ทำทุกวันให้มีค่าแล้วชีวิตจะมีแต่ได้กับเสมอตัว~ (・Ω・)ノ(ノω-ヾ) (ゝω´・)b U,,・ω・) ( 'Θ')
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
26 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 

.....~~Osama Bin Laden สำหรับเกิดมาเป็น CEO โลก~~.....

แหะๆ เพิ่งได้มีโอกาสเข้าเว็บของคุณวิกรม กรมดิษฐ์เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆเดือนค่ะ ขออนุญาตนำบทความของคุณวิกรมมาลงให้อ่านกันนะคะ

//www.vikrom.net/main.html

ส่วนบทความที่เจ้าของบล๊อกเขียนเอง สัญญาว่าจะรีบหาเวลามาเขียนลงค่ะ ตอนนี้ต้องเอาของคนอื่นมาลงแก้ขัดไปก่อน


**********


1
“ โอซามะ บิน ลาเดน” สำหรับ เกิดมาเป็น CEO โลก หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 14
สิงหาคม 2548
โอซามะ บิน ลาเดน... CEO แห่งโลกผู้ก่อการร้าย
ไม่มีใครไม่รู้จัก บิน ลาเดน ชื่อของเขาได้ถูกจารึกไว้ในบันทึกหน้าหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ผู้ก่อการร้ายที่
ทำให้คนทั้งโลกตื่นตะลึง จากผลงานที่เขาได้สร้างไว้ในช่วงไม่ถึงสองทศวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น ย่อมทำให้เราไม่
อาจปฎิเสธที่จะไม่ทำความรู้จักกับบุรุษผู้นี้ แม้ว่าในใจลึก ๆ แล้วเรายังคงต่างหวั่นเกรงว่าเขาจะลุกขึ้นมาวางแผน
ก่อการร้ายโลกเพื่ออุดมการณ์อันสูงส่งของเขาก็ตาม เขาต้องการสิ่งใด เขาทำสิ่งเหล่านี้ไปทำไม ? คำถามเหล่านี้
มีคำตอบ จากมุมมองของผมคิดว่า กลุ่มชาวมุสลิมนั้นยังคงมีความขัดแย้งทางความคิดและขยายตัวสู่การประท้วง
ในลักษณะทำลายล้าง เพื่อให้สังคมโลกหันมาสนใจและแก้ไขอย่างจริงจังในโลกของตะวันออกกลาง ดินแดนที่เต็ม
ไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ามหาศาล
หากจะว่าไปแล้วความขัดแย้งเหล่านี้ได้เริ่มเมื่อ ชาวยิวได้ย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานบนพื้นที่ปาเลสไตน์ โดย
อังกฤษช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อจะได้คานอำนาจในตะวันออกกลาง ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อชาว
อาหรับทั้งหลาย โดยเฉพาะชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรงได้ต่อต้านและทำการประท้วงแต่ไม่มีประเทศตะวันตกใด ๆ
ยอมรับได้ ความขัดแย้งได้ขยายตัวจนนำไปสู่การขัดแย้งของชนชาติและศาสนาระหว่างยิวกับอาหรับโดยตลอด
ในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมาจนปัจจุบันได้ขยายตัวสู่ทั่วโลก นำไปสู่การเป็นสงครามศาสนากับชนชาติไปแล้ว หาก
ย้อนกลับไปดูจากอดีตจนถึงวันนี้ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความเสียหายไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับขยายตัวขึ้น
และรุนแรงขึ้นทุกปี โดยเมื่อก่อนนั้นไม่เคยมีผลกระทบที่รุนแรงถึงสหรัฐอเมริกา จึงยังไม่ถือว่าจะทำให้สังคม
โลกสนใจเท่าที่ควรแต่เมื่อวิกฤตการณ์การก่อการร้าย 911 ขึ้นทำให้ทุกประเทศหันมาให้ความสำคัญในการ
ป้องกันและต่อสู้กับเหล่าการร้ายทั้งหลาย จนหลายประเทศต่างลงขันเป็นเงินจำนวนมหาศาลถึง $ 1 ล้านล้าน
เพื่อใช้ในการกวาดล้างขบวนการก่อการร้ายทั่วโลก ทุกประเทศตะวันตกและประเทศในเอเชียต่างตั้งเป็นนโยบาย
ป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังแน่นอนว่า.....นี่คืออีกโฉมหน้าหนึ่งของการร่วมมือกันเพื่อยับยั้งการรุกราน
แบบ “ กองพลน้อย” ของ “การก่อการร้าย”
“เงินสนับสนุนมาจากไหน ?”
ในระยะ 10 -20 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของกองกำลังต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีต
เพราะประเทศอาหรับต่าง ๆ ได้มีรายได้จากการขายน้ำมันมาตลอดกว่า 20 ปีทำให้มีเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่การ
สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความแข็งแกร่งทางการเงินและอำนาจการทำลายล้างย่อม
สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว จนหลายประเทศเป็นห่วงว่าในช่วงที่รัสเซียล่มสลายนั้นอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ที่เจ้าหน้าที่
รัสเซียแอบขายไปให้ประเทศอาหรับหัวรุนแรง ซึ่งอาจนำไปใช้ในการก่อการร้ายได้ หากเป็นอย่างนั้นจริงคง
สร้างความโกลาหลและหวาดกลัวต่อคนทั้งโลกอย่างแน่นอน
จะว่าไปแล้วโดยพื้นฐานของ บิน ลาเดน เขาเกิดในตระกูลเศรษฐีผู้รับเหมาก่อสร้าง บิดาของเขามีความ
ใกล้ชิดสนิทสนมกับเชื้อพระวงศ์ซาอุดิอารเบีย เพราะบิดาของเขาชนะการประมูลการก่อสร้างพระราชวังของ
กษัตริย์อับดุลอาซิส แบบที่คู่แข่งคนอื่น ๆ หมดสิทธิ์ไม่เห็นฝุ่น ถึงแม้งานนี้จะมีกำไรไม่มาก แต่สิ่งที่ครอบครัว
2
ของเขาได้รับกลับเป็นไปเบิกทางนำไปสู่ความมั่งคั่ง มั่นคงทางการเงินอย่างที่บิดาของเขาเองก็คงไม่ได้คาดคิดมา
ก่อน คงไม่ต้องห่วงว่าบิน ลาเดนจะหาเงินมาจากไหนเพื่อสนับสนุนการทำงาน “ก่อการร้าย” ของเขา เพราะ
นับตั้งแต่เขาเติบโตมาเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแล้ว ไม่แต่เพียงเท่านั้นเขายังได้นำเงินทุนของบิดาจำนวนหลาย
ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐมาช่วยปกป้องประเทศมุสลิมต่าง ๆ
วันนี้เหล่าผู้ก่อการร้ายมีเงิน มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและมีบุคคลากรที่จะพลีชีพเพื่อนำไปสู่การทำลาย
โดยไม่เลือกว่าเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้ประเทศผู้ถูกกระทำมีความโกรธแค้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนเหล่าผู้ก่อการร้ายใช้ศาสนาเป็นตัวนำคนที่มีความขัดแย้งในความคิดกับตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ
สหรัฐอเมริกาเข้ามาร่วมขบวนการ ปัจจุบันได้ขยายรากลึกไปสู่กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาอย่างเต็มตัว
สังเกตได้จากตัวอย่างล่าสุด ในการระเบิดที่กรุงลอนดอน ไม่น่าเชื่อว่ามือระเบิดยังเป็นเด็กนักศึกษาที่มีความ
ประพฤติดี จากครอบครัวปกติ แต่กล้าไปทำการก่อวินาศกรรมได้ มีความน่ากลัวมากในการสอนและอบรมให้
เด็ก ๆ เหล่านี้สามารถกระทำในสิ่งที่รุนแรงได้ น่าสังเกตว่าผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต่าง ๆ ไม่รู้เลยว่า
ลูกหลานเขานั้นจะกล้าและสามารถทำในสิ่งนี้ได้ คงเป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น....พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร
หลายคนเติบโตได้รับการศึกษาและใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมในยุโรปควรจะทำให้เขาคิดและมีความเป็นตัวเองแบบ
ฝรั่งซึ่งการจะคิดในการโจมตีแบบระเบิดพลีชีพนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่บรรดาครูสอนศาสนาต่าง ๆ
ล้างสมองเขาจนพวกเขากลายเป็นผู้ก่อการร้าย
ผมว่าเรื่องนี้คลับคล้ายคลับคลาเรื่องที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของบ้านเราไทย การก่อความไม่สงบนั้นมักจะกระทำโดย
เหล่าวัยรุ่นเกือบทั้งสิ้น จนมีหลายคนพูดถึงความน่ากลัวของคำสอนโดยครูสอนศาสนาว่านี่คือที่มาของปัญหา
ความขัดแย้งปัจจุบันและขยายตัวสู่อนาคตของชนชาติในโลกยุคใหม่
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผมมองว่าวันนี้เรากำลังยืนกันคนละฝั่งน้ำโดยนำพื้นฐานของความขัดแย้งในอดีตมาต่อสู้กันโดย
ไม่รู้ว่ามันมีต้นกำเนิดมาอย่างไร โดยที่จริงทุกอย่างเริ่มมาจากยิวทั้งสิ้น หากยิวไม่ไปตั้งประเทศใหม่ในดินแดน
ปาเลสไตน์ อาหรับคงจะรบกันเอง และหากคนยิวไม่ใช้อิทธิพลและความมั่งคั่งในอเมริกาและยุโรป วันนี้ฝรั่งก็ไม่
ต้องมาเป็นศัตรู วันนี้สงครามก่อการร้ายนั้นมาจากพวกยิวที่ขยายไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชนชาติและศาสนาไป
แล้วโดยเราไม่รู้ตัว เช่นดังที่คนไทยภาคใต้กำลังประสบอยู่ พวกเรากำลังทำลายตัวเอง พวกโดยมีพื้นฐานของการ
ใช้ศาสนามาเป็นตัวนำไปสู่การแบ่งแยกอดีตและอนาคตของความสงบสุขของสังคมไทยเรา
ผมมองถึงความคิดที่เริ่มมาจากลัทธิคือศาสนานั้นสามารถทำให้เป็นความร่วมมือหรือขัดแย้งได้เปรียบเสมือนดาบ
สองคม หากมนุษย์เราเห็นแก่ตัวและเล่นพรรคเล่นพวกย่อมก่อให้เกิดเป็นคนละฝ่ายจนนำไปสู่การแข่งขันหรือ
ทำลายกันเช่นในตะวันออกกับที่แต่ละกลุ่มต่อสู้กันเอง บางครั้งถึงเป็นประเทศเช่นอิรักกับอิหร่านที่รบกันมาถึง 8
ปีเต็ม
ทุกอย่างเริ่มที่ตะวันออกกลางและวันนี้ความขัดแย้งก็ยังเป็นที่ตัวตะวันออกกลางซึ่งดูท่าแล้วยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นได้
เมื่อใด แต่ผู้ที่วันนี้มีอิทธิพลและอำนาจการทำลายล้างมากที่สุดคือ โอซามะ บินลาเดน เขาเป็นฮีโร่ของชาวอาหรับ
และชาวมุสลิมทั้งหลายเหมือนกับเป็นผู้นำจิตและวิญญาณไปเสียแล้ว เพราะผู้คนที่เป็นบริวารหรือเข้าร่วมทำ
3
สงครามก่อการร้ายกับเขาต่างซื่อสัตย์และถวายชีวิตในการต่อสู้กับชาติตะวันตก จนปัจจุบันเขากลายมาเป็นบุคคล
ที่ถูกค้นหาแต่ก็ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอย
ปัจจุบัน “ขบวนการอัลเคด้า” และตัวเขาเป็นศูนย์กลางหัวใจของการก่อการร้ายโลกที่มีบทบาทและ
เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรืออาวุธ วันนี้มีการขยายตัวเป็นสาขาของอัลเคด้าเป็นในรูปของ
กองพลน้อยต่าง ๆ ไปแล้วทั่วโลก ดังเราจะเห็นว่าหากมีการวางระเบิดที่ใด มักจะมีผู้อ้างความรับผิดชอบในรูป
เป็นกองพลน้อยที่เกี่ยวข้องกับอัลเคด้าเสมอ นั่นแสดงให้เห็นว่าข่ายงานของบิน ลาเดนได้ขยายตัวไปอย่าง
กว้างขวาง หากยังเติบโตอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ คงจะกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นตัวไปทั่วโลก
ผลงานอันโดดเด่นของบิน ลาเดน ผู้อยู่เบื้องหลังของการสั่งฆ่าผู้นำประเทศหลายคน รวมถึงการลอบ
สังหารบิล คลินตัน เขามีความเป็นศัตรูต่อสหรัฐมากพอ ๆ กับรัสเซีย ในช่วงที่ปลดปล่อยอัฟกานิสถาน และ
ตอนนี้ก็รวมอังกฤษไปด้วยอีกราย
“โอซามะ บิน มูฮัมหมัด ลาเดน” ( Osama Bin Muhammad Laden )
เกิดปีค.ศ. 1957 เป็นชาวซาอุดิอารเบีย เป็นบุตรชายของนายโมหะหมัด บิน ลาเดน เป็นมหาเศรษฐี
ผู้รับเหมาก่อสร้าง เขาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และการจัดการจากมหาวิทยาลัย King Abdul Aziz
เป็นบุตรคนที่ 13 ของครอบครัว พ่อมีลูกชายหญิง 54 คนจากภรรยาไม่ทราบจำนวน แต่มีภรรยาไปเกือบทุก
ประเทศในตะวันออกกลาง แต่เขาเป็นบุตรคนเดียวที่เกิดกับมารดาชาวซาอุฯ บิดาเสียชีวิตตอนเขาอายุได้ 13 ปี
( ในปีค.ศ. 1968 ) และน้องชายคนที่ 54 อายุได้ 2 ขวบ
เขาได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวเป็นอย่างดี เกิดมาบนกองเงินกองทอง ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีบุคคลิกภาพสุขุม
เยือกเย็น พูดน้อย ฟังมาก เคร่งขรึม ชอบอ่านหนังสือ มีความโอบอ้อมอารีย์ รักเพื่อนฝูง เป็นชาวมุสลิมที่เคร่ง
ศาสนามาก ในขณะเดียวกันเขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญ เข้มแข็ง สังเกตได้จากการที่เขาถูกตามล่าและถูกลอบ
วางระเบิดมานับไม่ถ้วนก็ไม่ทำให้เขาขวัญกระเจิงแต่อย่างใด
เขาแต่งงานตอนอายุ 17 ปี กับหญิงชาวซีเรีย ซึ่งเป็นญาติของเขาเองและเรียนจบตอนอายุ 24 ปี ในวัยเด็กและ
วัยรุ่นเป็นคนเงียบขรึม เคร่งศาสนา ไม่พบว่าเป็นคนหัวรุนแรงแต่อย่างใด ชอบสนทนากับนักปราชญ์ของศาสนา
อิสลามต่าง ๆ
บิดาของเขาแต่เดิมเป็นชาวเยเมน อพยพมาแสวงโชคที่ซาอุอารเบียปีค.ศ. 1893 โดยเริ่มแต่เป็นกรรมกร ใช้เวลา
เพียงสามปีเศษบิดาของเขาเริ่มมีเงินมีทอง เพราะได้งานประมูลก่อสร้างราชวังของกษัตริย์อับดุล อาซิส ความ
สนิทสนมกับราชวงศ์จึงเริ่มขึ้น จนกระทั่งบิดาเขาได้ร่วมกับพระยุพราชเจ้าชายไฟซาลบังคับให้กษัตริย์ซาอุสละ
ราชบัลลังก์และเจ้าชายไฟซาลเป็นกษัตริย์แทน ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลบิน ลาเดนกับราชวงศ์จึงลึกซึ้งมี
ความไว้วางใจ สมานผลประโยชน์ จนลูกหลานสามารถเข้าออกในวังได้โดยสะดวก
ธุรกิจของครอบครัวนั้นเติบโตอยู่ในอันดับต้น ๆ ในซาอุดิอารเบีย ด้วยจำนวนคนงานกว่า 40,000 คน มียอดขาย
ในปีค.ศ. 1991 ถึง 4,200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ด้วยความที่ธุรกิจของเขาเข้าขั้นผูกขาด ไม่ต้องมีการ
ประมูล ได้เข้าไปก่อสร้างถนนไฮเวย์สายหลักต่าง ๆ หรือระบบชลประทาน สาขาการเกษตร และเป็นตัวแทนขาย
4
ของบริษัทต่างๆชาติ เช่น ออดี้ ปอร์เช่ กลุ่มเฮราชของดัชต์ ( ธุรกิจโลหะ ) ฮันติ้ง เซอร์เวย์ ของอังกฤษ รวมทั้ง
ธุรกิจการเงินการธนาคารอีกมากมาย โดยร่วมกับราชวงศ์ เช่น ธนาคารฟรังซัวร์ ลา โอเรียน ในฝรั่งเศส อาหรับ
ไฟแนนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในลักเซมเบิร์ก ฯลฯ และที่น่าสนใจมากที่สุดคือ ในธุรกิจที่เขาทำทั้งหมดนั้นไม่มี
อะไรเกี่ยวข้องกับอาวุธเลย แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของเขากับราชวงศ์ซาอุฯ ลึกซึ้งเกินกว่าที่เรา
จะคาดคิด เพราะอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความไว้วางใจ การประนีประนอมรอมชอมกัน
ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของครอบครัวบิน ลาเดนกับราชวงศ์ซาอุดิอารเบียนั้นมิใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ร่วมกันเท่านั้น แต่ยังคงขยายความช่วยเหลือไปถึงขนาดที่บิดาของเขาเคยช่วยจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการใน
ซาอุฯประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยของกษัตริย์อาซิส ที่ตกเป็น
เหยื่อการถูกตะวันตกปอกลอกเงินท้องพระคลัง ไม่แต่เพียงเท่านี้บิดาของเขาร่วมกับพระยุพราชเจ้าชายไฟซาล
บังคับให้กษัตริย์ซาอุฯสละราชบัลลังก์ได้ในที่สุดและตั้งเจ้าชายไฟซาลเป็นกษัตริย์แทน
ทางด้านการทำนุบำรุงศาสนา บิดาของบิน ลาเดนได้บริจาคเงินเพื่อซ่อมแซมสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามหลังในโลก
อิสลาม คือ สุเหร่าอัล – อักซอ ในเยรูซาเล็ม มหาสุเหร่าในนครเมกกะและนครเมดินา แน่นอนว่าพื้นฐานต่าง ๆ
เหล่านี้ย่อมหล่อหลอมความเป็นตัวของตัวเองให้กับบิน ลาเดนทางด้านปรัชญาความคิดที่เขามีต่อศาสนาอย่าง
แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เขายังได้รับเลือกจากราชวงศ์ให้เดินทางไปทำสงครามจีฮาดเพื่อปลดปล่อยอัฟกานิสถานจากการยึด
ครองรัสเซียในปีค.ศ. 1979 จนเป็นยอมรับในสังคมซาอุทั่วไป
ในช่วงนี้ CIA และชนชั้นนำซาอุได้ร่วมกันสนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ต่อสู้กับรัสเซียโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้
งบประมาณปีละ 500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเคยสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ บิน ลาเดน
ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้การต่อสู้จากหน่วย CIA จนเป็นนักเรียนระดับ V.I.P ของ CIA จนเขาได้รับเป็น
ผู้นำระดับแนวหน้าที่สามารถฝึกทหารอัฟกันที่มีสมรรถนะสูงถึง 10,000 คน หลังจากสงครามสงบลงเขาและ
เพื่อนชาวปาเลสไตน์ ชื่อ AZZAM ได้จัดตั้งองค์กรอาสาสมัครนักรบเพื่อระดมชาวมุสลิมจากทั่วโลกมารวมกัน
ทำสงครามโดยเขาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด
ในปีค.ศ. 1988 บิน ลาเดนได้ตั้ง กลุ่มอัลเคด้า ซึ่งแปลว่า “ฐานที่ตั้ง” เพื่อเชื่อมต่อกับนักต่อสู้ที่เคยร่วมรบใน
อัฟกานิสถาน และช่วงนี้เองที่เขาเริ่มเป็นศัตรูกับสหรัฐอเมริกาเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐอเมริกามาตั้ง
ฐานทัพในซาอุดิอารเบีย ซึ่งเขาถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ในปีค.ศ. 1955 เขาถูกเนรเทศออก
จากซาอุดิอารเบียไปอยู่ในซูดาน
มีรายงานจาก CIA ว่าเขาได้พยายามลอบสังหารประธานาธิบดีฮอสนี บูมบารักของอียิปต์แต่ไม่สำเร็จและปี
ต่อมารัฐบาลซูดานขอให้บิน ลาเดน เดินทางออกจากซูดานไปอยู่ในอัฟกานิสถานในช่วงที่ทาลีบันยังปกครองอยู่
CIA พยายามที่จะวางแผนฆ่าเขาหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เขาได้ช่วยรัฐบาลทาลีบันฝึกซ้อมการสู้รบของกอง
ทหาร
5
ปีค.ศ.1998 เขามีส่วนในเหตุการณ์วางระเบิดในเคนยาและแทนซาเนียทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า 300คน และปี
ค.ศ. 1990 เขาอยู่เบื้องหลังการบอบวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในเคนยาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 224 คนและปี
ค.ศ. 2000 เขาลอบวางระเบิดเรือพิฆาตโคลของสหรัฐ ที่ทอดสมออยู่อ่าวเอเดน ประเทศเยเมน และวันที่ 11
กันยายน ค.ศ. 2001 เหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด เป็นผลงานชิ้นใหญ่ของเขาและล่าสุดการวางระเบิดใน
กรุงลอนดอนและอียิปต์ที่ผ่านมา ล้วนเชื่อมโยงกับอัลเคด้าแทบทั้งสิ้น
จากคู่มือปฎิบัติการของอัลเคด้า
“ภารกิจหลักคือการล้มล้างระบบการปกครองของพวกนอกศาสนา คือการจับตัวประกัน การลอบสังหาร การ
ระเบิดทำลายสถานบันเทิงซึ่งเป็นแหล่งเสื่อมทรามศีลธรรมและแหล่งก่อกรรมทำบาป การระเบิดทำลายสถานทูต
และศูนย์เศรษฐกิจที่สำคัญรวมทั้งสะพานที่ใช้เป็นเส้นทางเข้าออกเมือง”
นับตั้งแต่บิน ลาเดนได้เริ่มทำความเสียหายมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้คนล้มตายไปแล้วเกือบ 10,000 คน และบาดเจ็บ
อีกจำนวนนับหมื่นกับความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ ฉะนั้นตราบใดที่ยังไม่มีการพูดคุยกันได้ระหว่างประเทศ
ตะวันตกและยังมีผู้คนที่เลื่อมใสจำนวนมากในการร่วมเข้าอัลเคด้า อย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดแล้ว หากเราศึกษา วิเคราะห์พื้นฐานของบิน ลาเดนแล้ว เราอาจจะเข้าใจมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดเขาจึงเป็น
คนเช่นนี้ และอะไรทำให้เขาต้องนำ “ความเชื่อ ความศรัทธา” ของเพื่อนร่วมศาสนามาทำลายล้างผู้อื่น ทุกสิ่งทุก
อย่างล้วนมี “เหตุและผล” เป็นปัจจัยแก่กัน เพียงแต่จะถูกต้องหรือไม่อย่างไร สุดแท้แต่จะพิจารณาด้วย
วิจารณญาณและมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ข้อที่ผมอยากฝากไว้คือ มนุษย์เราควรยอมรับความแตกต่าง
ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข
ผมมองว่าความขัดแย้งนี้จะไม่มีวันยุติลงได้หากปราศจากการนั่งคุยกันบนโต๊ะอย่างจริงใจ เปิดเผย สร้างสรรค์ มิ
เช่นนั้นแล้วคงมีมนุษย์ผู้เคราะห์ร้ายที่จะต้องสังเวยชีวิตบนความขัดแย้งนี้อีกเหลือคณานับ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551
11 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 3:22:31 น.
Counter : 792 Pageviews.

 

ช่วงนี้คุณเพียงฟิตจริงๆเลยนะครับนี่ย

ยาวทีเดียว ขอติดไว้ก่อน แล้วจะมาอ่านนะครับ


ช่วงนี้คงว่างล่ะสิ เพราะปิดเทอม ผมเองก็เพิ่งมาทำงานหลังจากหยุดไปได้สองวัน ก็เข้าสู่วงจรชีวิตคนทำงานเหมือนเดิม

เอาไว้อ่านเสร็จแล้วจะมาคุยเรื่องโอซาม่า บินลาเด็นกันนะครับ

 

โดย: BrettAnderson 27 กุมภาพันธ์ 2551 14:13:21 น.  

 

แหม่ มีปิดฮาล์ฟเทอม ควอเตอร์เทอมอีกนะครับเนี่ย มาเจอบ้านเรา ปิดทีสามเดือน คงจะงงกันไปเลย

อยากกลับไปเป็นเด็กก็เพราะยังงี้ล่ะครับ ปิดเทอมใหญ่ที่นึง ก็สบายไปทีนึง ยิ่งผมเป็นพวกที่ไม่ได้ไปเรียนติวอะไรกับเขาด้วยแล้ว ปิดเทอมก็คิดแต่เรื่องเล่นอย่างเดียวล่ะครับ

ยังอ่านได้ไม่เท่าไหร่เลยครับคุณเพียง อิอิ ยาวเหยียดเหมือนกัน

 

โดย: BrettAnderson 27 กุมภาพันธ์ 2551 19:01:57 น.  

 

อ่านเรื่องบินลาเดนแล้ว ผมก็ลืมเรื่องสำคัญไปเรื่องนึง

คุณเพียงอยู่อังกฤษนี่ครับ น่ากลัวอยู่เหมือนกัน ยังงัยๆก็ระวังตัวไว้บ้างนะครับ เรื่องก่อการร้ายที่นั่น ก็ยังไม่น่าไว้วางใจเสียทีเดียว

คิดถึงสมัยที่ไออาร์เอยังไม่ประกาศสงบศึก ตอนนั้นจำได้ว่าข่าวต่างประเทศบ่อยๆเลย ต้องมีเรื่องเกิดการระเบิดในอังกฤษขึ้นที่โน่นที่นี่เต็มไปหมด

เคยดูหนังที่เกี่ยวกับขบวนการไออาร์เออยู่เหมือนกัน ผมว่าสภาพคงไม่ต่างจากสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราเหมือนกันนะครับ

ผมก็พอเข้าใจพวกเขาในระดับนึง กับสิ่งที่เขาเรียกร้องน่ะครับ แต่ถ้าพวกเขาย้อนกลับไปถามตัวเองได้ว่า จะแยกตัวไปทำไม เพราะโลกสมัยนี้มีแต่จะหดเข้ามาหากัน เขามีแต่อยากรวมประเทศกัน เวลาค้าขายจะได้ค้าขายได้ง่ายๆ ประชากรจะได้มีทางเลือกที่จะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะกับการประกอบอาชีพของตนเอง

แยกตัวไป ก็ต้องหารายได้เข้ารัฐเอง ต้องวุ่นวายกับการป้องกันตัวเอง และการใช้งบประมาณ อย่างพวกไออาร์เอเอง จริงๆหลักๆก็คือเรื่องความเป็นไอริชเท่านั้นที่ไม่อยากอยู่ร่วมกับอังกฤษ แต่คงจะลืมนึกไปว่าหากเอาไอร์แลนด์เหนือไปรวมกับไอร์แลนด์แล้ว ปัญหาทางศาสนาก็ตามมาอีก เรื่องสองนิกายเนี่ย ฆ่าคนในประวัติศาสตร์มามากกว่าสงครามระหว่างเชื้อชาติอีก

แต่การก่อการร้ายของอาหรับเนี่ย เป็นเรื่องคนละประเด็นกัน เอาไว้เด๋วมาคุยกันเรื่องนี้อีกทีนะครับ ตอนนี้ขอตัวไปเตรียมตัวทำงานก่อนล่ะครับ ฮิฮิ

 

โดย: BrettAnderson 28 กุมภาพันธ์ 2551 11:18:04 น.  

 

ท่านแสงชัยเคยเขียนไว้ในคอลัมน์เปิดโลกสีเขียว เมื่อสิบกว่าปีก่อน เป็นอีกหนึงประโยคทอง ที่ผมเก็บเอามาจารึกไว้ในใจไม่มีวันลืม

ท่านบอกว่า อนาคตข้างหน้า สงครามของมนุษยชาติ จะมีสาเหตุมาจากเรื่องศาสนากับการแย่งชิงทรัพยากร เท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่จะมาจากลัทธิการปกครอง ที่เป็นสงครามเย็น รบราฆ่าฟันกันมาเป็นสิบๆปีในเวียดนาม ลาว และเขมร ก็จะกลายเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังไม่มีวันจะเข้าใจได้อีก ว่าจะเข่นฆ่ากันไปทำไม เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น คนที่ตายก็ตายไปเปล่าๆ

ดังนั้นเรื่องระหว่างอิสราเอลกับรัฐอาหรับ ถึงไม่มีวันจะจบไปได้ ไม่เหมือนกับสงครามเย็น ที่ตอนนี้รัสเซียกับอเมริกันหันมาจูบปากกันดูดดื่ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในอดีต

เพราะตะวันออกกลางมีสาเหตุมาจากเรื่องศาสนา ดังนั้นจึงไม่มีวันที่จะจบลงง่ายๆ

ซึ่งมันก็จะผูกโยงไปทั้งที่ไอร์แลนด์เหนือ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่เหมือนกัน เพราะทั้งสองต่างก็มีสาเหตุที่มาจากเรื่องศาสนาทั้งนั้น

ผมว่าประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาเองก็ดูออก ดังนั้นการพยายามจะลดกระแสเรื่องศาสนาลงไป แล้วกล่อมเกลาให้โลกไปหลงไหลในวัตถุนิยมให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดรับให้มีการหลอมละลายไม่ให้ประชากรโลกไม่อยู่ในความเชื่อในศาสนาของตัวเองอย่างสุดโต่งเกินไป ไม่งั้นโลกก็ไม่มีวันสงบสุข เมื่อโลกไม่สงบสุข อเมริกาก็ขายสินค้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจของโลกไม่มีวันคงที่

การขายอาวุธเอง ผมก็คิดว่าอเมริกาก็ไม่ได้อยากขายแบบไม่เลือกไปเสียทั้งหมด แม้ผลประโยชน์จากการขายอาวุธ จะทำกำไรได้ดีไม่แพ้การขายน้ำมัน ทองคำ หรือยาเสพติด แต่อาวุธก็เหมือนงูนั่นล่ะครับ มันไม่เข้าใครออกใคร วันนึงอาวุธที่ตัวเองขายออกไป จะแว้งกลับมากัดอเมริกาเองเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างตอนที่เกิดปฏิวัติในอิหร่านนั่นไง อเมริกันเพิ่งขาย F-14 ให้อิหร้านไปฝูงนึง พอโคไมนี่โค่นล้มกษัตริย์ของอิหร่านได้เท่านั้น อเมริกันเหงื่อแตกพลั่ก เพราะอาวุธของตัวเองอยู่ในมือโคไมนี่เต็มไปหมด

ดังนั้นการหลอมรวมให้โลกเป็นทุนนิยมเดียวกัน จึงเป็นไม้เด็ดของอเมริกัน ที่จะกอบโกยผลประโยชน์ในโลกนี้ ผมน่ะสังเกตจากการได้มาอยู่ที่คูเวตนี่ล่ะครับ คูเวตแม้จะมีการพยายามอนุรักษ์วัฒนธรรมมุสลิมไว้ให้มากที่สุด แต่สินค้าอเมริกันก็เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของที่นี่ และการนิยมอเมริกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอมริกา มากู้ชาติกู้แผ่นติดให้คูเวตจากอิรักนี่นา

ดังนั้นเมื่อโลกถูกครอบงำด้วยแนวความคิดแบบทุนนิยมเต็มขั้น ตามสไตล์อเมริกัน ปัญหาจากศาสนาจึงเจือจางลงไปบ้าง เพราะประเทศต่างๆ ถ้าจะมีปัญหาเรื่องศาสนากับประเทศอื่นๆ ก็มักจะนึกถึงเรื่องเศรษฐกิจตามมาด้วย ทำให้ลังเล เพราะเท่ากับเสียผลประฌยชน์ในชาติตัวเอง

ซึ่งเราก็เห็นได้จากกรณีที่อเมริกา บุกอิรักที่ชาติอาหรับทั้งหลายไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามายุ่ง เพราะคิดถึงผลประโยชน์จากเรื่องเศรษฐกิจทั้งนั้น

แต่กลายเป็นว่าเมื่อโลกเข้าสู่ระบอบทุนนิยมเต็มขั้น การกอบโกยทรัพยากรเพื่อตอบสนองตลาดในแบบทุนนิยม ก็ทำให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาแบบเงียบๆ ที่ตอนนี้เริ่มไม่เงียบแล้ว

ก็คือปํญหาทรัพยากร

ยาวแล้ว ไว้ว่าต่อวันหลังนะครับ

 

โดย: BrettAnderson 29 กุมภาพันธ์ 2551 12:05:03 น.  

 

 

โดย: Darksingha 29 กุมภาพันธ์ 2551 20:03:21 น.  

 

มาเยี่ยมมาเยือนครับ ตอนนี้หายวุ่นวาย หายสับสน ไปในระดับหนึ่งแล้วครับ หลังจากตัดสินใจได้เสียที

แต่คงจะหมดแรงคุยไปอีกสักสองสามวันนะครับ ได้เรื่องอย่างไร สักวันพุธจะมาเล่า มาคุยให้ฟังอีกทีนะครับ หรือไม่ก็พฤหัสนั่นล่ะครับ

ดูแลสุขภาพและดูแลตัวเองมากๆนะครับ

 

โดย: BrettAnderson 3 มีนาคม 2551 3:48:11 น.  

 

การบ้านตรึมเลยหรือครับเนี่ย

ไม่รู้ว่าการบ้านของอังกฤษเนี่ย เขาจะให้ทำในลักษณะไหนสิครับ เป็นแบบฝึกหัด หรือเป็นรายงานให้ไปค้นคว้า

จะทำอย่างไร ให้นักเรียนและนักศึกษาไทย เวลาให้ทำรายงานแล้ว จะสามารถทำได้เอง แบบ คิดได้เอง วิเคระห์เอง ประมวลผลเอง สรุปเองได้

หลังๆนี่ผมเห็นน้อยลงเหมือนกันนะครับ ก็เลยรู้สึกว่า ระบบการศึกษาของไทย มันล้มเหลวตรงไหนหนอ มันล้มเหลวที่ระบบ เพราะถ้าคิดในแง่ที่ว่า ถ้าระบบมันดี คนไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ได้ ทุกอย่างมันก็จะดีเอง

แต่มองอีกแง่ ต่อให้ระบบดีแค่ไหน แต่ถ้าคนเราแย่ มันก็ไม่มีประโยชน์

ผมเองถึงมีความคิดว่า ถ้าอยากให้ประเทศไทยเจริญรุดหน้าแข่งขันกับคนอื่นได้ เรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ไวที่สุดก็คือ เรื่องการพัฒนาคนนี่ล่ะครับ

ให้รู้จักคิด ให้รู้จักรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง

ยากเหมือนกันนะครับนั้น

 

โดย: BrettAnderson 4 มีนาคม 2551 3:41:11 น.  

 

มานั่งอ่านเม้นก่อนของตัวเองต้องรีบมาบอกครับว่า คำว่านักเรียนนักศึกษาไทยที่ว่าน่ะ หมายถึงที่อยู่ในเมืองไทยนะครับ แหะๆ ไม่ใช่ที่ไปเรียนเมืองนอกอย่างคุณเพียงครับ เด๋วจะเข้าใจผิด

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ อย่าหักโหมเรียนหนักเกินไปล่ะ

 

โดย: BrettAnderson 4 มีนาคม 2551 15:14:58 น.  

 

กลับมาถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้วค้าบบบบ คุณเพียง

คุณเพียงเป็นอย่างไรบ้าง อย่าสุมงานไว้กับตัวเยอะเกินไปนะครับ รีบๆทำเข้า

ผมเองกลับมาถึงบ้านก็สบายใจขึ้นเยอะ มีแค่เรื่องหางานทำอย่างเดียวล่ะครับที่ต้องกังวลอยู่สักหน่อย แต่ก็พอจะมีอะไรทำอยู่บ้าง สักหลังอาทิตย์หน้า ก็จะไปทำที่ระยองแล้วน่ะครับ

เด๋วจะมาคุยเรื่องการก่อการร้ายต่อครับ กำลังมันส์อยากร่ายต่อเหมือนกัน

 

โดย: BrettAnderson 6 มีนาคม 2551 10:03:48 น.  

 

โอ้วววว คุณเพียงจะได้กลับเมืองไทยแล้วหรือครับ

แหม่ดีจริงๆ เป็นช่วงปิดเทอมหรือเปล่าครับนั่น

กลับมาแล้วมีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าครับ ให้ช่วยเรื่องหาข้อมูลหรืออะไรก็บอกมาได้เลยนะครับ

ตอนนี้ไม่เครียดแล้วล่ะครับ ได้กลับมาเมืองไทยแล้ว ก็ไม่เครียดจนกว่าเงินที่เก็บไว้จะหมดนั่นล่ะครับ แต่มันก็เหลือมากอยู่ ถ้าใช้อย่างประหยัด ก็น่าจะอยู่ได้สบายๆไปอีกสัก 4-5 เดือนล่ะครับ

แต่ก็ต้องประหยัดจริงๆ อย่างที่บอกนั่นล่ะครับ

หวังว่าคงไม่ตกงานนานขนาดนั้นนะครับ

ตอนนี้ก็จะไปทำงานกับญาติที่ระยอง แต่ก็ต้องไปคุยกับเขาก่อน ไม่รู้เขาจะอย่างไรบ้างน่ะครับ

ได้เงินน้อยหรือมากยังงัย ก็ต้องเอาไว้ก่อน เพราะผมเองก็ไม่อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆหรอกครับ มันเบื่อ

ว่าจะคุยเรื่องก่อการร้าย ก็บิ๊วอารมณ์ไม่ขึ้นเอาเสียเลย อิอิ

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ไม่รู้ที่อังกฤษตอนนี้อากศหายหนาวหรือยังไม่รู้สิ

 

โดย: BrettAnderson 7 มีนาคม 2551 9:40:30 น.  

 

เนื้อหาจากที่อ่านนะค่ะ
ขอบคุณสำหรับความเป็นกลางที่ค่อนข้างดี เราศึกษามาหลายเว็บแล้ว บ้างก็ให้ข้อมูลที่ใส่ความรู้สึกตัวเองที่ไม่เป็นกลางลงไป ทำให้ผู้อ่านที่ไม่รู้ หรือคิดไม่ค่อยเป็นนะ จงเออ อ้อ ตามไปด้วย
ความจริงแล้ว นี่ ศาสนาอิสลามนี่ มี คน นับถือ อยู่ ทั่วโลก และ มีจำนวนมากที่สุด เมื่อคุณ ศึกษาถึงแก่นแท้ ของศาสนาอิสลาม แล้ว คุณ จะไม่มีข้อสงสัยใดๆทั่งสิ่ง ใน สิ่งที่ คนกลุ่มนี่กำลังกระทำ...........อิสลามสอนทุกอย่างลึกซึ่งมาก โดยที่คุณจะไม่มีข้อสงสัยใดๆทั่งสิ้น เกี่ยวกับโลกนี่อย่างแน่นอน............เมื่อถึงวันที่คุณเริ่มศึกษาแล้วจะรู้เอง.........

 

โดย: laila IP: 124.120.230.246 20 ตุลาคม 2553 0:53:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


PPpIRCU
Location :
LonDoN~ United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




LSEist '11

( ^^)爻(^^ )

~ขอสงวนลิขสิทธิ์ในภาพถ่ายและบทความทุกชิ้น~
Piang Phanprasit

Créez votre badge
Photobucket

Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
Friends' blogs
[Add PPpIRCU's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.