จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ที่บ้านรักไทย





























ในที่สุดการอดทนรอคอยของผมก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อตอนใกล้ค่ำ อันที่จริงสิ่งที่รอคอยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนัก ก็แค่เพียงแต่ผมอยากขึ้นไปนอนเล่นที่หมู่บ้านรักไทยสักคืนหนึ่งเท่านั้น แต่นักเดินทางอย่างผมไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นหัวใจสำคัญในการเดินทางก็คือรถโดยสารประจำทาง และบังเอิญเหลือเกินว่ารถเที่ยวสุดท้ายต้องเสียเวลารอรับคนจากหมู่บ้านซึ่งมาทำบัตรประชาชนที่อำเภอ

กว่าจะออกจากตลาดสายหยุดในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้ก็เกือบค่ำแล้ว ทั้งที่ตอนที่เพื่อนมาส่งผมที่ท่ารถเพิ่งเป็นเวลาเที่ยงเศษ ๆ เท่านั้น
รถโดยสารที่จะขึ้นไปยังหมู่บ้านรักไทยนั้นเป็นรถสองแถวเล็กสีเหลือง วันหนึ่งมีเพียงสองเที่ยวคือเช้ากับบ่าย

ซึ่งเรื่องเวลารถออกก็ไม่ได้ถึงกับเคร่งครัดจะต้องตรงตามกำหนดเวลานัก คนเต็มรถเมื่อไรก็ออกเมื่อนั้น ยึดเอาผู้โดยสารเป็นหลักมากกว่า จะว่าไปแล้วชีวิตประจำวันของผู้คนในต่างจังหวัดก็ไม่ได้เร่งร้อนอะไร ผมจึงถือสุภาษิตการเดินทางของผมว่า “หากเราไม่รีบก็ไม่ช้า”

ก่อนที่ผมจะเดินทางครั้งนี้ผมเคยขึ้นมาเที่ยวกับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าถิ่นบ้างแล้ว แต่ครั้งที่เพื่อนพาขึ้นมานั้นเป็นตอนกลางวันและเป็นการพามาลิ้มรสอาหารยูนาน เช่น ขาหมู หมั่นโถว และผลไม้แช่อิ่ม ชิมน้ำชาหลากรส แต่ผมคิดเอาไว้ในใจว่าจะต้องหาโอกาสมานอนที่นี่สักคืนหนึ่งก่อนที่จะเดินทางจากแม่ฮ่องสอนไป อย่างน้อยก็จะได้สัมผัสบรรยากาศว่าตอนเช้าเป็นอย่างไร ตอนดึกเป็นอย่างไร ไม่ใช่แค่เดินผ่านและถ่ายรูปกลับบ้านเท่านั้น

การเดินทางครั้งนี้นับเป็นการผจญภัยเล็ก ๆ ของผมอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นการเดินทางในเวลาเย็นย่ำค่ำคืนไปในสถานที่ที่ผมยังไม่เคยรู้จัก เพื่อนแนบนามบัตรให้ไปหาเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง

ฤดูการท่องเที่ยวกำลังจะปิดฉากลงเมื่อผมเดินทางมาถึง แต่อากาศปลายฤดูหนาวก็ยังหนาวเย็นอยู่ ผมเลือกห้องพักในราคาประหยัด ผมต้องการนอนคืนเดียวเท่านั้นเพียงเพื่อจะตื่นเช้ามาสัมผัสกับบรรรยากาศอรุณรุ่งของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้

เจ้าของที่พักให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีพร้อมกับยื่นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แม่ฮ่องสอนเล่มหนึ่งให้ผมอ่านและบอกเล่าความเป็นมาของหมู่บ้านให้ผมฟัง เพราะเขาเป็นครูอยู่ที่นี่มาก่อนที่จะขยับตัวเป็นเจ้าของรีสอร์ทและร้านอาหารที่มีวิวสวยงาม จนกระทั่งสมควรแก่เวลาจึงแยกย้ายกันเข้านอน

รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงไก่ขันจากหมู่บ้าน ผมออกจากห้องพักตั้งแต่แสงลำแรกยังไม่สาดส่อง ควันไฟจากหลังคาบ้านลอยขึ้นท้องฟ้ายามอรุณรุ่ง ในมุมที่พักของผมเป็นมุมที่จัดว่าสวยงามทีเดียว เพราะอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และสามารถมองเห็นหมู่บ้านที่อยู่บนเนินได้ถนัด

ผมรีบออกจากห้องนอนเพราะต้องการดูพระอาทิตย์ยามเช้าและออกเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ด้วยที่หมู่บ้านรักไทยเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ใช้เวลาเดินไม่นานก็รอบทุกร้านค้า

หมู่บ้านรักไทยตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชาวบ้านส่วนใหญ่อพยพมาจากตอนใต้ของประเทศจีนในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีอดีตเป็นทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๋ง”

หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 44 กิโลเมตร แต่ทว่าอยู่ชิดติดกับประเทศพม่าที่มีเขตติดต่อชายแดนพม่าเพียง 500 เมตรเท่านั้น

เพียงแค่ได้ยินชื่อหมู่บ้าน “รักไทย” ก็พอจะเดาได้ว่า ต้องเป็นหมู่บ้านที่ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่แน่นอน มีชื่อเดิมว่า “บ้านแม่ออ” เจตนาที่ตั้งชื่อนี้ก็คงเป็นไปตามชื่อที่ตั้งนั่นคือให้รักไทย รักคนไทย หรือรักประเทศไทยนั่นเอง แปลกไหมล่ะครับที่หมู่บ้านรักไทย แต่ประชากรส่วนใหญ่กลับเป็นชาวจีนยูนนาน

ด้วยเหตุที่หมู่บ้านตั้งอยู่บนดอยสูงและมีอุณหภูมิเหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชา และต้นไม้เมืองหนาว รอบๆบริเวณหมู่บ้านจึงเป็นไร่ชา บ้านเรือนร้านค้าที่ปลูกอยู่เป็นกลุ่มสร้างด้วยดินแบบหยาบ ๆ แต่ว่าก็ดูสวยงามแปลกตา สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นและสัมผัสเหมือนๆ กันก็คือ การชิมชา และรับประทานอาหารยูนาน และยังมีบริการม้าและฬ่อให้นักท่องเที่ยวได้ขี่ชมภูมิประเทศด้วย

ผมเดินเล่นจนรอบหมู่บ้านและถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ตอนสายผมเตรียมตัวกลับแต่รถโดยสารคันแรกก็ลงไปแล้ว ผมตัดสินใจสะพายเป้สัมภาระเดินตามถนนลงมาเรื่อยๆ ตั้งใจว่าจะโบกรถ เป็นโชคดีของผมที่ได้พบชาวบ้านใจดีให้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ลงมา และได้พบรถโดยสารระหว่างทาง ซึ่งผมได้ต่อรถเข้าสู่เมือง

บางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เข้าท่าเลยที่อุตส่าห์นั่งรอรถตั้งครึ่งค่อนวัน เพียงเพื่อที่จะขึ้นไปนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ผมนึกถึงคำพูดจากหนังสือเกี่ยวกับการเขียนเล่มหนึ่งว่า “พวกนักเขียนนั้นใช้ชีวิตสองรอบ ส่วนหนึ่งก็คือดำเนินชีวิตไปตามปกติเหมือนคนอื่นๆ อีกส่วนใช้ชีวิตกับทุกสิ่งซ้ำเป็นครั้งที่สอง คือหลังจากใช้ชีวิตรอบแรกผ่านไปก็นั่งลงมองดูชีวิตตัวเอง แล้วทบทวนพิจารณาทั้งเปลือกนอกและภายใน”

บางคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ใช้เวลาไม่คุ้มค่าเลยก็เป็นได้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำแบบนี้ แต่ผมยอมที่จะเป็นคนโง่เพื่อจะได้ทำตามสิ่งที่ปรารถนาแทนที่จะเอาเวลาในแต่ละวันไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงิน ผมกลับมาทำตัวเอ้อระเหยใช้เวลาฟุ่มเฟือยราวกับเป็นเศรษฐีเวลา

ผมถือว่าเวลาเป็นสมบัติพื้นฐานที่ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่เราเลือกจะใช้เวลาไปกับอะไรก็ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ

ไม่ใช่ว่าชีวิตผมไม่ต้องการเงิน เพราะตราบใดที่ปัจจัยสี่และทุกอย่างยังต้องใช้เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ผมก็ยังต้องการเงินอยู่ เพียงแต่ผมไม่ได้เอาเงินมาเป็นตัวตั้งในการทำงานหรือกระตุ้นให้ผมทำงานเท่านั้นเอง


เมื่อผมเลือกที่จะเป็นนักเขียนผมรักที่จะมีเวลาเป็นของตัวเองและเลือกใช้ไปตามที่หัวใจปรารถนา ผมจึงใช้เวลาไปกับการรอคอยอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพลิดเพลินกับการสังเกตสีหน้า กิริยาท่าทางและการพูดคุยกันของคนโดยสารบนรถซึ่งทั้งหมดเป็นชาวจีนฮ่อ ทั้งที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง ผมได้สัมผัสเรียนรู้และพบความจริงบางอย่างที่เป็นนามธรรมซึ่งไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองได้

การรอคอยและการเดินทางในครั้งนี้ ถ้าหากผมไม่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องขึ้นไปนอนที่บ้านรักไทยให้ได้ ผมคงถอดใจเรื่องการนั่งรอรถเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว หากผมไม่รอรถผมก็คงไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนและยามเช้าของหมู่บ้านรักไทย ซึ่งสถานที่แห่งหนึ่งก็มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น


ถึงแม้ผลสำเร็จจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าการที่เราจะทำการงานอะไรให้สำเร็จได้ ไม่ว่ายากหรือง่ายล้วนต้องมีความตั้งใจอยู่ด้วยเสมอ


----------------------------------------




ป.ล. เรื่องนี้ก็เคยตีพิมพ์ไปแล้ว ใครเคยอ่านก็ผ่านเลยไปได้นะครับ ช่วงนี้ไม่เวลาที่จะเขียนอะไรใหม่ๆใส่บล็อกเลย


Create Date : 17 สิงหาคม 2553
Last Update : 17 สิงหาคม 2553 16:50:50 น. 19 comments
Counter : 2166 Pageviews.

 
ขอยกคอมเม้นท์เอ็นทรี่ที่แล้วมาวางต่อแล้วค่อยตอบนะครับ

สวัสดีค่ะพี่โดม
คลิ กตามไปดูภาพบ้านชีวาโดมล่าสุดในเฟซบุ๊คยามหน้าฝน สวยเปล่งตาดีค่ะ พี่เก็บภาพได้สวยทุกภาพ มีชีวิตชีวา ดูแล้วมีความสุขไปด้วย ที่แปลกตาไปมากจากที่เคยเห็นเด็ก ๆ ถือต้นไม้ถ่ายรูปก่อนลงดินในขวัญเรือนที่ผ่านมาเหมือนไม่นานจนไม่น่าเชื่อ ว่าจะต้นไม้จะโตเร็วขนาดนี้

ชอบภาพวาดของเด็กหญิงหญิงจังค่ะ น้องอายุเท่าไหร่แล้วคะ ดูเธอมั่นใจ กล้าใช้สีกล้าวาด ชอบมากก็ภาพบ้าน คิดว่าเธอวาดบ้านลุงโดมแน่ ๆ หลังคาสีแดงท่ามกลางดวงดาว มีพระจันทร์เสี้ยวสีนวลด้วย อีกภาพก็คือภาพแมวและหนู น่าจะเป็นหนูนะคะ และภาพที่ดูร่าเริงสุดก็ภาพลุงโดมบนเนินหญ้าเจรจากับเมฆร่าเริง มีตะวันยิ้มสดใส เห็นแล้วก็รู้เลยว่าพี่เป็นขวัญใจเด็ก ๆ ที่นั่น สรุปว่าชอบทุกภาพนั่นแหละค่ะ

ประทับใจสุดก็บทกวีของคุณเรืองรอง ดูภาพน้องหญิงประกอบไปด้วย ก็เลยเห็นภาพบ้านห่มแสงเดือนแสงดาว อุ่นด้วยมิตรภาพจริง ๆ

ขอบคุณภาพชุดนี้นะคะ ที่นำมาลงบล็อกและเฟซบุ๊คให้ได้ชมอย่างจุใจและอิ่มใจ
ไม่ต้องถามว่าพี่มีความสุขหรือสบายดีไหมแล้วล่ะค่ะ เท่าที่เห็นจากภาพและถ้อยคำที่มวลมิตรและคนรอบ ๆ ตัวพี่ที่สนทนากันที่นั่น

สำหรับคนอ่าน..แค่ได้อ่านก็รู้สึกอุ่นแล้วค่ะ :)




โดย: ภูเพยีย วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:7:55:54 น.

ห่างไกล ไม่ห่างกัน 16

สวัสดีครับพี่โดม

ผมไปเชียงรายก็เจอฝนทุกวันเหมือนกัน ชุ่มฉ่ำสดชื่นตลอดเวลา แต่การเดินทางก็อันตรายพอสมควร


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:10:47:10 น


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.23.106 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:17:07:39 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม โดม
เมื่อยามฝนโปรยพรำ ๆ
+-----------------------------+
ว้าว!


สาวฯ ชอบภาพนี้จังเลยค่ะ
เรื่องนี้ยังไม่เคยอ่านค่ะ
จะขอเดินทางผ่านตัวอักษรด้วยความสุขสม่ำเสมอค่ะ



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:19:15:18 น.  

 
บรรยากาศดีจังเลย


โดย: หน่อยอิง วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:19:28:52 น.  

 
หวัดดีค่ะ
แวะผ่านมาเพราะชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางอยู่แล้ว แล้วก็ได้มาอ่านเรื่องราวดีๆแบบนี้ ไม่ผิดหวังเลยค่ะ


โดย: kapeak วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:20:49:07 น.  

 
เคยไปหมู่บ้านนี้ 3 รอบ
ชอบบรรยากาศของบ้านรักไทยมากๆ เลยค่ะพี่โดม


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:22:32:27 น.  

 
ทำไมรู้สึกเหมือนไม่เคยอ่านมาก่อน


โดย: หนอนฯ IP: 58.11.32.150 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:2:32:26 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าตรู่ครับทุกท่าน

เมื่อทวนอ่านคอมเม้นท์ของภูเพยียที่เขียนไว้ตั้งแต่เอ็นทรี่ที่แล้ว

อ่านแล้วคนเขียนบล็อกก็มีความสุข ขอบคุณสำหรับคำชมต่างๆที่มอบให้ และขอเผื่อแ่ไปยังคนที่ถูกกล่าวถึง

และขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ที่แวะมาเขียนไว้ แต่บางทีคอมเม้นท์บางคอมเม้นท์ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือแสดงความรู้สึกปุ๊บก็จบเลย ไม่มีคำถาม ไม่มีเรื่องให้ผมได้ชวนสนทนานต่อ ผมก็ปล่อยเงียบไปไม่ได้ตอบ เพราะบางทีไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี

แต่ก็อยากบอกว่าแม้ถ้อยคำคำเดียวก็มีความหมายเสมอ


สำหรับคุณหนอนที่บอกว่าไม่เคยอ่านเรื่องนี้ หรืออาจจะเคยอ่านแล้วลืมไปแล้วก็ได้

เรื่องนี้เขียนไว้นานมากแล้ว และตีำพิมพ์ในนิตยสารกุลสตรี ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ได้เขียประจำที่นั่นนานแล้ว


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:6:47:40 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมกัน เมื่อคืนก็อ่านเรื่องในบล๊อกของคุณไปหลายเรื่องเลย แล้วจะค่อยๆอ่านไปทีละเรื่องคะ แต่ละเรื่องมีข้อคิดดีๆแฝงไว้ทั้งนั้นเลย ชอบจริงๆเลย ไว้จะมาอ่านต่อนะคะ


โดย: kapeak วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:8:53:45 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าครับ
ส่วนใหญ่คนเรามักคิดถึงแต่อนาคตวันข้างที่ยังมาไม่ถึงมากเกินไป เร่งรีบค้นหากอบโกย จนลืมการใช้ชีวิตเรียบง่าย อันเป็นแก่นของการดำเนินชีวิต
พี่โดมคิดว่าเป็นอย่างนั้นป่าวครับ


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน IP: 116.58.231.242 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:9:51:40 น.  

 
สวัสดีครับดอกหญ้า บนทางดิน

กว่าจะรู้ว่าควรอยู่กับปัจจุบันขณะ ก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้กันอยู่นาน

กว่าจะรู้ว่าความเรียบง่ายคือความงดงามก็ต้องใช้เวลานาน

เพราะฉะนั้นใครรู้สิ่งเหล่านี้ได้เร็วผมถือว่าเป็นกำไร


โดย: พ่อพยีย IP: 124.121.21.187 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:10:19:16 น.  

 
หนูก็รู้สึกเหมือนพี่หนอนจริงๆ ฮ่าๆๆ ว่าไม่เคยอ่านมาก่อนตอนนี้


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.81.182 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:10:29:00 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม


ถ้าพี่ไม่บอกว่าทีไ่หน
ผมจะนึกถึงเมืองจีนแถวยูนนานเลยครับ

ชอบภาพอ่างเก็บน้ำครับ
สวย สงบและดูนิ่งดีจังเลยครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:6:49:25 น.  

 
สวัสดีจ้ะแพนด้ามหาภัย

อะไรที่ยังไม่เคยอ่านก็ยังถือว่าใหม่เสมอ ยกเว้นข่าวในหนังสือพิมพ์


สวัสดีครับคุณกะว่าก๋า

ที่แม่ฮอ่งสอนดูเหมือนว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหมุ่บ้านสวยงามและวิวทิวทัศฯ์สวยงามไปเสียทั้งหมด

อาจจะเป็นเพราะภูเขา อากาศและวิถีชีวิตผู้คน


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:9:00:41 น.  

 
พ่อพเยียคะ

เคยผ่านบ้านรักไทย แต่ไม่ได้แวะค่ะ ที่แม่ฮ่องสอนมีอณูโรแมนติกลอยอยู่ในทุกที่เลยเนอะ

พี่ถ่ายภาพสวยเหมือนเดิม

พี่เคยผ่านหมู่บ้านไมโครเวฟไหมคะ เห็นชื่อมันแล้วแปร่งๆ ออกจะไฮเทคแต่ภูมิลำเนาชนบทมากๆ


โดย: Love At First Click วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:14:29:12 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม พักนี้ยอม
รับเลยล่ะค่ะว่าติดเฟซบุค
ขนาดหนัก ได้รับรู้ข่าวสาร
ต่างๆแบบรวดเร็วทันใจดี

เห็นม้าแล้วก็อยากลองขี่
ดูสักครั้งในชีวิต เคยแต่
ขี่ช้างอย่างเดียว

ปรายชอบกินหมั่นโถวมาก
กว่าซาลาเปาอีกค่ะพี่โดม
ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไป...



โดย: ปราย IP: 125.25.194.248 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:20:36:01 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: kapeak วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:8:35:01 น.  

 
สวัสดีพี่โดม
ขอบคุณสมหรับบทความ
ดี ๆ อ่านแล้วทำให้มี
กำลังใจทำงาน การที่เราจะ
ทำงานสำเร็จ ไม่ว่ายากหรือง่ายล้วนต้องการความตั้งใจเสมอ ขอบคุณ
สำหรับกำลังใจ



โดย: สาวแอน IP: 118.173.17.24 วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:12:46:49 น.  

 
จำได้ว่าตอนที่ไปหมู่บ้านรักไทยกับครอบครัวเมื่อต้นปี 50

เมื่อไปถึง--วีดวาดคนช่างฝัน
ถึงกับบอกว่า "อยากมาอยู่ที่นี่จัง"

แล้วเธอก็เพ้อถึงความฝันอีกหลายๆอย่าง

ว่าจะมาทำอะไรที่นี่ดี...

ต้องคอยเบรกว่าให้อยู่กับความจริง

อยากจะมาเที่ยวอีกเมื่อไหร่ ก็ค่อยมาละกัน

จนถึงบัดนี้...ก็ยังไม่เห็นพูดถึงบ้านรักไทยอีกเลย

เมืองไทยยังมีที่น่าอยู่น่าเที่ยวอีกเยอะ--ว่างั้นเถอะ

ว่าแต่...หนาวนี้
เราไปวาวีกันเถอะ
ชวนชายหนุ่มคนข้างตัวไปด้วยนะ ^__^



โดย: แก้วเจียระไนย IP: 124.121.29.191 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:11:32:28 น.  

 


โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:15:28:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.