เมษายน 2556

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
Honey sweet หวานนักรักนี้ 7

เธออยากจะถามว่าแล้วเขามีทางเลือกให้เธอด้วยหรือแต่คำว่า 'บุญคุณ' ก็ทำให้คุณหมอตกปากรับคำตามที่เขาขอกึ่งบังคับออกไปในที่สุด

"ทำไมคุยกันนานจังเลยล่ะครับ"คนรอคำตอบด้วยใจจดจ่อเอ่ยถามทันทีที่ประตูห้องเปิดออกและทั้งสองก้าวออกมาจากห้อง

"หมอน้ำผึ้งตกลงใช่ไหมครับคุณพ่อ"

"ใช่ลูกคุณหมอจะเป็นคนรักษาตาตั้งระหว่างที่ตาตั้งอยู่ที่โรงพยาบาล"

"จริงนะครับ!นมได้ยินไหมครับ หมอน้ำผึ้งจะมาอยู่กับตาตั้ง"

"ได้ยินแล้วค่ะ"

ท่ามกลางความดีใจของเด็กชายผู้ไม่เคยถูกขัดใจจากคนรอบข้างพิยดาแต่ได้เงียบเพราะพูดอะไรไม่ออกเอาจริงๆ ถึงแม้แปดสิบเปอร์เซ็นต์จะมั่นใจว่าเธอเคลียได้แต่ว่าเขาก็ไม่ควรบอกกับลูกชายแบบนี้ทั้งที่เธอบอกแล้วว่าจะให้คำตอบพรุ่งนี้

"งั้นคืนนี้หมอน้ำผึ้งก็อยู่กับตาตั้งได้เลยสิครับ"

"ครับ"หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธเลย นอกจากปล่อยทุกอย่างไหลตามน้ำ

"ขอบคุณนะครับที่ไม่ทิ้งให้ตาตั้งอยู่คนเดียว"

มันเป็นอีกประโยคของเด็กชายที่ทำให้พิยดาอดหันไปมองหน้าพ่อของเด็กไม่ได้เพราะอยากจะรู้ว่าเขารู้สึกอะไรหรือเปล่า ในเมื่อลูกชายพูดขนาดนี้แล้วแต่ว่าสิ่งที่เธอเห็นก็มีแต่ใบหน้านิ่งๆ ไม่บอกความรู้สึกเหมือนเดิม

เขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ...ไร้ความรู้สึกหรือว่าใช้เงินซื้อทุกอย่าง

"ไม่ทิ้งหรอกค่ะน่ารักขนาดนี้ใครจะใจร้ายปล่อยให้อยู่คนเดียวจริงไหมคะ"หญิงสาวพยายามสลัดเรื่องในหัวออก ให้ความสนใจคนป่วยแทน

"น่ารักจริงหรือเปล่าครับ"

"จริงสิครับตาตั้งส่องกระจกทุกวัน ตาตั้งไม่รู้หรือครับว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน" คนหมอชมต่อให้ความมั่นใจกับเจ้าตัวเล็กคนไข้ก็เลยเผยยิ้มเขินออกมาให้คนในบ้านเห็นเป็นครั้งแรก

"ขอบคุณครับ"

"แต่ว่ากลางวันหมอไม่ได้มาอยู่ด้วยนะครับ"

"หมอน้ำผึ้งมีคนไข้ที่โรงพยาบาลต้องรักษาตาตั้งรู้ครับ" พอได้ตามที่ต้องการ เด็กชายก็พร้อมจะเข้าใจอะไรง่ายๆ"แต่ว่าตาตั้งโทร.หาได้ใช่ไหมครับ"

"ได้สิครับตามที่เราตกลงกันไว้เลย"

"โอเคเลยครับตาตั้งจะโทร.หา แต่ว่าจะไม่รบกวนเวลาทำงานของหมอน้ำผึ้ง"

"น่ารักมากเลยค่ะ...แล้วหิวหรือยังคะ"

"ไม่กินไม่ได้ใช่ไหมครับ"คนไข้อุทธรณ์เสียงอ่อนเพราะยังขยาดกับการอาเจียนสุดทรมานสองครั้งที่ผ่านมา

"ไม่ได้ครับกินนิดหน่อยก็ยังดี แล้วถ้าไม่กินข้าวก็จะอดกินขนมด้วย"

"โห!งั้นกินก็ได้ครับ แต่ว่าไม่เอาอาหารโรงพยาบาลได้ไหมครับ"

"เดี๋ยวนมไปจัดการให้ค่ะ"นมอรอาสาอย่างรู้หน้าที่เพราะตั้งใจจะลงไปหาซื้ออาหารมาให้เจ้านายรับประทานอยู่แล้วเนื่องจากไม่ได้สั่งให้แม่ครัวที่บ้านทำมาให้

"คุณต่อกับคุณหมออยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ"

"อะไรก็ได้ครับคุณอรจัดมาเถอะ"

"ของน้ำผึ้งก็เหมือนกันค่ะ...ขอบคุณนะคะ"หญิงสาวบอกอย่างไม่เรื่องมากแล้วก็ไม่ลืมขอบคุณอีกฝ่ายซึ่งทุกคำพูดทุกอิริยาบถเข้าหูและอยู่ในสายตาของชายหนุ่มทั้งหมด

"งั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวดิฉันขึ้นมาค่ะ"คุณอรบอกแล้วก็ขอตัว บรรยากาศภายในห้องตกอยู่ในความเงียบเพียงเสี้ยววินาทีคุณหมอพิยดาก็หันกลับไปหาคนไข้เฉพาะกิจของตัวเอง

"งั้นระหว่างรออาหารตาตั้งเช็ดตัวสักหน่อยดีไหมครับ ตอนเย็นพยาบาลมาเช็ดตัวให้หรือยัง"

"ยังครับ"

ไม่ใช่ว่าพยาบาลบกพร่องในหน้าที่แต่เป็นเพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้ใครจับต้องเนื้อตัวเอง

"งั้นให้หมอเช็ดให้ไหมไข้จะได้ลด"

"หมอน้ำผึ้งจะเช็ดให้จริงๆหรือครับ"

การย้ำถามของเด็กชายทำให้หญิงสาวอดปรายตาไปมองคนเป็นพ่อไม่ได้จนแล้วจนรอด

"จริงสิครับรอแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวหมอไปขอผ้ากับพยาบาลก่อน"

"ไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวผมบอกให้เขาเอาเข้ามาให้"

พอเขาเอ่ยปากทุกอย่างก็ได้มารวดเร็วทันใจ ส่งผ้ากับชามน้ำให้หญิงสาวแล้วชายหนุ่มก็ปลีกตัวไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำปล่อยให้คุณหมอกับลูกชายอยู่กันตามลำพังแต่ว่าหูก็คอยเงี่ยฟังตลอดเวลาว่าสองคนพูดคุยอะไรกัน

"ตาตั้งไม่มีแม่หมอน้ำผึ้งรู้ใช่ไหมครับ"

"ทราบค่ะ"

"...ตาตั้งขอเรียกหมอน้ำผึ้งว่าแม่ได้ไหมครับ"

มือที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณซอกคอหยุดการทำงานทันทีเมื่อได้ยินคำขอ

ทุกครั้งที่มีคำขอออกมาจากปากของเด็กชายที่ไม่รู้ว่าบุญนำกรรมพาใดนำมาให้เจอกันพิยดาไม่เคยคิดปฏิเสธเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำให้ได้แต่กับคำขอเมื่อสักครู่ทำให้หญิงสาวต้องคิดหนักเป็นครั้งแรก

แม่...คำนี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่าเธอจะเป็นได้และเธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะได้สัมผัสกับตัวเอง

"นะครับตาตั้งไม่ไม่มี ตาตั้งอยากมีแม่เหมือนกับเพื่อนๆ"

"แต่หมอไม่ใช่แม่ของตาตั้งนี่คะ"หญิงสาวตัดสินใจปฏิเสธ แม้จะสงสารและเห็นใจไม่น้อย

เธอเองก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันทำไมเธอจะไม่รู้ความโหยหาของเด็กชายตรงหน้า

"ตาตั้งรู้ครับแต่ว่าเป็นสมมติก็ได้นี่ครับ"

"แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเราแค่สองคนนะคะยังมีคุณพ่อ มีคนอื่นๆ อีกที่อาจจะเข้าใจผิดเอาได้"

"ตาตั้งไม่เข้าใจครับ"

"เอ่อ...งั้นหมออธิบายใหม่....ตาตั้งไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวใช่ไหมครับ"

"ครับตาตั้งมีคุณพ่อมีนมอรและเพื่อนๆ ที่โรงเรียน"

"นั่นสิครับแล้วถ้าพวกเขาถาม ตาตั้งจะบอกว่าทุกคนว่ายังไงล่ะครับ เพราะถ้าบอกว่าเป็นแม่หมอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับคุณพ่อของตาตั้ง แล้วแฟนของคุณพ่อก็อาจจะเข้าใจคุณพ่อของตาตั้งผิดตาตั้งไม่อยากให้คุณพ่อทะเลาะกับแฟนใช่ไหมครับ"หญิงสาวพยายามโน้มน้าวใจโดยหยิบยกเรื่องที่ใกล้ตัวเด็กที่สุด

"ไม่อยากครับ"เด็กชายไม่ได้สงสัยหรอกว่าคุณหมอเดาเอาหรือว่ารู้ได้ยังไงว่าคุณพ่อมีแฟนแต่ว่าคนแอบฟังในห้องน้ำกำลังนึกสงสัยเป็นกำลัง

"ใช่ครับไม่มีใครอยากเห็นหรอก...เอาแบบนี้ไหม ให้หมอเป็นพี่แทน ถึงจะอายุมากไปสักหน่อยแต่ก็เป็นพี่สาวตาตั้งได้นะ"

"แต่ว่าตาตั้งอยากมีแม่นี่ครับไม่ได้อยากมีพี่สาว"

คุณหมอถึงกับไปไม่เป็นเมื่อคนอยากมีแม่ยืนยันมั่นในความตั้งใจ

"...แล้วถ้าเราไม่ให้ใครรู้จักล่ะครับ"

"หมายความว่ายังไงคะ"ผู้ใหญ่ถึงกับงง หลังลุ้นให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจอยู่กว่าอึดใจถึงตอนนี้เธอเริ่มจะไม่สงสัยแล้วล่ะว่าทำไมคนเป็นพ่อถึงได้ตามใจได้ตามใจดีเพราะถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ เด็กชายตาตั้งจะไม่ยอมทิ้งเรื่องนั้นๆ ไปเลย

"ก็เราเป็นแม่ลูกกันสองคนไงครับเวลาไม่ใครอยู่ตาตั้งก็ค่อยเรียกแม่ แค่นี้ก็ไม่มีคนรู้แล้วใช่ไหมครับ"

เป็นคนหมอบ้างที่ต้องอึ้งกับความคิดของหนูน้อย...จากประวัติของคนไข้บอกว่าเด็กชายตรัยคุณอายุเจ็ดปีสิบเดือนซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าเด็กทั่วไปจะสามารถคิดอะไรซับซ้อนแบบนี้ได้ไหม

"ตกลงให้ตาตั้งเรียกคุณแม่นะครับ"

"เอ่อ..."

"นะครับ"

"เอ่อเรียกแม่น้ำผึ้งไม่ดีกว่าหรือคะ" เธอไม่รู้ว่าดีกว่าหรือเปล่าแต่ในเมื่อใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธแววตาเว้าวอนของหนูน้อยยังไงคำนี้ก็น่าจะดีกว่าคำว่า 'คุณแม่' ซึ่งมันดูเป็นทางการ เป็นงานเป็นการเกินไป แล้วที่สำคัญ 'คุณพ่อ' ของเด็กจะคิดยังไงหากว่ามาได้ยินเข้า

"แม่น้ำผึ้งมันยาวไปนี่ครับ"

"งั้นเรียกแม่ผึ้งก็ได้ค่ะ"

"ไม่เอาครับเรียกคุณแม่ดีแล้ว...อนุญาตนะครับ"

พอคำขออนุญาตมีเสียงไอติดๆกันออกมาไม่หยุดส่งให้ใบหน้าซีดเซียวก่อนหน้าแดงก่ำร่างเล็กแทบจะกระเด้งลอยจากเตียงหญิงสาวก็ไม่อาจใจแข็งอีกต่อไป

"...ก็ได้ค่ะ"

"ขอบคุณครับตาตั้งรักคุณแม่ที่สุดเลย"

"ตาตั้ง!" หญิงสาวเรียกอีกฝ่ายด้วยความตกใจ เมื่อเจ้าตัวเล็กโผเข้ามากอดเอาไว้แน่นและภาพนั้นก็ไม่ได้เล็ดลอดสายตาของคนเป็นพ่อและข้อตกลงของทั้งสองก็ทำให้ต้องยืดเวลาอยู่ในห้องน้ำออกไปจนกระทั่งหญิงสาวเช็ดตัวให้ลูกชายเสร็จถึงได้เดินออกมาโดยไม่แสดงพิรุธใดๆ ให้เห็น




Create Date : 22 เมษายน 2556
Last Update : 22 เมษายน 2556 9:44:57 น.
Counter : 783 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

S_ISAN
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



แบ่งปัน รับฟัง เข้าใจ
New Comments