ศีล ข้อ 3 ที่ไม่ผิดกฎหมาย..แต่ ผิดกฎแห่งกรรม ?
หญิงที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และยินยอมให้ชายมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยที่ยังมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแลอยู่ แบบนี้ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ผิด "กฎแห่งกรรม"
ศีลในข้อนี้มีความนัยคล้ายกับการผิดศีลข้อ "การลักทรัพย์" นั่นคือการหยิบฉวยเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตหรือหวงแหนไปเป็นของตน หากเจ้าของไม่ได้หวงแหนหรือไม่ได้ห้าม ถึงเราจะเดินไปหยิบของของผู้นั้นมาใช้หรือหยิบไปก็ไม่ถือว่าผิดศีลข้อนี้ (เช่น เราเดินไปเจอเหรียญ 10 บาท ตกอยู่ที่พื้น เงินนี้ไม่มีเจ้าของไม่มีคนหวงแหน เราก็สามารถหยิบเงินนั้นไปทำบุญหรือไปทำอะไรก็ได้แล้วแต่เรา โดยไม่ผิดศีลข้อลักทรัพย์)
จะต่างกันก็ที่ ศีลข้อ 3 นั้น เป็นเรื่องของมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ และเน้นในเรื่องของทางความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างบุคคลเป็นสำคัญ ร่างกายของคนเรานี้เกิดมาจากพ่อแม่ ดังนั้น ก็ถือว่ามีพ่อและแม่เป็นเจ้าของ เป็นผู้หวงแหนอยู่ การที่มีบุคคลใดมาล่วงละเมิดบุคคลใดในขณะที่พ่อแม่ของบุคคลนั้นยังหวงแหนอยู่ ย่อมก่อให้เกิดความทุกข์ใจความเดือดเนื้อร้อนใจขึ้นมากับใจของพ่อแม่ของบุคคลนั้น อันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความโกรธแค้น ความไม่พอใจ การทำร้ายทำลายกันในที่สุด (ในทำนองเดียวกับสิ่งของ)
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รวมไปถึงกรณีที่คนเรามีผู้ปกครองเป็นญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่นด้วย (อย่างในกรณีผู้ที่พ่อแม่อาจจะเสียชีวิตแล้ว และไปอยู่กับญาติพี่น้อง) การจะผิดศีลข้อนี้หรือไม่นั้นเราก็ต้องเอาความรู้สึกของบุคคลที่เป็นผู้ปกครองของบุคคลนั้นๆเป็นสำคัญ (มิได้เอาหลักทางกฎหมาย หรือ ดูจากภายนอกว่าสามารถหาเงินทองหรือทำงานเองได้แล้วหรือไม่)
เช่น ในสมัยก่อนที่พระราชานิยมมีสนมหลายๆ คน ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ผู้ปกครองแล้ว และทั้งๆ ที่พระราชามีภรรยาหลายคนแต่ก็ไม่ถือว่าผิดศีลข้อนี้แต่อย่างใด(บางคนก็ถูกยกให้เป็นสนมตั้งแต่อายุ 16 ก็มี)
โดยสรุปก็คือ แม้หญิงหรือชาย ไปมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ยังมีพ่อแม่ผู้ปกครองดูแลอยู่ หรือ ยังมีความรู้สึกหวงแหนอยู่ (มิได้ไว้วางใจและปล่อยให้ลูกดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเอง) แม้จะบรรลุนิติภาวะทางกฎหมายแล้ว หรือ ทำมาหากินหาเงินเลี้ยงดูตนเองได้แล้ว ก็ถือว่ามีส่วนผิดในทางศีลธรรมอยู่ (แต่หากเป็นในสังคมของต่างประเทศที่บางประเทศพอลูกอายุได้ถึงระดับหนึ่ง พ่อแม่ก็จะถือว่าพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว สามารถตัดสินใจอะไรต่างๆด้เอง อย่างในกรณีที่อยู่ในสังคมเช่นนั้น ก็อาจจะไม่ผิดศีลข้อนี้)
อย่างไรก็ดี การจะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ใด ไม่ว่าหญิงหรือชาย การตกแต่งตามประเพณี หรือ การบอกกล่าวให้ผู้ปกครองพ่อแม่ของอีกฝ่ายได้รับรู้ว่า ตนพร้อมที่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบในชีวิตความเป็นอยู่ของลูกหรือผู้อยู่ภายใต้การปกครองนั้นๆ ถือว่าเป็นมารยาทขนบธรรมเนียมประเพณีและการแสดงออกอันดี ที่แสดงให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่า ตนไม่ได้คิดจะมาหลอกลวงหรือแค่คิดจะมีอะไรกันเพียงแค่เล่นๆ สนุกๆ โดยไม่ขอรับผิดชอบใดๆ กับชีวิของผู้นั้น นั่นเอง
โดย พระชาญวิทย์ ธมฺมวโร
Create Date : 16 กันยายน 2553 |
|
13 comments |
Last Update : 16 กันยายน 2553 12:26:07 น. |
Counter : 1210 Pageviews. |
|
|
|