จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
ลันตาตรึงใจ (ต้นสาบแร้งสาบกา ?)

ทะเลหน้าฝน

วันที่ 5 กรกฏ 2549


เช้าวันรุ่งขึ้นผมเปิดกุญแจดูห้องทุกห้อง เพื่อดูภายในห้องว่าจะเลือกพักห้องไหนดี ทั้งที่ความจริงแล้วผมน่าจะเลือกห้องพักที่ติดชายทะเล เพราะจะได้ใกล้ชิดทะเลมากที่สุด แต่เอาเข้าจริงๆแล้วผมก็ตัดสินใจเลือกห้องพักเดิม คือห้องที่ติดถนนซึ่งอยู่ชั้นบน มีหน้าต่างสองบาน บานหนึ่งมองเห็นทะเล บานหนึ่งเห็นเนินเขาเล็กๆซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน

เหตุผลที่ผมเลือกห้องนี้อาจเป็นเพราะว่าดูท่าจะปลอดภัยจากลมและฝนที่สุด และด้านหน้ามีระเบียงนั่งเล่นนอนเล่นได้ อากาศปลอดโปร่ง สายลมพัดผ่านเกือบตลอดเวลา ถึงแม้เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเดินลงมาข้างล่าง แต่ทว่าเวลาต้องการเดินมาดูทะเลในมุมสูงก็เดินตามมาระเบียงมาถึงชานหลังบ้านได้เลย

ผมยกโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งอยู่ในห้องเก็บของขึ้นมาไว้ในห้อง เพื่อต้องการใช้งานสำหรับนั่งเขียนหนังสือ โดยใช้มุมหนึ่งของเตียงนอนแทนเก้าอี้ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะยกโต๊ะตัวหนักๆจากชั้นล่างขึ้นบันไดมาไว้ในห้องได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ทำให้ผมได้พบว่า เรื่องยากๆนั้นหากเราปรารถนาที่จะทำมันอย่างแท้จริงแล้วมันก็สามารถทำได้ ถ้าเวลาปกติหรือถ้าผมมีทางเลือกในการใช้โต๊ะตัวอื่นแล้วผมคงยกโต๊ะหนักๆเทอะทะตัวนี้ไม่ไหวแน่

ผมมาอยู่เกาะลันตาในช่วงนี้ทำให้ผมนึกถึงนิยายเรื่อง “ทะเลหน้าฝน” ของ สิริมา อภิจาริน ผมไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้หรอก แต่ผมจำชื่อเรื่องนี้ติดอยู่ในใจมาตลอด และยิ่งได้มาอยู่ทะเลในช่วงนี้ยิ่งทำให้เข้าใจคำว่า “ทะเลหน้าฝน” มากยิ่งขึ้น

ถ้าเป็นภาษาการท่องเที่ยวก็จะเรียกว่าเป็นช่วง “โลว์ ซีซั่น” ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ซบเซา ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวและท้องฟ้าทะเลจะไม่สวยตามความปรารถนาที่จะเห็นของคนทั่วไป ทำให้ผมนึกถึงสมัยเป็นหนุ่มที่อยู่เกาะเสม็ดในช่วงวัย 25 นั้น ยามที่อยู่กระต๊อบริมทะเลเพียงลำพังแล้วเห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่นั่งเรือมาแต่ไกล หัวใจก็พองโตแล้ว

นั่นอาจเป็นเพราะว่าในวัยนั้นผมยังคงต้องการพบปะเพื่อนฝูงทั้งใหม่-เก่าหญิง-ชายทั้งไทย-และเทศ ผมยินดีที่จะพบปะพูดคุยกับคนที่อยากพูดคุยด้วยอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหน่าย แต่ตอนนี้อายุผมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ความรู้สึกที่อยากจะพบปะผู้คนนั้นกลับลดน้อยลงไป

การได้มาพักที่เกาะลันตาหน้าฝนครั้งนี้ ทำให้ผมได้พบว่าผมกลับชอบฤดูกาลการท่องเที่ยวช่วงนี้ (แต่เจ้าของที่พักคงไม่ชอบแน่) ที่ผมชอบช่วงนี้ก็เป็นเพราะว่าทะเลหน้าฝนไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาก บรรยากาศไม่พลุกพล่าน และผมเพิ่งสังเกตว่าช่วงที่ท้องฟ้าเมฆครึ้มเหนือท้องทะเลก่อนฝนตกนั้นก็ให้ความรู้สึกสวยงามไปอีกแบบ แตกต่างไปจากวันที่แดดจ้าฟ้าใส บางวันสายฝนก็กักขังให้ผมอยู่ในห้องออกไปไหนไม่ได้ ทำให้ผมเข้าใจคำว่า “ติดเกาะ” หรือ “ติดฝน” มากขึ้น

ขณะที่ฝนตก เสียงลมเสียงคลื่นซัดสาดนั้นผมก็ได้แต่นั่งๆนอนอยู่ในห้องพัก ยามนี้หนังสือคือเพื่อนที่ดีที่สุด และนอกจากนั้นผมได้พบว่าผมใช้โทรศัพท์มากกว่าปกติเมื่อยามอยู่ยามลำพัง

วันแรกๆเมื่อผมรู้ว่าผมจะใช้อินเตอร์เน็ตที่ไหน ไปไปรษณีย์ที่ไหน ผมก็รู้สึกอุ่นใจแล้ว เพราะอย่างน้อยไม่ต้องกังวลเรื่องการส่งงาน ระยะหลังๆผมนึกสนุกกับการได้เดินทางไปด้วยและเขียนหนังสือส่งงานไปด้วย รู้สึกดีใจที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นและใช้กล้องดิจิตอลเป็น นั่นหมายถึงว่าผมไม่ต้องแวะเข้าเมืองหลวงเพื่อที่จะส่งเพื่อล้างฟิล์มสไลด์อีกแล้ว การส่งงานทางอีเมล์นับว่าเป็นความสะดวกอย่างหนึ่งของคนเขียนหนังสืออย่างผม

กว่าจะเริ่มต้นทำงานได้ก็ผ่านไปหลายวัน แต่เมื่อถึงเวลาผมก็จัดการมันได้ การที่ได้ลงมือทำงานแล้วทำเสร็จจัดส่งตามวันเวลาก่อนกำหนดนัดหมายถือว่าเป็นความสุขและความสบายใจอย่างหนึ่งของผม ผมไม่ชอบเขียนต้นฉบับแบบไฟลนก้น ผมจึงต้องส่งต้นฉบับประจำคอลัมน์ของผมไปกักตุนไว้เสมอ และจากนั้นผมก็ค่อยๆหยิบวัตถุดิบของผมมาจัดการเป็นงานต่อไป

ช่วงนี้ผมมีโอกาสได้ติดต่อกับพี่สาวคนหนึ่ง ซึ่งผมไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้พบกับเธออีก นานนับเป็นเวลา 26 ปีที่ผมไม่เคยทราบข่าวคราวของเธอเลย ไม่มีการเขียนจดหมาย ไม่มีการโทรศัพท์ การไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอจากบ้านแม่เธอ ปัจจุบันเธอไม่ได้อยู่ที่แม่ฮ่องสอนแล้ว และเธอลาออกจากงานประจำนานแล้ว ชีวิตประจำวันของเธอคือแม่บ้านทำกับข้าวดูแลสามี เธอไม่มีลูก

เมื่อ 26 ปีที่แล้วผมเคยไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ครั้งนั้นผมถือว่าเป็นการได้พบกันมากกว่า แต่นับจากนี้เราเริ่มรู้จักกันแล้ว ก่อนเดินทางจากเชียงใหม่มาใต้ผมได้นัดพบกัน จากนั้นก็มีโอกาสได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นระยะๆ ผมเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นนักอ่านคนหนึ่ง จากการสนทนากันทางโทรศัพท์ ผมว่าเรื่องชีวิตของเธอน่าสนใจมาก ไม่ว่าจะแหล่งกำเนิด อาชีพการงาน และความคิดต่างๆ ฯลฯ ผมเลยยุและชักชวนให้เธอเขียนหนังสือ เขียนเล่าเรื่องชีวิตของเธอนั่นแหละ


จากวันแรกที่เราคุยกันจนถึงวันนี้ จากที่เธอไม่เคยใช้อีเมล์ ไม่เคยพิมพ์ดีด และไม่เคยมีความคิดที่จะแตะต้องเครื่องคอมพ์เลย เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน เรื่องราวบันทึกตอนแรกของเธอส่งผ่านอีเมล์ถึงผมแล้ว ผมกำลังคิดว่าผมน่าจะนำมาให้อ่านกันที่นี่หรือทำบล็อกใหม่ให้เธอดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่อง

ชีวิตในแต่ละวันของผมที่เกาะลันตาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะวันๆผมแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ยามค่ำเมื่อเสียงรถบนถนนลดลงไปเรื่อยๆ จะมีเสียงลิงที่ป่าเนินตรงข้ามหน้าต่าง มาอยู่นี่ผมยังไม่เห็นตัวลิงเลยได้ยินแต่เสียงเท่านั้น และในยามกลางคืนสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นริมทะเลก็คือหิ่งห้อย แต่หิ่งห้อยที่นี่มีจำวนไม่มากนัก บางครั้งเห็นตัวเดียวสองตัวเท่านั้น

สำหรับหาดที่ผมพักอยู่มีสิ่งที่ผมสนใจที่อยากเก็บไปเขียนมีอยู่สองอย่างคือ หมาตัวหนึ่งชื่อเจ้าหมี ทั้งที่ไม่ได้เหมือนหมีเสียหน่อย อันที่จริงมันเป็นหมาที่ร้านอาร์มแชร์ซึ่งเป็นร้านอาหารเล็กๆที่อยู่ติดกัน แต่ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่มันก็ติดตามมาอยู่ด้วย มันเป็นหมาที่ชอบเล่นน้ำทะเล จับปูปลาได้ เวลาผมเดินหรือปั่นจักรยานไปไหนมันจะติดตามไปตลอด แม้จะเป็นระยะทางไกลๆก็ตาม อีกอย่างหนึ่งที่ผมสนใจก็คือต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งถามชื่อจากชาวบ้านสามรายแล้วที่เขาตอบว่า มันคือต้น “สาบแร้งสาบกา” แต่เมื่อค้นหาในอินเตอร์เน็ตแล้วปรากกว่าไม่ใช่
มันเป็นไม้เลื้อยกึ่งพุ่ม ขึ้นตามธรรมชาติ มีดอกสีขาวๆเล็กๆมีห้ากลีบ เกสรยาว ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆตอนกลางคืน ใบเป็นมันรูปทรงรี ทันทีที่ผมเห็นมันเลื้อยอยู่ตรงระเบียงหลังบ้าน

ผมคิดว่าผมมีมุมมองเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้พอที่จะเขียนลงในคอลัมน์ที่ผมเขียนประจำ ผมเลือกถ่ายรูปไว้แล้ว แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่ได้ชื่อที่ทำให้ผมมั่นใจที่จะเรียกชื่อของมันว่าต้นอะไรดี (ใครทราบช่วยบอกด้วย)

วันคืนที่ทะเลของผมยังผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่พอรับรู้ว่าภรรยากับลูกและพี่น้องของเธอจะมาในวันที่ 7-8-9 นี้ ทำให้วันรอคอยเชื่องช้าขึ้นมาทันที

ในฐานะคนเขียนหนังสือ ผมคิดว่าเกาะลันตายังมีเรื่องราวที่ผมจะต้องนำมาเขียนอีกตามสมควร และถึงบรรทัดนี้ผมกำลังเริ่มต้นแล้ว




---------------------------------------------------




ตรงปลายใบลั่นทมขวามือสูงสุดนั่นคือห้องพัก





ด้านหน้าถนน - ด้านหลังทะเล






ลูกแมวหลงทาง





ไอ้หมี...หมาทะเล









ชาวบ้านเรียกว่าต้นสาบแร้งสาบกา ถูกต้องหรือไม่ ใครทราบวานบอก ?



Create Date : 06 กรกฎาคม 2549
Last Update : 6 กรกฎาคม 2549 11:19:04 น. 7 comments
Counter : 1820 Pageviews.

 
หมามีชื่อว่า เจ้าหมี
แล้ว แมวหละ ไม่มีชื่อเหรอคะ
เรียกมัน เจ้าสีทอง ดีไหม
ท่าทางอ้อนน่าดูค่ะ

...ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ
มีชีวิตกลางแดด และคลื่นลม
จูบอำลาสังคม แสงสีในเมือง.....(ต่อไม่ได้)แล้ว..


โดย: null (วีดวาด ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:15:11 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องอย่างมีความสุขจ้ะ

อีกอึดใจเดียว พ่อแม่ลูก ก็จะได้พบกันที่...ลันตาตรึงใจ...แล้วล่ะนะ

ส่วนหนูวีดวาดคงได้ไปเป็นชาวเกาะก็คราวนี้ล่ะ

พี่ ๆ น้อง ๆ (ของพี่กล้วย) ได้มีโอกาสพบกันในบรรยากาศที่แปลกออกไป เป็นเรื่องน่าประทับใจไม่น้อย

ครอบครัว (ใหญ่, เล็ก) อบอุ่น...อิ่มสุขนะคะ

อือม์...การรอคอย...มักทำให้วันรอคอยเชื่องช้าขึ้นมาทันที...อย่างที่พ่อพเยียว่าไว้จริง ๆ นั่นแหละ



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:39:07 น.  

 
งามงดงาม...
ชีวิตอยู่ในห้วงยามความฝัน
ระเหเร่ร่อนผ่านพ้นข้ามคืนวัน
ทว่ายังหมั่นมองชีวิตรอบกายและในใจตน...
ก็สุขใจ.

บางทีชีวิตไม่ต้องการสิ่งใดมากเลยใช่มั้ย...
เพียงเรียนรู้ในบางสิ่ง
สัมผัสในบางอย่าง
มองโลกด้วยความเข้าใจ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
กับการมีชีวิตอยู่...

...พี่โดม ขอโทษด้วยที่ว่าจะส่งข้อมูลไปให้ พอดีคอมฯ ที่บ้านเจ๊งครับ...


โดย: pu_chiangdao วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:04:10 น.  

 
พ่อพเยียอยู่ไหนหมาแมวก็รักตามไปอยู่ด้วย
ตลอดเนาะ สังเกตุมั๊ยคะว่าเรื่องราวที่เขียนๆ
มา มักจะมีหมามีแมวตามไปด้วยทุกหนทุกแห่งเล๊ย สงสัยรังสีเมตตาแผ่ หมาแมวมันรู้
ว่าใครรักมัน



โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:06:02 น.  

 


โดย: สายลมอิสระ วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:11:34 น.  

 
ค่ำนี้.... ได้ยินเสียงแห่งความสุข

ของครอบครัวเล็ก ๆ ... พ่อ แม่ และลูกสาว (คนเก่ง)

จากเกาะลันตา...มาถึงเมืองกรุง

ชื่นมื่นจริง ๆ จ้า... (ขอบอก)

(จบรายงานข่าวล่ามาไกลของค่ำนี้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ
)


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ (หนอนเมืองกรุงฯ ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:32:30 น.  

 
ผมเคยไปเกาะลันตาเมื่อนานมาแล้ว ตอนที่ยังไม่มีอะไรมากมายนักเหมือนสมัยนี้น่ะครับ สงบดี

ตอนนี้อยากไปไหนสักแห่ง เพื่อพักใจ อยากทำใจให้สบายๆครับ




แรงบันดาลใจมีอยู่ทุกที่จริงๆเลยนะครับพี่ ยิ่งที่ที่บรรยากาศดีๆแบบนี้ ยิ่งเป็นตัวช่วยได้ดีมากๆเลย


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:04:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.