|
พ่อผมเป็นกวี (3)
ที่ นขท.ว.๑/๒๕๕๓ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ๓๑ ซอยกรุงเทพ-นนท์ ๓๓ (เทวรัตน์) แขวง/เขตบางซื่อ กท. ๑๐๘๐๐ ๒ เมษายน ๒๕๕๓
เรื่อง การจัดงานวันนักเขียน ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓
เรียน สมาชิกสมาคมทุกท่าน
ด้วยในวันที่ ๕ พฤษภาคม เป็นวันนักเขียน ซึ่งสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานวันนักเขียนขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้นักเขียนได้มีโอกาสร่วมกิจกรรม เสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และพบปะสังสันทน์กัน ในปี ๒๕๕๓ นี้ สมาคมฯ กำหนดจะจัดงานวันนักเขียนขึ้นที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ สุขุมวิท ๕๕ (ซอยทองหล่อ) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โดยจัดให้มีกิจกรรมทางวรรณกรรมและงานสังสันทน์ ดังนี้
ชื่องาน : “ร้อยดอกไม้แบ่งบาน วันนักเขียน ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓”
ภาคเช้า - ณ บ้านนักเขียน (ซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี ๓๓)
๑๐.๐๐ พิธีสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเพล ในวาระ๑๐๑ปีครบรอบชาตกาล เสาว์ บุญเสนอ และวันนักเขียน ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ อุทิศส่วนกุศลแด่เสาว์-ศรีสุดา บุญเสนอ และนักเขียนผู้ล่วงลับ
๑๒.๐๐ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
ภาคบ่าย - ณ สถาบันปรีดี พนมยงค์ (ซอยทองหล่อ สุขุมวิท ๕๕)
๑๓.๐๐ ลงทะเบียนที่ชั้นหนึ่ง
๑๓.๑๕ ชมวีดีทัศน์ “ร้อยดอกไม้แบ่งบานวันนักเขียน”
๑๓.๓๐ นายกสมาคมฯ กล่าวต้อนรับ
ญาดา อารัมภีร อ่านบทกวี “ร้อยดอกไม้แบ่งบานวันนักเขียน” (บทกวี-ชมัยภร)
๑๓.๔๕ พิธีมอบรางวัลสุภาว์ เทวกุล ฯ “เปิดใจนักเขียนรางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ” (๑๕ คน)
ดำเนินรายการโดย จเลิศ เจษฎาวัลย์
๑๕.๐๐ พัก-ดื่มน้ำชากาแฟ
๑๕.๑๕ ชมวีดีทัศน์ ๑๐๐ ปีชาตกาล ป.อินทรปาลิต
๑๕.๓๐ พิธีมอบรางวัลเรื่องสั้นขนาดยาว “ความจริง ความลวง”
ในวาระ ๑๑๐ ปี ฯพณฯปรีดี พนมยงค์ (๓ คน) เปิดใจนักเขียนที่ได้รับรางวัล ดำเนินรายการโดย ชมัยภร แสงกระจ่าง
๑๖.๑๕ ปาฐกถาจากศิลปินแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๒ “ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล”
๑๗.๑๕ พิธีมอบรางวัล “ศรีบูรพา”
พระไพศาล วิสาโล กล่าวสุนทรกถา (เคลื่อนออกนอกห้อง ไปที่ลานน้ำพุ)
๑๘.๓๐ นายกสมาคมฯ กล่าวต้อนรับ และมอบพวงมาลัยคารวะนักเขียนอาวุโส ๑๙.๐๐ รับประทานอาหารร่วมกัน
๑๙.๓๐ มอบรางวัล “อิวากิ” แด่ เรื่องสั้นชนะการประกวด จากวรรณศิลป์สู่คีตศิลป์
สลับการอ่านบทกวี (อำนวยการโดย เสรี ทัศนศิลป์) ร้องเพลงสังสันทน์ โดยนักเขียนที่มาร่วมงาน
๒๑.๐๐ ปิดงาน
-------------
พิธีกร ภาคบ่าย บูรพา - ญาดา อารัมภีร ภาคกลางคืน เจน สงสมพันธุ์ - เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ
จึงขอเรียนเชิญเข้าร่วมงาน ตามวันและเวลาดังกล่าว ตามอัธยาศัย ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ขอแสดงความนับถือ (นางชมัยภร แสงกระจ่าง) นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
โทร. ๐๘๙-๙๘๗-๙๙๘๐ (ชมัยภร) ๐๒-๙๑๐-๙๕๖๕ (สมาคมฯ)
พ่อผมเป็นกวี (3)
ส่วนที่เป็นกลอนแปดนั้นไม่รู้ว่าผมจะเรียกว่าเป็น"นิราศ"ได้หรือเปล่า เพราะแต่ละเรื่องเขียนสั้น ๆ ไม่ยาวนัก ที่พอจะรวบรวมไว้ได้ก็มีเพียงสี่เรื่องเท่านั้น คือ ฉันรักสว่างอารมณ์ นิราศอยุธยาตอนขากลับ นิราศสัมฤทธิ์พิษณุโลก นิราศบ้านไร่
เนื้อหาที่พอเขียนก็คงจะไม่แตกต่างจากนิราศทั่ว ๆ ไปก็คือการจากนางอันเป็นที่รักและเมื่อผ่านพบสิ่งไหนก็เขียนรำพึงรำพันกันไป เนื้อหาก็อาจจะเป็นเรื่อส่วนตัวแต่เมื่อได้อ่านก็ทำให้หวนนึกถึงสภาพบ้านเมืองในอดีตขณะนั้นและความประทับใจในสิ่งต่าง ๆ ของผู้แต่ง
แต่อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อผมเป็นผู้เขียนและผมรู้จักสถานที่ที่พ่อเขียนถึงจึงทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากก็เป็นได้ ผมจะลองยกนิราศอยุธยาตอนขากลับ ซึ่งผมได้ยินจากปากพ่อมาตั้งแต่ผมเริ่มโตแล้ว ผมรู้สึกชอบตอนที่เดินทางใกล้บ้านผมเข้ามาทุกขณะ ๆ ลองอ่านเอาเองแล้วกันนะครับ
นิราศนุชอยุธยาตอนขากลับ พอเสร็จสรรพอบรมสมถวิล หัตถศึกษาวารสารงานรูทีน เป็นวิชาศิลปะนะงามงอน
ที่สามสิบเม.ย.ศอศูนย์หก ขอหยิบยกเรื่องราวคร่าวคร่าวก่อน และโค้งให้โฉมตรูหนูบังอร ลาไปก่อนอยุธยาขอลาแล้ว
ขึ้นรถไฟสายเหนือเพื่อสะดวก ลาพรรคพวกร่วมอบรมโฉมน้องแก้ว เป็นบุญตาพาใจให้เพริศแพร้ว จำจากแล้วน้องที่รักต้องหักใจ
ผ่านลพบุรีตาคลีเขตขันธ์ แสนโศกศัลย์ดวงแดเป็นแผลใหญ่ เป็นเวรกรรมจำพรากลำบากใจ ยิ่งคิดไปชอกช้ำระกำทรวง
มาจันเสนตระเวนหาแม่โฉมศรี ไม่เห็นมีโฉมมาน้ำตาร่วง เหมือนอกเจ็บเหน็บเข็มไว้เต็มทรวง เปรียบมีห่วงผูกคอติดต่อกัน
ถึงตาคลีมีผู้คนขึ้นคึกคัก รถไฟพักห้านาทีขมีขมัน ยนต์อุทัยฯไปเสียก่อนนอนไม่ทัน ต้องเหหันไปชัยนาทแทบขาดใจ
มโนรมย์ลมจับหลับสนิท รักเป็นพิษเจียนซบสลบไสล คิดถึงมากจากอยุธยามาอุทัยฯ ชวนขวัญใจมาด้วยรถบ๊วยรอ
ถึงอุทัยฯสู้ทนฝนไม่ตก รักในอกร้อนจัดสะบัดช่อ นอนคะนึงคิดถึงแต่หัวรอ ฝันติดต่อเนื้อเย็นเห็นบุญลือ
วังโบราณสถานดีมีความสุข ทุกข์ร้อยทุกข์หายพลันฉะนั้นหรือ ลมสะอาดอากาศพัดมาฮือฮือ สวรรค์คืออยุธยาพาสมบูรณ์
อยุธยามาวินถิ่นคนสวย ฝากชีพม้วยมรณาเมตตาหนุน ได้ประสบพบเห็นก็เป็นบุญ ขอเนื้ออุ่นกรุณาและปรานี
พ้นอุทัยไปโคกหม้อล้อเกือบแขวน รถก็แล่นตามถนนต้นแจงสี่ ถึงหนองพลวงยังห่วงหน่วงเทพี เลยถึงที่หนองขาหย่างอ้างว้างใจ
หนองขาหย่างหยั่งจิตคิดไม่ถึง ทะเลหนองคลองบึงยังหยั่งได้ หยั่งกมลของคนไม่มั่นใจ หยั่งเท่าไรไม่อาจถึงพึงสังวรณ์
บ้านท่าด่านพันสีลี้ถนน มีผู้คนเดินไขว่ไปสลอน เหลียวแลดูรู้ไวใช่บังอร เชิญหยุดก่อนเถิดนะพระเรี่ยไร
พ้นพันสีผ่านที่ทุ่งเนื้อร้อน เที่ยวสัญจรชมทุ่งเหมือนมุ่งหมาย ถึงเนื้อร้อนร้อนใจไม่สบาย ร้อนใจกายไม่หนักเท่ารักรุม
หนองกระทุ่มทุ่มตัวตีหัวอก จนช้ำฟกเขียวดำระกำสุม หนองกระทุ่มกลุ้มจิตพิษรักรุม หนองกระทุ่มลาแล้วแก้วกลอยใจ
...................................... ...................................... ถึงหนองสรวงบวงสรวงพวงมาลัย ให้ปลอดภัยปราศทุกข์สุขนิรันดร์
เห็นทุ่งทองมองทางสว่างเนตร อุบัติเหตุอกหักรักกระสันต์ ไปอบรมน้องแก้วแล้วจากกัน ทุกคืนวันวนเวียนเศียรจะพัง
เนินสาธารณ์ผ่านอีกแล้วน้องแก้วพี่ ถึงเนินนี้คิดหนักน้องหักหลัง ปล่อยให้รักโรยราช่างน่าชัง ช่วยปลูกฝังความรักยิ่งนักดี
ถึงทัพทันฝนประชันตกกระหน่ำ พิรุณฉ่ำแฉะทางหว่างวิถี โฉมนางเอกเมขลากล้าสิ้นดี คว้ามณีกวัดแกว่งเป็นแสงวาว
รามสูรขุนยักษ์สมัครรับ อาสาจับเมขลาดาราสาว ขโมยแก้วมัฆวานประธานท้าว พระเป็นท้าวสามโลกโอฆอุดร
พอล่อแก้วแจวขว้างด้วยขวานฟ้า ฝนตกมาเมืองมนุษย์สุดสลอน ใครรุกรานขวานฟ้าชีวามรณ์ คนแต่ก่อนพาทีให้พี่ฟัง
ผ่านสะพานบ้านคลองโพใช่โตนัก กลัวรอดหักรถคว่ำช้ำตัวถัง หากรอดหักรักแตกแยกอุรัง ไม่มีหวังคืนรอดมาทอดกาย
ถึงสว่างฯ *กลางคืนราตรีค่ำ ตะวันต่ำตกดินสิ้นแสงฉาย จันทร์กระจ่างสว่างฟ้าดาราราย หมดเมฆหายจันทร์ผ่องส่องแสงงาม
(*อ.สว่างอารมณ์)
กระต่ายหนุ่มวัยดึกนึกกระหยิ่ม เขย่งยิ้มชมแขไม่เกรงขาม จนผิดรูปซูบผอมงอมพระราม กระต่ายทรามศักดิ์ต่ำช้ำใจตัว
งามเพ็ญแขแต่ยังแพ้เพ็ญพักตร์น้อง กระต่ายปองไม่เจียมกะลาหัว เหมือนตัวพี่หมายน้องหม่นหมองมัว จนเสียหัวเสน่หาสถาบัน
เปรียบองค์พระอภัยวิไลลักษณ์ พอพบพักตร์ละเวงเพ้อละเมอฝัน ไปอบรมคนงามสามสิบวัน ต้องจากกันแล้วหนาแสนอาลัย
จอมขวัญใจอ.ศ.ร.ศอศูนย์หก อย่าวิตกเกรงพี่นี้เหลวไหล พี่พูดจริงทำจริงยิ่งกว่าใคร โปรดเห็นใจเถิดหนอขอสาบาน
ถ้าโกหกหลอกลวงให้ชอกช้ำ ขอให้กรรมเวรซัดประหัตประหาร ตกนรกหมกไหม้ใต้บาดาล ทรมานทุกข์ทนท่วมท้นคอ
วอนหลวงพ่อบพิตรศักดิ์สิทธิ์ช่วย ให้คนสวยสงสารสมาน ส. ไมตรีจิตคิดเอ็นดูครู อ.น. อย่าปล่อยรอลอยเคว้งเท้งเต้งลม
ขอยุตินิราศสวาทรัก คำใดหนักโปรดอภัยไม่เหมาะสม รักเขาเขาไม่รักจักเป็นลม จะล่มจมเพราะทับจองเจ้าของมี
ถ้าชาติหน้ามีจริงทุกสิ่งสิ้น ขออยู่กินร่วมกันอันสุขขี ศูนย์เจ็ดขวัญใจจงได้ยศครูตรี อีกสามปียศโทโชว์ขีดทอง
หลวงพ่อเคลือบอุ่นเครื่องให้เรื่องรัก จงประจักษ์ดลใจใสสมอง กวีศรีเขียนประเสริฐเลิศลิ้นทอง นักกลอนรองสุนทรภู่ครูเฒ่าเอย
นี่คือนิราศที่พ่อเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไรผมก็ไม่ทราบ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ในราวพ.ศ.2506 ตามเนื้อเรื่องตอนที่พ่อไปอบรมที่อยุธยา ตอนนั้นผมก็เพิ่ง 6 ขวบ นิราศเรื่องที่ผ่านมาคือการเดินทางจากอยุธยามาอุทัยธานี
(ยังมีต่อ)
Create Date : 04 พฤษภาคม 2553 |
|
13 comments |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2555 12:24:41 น. |
Counter : 1986 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปราย IP: 113.53.208.206 4 พฤษภาคม 2553 19:21:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: nuyza_za 4 พฤษภาคม 2553 20:57:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดอกหญ้าสีม่วง IP: 203.172.208.153 5 พฤษภาคม 2553 13:31:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: nop IP: 222.123.169.176 5 พฤษภาคม 2553 15:06:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปราย IP: 118.172.186.194 5 พฤษภาคม 2553 19:30:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปราย IP: 118.172.183.192 5 พฤษภาคม 2553 21:17:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 5 พฤษภาคม 2553 22:12:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: สมมุติคับ IP: 1.47.234.42 15 มกราคม 2554 14:04:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: สมมุติ IP: 1.47.234.42 15 มกราคม 2554 14:05:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิเชล IP: 124.121.104.43 12 มกราคม 2556 23:28:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
และคิดภาพตามว่า ในสมัยก่อนตาคลีคงคึกคักมีชีวิตชีวาและน่าจะมีสิ่งที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ในตาคลี
อาจเป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตในสมัยนั้นที่มีชาวต่างชาติเข้ามา...