จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
หวนหอมกลิ่นฝนยามดึก

พ่อพเยีย

ชีวิตช่วงหนึ่งผมเคยไปเป็นครูช่วยสอนอยู่ที่โรงเรียนประชาบาลแห่งหนึ่งที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ช่วงนั้นผมเรียนจบ ปกศ.ต้น (จากวิทยาลัยครูนครสวรรค์ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์)แล้วแต่ยังไม่มีงานทำ พี่ชายผมซึ่งเป็นครูใหญ่อยู่ที่โรงเรียนแห่งนั้น เวลามาเยี่ยมบ้านที่ต่างอำเภอทีไรก็มักจะชอบพูดให้ฟังบ่อยๆว่าที่โรงเรียนมีครูสาวคนหนึ่งทั้งสวยและนิสัยดีมาก

เวลามาบ้านก็นำข่าวของครูคนสวยมาบอก เวลากลับไปก็เอาเรื่องของผมไปบอกเธอ พูดง่ายๆว่าทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ทั้งที่ผมสองคนยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย

จังหวะเป็นช่วงที่ครูช่วยสอนที่โรงเรียนนั้นว่างอยู่พอดี ผมมีวุฒิครูอยู่จึงตัดสินใจไปเป็นครูที่โรงเรียนนั้น อาศัยว่าพี่เป็นครูใหญ่ก็ไม่ยุ่งยากอะไร จำได้ว่าในสมัยนั้นเงินเดือนเงินเดือนของครูช่วยสอนไม่ถึงหนึ่งพันบาท และต้องอยู่บ้านนอก นานๆจะได้เข้าเมืองสักครั้ง

ผมพูดอย่างหัวใจพูดก็คือรู้สึกเสน่หากับครูคนสวยตั้งแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าแล้ว เพราะพี่ชายผมชอบพูดให้ฟังบ่อยๆ ถึงวันนี้ผมจึงเชื่อแล้วว่า “พ่อสื่อแม่สื่อ”นั้นมีอำนาจอยู่จริง

ผมยังจำวันแรกที่ได้พบกันวันนั้นอย่างไม่มีวันลืม วันนั้นเป็นวันเปิดเทอมผมมาถึงบ้านพี่ชายแล้วแต่เธอเพิ่งกลับมาจากบ้านจากตัวจังหวัด เราเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เห็นหน้ากันก็เหมือนว่าเราเป็นแฟนกันแล้ว โดยไม่ต้องอธิบายอะไร เลย เธออายุมากกว่าผมปีสองปี ร่างเล็กผิวคล้ำ ฟันของเธอเหมือนกระต่ายซี่ใหญ่สองซี่ นิสัยใจคอดีและเป็นคนสุภาพเรียบร้อย

เธออาศัยอยู่กับบ้านพี่ชายผม เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียว ในชนบทไม่มีน้ำประปาต้องใช้น้ำบ่อและไม่มีไฟฟ้ากลางคืนต้องใช้ตะเกียง

หวนนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาครั้งไรก็ยอมรับว่าเป็นช่วงแห่งความสุขในวัยหนุ่ม เราได้ไปตักน้ำบ่อด้วยกัน ได้กินข้าวร่วมวงกันทุกเช้าเย็น ได้เดินไปโรงเรียนด้วยกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ ครูผู้ชายโรงเรียนอื่นที่เคยมาจีบเธอไว้ต่างก็ล่าถอยไป เพราะเมื่อเห็นผมปรากฏกายเป็นเงาเคียงข้างเธอทุกครั้ง

ถึงวันนี้ผมยังรักน้ำใจพี่ชายของผมไม่หายที่เป็นสุภาพบุรุษมาก เพราะเขาคอยปกป้องเธอไว้ตลอดเวลา ที่บ้านก็มีหลานตัวเล็กๆอีกสองสามคน เวลาเธอนอนในห้องเรือนพี่ชายผมก็จะให้พี่สะใภ้หรือหลานผมไปนอนเป็นเพื่อนอยู่เสมอๆ เนื่องจากรู้กิตติศัพท์ความอ่อนไหวในวัยหนุ่มของผมหรือไม่ก็คอยป้องกันไว้ก่อน เพราะพี่ชายรับปากกับพ่อแม่ของเธอไว้ว่าจะดูแลเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง

ถึงแม้พี่ชายและพ่อผมจะเชียร์ให้ผมรักกับเธอ แต่พี่ชายก็ไม่เคยยุยงส่งเสริมให้ชิงสุกก่อนห่ามในยามนั้น สำหรับผมในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดถึงการเป็นสุภาพบุรุษอะไรนัก เพราะรู้ว่าเธอก็มีใจเอนเอียงชอบผมอยู่เหมือนกัน

แล้วคืนหนึ่งฝนก็ตก และทุกอย่างเหมือนจะเป็นใจให้ผมยิ่งขึ้นไปอีก คืนนั้นเธอนอนคนเดียวพี่สะใภ้ผมไม่อยู่ แต่ก็มีหลานตัวเล็กๆของผมนอนกางมุ้งขางหน้าประตูไว้ ผมนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งติดกับเธอ บ้านในชนบทนั้นโล่งโปร่ง ผมมองดูแล้วว่าที่ขื่อผมสามารถปีนเข้าไปในห้องนอนได้อย่างไม่ลำบากนัก

ผมนอนอ่านหนังสือดึกนอนไม่หลับ นึกถึงใบหน้าของเธอตอนเย็นที่เดินไปตักน้ำด้วยกัน นึกถึงหลายสิ่งหลายอ่าง นึกกลิ่นหอมเมื่อยามอยู่ใกล้ ผมตัดสินใจค่อยๆปีนข้างฝาแล้วหย่อนตัวลงไปในห้องนอนของเธออย่างแผ่วเบา
เสียงฝนที่ตกพรำๆอยู่ตลอดทั้งคืนช่วยอำพรางเสียงทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ผมค่อยๆหย่อนเท้าลงไป ส่งเสียงเบาๆให้สัญญานว่าเป็นผม กว่าเธอจะรู้ตัวผมก็ถึงตัวเธอแล้ว ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการสัมผัสกายของเธออย่างใกล้ชิด

เสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาสังกะสีตลอดทั้งคืน เราแทบจะไม่ได้พูดอะไรกันออกมาเป็นคำพูดนอกจากภาษากายเท่านั้น ในม่านมุ้งที่มองเห็นกันอย่างลางเรือน เรากอดรัดกันอย่างอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศฉ่ำเย็นของละอองฝน แม้จะไม่ใช่การจูบครั้งแรกในชีวิตของผม แต่นับว่าเป็นรสจูบอันดื่มด่ำที่ไม่ผมเคยลืม และเราก็ไม่ได้มีอะไรล่วงเกินกันไปมากกว่านั้น

เช้าวันนั้นผมรู้สึกเวลาฟ้าสางช่างมาเร็วเหลือเกิน ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นผมเบียดตัวเองออกมาจากห้องนอนของเธอด้วยความไม่อยากให้ยามเช้ามาถึงเลย

แล้ววันหนึ่งผมก็จากเธอไปทำงานที่อื่นและต่อมาก็เข้าเมืองหลวง โดยที่ผมทิ้งสัญญาไว้ว่าวันหนึ่งเราอาจจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันหรือไม่ก็ได้แต่งงานกัน เวลาผ่านไป…ผมเปลี่ยนไป แต่เมื่อผมกลับไปหาเธอที่ไรเธอก็ยังครองตัวเป็นโสด มีคนมาชอบพอเธอก็ยังไม่แต่งงาน โลกและชีวิตของผมเปลี่ยนไปเสียแล้ว

เมื่อวันเวลาผ่านไปนานยิ่งขึ้น ผมได้พบคนรักใหม่และคิดว่าจะแต่งงานกับเธอคนใหม่ล่าสุดนี้

วันหนึ่งด้วยความโง่เซ่ออวดดีอะไรก็แล้วแต่…ผมชวนคนรักใหม่ของผมที่คิดว่าจะแต่งงานด้วยแวะไปหาเธอที่โรงเรียนนั้น ผมนั่งรออยู่ในห้องพักครูอยู่นานแต่เธอก็ไม่ปรากฏตัว และวันนั้นเธอก็ไม่ยอมออกมาหาผม ผมกลับคนรักจึงตัดสินใจกลับเพราะเธอไม่ยอมออกมาพบ


พี่ชายผมขับมอเตอร์ไซค์มาส่งที่ทางแยก ผมอดถามพี่ชายไม่ได้ว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมออกมาพบผม พี่ชายผมตอบเสียงดังฟังชัดด้วยน้ำเสียงที่ผมฟังไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร

“ก็เพราะเธอรักเอ็งน่ะสิ”

วันเวลาล่วงเลยไป ผมได้ข่าวว่าเธอแต่งงานกับครูหนุ่มรุ่นน้องที่มาบรรจุใหม่สอนโรงเรียนใกล้ๆกัน ข่าวนี้ทำให้ผมคลายความรู้สึกผิดไปได้บ้าง ผมรู้สึกยินดีที่เธอได้แต่งงานกับคนที่รักเธออย่างจริงใจ และดีใจเมื่อได้รับรู้ว่าชีวิตคู่ของเธอมีความสุข

จากนั้นเราก็แทบไม่ได้พบปะกันและรับรู้ข่าวคราวกันอีกเลย จนกระทั่งวันหนึ่งผมมีโอกาสนำผ้าป่าไปทอดที่วัดที่บ้านเกิด ผมก็ชวนเธอมาร่วมทำบุญด้วย เธอมีลูกชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผมถามว่าลูกชายเธอชื่ออะไร เธอตอบพอได้ยินว่า ชื่อท้ายของลูกเธอนั้นเหมือนกับชื่อท้ายของชื่อจริงผมนั่นเอง

ถึงวันนี้พี่ชายผมเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุผ่านไปหลายปีแล้ว ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของพี่ชายผมเลย แต่ทุกครั้งเมื่อหวนระลึกถึงพี่ชายครั้งไร ไม่มีเลยสักครั้งที่ผมจะไม่นึกถึงเธอ…เธอ…ผู้หญิงที่เวลาผมเรียกชื่อเธอทีไรต้องมีคำนำหน้าว่า “ครู” เสมอ

------------------





Create Date : 22 กันยายน 2548
Last Update : 22 กันยายน 2548 16:35:22 น. 0 comments
Counter : 369 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.