จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
หนังสือเล่มแรกของนักเขียน

วันนี้ผมได้รับซองอีเอ็มเอส 1 ซอง เปิดออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ครับ !










แก้มหอมเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว



บนถนนนักเขียน



ในวงการวรรณกรรมมีผู้คนหลากหลาย นอกจากคนที่เลือกทางเดินให้กับตัวเองด้วยการเขียนหนังสือเพียงอย่างเดียวแล้ว ยังมีนักเขียนที่ประกอบอาชีพอื่นในขณะเดียวกันก็ได้ทำงานเขียนหนังสือที่ตนรักไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัยการ ปลัดอำเภอ ตำรวจ วิศวกร คนทำโฆษณา หรือครู และอื่น ๆ อีกมากมาย

เท่าที่รับรู้มาไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบันนี้ คนที่เป็นครูและเป็นนักเขียนด้วยมีอยู่ไม่น้อย เมื่อนึกถึงครูที่เป็นนักเขียนขึ้นมาทีไร บุคคลที่ผมยังจำติดใจและนึกถึงทุกครั้งก็คือ ครูนิมิตร ภูมิถาวร ผู้เริ่มต้นงานเขียนขณะที่ยังเป็นครูประชาบาล และในยุคนี้ยังมีนักเขียนอีกหลายท่านที่ยังเป็นครูอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย

สำหรับ ‘แก้มหอม’ นักเขียนหนุ่มนามปากกาชวนจุมพิตคนนี้ ก็มีอาชีพเป็นครูเช่นกัน เขาอยู่บนดอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย นอกจากเป็นครูและเขียนเรื่องสั้นแล้ว เขายังมีความสนใจในเรื่องวรรณกรรมเป็นพิเศษ ถึงขนาดเมื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เขาเลือกทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องสั้นไทย

ในช่วงฤดูหนาวปี 2551 ที่ผ่านมา ขณะที่ผมได้ไปพักอยู่บนดอยวาวีเป็นเวลาราวสามเดือนเศษ ผมได้รู้จักและสนิทสนมคุ้นเคยกับเขา ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เป็นประจำ

ในช่วงเวลานั้นเขาจะมีเรื่องสั้นลงตีพิมพ์ตามหน้านิตยสารมาอวดผมอยู่บ่อย ๆ และมีต้นฉบับเรื่องสั้นเตรียมพร้อมเสนอสำนักพิมพ์อยู่ในแฟ้มอย่างเรียบร้อย เขาพูดเสมอว่าเขาหลงรักเรื่องสั้น เขาจะเขียนเรื่องสั้น เขาเพิ่งเขียนเรื่องสั้นเสร็จ และเรื่องสั้นของเขาได้รับการตีพิมพ์แล้ว

แรกเมื่อได้รู้ชื่อนามปากกาของเขาก็ให้รู้สึกแปร่งหูที่จะเรียกนามนี้ แต่ไม่ว่าใครที่ตั้งชื่อนามปากกาขึ้นมาเพื่อที่จะใช้ทำงานในสิ่งที่เขารัก เขาย่อมรักในชื่อนั้น และสำหรับเรื่องสั้นชุดนี้นับว่าเป็นเรื่องสั้นเล่มแรกของเขา

ในฐานะที่ผมเคยเดินทางมาก่อนบนหนทางเส้นนี้เมื่อเห็นนักเขียนรุ่นน้องคนหนึ่งมีผลงานเล่มแรก โดยเฉพาะเป็นคนที่รู้จักคุ้นเคยกันอย่างแก้มหอม ผมย่อมรู้สึกยินดียิ่ง เพราะก้าวแรกคือจุดเริ่มต้นที่จะเดินต่อไป ส่วนเรื่องสั้นในเล่มนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ผมขอยกให้ผู้อ่านเป็นผู้ตัดสินเองด้วยการอ่านก็แล้วกันครับ

ด้วยความจริงใจ
โดม วุฒิชัย
เพิงพเยีย นนทบุรี
กลางฤดูฝน 2552



(จากคำนำในส่วนที่ผมเขียนในหนังสือเล่มนี้)





ระหว่างที่ผมอยู่ที่ดอยวาวี เคยไปนั่งร่วมโต๊ะสังสรรค์กับเขาบ่อยๆ
เวลาถ้าเขามีโอกาสถือไมค์ร้องเพลง คาราโอเกะ
เขาจะชอบร้องเพลงนี้เป็นประจำ
ที่ผมเลือกคลิปนี้มาให้ดู เพราะว่าเสียงเพลงเป็นเสียงของต้นฉบับครับ
ส่วนภาพไม่ต้องดูก็ได้ ใช้หูฟังเฉยๆ






Create Date : 23 ตุลาคม 2552
Last Update : 24 ตุลาคม 2552 9:51:44 น. 23 comments
Counter : 1993 Pageviews.

 
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม โดม
+----------------------------+

แวะมาหอมแก้ม อะกึ๊ย!
มาชมหนังสือของ "แก้มหอม"
ครูนักเขียนหรือนักเขียนเป็นครู (ดีกว่าคะ)

ด้วยความชื่นชม (ปก) และยินดีในความสำเร็จค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:21:24:57 น.  

 
สวัสดีคุณอาค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:21:27:50 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยนะคะ
เห็นชื่อบนหนังสือก้จำได้ทันทีเลยค่ะ
เพราะคุ้นชื่อจากบล็อกอาโดม


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:21:35:26 น.  

 
สวัสดีค่ะอาโดม

ใช่ครูบุญทมหรือเปล่าคะ
อยากอ่านงานเขียนของ "แก้มหอม" บ้างจังเลย วางตลาดหรือยังคะ จะได้ให้กำลังใจ "แก้มหอม" ค่ะ



โดย: เอื้องสามปอย วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:22:38:05 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม


ขอแสดงความยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยนะครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:7:38:26 น.  

 



ได้ฟังเพลงลูกทุ่งขนานแท้อย่างนี้ชื่นใจจริงๆ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:18:04:20 น.  

 
สวัสดีวันหยุดครับทุกๆท่าน


เริ่มเตรียมตัวเตรียมใจจะเดินทางอีกแล้ว,

ตอนแรกไม่คิดว่าจะขึ้นทางเหนือ

28 นี้ต้องขึ้นไปงานแต่งงานลูกสาวเพื่อนที่ จ.ตาก

ตั้งใจว่าจะเตรียมตัวไปเลย

ชีพจรลงเท้าจริงๆ พ่อคู้น

ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงผมว่าจะเดินทางไปไหนสักเล็กน้อย
จากนั้นมุ่งหน้าขึ้นสู่ดอยวาวี

ทั้งที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปที่ดอยวาวีในปีนี้อีก

แต่จู่ๆก็คิดถึงดอยวาวีขึ้นมา และอยากไปทำอะไรต่อที่ทำคั่งค้างไว้เมื่อฤดูหนาวปีก่อน

สวัสดีทุกๆคอมเม้นท์นะครับ ช่วงนี้ผมก็เลยต้องทำงานตุนไว้และเตรียมงานเพื่อไปทำที่ดอยวาวีระหว่างพักอยู่ที่นั่นด้วย

แล้วค่อยคุยกันใหม่


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:18:26:35 น.  

 
ยินดีกับแก้มหอมด้วยค่ะ

น่าตื่นเต้นมากๆสำหรับหนังสือเล่มแรก

นักล่าเอง หลายเล่มแล้ว แต่ก็ยังตื่นเต้นทุกครั้ง

........

พี่โดมจะไปไหนก็ติด อุ่นรักป่าฝนไปอ่านด้วยนะคะ

แก้หนาวได้ดี แต่ไม่แก้เหงาเท่าไหร่ค่ะ...



โดย: นักล่าน้ำตก IP: 113.53.54.217 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:8:10:52 น.  

 
ยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยค่ะคุณโดม
และขอให้มีความสุขกับการเดินทางอีกครั้ง ไปโน่นเข้าหนาวหรือปล่าวคะ กะเวลาได้ดีจริงๆ อากาศคงน่านอน


โดย: แม่น้องนิก IP: 10.0.1.179, 58.8.11.116 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:9:10:22 น.  

 
ดีค่ะพี่โดม
มาเที่ยวที่บ้านพี่รุ่งที่สายสี่ค่ะ
ซื้อหนังสือไปหลายเล่ม
ขอพี่ปรายทั้งนั้น
ขอจิมมี่ เหลียวด้วย
ถ้าขึ้นดอยจะเตรียมต้นไม้ให้นะคะ
ว่างๆแวะที่อบต.นะคะ

มีความสุขกับวันอาทิตย์ค่ะ
วันนี้จะไปกับพี่แก้มหอมที่งานสัปดาห์ ถ้าเจอกันคงดีนะคะ


โดย: แค่เพียงสายลม IP: 202.149.25.235 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:9:21:27 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ
วันนี้ตื่นไม่เช้า หึ หึ (ขอเลียนเสียงหัวเราะ :P)
แต่ได้ไปตักบาตรตอนเช้า
แน่ะ เกทับซะด้วย...

วันนี้ที่วัดแถวบ้านมีการตักบาตรพระ 108 ค่ะ เป็นการฟื้นสืบสานประเพณีเก่าของการตักบาตรสายน้ำขึ้นมาอีกครั้งเป็นปีที่สองของอำเภอบางใหญ่

พอดีบ้านอยู่ใกล้วัดก็เลยชวนกันไปตักบาตรทางน้ำกันบ้าง ไปวัดตอนหกโมงเช้ากว่า ๆ ทางวัดปูเสื่อผืนยาวตามสันเขื่อนเล็ก ๆ กั้นน้ำริมคลองรอท่าไว้แล้ว พวกชาวบ้าน (รวมคนเขียนด้วย) แต่งตัวกันเรียบร้อย ในความหมายที่ว่าสุภาพทั้งสีและแบบ ระหว่างนั่งรอพระอยู่ริมคลอง มีเพลงบรรเลงเครื่องสายไทยเปิดผ่านเครื่องกระจายเสียงของวัดให้ฟังเย็น ๆ ใจ

ช่วงเวลารอใส่บาตรพระก็นานพอสมควรนะคะ เพราะเป็นเรือสำหรับพระฝั่งคลองหลายวัดด้วยกัน กว่าจะผ่านแต่ละคุ้งน้ำก็ใช้เวลายาวนับสิบนาที......ตอนเช้าอากาศดีค่ะ รับลมเย็นริมคลอง มองคลื่นเล็ก ๆ บนสายน้ำและถือโอกาสเจริญสติไปด้วยในตัว...

โฆษกของวัดอธิบายว่า ตักบาตร 108 ไม่ได้หมายถึงพระ 108 รูป แต่หมายถึง 108 จำพวก รวมไปถึงฤาษี ชีปะขาว ฯลฯ ในความเป็นจริงไม่ได้มีผู้มารับบาตรมากจำพวกขนาดนั้น ทางวัดจึงมีการแต่งตัวผสมปนเปเข้ามาด้วย ถือว่าเป็นการทำทั้งบุญและทาน...

เรือแต่ละลำจะมีพระนั่งรับบาตรเพียงหนึ่งรูปค่ะ มีอยู่ลำหนึ่งเห็นพระใส่หมวกกันน็อคสีสด ส่วนท้ายทอยยังเห็นเส้นผมยาวแบบผู้ชายผมสั้นทั่วไป ใส่แว่นดำ ทาลิปสติค ที่คอห้อยพระเครื่องเป็นพวง ในเรือก็ไม่มีที่วางของมากนัก เพราะทำเป็นแท่นตั้งพระพุทธรูปไว้... ฝีพายท้ายเรือก็จ้ำพรวด ๆ ไม่เหมือนเรือลำอื่นซึ่งพายนิ่ม ๆ มาตามน้ำ..

ภาพจำลองตรงหน้าบอกให้คิดถึงอะไรมากมายในสังคมปัจจุบัน เมื่อเห็นภาพวูบแรกคิดอยากตำหนิอยากบ่นว่าทำไมให้พระแบบนี้มาร่วมขบวนประเพณี ...แต่ชั่วแวบของการคิดก็รู้ว่า ความอยากบ่นอยากว่า คือการขัดใจกับภาพที่ปรากฎตรงหน้ากับศรัทธาที่อยากมาทำบุญนั่นเอง...สติหนอ ช่างตามไม่ทันความจริงของการกระทำที่เห็นผ่านตา...
แม้จะเพียงชั่ววูบ แต่ก็ได้คิดแบบนั้นไปแล้ว..

วันนี้กลับบ้านด้วยความอิ่มใจค่ะ ไม่ใช่แค่บุญจากการร่วมตักบาตรสืบสานประเพณีเดิม ๆ แต่เป็นอานิสงส์ของการเห็นความคิดในใจตัวเองอีกแบบหนึ่ง ได้รู้จักการคิดที่เร็วกว่าสายฟ้าในการตัดสินจากภาพที่เห็น..กับสิ่งที่เป็นในอีกมุมหนึ่ง..

เล่าสู่กันฟังยามเช้า เอ๊ย ยามสายค่ะ

ปล. ขอแสดงความยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยค่ะ ภาพปกสวยมาก...




โดย: กังสดาล IP: 125.25.8.213 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:9:37:25 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

ขอตอบสั้นๆว่าวันนี้จะไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือใหม่ของฉมังฉาย เวลาบ่ายสองโมง ที่งานสัปดาห์หนังสือวันนี้

แล้วค่อยกลับมาคุยกันต่อนะครับ


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.16.97 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:10:09:26 น.  

 
งานเปิดตัวหนังสือ นิยายเรื่อง มรสุม ของ ฉมังฉาย




ฉมังฉาย,ชมัยภร แสงกระจ่าง,พิธีกร (1)




ฉมังฉาย,ชมัยภร แสงกระจ่าง,พิธีกร (2)




ชุดขาวยืนติดกับข้าพเจ้าคือคุณหมอนักเขียน ชัญวลี ศรีสุโข





วัธนา บุญยัง,อุเทน พรมแดง, จักษณ์ จันทร





ขวาสุด ขจรฤทธิ์ รักษา



ฉมังฉาย แจกลายเซ็น






คนเสื้อเหลืองอ่อนอยู่ที่ดอยวาวี
ส่วนคนเสื้อน้ำเงินขลิบขาวกำลังจะไปอยู่ดอยวาวี


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:21:35:19 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยนะคะ

สำหรับนักเขียนแล้ว ย่อมจดจำความรู้สึก และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดยังคงรำลึกถึงหนังสือเล่มแรกได้เสมอ


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 210.246.86.126 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:22:11:15 น.  

 
ขอบคุณคุณโดมสำหรับเรื่องราวของคุณแก้มหอม ชอบตรงที่จุดประกายไฟฝันให้นักเขียนหน้าใหม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแรงบันดาลใจในการเดินทางไปปีนังด้วย แม้ว่าจะมีอีกหลายอย่างในชีวิตนี้ที่ตั้งใจไว้แล้วแต่ยังทำไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยปีนี้ถือว่าได้ทำสำเร็จไปหนึ่งอย่างแล้วล่ะ

ช่วงที่นั่งรถตู้เดินทางไปปีนัง มีโอกาสได้นั่งติดกันกับสาวสวยคนหนึ่ง คุยไปคุยมาด้วยความที่น้องเขายืนยันว่าตัวเองเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์แต่พูดสำเนียงไทยไม่ชัดเจนมากนัก พอเดินทางไปได้ครึ่งทางเริ่มคุ้นเคยกันบ้างแล้ว น้องเขาถึงได้บอกว่าตัวเองเป็นชาวเขามาจากดอยวาวีมาอยู่กับสามีที่ปีนังได้ 5 เดือนแล้ว

แม้ว่าในชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักชาวเขามาก่อนเลยสักคน นับตั้งแต่ได้อ่านงานเขียนของคุณมาเรื่อย ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนว่ารู้จักคนที่นั่นเป็นอย่างดีไปด้วย ประทับใจในตัวของไปรษณีย์หนุ่มชาวเขาที่วาวี และจำได้ว่ามีโรงเรียนและคุณครูที่คุณเคยลงเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดตั้งห้องสมุดร่วมกัน

น้องเขาบอกว่ารู้จักคุณโดมด้วย แสดงว่าคุณคงทำความดีเอาไว้มากทีเดียวสำหรับที่นั่นน่ะค่ะ

รู้สึกนับครั้งไม่ถ้วนว่าตัวเองโชคดีอีกแล้วค่ะที่ได้รู้จักคุณในชาตินี้


โดย: บินหลาแสนสวย IP: 210.246.86.126 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:22:24:32 น.  

 
สวัสดีครับคุณบินหลาแสนสวย

ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าสาวดอยวาวีที่ไปอยู่กับสามีปีนังคนนั้นจะรู้จักผม

เชื่อไหมผมไปอยุ่ดอยวาวีใหม่ๆ
มีบางคนเข้าใจว่าผมเป็น "สาย"
เพราะตัดผมสั้นเกรียน
วันๆดูเหมือนไม่ทำงานอะไร เดินไปโน่นมานี่ ถ่ายรูปบ้างอะไรบ้าง

แล้วเช่าห้องอยู่นานตั้งหลายเดือน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปคนก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น

คุณบอกว่า...
"รู้สึกนับครั้งไม่ถ้วนว่าตัวเองโชคดีอีกแล้วค่ะที่ได้รู้จักคุณในชาตินี้"

ผมฟังประโยคนี้ของคุณแล้ว คุณยกย่องผมเกินความเป็นจริงที่ผมเป็นอยู่ครับ

ผมไม่ได้เป็นคนดีน่าคบหาอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
สำหรับผมหากจะคบกับใครดีบ้างชั่วบ้างไม่สำคัญ ขอ"ความจริงใจ" เป็นหลักก็พอแล้ว


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:23:00:02 น.  

 
สวัสดีครับคุณบินหลา

ตื่นเช้าขึ้นมานึกขึ้นได้ว่า
ลืมบอกคุณว่า ครูที่ร่วมทำห้องสมุดโรงเรียนวาวีก็คือ "แก้มหอม" นี่แหละครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:6:05:11 น.  

 


หมอกขาวขุ่นในตอนเช้า อาจให้แง่คิดแก่เราได้ไม่น้อย...


"หมอกพรางใจ"

"หม่นหมอกมัว ทั่วหน เหมือนมนต์เสก

ดังหมู่เมฆ ลอยหลง ลงโลกล่าง

คลี่ม่านขาว คลุมแสง แสร้งให้จาง

แดดก็เลือน ดินก็ราง หมอกพรางตา..."





โดย: ลุงแว่น วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:7:55:43 น.  

 
มาแล้วค่า....ตามมรสุมมาช้าเล็กน้อย

พอดีว่าอยู่อันดามัน เวลาพายุเข้า ตาพายุมักจะอยู่แถวๆกลาง
แล้วหางมักจะพาดฟ้าอันดามันเสมอ

มรสุมเลยพาดคา ตามมาช้าอีกตามระเบียบพัก

คนได้นั่งแจกลายเซ็นกลางงานครั้งแรกนั้นคงอิ่มและคับพองใจเสมอใช่ไหมคะพี่
อิ...อิ

ยินดีกับฉมังฉายค่ะ.....
ความฝันที่วิ่งไล่ตาม
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะวิ่งตามทัน
บางคนไปไม่ถึงฝัน
บางคนอยู่กับฝัน
บางคนไม่สามารถธำรงรักษาฝัน
บางคนไม่อาจอยู่ร่วมกับความฝันเมื่อมันเป็นจริง
บางคนอยู่กับความฝันอย่างสมดุลย์
และ...ความฝัน...ยังเป็น....ความฝัน
ถ้าเราไม่ลงมือทำ....ฝันนั้นก็ยังอยู่ ตรงวิมาน
ที่วาดไว้ในหัวใจตน

แต่....ความฝัน
ก็เป็นแรงผลักดันให้เราอยู่กับปัจจุบันและวันพรุ่ง

ส่งฝันหนึ่งฝันไปให้แล้วนะคะ....ฝันจริง
จับต้องไม่ได้ เพราะมันผ่านไปแล้ว...อิ...อิ




โดย: ปลายแปรง วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:10:46:30 น.  

 
ยินดีกับคุณแก้มหอมและคุณฉมังฉายด้วยค่ะ
คนรักหนังสือจะมีอะไรภูมิใจเท่ามีหนังสือของตัวเอง..เนอะ

พ่อพเยียจะไปดอยวาวีอีกแล้ว...
ไปเหนือช่วงหนาว คงอยู่นาน อิ่มบรรยากาศมนต์เสน่ห์ยอดดอย
ไปลงแรงปลูกบ้านเองด้วยหรือเปล่าคะ ถ่ายรูปมาให้ดูบ้างนะ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.183 วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:16:07:42 น.  

 
สวัสดีโดม

ขอบคุณที่ไปส่งข่าวเรื่องฉมังฉาย (ที่ในที่สุด วันแห่งความสำเร็จที่เขาใฝ่ฝันหา อุตส่าห์ลงทุนด้วยการลาออกจากงานธนาคาร เงินเดือน ๆ ละสามหมื่น มารับงานนักเขียนที่บางเดือนรายได้เป็นศูนย์) ทั้งเรื่องขออโหสิกรรมอะไรนั่น ทำราวกับจะลาบวช ทำให้เป็นการเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ความจริงไม่มีอะไรสักหน่อย

เพียงแต่ว่าที่ไม่เข้ามาทักทายเพราะหลายเดือนหรือเป็นปีสองปีมาแล้วที่ผมมีเวลาน้อยมาก

กับกำลังคิดว่า ตนเองกำลังเดินแยกจากเส้นทางนักเขียนไปสู่เส้นทางหากะตังค์ อันเป(นการกระทำตรงกันข้ามและสวนทางกับลูกศิษย์ ที่โดมนำมาโสต์ คิอผมรู้สึกว่าระยะหลังๆ นี้ ผมไม่มีชื่อมีเสียงอะไรที่จะบอกเล่าใครก็เลยไม่อยากมาเมนท์อะไรในบล็อกนักเขียน(ทุก ๆ คน) เรื่องมันก็เท่านั้น

แต่ถ้าลองมีใครไปหาไปทักทาย ไม่มีเลยที่ผมจะไม่เสียมารยาทไปเยี่ยมตอบ เว้นแต่ว่าติดภาระกิจ

จึงขอเรียนมาเพื่อทราบตามนี้


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:19:46:44 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ สบายดีนะคะ

ยินดีกับคุณแก้มหอมด้วยนะคะ
ชอบเพลงทหารพิการรักค่ะ จำได้ว่าได้ฟังบ่อยมาก ๆสมัยเป็นเด็ก อิอิ


โดย: thainurse@norway วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:4:37:18 น.  

 
เห็นครูแก้มหอมนั่งท่าเก็กหล่อเลยเขามาทักทายเพราะผมชอบชื่นชอบเรื่องสั้นของครูแก้มหอมที่เห็นตามหน้านิตยสารอยู่เนื่องๆและชื่นชอบพี่ธารา ศรีอนุรักษ์ด้วยเช่นกันชื่นชอบในผลงานการเขียนเรื่องสั้นผมก็เป็นครูเหมือนกันครับอยู่อ.หนองใหญ่จ.ชลบุรีครับเห็นพวกพี่ๆรวมตัวกันจัดกิจกรรมตามสถานที่ต่างโดยเแพาะแถวอีสานแล้วก็ทำให้อยากไปร่วมด้วยเหมือนกันแต่ไม่รู้จะติดต่อได้อย่างไรลืมบอกครับผมมีเรื่องสั้นลงตีพิมพ์ที่จุดประกายฉบับวันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ.2555 เรื่องช้างเร่ร่อนครับผมอยากรู้จักกับพวกพี่ๆครับเพราะผมก็ชอบเขียนเรื่องสั้นเช่นเดียวกันครับ


โดย: สุวัฒน์ชัย ศรีบัว IP: 125.27.11.194 วันที่: 1 มีนาคม 2555 เวลา:0:47:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.