ในช่วงไม่ถึงสองทศวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น ย่อมทำให้เราไม่ อาจปฎิเสธที่จะไม่ทำความรู้จักกับบุรุษผู้นี้ แม้ว่าในใจลึก ๆ แล้วเรายังคงต่างหวั่นเกรงว่าเขาจะลุกขึ้นมาวางแผน ก่อการร้ายโลกเพื่ออุดมการณ์อันสูงส่งของเขาก็ตาม เขาต้องการสิ่งใด เขาทำสิ่งเหล่านี้ไปทำไม ? คำถามเหล่านี้ มีคำตอบ จากมุมมองของผมคิดว่า กลุ่มชาวมุสลิมนั้นยังคงมีความขัดแย้งทางความคิดและขยายตัวสู่การประท้วง ในลักษณะทำลายล้าง เพื่อให้สังคมโลกหันมาสนใจและแก้ไขอย่างจริงจังในโลกของตะวันออกกลาง ดินแดนที่เต็ม ไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ามหาศาล หากจะว่าไปแล้วความขัดแย้งเหล่านี้ได้เริ่มเมื่อ ชาวยิวได้ย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานบนพื้นที่ปาเลสไตน์ โดย อังกฤษช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อจะได้คานอำนาจในตะวันออกกลาง ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อชาว อาหรับทั้งหลาย โดยเฉพาะชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรงได้ต่อต้านและทำการประท้วงแต่ไม่มีประเทศตะวันตกใด ๆ ยอมรับได้ ความขัดแย้งได้ขยายตัวจนนำไปสู่การขัดแย้งของชนชาติและศาสนาระหว่างยิวกับอาหรับโดยตลอด ในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมาจนปัจจุบันได้ขยายตัวสู่ทั่วโลก นำไปสู่การเป็นสงครามศาสนากับชนชาติไปแล้ว หาก ย้อนกลับไปดูจากอดีตจนถึงวันนี้ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความเสียหายไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับขยายตัวขึ้น และรุนแรงขึ้นทุกปี โดยเมื่อก่อนนั้นไม่เคยมีผลกระทบที่รุนแรงถึงสหรัฐอเมริกา จึงยังไม่ถือว่าจะทำให้สังคม โลกสนใจเท่าที่ควรแต่เมื่อวิกฤตการณ์การก่อการร้าย 911 ขึ้นทำให้ทุกประเทศหันมาให้ความสำคัญในการ ป้องกันและต่อสู้กับเหล่าการร้ายทั้งหลาย จนหลายประเทศต่างลงขันเป็นเงินจำนวนมหาศาลถึง $ 1 ล้านล้าน เพื่อใช้ในการกวาดล้างขบวนการก่อการร้ายทั่วโลก ทุกประเทศตะวันตกและประเทศในเอเชียต่างตั้งเป็นนโยบาย ป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังแน่นอนว่า.....นี่คืออีกโฉมหน้าหนึ่งของการร่วมมือกันเพื่อยับยั้งการรุกราน แบบ “ กองพลน้อย” ของ “การก่อการร้าย” “เงินสนับสนุนมาจากไหน ?” ในระยะ 10 -20 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของกองกำลังต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพราะประเทศอาหรับต่าง ๆ ได้มีรายได้จากการขายน้ำมันมาตลอดกว่า 20 ปีทำให้มีเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่การ สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความแข็งแกร่งทางการเงินและอำนาจการทำลายล้างย่อม สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว จนหลายประเทศเป็นห่วงว่าในช่วงที่รัสเซียล่มสลายนั้นอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ที่เจ้าหน้าที่ รัสเซียแอบขายไปให้ประเทศอาหรับหัวรุนแรง ซึ่งอาจนำไปใช้ในการก่อการร้ายได้ หากเป็นอย่างนั้นจริงคง สร้างความโกลาหลและหวาดกลัวต่อคนทั้งโลกอย่างแน่นอน จะว่าไปแล้วโดยพื้นฐานของ บิน ลาเดน เขาเกิดในตระกูลเศรษฐีผู้รับเหมาก่อสร้าง บิดาของเขามีความ ใกล้ชิดสนิทสนมกับเชื้อพระวงศ์ซาอุดิอารเบีย เพราะบิดาของเขาชนะการประมูลการก่อสร้างพระราชวังของ กษัตริย์อับดุลอาซิส แบบที่คู่แข่งคนอื่น ๆ หมดสิทธิ์ไม่เห็นฝุ่น ถึงแม้งานนี้จะมีกำไรไม่มาก แต่สิ่งที่ครอบครัว 2 ของเขาได้รับกลับเป็นไปเบิกทางนำไปสู่ความมั่งคั่ง มั่นคงทางการเงินอย่างที่บิดาของเขาเองก็คงไม่ได้คาดคิดมา ก่อน คงไม่ต้องห่วงว่าบิน ลาเดนจะหาเงินมาจากไหนเพื่อสนับสนุนการทำงาน “ก่อการร้าย” ของเขา เพราะ นับตั้งแต่เขาเติบโตมาเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแล้ว ไม่แต่เพียงเท่านั้นเขายังได้นำเงินทุนของบิดาจำนวนหลาย ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐมาช่วยปกป้องประเทศมุสลิมต่าง ๆ วันนี้เหล่าผู้ก่อการร้ายมีเงิน มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและมีบุคคลากรที่จะพลีชีพเพื่อนำไปสู่การทำลาย โดยไม่เลือกว่าเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้ประเทศผู้ถูกกระทำมีความโกรธแค้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเหล่าผู้ก่อการร้ายใช้ศาสนาเป็นตัวนำคนที่มีความขัดแย้งในความคิดกับตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ สหรัฐอเมริกาเข้ามาร่วมขบวนการ ปัจจุบันได้ขยายรากลึกไปสู่กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาอย่างเต็มตัว สังเกตได้จากตัวอย่างล่าสุด ในการระเบิดที่กรุงลอนดอน ไม่น่าเชื่อว่ามือระเบิดยังเป็นเด็กนักศึกษาที่มีความ ประพฤติดี จากครอบครัวปกติ แต่กล้าไปทำการก่อวินาศกรรมได้ มีความน่ากลัวมากในการสอนและอบรมให้ เด็ก ๆ เหล่านี้สามารถกระทำในสิ่งที่รุนแรงได้ น่าสังเกตว่าผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต่าง ๆ ไม่รู้เลยว่า ลูกหลานเขานั้นจะกล้าและสามารถทำในสิ่งนี้ได้ คงเป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น....พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร หลายคนเติบโตได้รับการศึกษาและใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมในยุโรปควรจะทำให้เขาคิดและมีความเป็นตัวเองแบบ ฝรั่งซึ่งการจะคิดในการโจมตีแบบระเบิดพลีชีพนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่บรรดาครูสอนศาสนาต่าง ๆ ล้างสมองเขาจนพวกเขากลายเป็นผู้ก่อการร้าย ผมว่าเรื่องนี้คลับคล้ายคลับคลาเรื่องที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของบ้านเราไทย การก่อความไม่สงบนั้นมักจะกระทำโดย เหล่าวัยรุ่นเกือบทั้งสิ้น จนมีหลายคนพูดถึงความน่ากลัวของคำสอนโดยครูสอนศาสนาว่านี่คือที่มาของปัญหา ความขัดแย้งปัจจุบันและขยายตัวสู่อนาคตของชนชาติในโลกยุคใหม่ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผมมองว่าวันนี้เรากำลังยืนกันคนละฝั่งน้ำโดยนำพื้นฐานของความขัดแย้งในอดีตมาต่อสู้กันโดย ไม่รู้ว่ามันมีต้นกำเนิดมาอย่างไร โดยที่จริงทุกอย่างเริ่มมาจากยิวทั้งสิ้น หากยิวไม่ไปตั้งประเทศใหม่ในดินแดน ปาเลสไตน์ อาหรับคงจะรบกันเอง และหากคนยิวไม่ใช้อิทธิพลและความมั่งคั่งในอเมริกาและยุโรป วันนี้ฝรั่งก็ไม่ ต้องมาเป็นศัตรู วันนี้สงครามก่อการร้ายนั้นมาจากพวกยิวที่ขยายไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชนชาติและศาสนาไป แล้วโดยเราไม่รู้ตัว เช่นดังที่คนไทยภาคใต้กำลังประสบอยู่ พวกเรากำลังทำลายตัวเอง พวกโดยมีพื้นฐานของการ ใช้ศาสนามาเป็นตัวนำไปสู่การแบ่งแยกอดีตและอนาคตของความสงบสุขของสังคมไทยเรา ผมมองถึงความคิดที่เริ่มมาจากลัทธิคือศาสนานั้นสามารถทำให้เป็นความร่วมมือหรือขัดแย้งได้เปรียบเสมือนดาบ สองคม หากมนุษย์เราเห็นแก่ตัวและเล่นพรรคเล่นพวกย่อมก่อให้เกิดเป็นคนละฝ่ายจนนำไปสู่การแข่งขันหรือ ทำลายกันเช่นในตะวันออกกับที่แต่ละกลุ่มต่อสู้กันเอง บางครั้งถึงเป็นประเทศเช่นอิรักกับอิหร่านที่รบกันมาถึง 8 ปีเต็ม ทุกอย่างเริ่มที่ตะวันออกกลางและวันนี้ความขัดแย้งก็ยังเป็นที่ตัวตะวันออกกลางซึ่งดูท่าแล้วยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นได้ เมื่อใด แต่ผู้ที่วันนี้มีอิทธิพลและอำนาจการทำลายล้างมากที่สุดคือ โอซามะ บินลาเดน เขาเป็นฮีโร่ของชาวอาหรับ และชาวมุสลิมทั้งหลายเหมือนกับเป็นผู้นำจิตและวิญญาณไปเสียแล้ว เพราะผู้คนที่เป็นบริวารหรือเข้าร่วมทำ 3 สงครามก่อการร้ายกับเขาต่างซื่อสัตย์และถวายชีวิตในการต่อสู้กับชาติตะวันตก จนปัจจุบันเขากลายมาเป็นบุคคล ที่ถูกค้นหาแต่ก็ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอย ปัจจุบัน “ขบวนการอัลเคด้า” และตัวเขาเป็นศูนย์กลางหัวใจของการก่อการร้ายโลกที่มีบทบาทและ เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรืออาวุธ วันนี้มีการขยายตัวเป็นสาขาของอัลเคด้าเป็นในรูปของ กองพลน้อยต่าง ๆ ไปแล้วทั่วโลก ดังเราจะเห็นว่าหากมีการวางระเบิดที่ใด มักจะมีผู้อ้างความรับผิดชอบในรูป เป็นกองพลน้อยที่เกี่ยวข้องกับอัลเคด้าเสมอ นั่นแสดงให้เห็นว่าข่ายงานของบิน ลาเดนได้ขยายตัวไปอย่าง กว้างขวาง หากยังเติบโตอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ คงจะกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นตัวไปทั่วโลก ผลงานอันโดดเด่นของบิน ลาเดน ผู้อยู่เบื้องหลังของการสั่งฆ่าผู้นำประเทศหลายคน รวมถึงการลอบ สังหารบิล คลินตัน เขามีความเป็นศัตรูต่อสหรัฐมากพอ ๆ กับรัสเซีย ในช่วงที่ปลดปล่อยอัฟกานิสถาน และ ตอนนี้ก็รวมอังกฤษไปด้วยอีกราย “โอซามะ บิน มูฮัมหมัด ลาเดน” ( Osama Bin Muhammad Laden ) เกิดปีค.ศ. 1957 เป็นชาวซาอุดิอารเบีย เป็นบุตรชายของนายโมหะหมัด บิน ลาเดน เป็นมหาเศรษฐี ผู้รับเหมาก่อสร้าง เขาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และการจัดการจากมหาวิทยาลัย King Abdul Aziz เป็นบุตรคนที่ 13 ของครอบครัว พ่อมีลูกชายหญิง 54 คนจากภรรยาไม่ทราบจำนวน แต่มีภรรยาไปเกือบทุก ประเทศในตะวันออกกลาง แต่เขาเป็นบุตรคนเดียวที่เกิดกับมารดาชาวซาอุฯ บิดาเสียชีวิตตอนเขาอายุได้ 13 ปี ( ในปีค.ศ. 1968 ) และน้องชายคนที่ 54 อายุได้ 2 ขวบ เขาได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวเป็นอย่างดี เกิดมาบนกองเงินกองทอง ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีบุคคลิกภาพสุขุม เยือกเย็น พูดน้อย ฟังมาก เคร่งขรึม ชอบอ่านหนังสือ มีความโอบอ้อมอารีย์ รักเพื่อนฝูง เป็นชาวมุสลิมที่เคร่ง ศาสนามาก ในขณะเดียวกันเขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญ เข้มแข็ง สังเกตได้จากการที่เขาถูกตามล่าและถูกลอบ วางระเบิดมานับไม่ถ้วนก็ไม่ทำให้เขาขวัญกระเจิงแต่อย่างใด เขาแต่งงานตอนอายุ 17 ปี กับหญิงชาวซีเรีย ซึ่งเป็นญาติของเขาเองและเรียนจบตอนอายุ 24 ปี ในวัยเด็กและ วัยรุ่นเป็นคนเงียบขรึม เคร่งศาสนา ไม่พบว่าเป็นคนหัวรุนแรงแต่อย่างใด ชอบสนทนากับนักปราชญ์ของศาสนา อิสลามต่าง ๆ บิดาของเขาแต่เดิมเป็นชาวเยเมน อพยพมาแสวงโชคที่ซาอุอารเบียปีค.ศ. 1893 โดยเริ่มแต่เป็นกรรมกร ใช้เวลา เพียงสามปีเศษบิดาของเขาเริ่มมีเงินมีทอง เพราะได้งานประมูลก่อสร้างราชวังของกษัตริย์อับดุล อาซิส ความ สนิทสนมกับราชวงศ์จึงเริ่มขึ้น จนกระทั่งบิดาเขาได้ร่วมกับพระยุพราชเจ้าชายไฟซาลบังคับให้กษัตริย์ซาอุสละ ราชบัลลังก์และเจ้าชายไฟซาลเป็นกษัตริย์แทน ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลบิน ลาเดนกับราชวงศ์จึงลึกซึ้งมี ความไว้วางใจ สมานผลประโยชน์ จนลูกหลานสามารถเข้าออกในวังได้โดยสะดวก ธุรกิจของครอบครัวนั้นเติบโตอยู่ในอันดับต้น ๆ ในซาอุดิอารเบีย ด้วยจำนวนคนงานกว่า 40,000 คน มียอดขาย ในปีค.ศ. 1991 ถึง 4,200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ด้วยความที่ธุรกิจของเขาเข้าขั้นผูกขาด ไม่ต้องมีการ ประมูล ได้เข้าไปก่อสร้างถนนไฮเวย์สายหลักต่าง ๆ หรือระบบชลประทาน สาขาการเกษตร และเป็นตัวแทนขาย 4 ของบริษัทต่างๆชาติ เช่น ออดี้ ปอร์เช่ กลุ่มเฮราชของดัชต์ ( ธุรกิจโลหะ ) ฮันติ้ง เซอร์เวย์ ของอังกฤษ รวมทั้ง ธุรกิจการเงินการธนาคารอีกมากมาย โดยร่วมกับราชวงศ์ เช่น ธนาคารฟรังซัวร์ ลา โอเรียน ในฝรั่งเศส อาหรับ ไฟแนนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในลักเซมเบิร์ก ฯลฯ และที่น่าสนใจมากที่สุดคือ ในธุรกิจที่เขาทำทั้งหมดนั้นไม่มี อะไรเกี่ยวข้องกับอาวุธเลย แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของเขากับราชวงศ์ซาอุฯ ลึกซึ้งเกินกว่าที่เรา จะคาดคิด เพราะอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความไว้วางใจ การประนีประนอมรอมชอมกัน ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของครอบครัวบิน ลาเดนกับราชวงศ์ซาอุดิอารเบียนั้นมิใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ ร่วมกันเท่านั้น แต่ยังคงขยายความช่วยเหลือไปถึงขนาดที่บิดาของเขาเคยช่วยจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการใน ซาอุฯประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยของกษัตริย์อาซิส ที่ตกเป็น เหยื่อการถูกตะวันตกปอกลอกเงินท้องพระคลัง ไม่แต่เพียงเท่านี้บิดาของเขาร่วมกับพระยุพราชเจ้าชายไฟซาล บังคับให้กษัตริย์ซาอุฯสละราชบัลลังก์ได้ในที่สุดและตั้งเจ้าชายไฟซาลเป็นกษัตริย์แทน ทางด้านการทำนุบำรุงศาสนา บิดาของบิน ลาเดนได้บริจาคเงินเพื่อซ่อมแซมสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามหลังในโลก อิสลาม คือ สุเหร่าอัล – อักซอ ในเยรูซาเล็ม มหาสุเหร่าในนครเมกกะและนครเมดินา แน่นอนว่าพื้นฐานต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมหล่อหลอมความเป็นตัวของตัวเองให้กับบิน ลาเดนทางด้านปรัชญาความคิดที่เขามีต่อศาสนาอย่าง แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เขายังได้รับเลือกจากราชวงศ์ให้เดินทางไปทำสงครามจีฮาดเพื่อปลดปล่อยอัฟกานิสถานจากการยึด ครองรัสเซียในปีค.ศ. 1979 จนเป็นยอมรับในสังคมซาอุทั่วไป ในช่วงนี้ CIA และชนชั้นนำซาอุได้ร่วมกันสนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ต่อสู้กับรัสเซียโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้ งบประมาณปีละ 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเคยสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ บิน ลาเดน ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้การต่อสู้จากหน่วย CIA จนเป็นนักเรียนระดับ V.I.P ของ CIA จนเขาได้รับเป็น ผู้นำระดับแนวหน้าที่สามารถฝึกทหารอัฟกันที่มีสมรรถนะสูงถึง 10,000 คน หลังจากสงครามสงบลงเขาและ เพื่อนชาวปาเลสไตน์ ชื่อ AZZAM ได้จัดตั้งองค์กรอาสาสมัครนักรบเพื่อระดมชาวมุสลิมจากทั่วโลกมารวมกัน ทำสงครามโดยเขาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด ในปีค.ศ. 1988 บิน ลาเดนได้ตั้ง กลุ่มอัลเคด้า ซึ่งแปลว่า “ฐานที่ตั้ง” เพื่อเชื่อมต่อกับนักต่อสู้ที่เคยร่วมรบใน อัฟกานิสถาน และช่วงนี้เองที่เขาเริ่มเป็นศัตรูกับสหรัฐอเมริกาเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐอเมริกามาตั้ง ฐานทัพในซาอุดิอารเบีย ซึ่งเขาถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ในปีค.ศ. 1955 เขาถูกเนรเทศออก จากซาอุดิอารเบียไปอยู่ในซูดาน มีรายงานจาก CIA ว่าเขาได้พยายามลอบสังหารประธานาธิบดีฮอสนี บูมบารักของอียิปต์แต่ไม่สำเร็จและปี ต่อมารัฐบาลซูดานขอให้บิน ลาเดน เดินทางออกจากซูดานไปอยู่ในอัฟกานิสถานในช่วงที่ทาลีบันยังปกครองอยู่ CIA พยายามที่จะวางแผนฆ่าเขาหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เขาได้ช่วยรัฐบาลทาลีบันฝึกซ้อมการสู้รบของกอง ทหาร 5 ปีค.ศ.1998 เขามีส่วนในเหตุการณ์วางระเบิดในเคนยาและแทนซาเนียทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า 300คน และปี ค.ศ. 1990 เขาอยู่เบื้องหลังการบอบวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในเคนยาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 224 คนและปี ค.ศ. 2000 เขาลอบวางระเบิดเรือพิฆาตโคลของสหรัฐ ที่ทอดสมออยู่อ่าวเอเดน ประเทศเยเมน และวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด เป็นผลงานชิ้นใหญ่ของเขาและล่าสุดการวางระเบิดใน กรุงลอนดอนและอียิปต์ที่ผ่านมา ล้วนเชื่อมโยงกับอัลเคด้าแทบทั้งสิ้น จากคู่มือปฎิบัติการของอัลเคด้า “ภารกิจหลักคือการล้มล้างระบบการปกครองของพวกนอกศาสนา คือการจับตัวประกัน การลอบสังหาร การ ระเบิดทำลายสถานบันเทิงซึ่งเป็นแหล่งเสื่อมทรามศีลธรรมและแหล่งก่อกรรมทำบาป การระเบิดทำลายสถานทูต และศูนย์เศรษฐกิจที่สำคัญรวมทั้งสะพานที่ใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมือง” นับตั้งแต่บิน ลาเดนได้เริ่มทำความเสียหายมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้คนล้มตายไปแล้วเกือบ 10,000 คน และบาดเจ็บ อีกจำนวนนับหมื่นกับความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ ฉะนั้นตราบใดที่ยังไม่มีการพูดคุยกันได้ระหว่างประเทศ ตะวันตกและยังมีผู้คนที่เลื่อมใสจำนวนมากในการร่วมเข้าอัลเคด้า อย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้ว หากเราศึกษา วิเคราะห์พื้นฐานของบิน ลาเดนแล้ว เราอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดเขาจึงเป็น คนเช่นนี้ และอะไรทำให้เขาต้องนำ “ความเชื่อ ความศรัทธา” ของเพื่อนร่วมศาสนามาทำลายล้างผู้อื่น ทุกสิ่งทุก อย่างล้วนมี “เหตุและผล” เป็นปัจจัยแก่กัน เพียงแต่จะถูกต้องหรือไม่อย่างไร สุดแท้แต่จะพิจารณาด้วย วิจารณญาณและมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ข้อที่ผมอยากฝากไว้คือ มนุษย์เราควรยอมรับความแตกต่าง ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข ผมมองว่าความขัดแย้งนี้จะไม่มีวันยุติลงได้หากปราศจากการนั่งคุยกันบนโต๊ะอย่างจริงใจ เปิดเผย สร้างสรรค์ มิ เช่นนั้นแล้วคงมีมนุษย์ผู้เคราะห์ร้ายที่จะต้องสังเวยชีวิตบนความขัดแย้งนี้อีกเหลือคณานับ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 3:22:31 น. |
Counter : 792 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: laila IP: 124.120.230.246 20 ตุลาคม 2553 0:53:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ยาวทีเดียว ขอติดไว้ก่อน แล้วจะมาอ่านนะครับ
ช่วงนี้คงว่างล่ะสิ เพราะปิดเทอม ผมเองก็เพิ่งมาทำงานหลังจากหยุดไปได้สองวัน ก็เข้าสู่วงจรชีวิตคนทำงานเหมือนเดิม
เอาไว้อ่านเสร็จแล้วจะมาคุยเรื่องโอซาม่า บินลาเด็นกันนะครับ