จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

จาก "แด่รักและฝัน" ถึง "ล้อมโลกด้วยรัก" ของ ปะการัง คอลัมน์ใหม่ใน ขวัญเรือน











แด่รักและฝัน


1/


สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดสำหรับบ้านเช่าหลังนี้ก็คือ เราสามารถมองเห็นภูเขาได้จากทุกมุมของบ้าน ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาทนับว่าเป็นราคาที่พอใจทั้งผู้เช่าและเจ้าของบ้าน ผมตั้งใจอยู่บ้านหลังนี้เพียงสองเดือนในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น หลังจากทำความสะอาดบ้านทั้งชั้นล่างชั้นบนเรียบร้อยแล้ว วันต่อมาผมก็เริ่มทำความสะอาดรอบๆบริเวณบ้าน

ด้านหน้าบ้านที่ติดริมถนนนั้นมีร่องรอยแปลงดอกไม้เก่ารกเรื้ออยู่ เพราะบ้านหลังนี้ถูกทิ้งร้างว่างเปล่ามานานนับปีแล้ว บริเวณที่เคยเป็นแปลงดอกไม้ดินแห้งแกร่งเพราะไม่มีใครรดน้ำและฤดูฝนก็ผ่านพ้นไปนานแล้ว มีกระถางต้นไม้ที่มีแต่ดินวางเรียงรายอยู่ ต้นไม้บางต้นยืนตายซาก บางมุมมีต้นวาสนาและไม้พุ่มทรหดอย่างเทียนหยดเท่านั้นที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

ผมจัดการปรับแต่งดิน ถอนหญ้า เก็บเศษขยะที่กองสุมอยู่ไปทิ้ง เข้าตัวเมืองไปตลาดนัดหาซื้อไม้ดอกไม้ประดับที่ดูแลง่ายมาปลูก ขณะที่ผมพรวนดินเพื่อขุดหลุมหาตำแหน่งปลูกไม้ดอกอยู่นั้น ผมได้ขุดพบหัวพืชชนิดหนึ่งคล้ายหัวหอมเกาะกลุ่มรวมกันเป็นกระจุกอยู่ใต้ดิน ลักษณะของมันยังสดบ่งบอกว่ายังมีชีวิตอยู่ ผมรีบกลบฝังไว้ที่เดิมเพราะคิดว่าคงเป็นต้นอะไรสักอย่างซึ่งอาจจะกำลังพักฟื้นสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน

ในเวลาต่อมาต้นเทียนหยดและต้นวาสนาที่ยืนซึมมานานก็ดูสดใสขึ้น ต้นไม้ใหม่ที่ผมเพิ่งปลูกตามมุมโน้นมุมนี้ก็ทำให้พื้นที่หน้าบ้านมีชีวิตชีวา

เมื่อผมรดน้ำลงบนพื้นดินที่แห้งผากครั้งใด หัวใจผมก็พลอยชุ่มชื่นไปด้วย ทุกๆเช้าผมจะลุกขึ้นมายืนดูแปลงดอกไม้เล็กๆที่ถูกอาบด้วยหยาดน้ำค้างอย่างมีความสุข

ชาวบ้านที่ผ่านไปมามักมองผมด้วยสายตาแปลกๆ เขาคงประหลาดใจว่าผมเฝ้ามองอะไรอยู่ทั้งที่ยังไม่เห็นมีดอกไม้อะไรสักดอกเลย ต่อมาผมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นในแปลงดอกไม้หน้าบ้าน ตรงบริเวณที่พืชมีหัวคล้ายหอมหัวใหญ่ซึ่งฝังดินอยู่นั้นค่อยๆเริ่มผลิใบสีเขียวแก่แทงดินขึ้นมา

ผมเฝ้าดูเจ้าต้นอะไรก็ไม่รู้ที่กำลังแตกใบอ่อน และรอลุ้นว่ามันจะเป็นดอกไม้ที่ผมรู้จักหรือเปล่า ราวสัปดาห์หนึ่งผ่านไป เจ้าดอกเล็กๆสีชมพูเข้มก็ค่อยๆเผยโฉมออกมา

ผมปลูกไม้ดอกลงบนแปลงสองสามชนิด แต่ที่สะดุดตาและประทับใจผมมากเป็นพิเศษกลับเป็นเจ้าดอกไม้เล็กๆสีชมพูเข้มต้นนี้ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนปลูกสีชมพูสวยเปล่งประกายต้อนรับสายตาคนเดินผ่านไปผ่านมา เมื่อกลีบดอกสมบูรณ์แล้วผมจึงมองออกว่ามันคือดอกบัวดินนั่นเอง

ช่วงที่มันผลิดอกรับหยาดน้ำค้าง สัมผัสได้ถึงความสดชื่นและพลังแห่งชีวิตที่อยู่ในดอกไม้เล็กๆดอกนั้น

ผมถ่ายรูปดอกบัวดินเก็บไว้เป็นที่ระลึก และยังจดจำความรู้สึกในวันแรกที่เห็นมันผลิดอกออกมา แล้วผมก็ค่อยๆมองออกว่ามันเป็นดอกอะไร ความมหัศจรรย์ใจเล็กๆในวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำของผมถึงวันนี้







2/


หลังจากที่สื่อต่างๆเสนอเรื่องราวเกี่ยวบล็อก (blog) มากขึ้น จึงทำให้เรื่องการเขียนบล็อกเป็นการเขียนแนวใหม่ที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของคนชอบอ่านชอบเขียน ความจริงผมเขียนบล็อกได้มาราวๆสองปีแล้ว พอจะสรุปเกี่ยวกับเรื่องบล็อกได้ว่า นอกจากจะเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่งแล้ว ยังเป็นสนามฝึกซ้อมการเขียนหนังสือได้อีก

วันหนึ่งผมก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนนั่นก็คือ ผมได้พบกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งซึ่งไม่ได้พบกันมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว เราเคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม เริ่มเขียนหนังสือมารุ่นราวคราวเดียวกันกับเพื่อนๆ อาทิ นิรันศักดิ์ บุญจันทร์, แก้ว ลายทอง, สมพงษ์ ทวี’, รักษ์ มนัญญา, วิสรรชนีย์ นาคร ฯลฯ เขาเข้ามาเขียนคอมเม้นต์ทิ้งไว้ในบล็อกของผมว่ายังจำเขาได้หรือเปล่า แล้วลงชื่อไว้ว่า “ปะการัง”

ใครจะจำเขาได้หรือไม่ผมไม่รู้ แต่สำหรับผมนั้นจำเขาได้แน่นอน เพราะในวัยหนุ่มเราเคยมีบทกวีและเรื่องสั้นตีพิมพ์ในนิตยสารเล่มเดียวกันบ้าง เคยพบปะกันบ้าง ผมจำได้ว่าในงานแต่งงานของผมเขาก็มาร่วมงานด้วย หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวแล้วผมกับเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

“ปะการัง” เป็นนักเขียนและกวีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในยุคนั้น เขามีความโดดเด่นในการเขียนบทกวีและยังทำงานอยู่ที่นิตยสารชื่อดังอย่าง “แพรว” อีกทั้งทำสำนักพิมพ์พิมพ์พ็อกเก็ตบุ๊ค

และที่สุดของเขาในตอนนั้นก็เห็นจะเป็นเรื่องการแต่งเพลง เขาแต่งเพลงดังๆไว้หลายเพลง เช่น “ฝากรักมากับเสียงเพลง” ของสุชาติ ชวางกูร “ ไดอะรี่สีแดง” ของแหวน ฐิติมา สุตสุนทร “ความรักสีดำ“ ของ นันทิดา แก้วบัวสาย และเพลงอื่นๆอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีศิลปินนักร้องรุ่นใหญ่อย่างชรัส เฟื่องอารมย์ แต่งเพลงให้เขาเป็นการเฉพาะมีชื่อเพลงว่า “ปะการัง”

เขาเข้ามาเขียนคอมเม้นต์ที่บล็อกของผมเล่าว่าขณะนี้เขาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและอยู่มานานสิบกว่าปีแล้ว ไม่ได้เขียนหนังสือมานาน ทั้งที่ก่อนจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศเขาเคยมีผลงานทั้งนิยายและบทกวีรวมหลายเล่ม

เราสนทนากันทางอีเมล์อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดผมก็ชักชวนเขามาเขียนบล็อก เพราะอาจทำให้คนที่อยู่เมืองนอกอย่างเขาคลายเหงาลงได้บ้างและถือเป็นการฝึกซ้อมมือไปก่อน เขาบอกว่าเขาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแทบไม่ได้ใช้ภาษาไทยในเรื่องการเขียนเลย เขายังอยากกลับมาเขียนหนังสืออีก ความฝันและของเขายังคงอัดแน่นอยู่ภายใน แต่ถูกการงานในชีวิตประจำวันแย่งเวลาไปเสียหมด เขาอยากจะลองเขียนบล็อกเหมือนกัน แต่ติดขัดที่เขาอยู่ต่างประเทศและไม่มีบัตรประชาชนสำหรับสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ที่สร้างบล็อกได้

เป็นจังหวะพอดีกับที่ผมมีบล็อกว่างอยู่หนึ่งบล็อกเนื่องจากเจ้าของบล็อกเธอยกให้ผมเพราะไม่รู้จะเขียนอะไร ผมให้พาสเวิร์ดกับเขาไปแล้วตกลงกันว่าเราน่าจะเขียนจดหมายถึงกันที่ > > บล็อกชบาฉาย เพื่อทำความรู้จักกันและแลกเปลี่ยนทัศนะต่างๆต่อกัน และพอผมรู้ว่าเขาเป็นคริสเตียนก็ยิ่งทำให้ผมอยากจะทำความรู้จักกับเขามากขึ้น

เมื่อครั้งเป็นหนุ่มเราอาจจะแค่เพียงได้พบกัน แต่ยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก ตอนนี้ด้วยวัยที่มากขึ้นเราน่าจะมีอะไรพูดคุยกันได้มากขึ้น

ผมได้อ่านจดหมายที่เขาเขียนถึงผมอย่างตั้งใจที่บล็อกชบาฉาย ตัวหนังสือของเขามีชีวิตชีวา ลีลาการเล่าเรื่องน่าสนใจชวนติดตามและมีอารมณ์ขัน ถึงแม้เขาไม่ได้เขียนหนังสือมานานแล้ว แต่วิญญาณความเป็นกวีและนักเขียนของเขายังบรรจุอยู่ในตัวอักษรอย่างเต็มเปี่ยม

เมื่อผมอ่านจดหมายฉบับแรกของเขาจบ ทำให้ผมนึกถึงความสดชื่นและพลังแห่งชีวิตของดอกไม้เล็กๆแรกผลิขณะเผยโฉมออกมาท่ามกลางหยาดน้ำค้างยามเช้า



ปะการัง


(เรื่อง แด่รักและฝัน ข้างบนนี้เคยตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือนมาแล้ว ใครอ่านแล้วก็ข้ามไปได้เลยครับ หรือจะอ่านอีกครั้งก็ยินดี)



ล้อมโลกด้วยรักของปะการัง



ถ้านับจากวันแรกที่ปะการังเข้ามาทักทายพูดคุยในบล็อกนี้ ก็นับเป็นเวลา 2 ปีเต็มแล้ว ต่อมาเราก็เขียนจดหมายโต้ตอบกันในบล็อกชบาฉายอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง

บัดนี้ตัวหนังสือของเขาได้ผลิดอกแตกกอกลายเป็นคอลัมน์ชื่อแสนอบอุ่นและสวยงามว่า "ล้อมโลกด้วยรัก" ในนิตยสารขวัญเรือน

ผมรู้สึกดีใจมาก เมื่อได้เห็นนักเขียนคนหนึ่งซึ่งเลิกราการเขียนหนังสือไปนานหลายปี ได้หวนกลับมาเขียนหนังสืออีก

และประการสำคัญคือเขาเขียนดีเสียด้วย ถ้าไม่เชื่อผมก็ไปหาซื้อขวัญเรือนฉบับนี้มาอ่านเองก็แล้วกันนะครับ (โฆษณาดื้อๆอย่างนี้แหละ)



ปกขวัญเรือน ฉบับ 905 ปักษ์แรก สิงหาคม 2552




บทบรรณาธิการแนะนำคอลัมน์ใหม่




ฝ่ายศิลป์จัดหน้าสวยงาม แต่ผมถ่ายออกมาไม่สวยเท่า



ล้อมโลกด้วยรัก ปะการัง - เขียน ,แก้วตา ยงจินดารัตน์ -ภาพ






แด่รักและฝัน สุชาติ ชวางกูร ขับร้อง
เนื้อร้องและทำนอง โดย ณรงค์ฤทธิ์ ยงจินดารัตน์ (ปะการัง)




ปะการัง








 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2552
18 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 21:20:46 น.
Counter : 4960 Pageviews.

 

อ้าว งั้นต้องไปซื้อแล้นนนนนนนนน

แค่ฟังชื่อกะน่าอ่านแล้นนิ

เนอะ เนาะ

 

โดย: ถุงก๊อปแก๊ป 29 กรกฎาคม 2552 14:17:35 น.  

 

รู้สึกทึ่งพี่เขานะ ยิ่งเมื่อรู้ว่าบางเพลงที่เคยได้ฟัง คือ งานพี่เขา นับถือๆ

 

โดย: ตาพรานบุญ 29 กรกฎาคม 2552 14:50:12 น.  

 

แวะมาดูอีกหน

คราวนี้ได้ทบทวนเรื่องราวตั้งแต่แรกเริ่มของชายหนุ่ม (น้อย) สองคน

เวลาดูเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่นานเกินรอจริง ๆ ค่ะ

ไม่แต่เพียงพี่ทั้งสองคนจะชื่นใจ พวกเราซึ่งแวดล้อมก็พลอยชื่นใจไปด้วยค่ะ

เห็นคอลัมน์ของพี่ปะการังวันนี้ ทำให้นึกถึงเรื่องที่พี่โดมเคยเขียนถึงพี่ปะการังในริมรั้วหัวใจ (ที่ยกมาข้างต้น) ขอบคุณที่ทำให้ได้อ่านเรื่องราวนี้อีกครั้งค่ะ

 

โดย: หนอนฯ IP: 10.20.3.30, 202.28.180.202 29 กรกฎาคม 2552 15:32:26 น.  

 

เมนต์เรื่องปะการังก่อนนะคะ

ส่วนเรื่องพี่โดมตอนต้น...ต้องยอมเป็นพระรองนะคะ

ขอมาเมนต์พรุ่งนี้ค่ะ...(แต่อ่านด้วยความซาบซึ้งก่อนแล้วละ)

........



สำหรับพี่ปะการัง

สมัยก่อนแอบกรี๊ดอยู่ค่ะ...ถือว่าพี่ปะการังเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆรุ่นนั้นได้เดินตามรอยเท้ามากมาย

เดี๋ยวนี้น้องๆที่เป็นแฟนคอลัมน์กลอนของพี่ ก็เติบโตไปเป็นคนดังๆในวงการกันเยอะค่ะ

นักล่าฯเอง ไม่ใช่คอกลอน แต่ก็...นะ...คิดว่าปะการังเนี่ย เหมือนเทพบุตรในฝันอะค่ะ

เป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆ(ต่างกะพี่โดมที่ออกแนวซาตาน อุอุ)

เป็นชายหนุ่มแสนพิเศษที่จับต้องไม่ได้

นามปากการึ ก็...ปะการัง...โอ้โห...เก๋จัง

ยินดีต้อนรับสู่โลกวรรณกรรมอีกครั้งนะคะ

แหม..มาเขียนขวัญเรือน หนังสือในเครือสนพ.เราซะด้วย

แล้วจะคอยอ่านค่ะ

แต่บอกซะก่อนว่า อาจจะยังไม่ชอบเท่าคอลัมน์ริมรั้วหัวใจนะคะ

อันนั้นเป็นที่สุดในขวัญเรือน คอลัมไหนๆก็แซงไม่ได้ค่ะ

เมนต์ยาวมาก...

สุดท้ายนี้อยากบอกว่า พี่ปะการัง ไม่แก่เลย

ตะกี้นึกว่า โจ นูโวน่ะค่ะ



 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.89.129 29 กรกฎาคม 2552 15:51:56 น.  

 

เคยอ่านหมวดนี้จากหนังสือเล่มนี้ที่ซื้อมาค่ะ ตอนแรกว่าจะเข้าไปหา
บล็อกชบาฉาย แต่ก็ลืม ๆ เลือน ๆ เลยยังไม่ได้เข้าไป

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 29 กรกฎาคม 2552 17:27:06 น.  

 

วันนี้เป็นบล็อกที่อ่านแล้วชื่นใจดีจังค่ะน้า ^^

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 29 กรกฎาคม 2552 19:21:20 น.  

 

สวัสดีครับ โดม

คุณนี่สุดยอดจริงๆ ต้องขอบคุณมากครับ ที่เชียร์กันขนาดนี้ ...การกลับมาเขียนหนังสือครั้งนี้ โชคดีมากที่เจอกับคุณ ถ้าไม่มีเพื่อนที่ดีอย่างคุณคอยชักชวนให้กำลังใจ เปิดบล็อกชบาฉายให้ ผมก็คงไม่เขียนต่อเนื่องมาถึงขนาดนี้... ขอบคุณอีกครับ

....

ขออนุญาตตอบคุณนักล่าน้ำตกนิดนึงครับ

ขอบคุณคุณน่าล่าครับ (ชื่อดุจริงๆ) ที่ชมเสียจนเคลิ้ม อันที่จริง คนที่เป็นเทพบุตรตัวจริงคือโดมครับ สุดหล่อ, เท่ นุ่มนวลและแสนดี :-)

รูปที่เห็นว่าพี่ไม่แก่นั้น เป็นภาพลวงตานะครับ และนั่นเป็นรูปเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ แหะๆ

.....

ขอบคุณทุกๆคนครับ



 

โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) 30 กรกฎาคม 2552 7:35:31 น.  

 

สวัสดีครับทุกท่าน

ขออภัยที่ไม่ได้ตอบเป็นรายบุคคล
ช่วงนี้มีงานต้องเรียงลำดับทำก่อนหลังให้ดี เพราะถ้าจัดการไม่ดี ทุกอย่างอาจจะคลาดเคลื่อน
หวังว่าเพื่อนๆ น้องๆ หลานๆ คงเข้าใจ
ที่นี่จะมีเป็นพี่ อยู่คนเดียว คือ "พี่ปอน"

อยากบอกซ้ำๆแบบไม่ได้อ้อนเอาใจผู้อ่านเลยว่า

ยังรู้สึกดีใจทุกครั้งเมื่อเข้ามาแล้วเห็นคนเข้ามาอ่าน จะทิ้งคอมเม้นท์ไว้หรือไม่ก็ตาม



สวัสดีครับนักล่าน้ำตก เพื่อไม่ให้เสียดุลย์ เพราะมีเทพบุตร และมีซาตานแล้ว ผมเลยเอาภาพนางฟ้ามาให้ดู
จำได้ไหมครับว่าคนนี้คือใคร ?



ด้านข้างนางฟ้า

 

โดย: พ่อพเยีย 30 กรกฎาคม 2552 9:30:54 น.  

 

อะจ๊าก...!

เจอนางมาร เอ๊ย! นางฟ้าสีส้มเข้า

เมนต์ไม่ออกเลย

แล้วจะไม่ให้เรียกพี่โดมว่าซาตานได้ไงคะ...เหอๆ

....................

หวัดดีพี่ปะการังด้วยค่ะ

สิ่งที่ชม ไม่ได้เกินจริงเลย เพราะอยู่ทันยุคที่พี่ปะการังคือไอดอลของวัยรุ่นยุคนั้นพอดี

ว่างๆจะเข้าไปเยี่ยมชบาฉายนะคะ

....

ว่าจะเมนต์เรื่องข้างบนของพี่โดมก็เลย อืม ขอเบี้ยวซะดื้อๆดีกว่า

นางฟ้าก็เขิลล์เป็นนะจ๊ะ...








 

โดย: นักล่าน้ำตก 30 กรกฎาคม 2552 14:29:22 น.  

 

สวัสดีครับ พี่โดม

ขอตอบที่บล็อกนี้เลยนะครับ

แหม ถึงขั้นแอบเลยเหรอครับ
เดี๋ยวจะลองหา เดียวดายอย่างโรแมนติค มาอ่านครับ
ดูจากชื่อเล่มแล้ว จินตนาการว่าเนื้อหาคงจะเหงาแบบไม่เศร้าไม่ทรมานหัวใจดีนะครับ

 

โดย: วั ล น์ ภ พ IP: 118.173.67.186 30 กรกฎาคม 2552 17:26:13 น.  

 

คนแก่กรี๊ดได้มั๊ยเนี่ย หล่อมากก ไม่อยากพูดคำว่าคลับคล้ายคลับคลาจะเคยได้หนังสือมาเล่มนึงของปะการังนี่แหละ เอาเป็นว่าต้องตามอ่านกันอีกอย่างจริงจัง
ขอบคุณที่มีคอลัมน์ดีๆให้อ่าน
บางวันหงุดหงิด เหนื่อย และล้ามากๆ ได้อ่านในบล็อกก้อทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้นะคะ...ชอบชื่อนี้จังเลย เดียวดายอย่างโรแมนติก......

 

โดย: รอนร้าว IP: 124.122.113.206 30 กรกฎาคม 2552 19:02:14 น.  

 

ดอกบัวดินสวยจังค่ะ ของปูไม่ขึ้นเลย Ha

 

โดย: สายลมอิสระ 30 กรกฎาคม 2552 19:55:31 น.  

 

คุณโดมคะ เปิดบล๊อกคุณโดมแล้วต้องยิ้ม ยิ้มที่ได้เห็นพี่รังตัวเต็มๆ จำได้ ในวัยหนุ่มตอนโน้น คุณโดมแปะรูปพี่รัง หน้าใสเหมือนนักร้องวงอะไรแมวจำไม่ได้ละ

มาตอนนี้ เหมือนโจนูโวเข้าให้ พี่รังหล่อไม่หนีนักร้องเลยนะคุณโดม

แมวไปยินดีกับพี่รังแล้วค่ะ ดีใจที่พี่ทั้งสอง เดินต่อไปไม่หยุด

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 75.51.89.110 31 กรกฎาคม 2552 0:31:23 น.  

 

สวัสดีครับทุกๆท่าน

ตอนสาย ๆราว 10 โมงของวันนี้ผมมีนัดข้างนอก

คงจะเถลไถลไปไหนต่อสักหน่อย กว่าจะเข้าบ้านก็คงบ่ายๆ

สวัสดีครับคุณวัลน์ภพ

หนังสือเล่มนี้คงหาซื้อยาก และคุณก็คงลำบากที่จะหาเอง เอาว่าถ้าคุณต้องการอ่านจริงๆ เดี๋ยวผมจะส่งไปให้ แต่ไปรับที่ร้าน ตะกั่วป่าคาเฟ่นะ เอ๊ย ! ร้านกาแฟตะกั่วป่าโปสการ์ด

เป็นงานเขียนถึงปรากฏการณ์ของ งานของ หว่อง คาไว เรียกว่าเล่มนี้มีแต่เรื่องหนังของหว่อง คาไว

ถ้าคุณชอบงานของหว่อง คาไว ก็น่าจะได้อ่าน

ผมได้รับหนังสือเล่มนี้จากคุณสุทธากร สันติธวัช เขาเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยว่า....

"เดียวดายอย่างโรแมนติกคงมีเฉพาะในหนังหว่อง คาไวกระมังครับ
ในความเป็นจริงโรแมนติกก็คงคู่กับโรแมนติก
เดียวดายก็ไปกันได้กับเดียวดาย (หรือไม่ก็โดดเดี่ยว)

เพราะฉะนั้นแม้แต่ความเดียวดายก็คงไม่เคยอยู่ตามลำพัง"

- สุทธากร สันติธวัช





เดียวดายอย่างโรแมนติค
โดย มโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ และสุทธากร สันติธวัช



สวัสดีครับคุณรอนร้าว

กรี๊ดเบาๆนะครับ เดี๋ยวลูกสาวได้ยินคิดว่าแม่เป็นอะไรไป


สวัสดีครับแม่น้องนิก

นี่รูปปะการังเมื่อ 2 ปีที่แล้วนะครับ ลองคิดดูตอนที่เป็นวัยรุ่นกำลังฮ็อตสุดๆดูสิ ว่าจะหล่อขนาดไหน

เรียกว่าเป็นนักเขียนที่สาวกรี๊ดแหละครับ โดดเด่นกว่าเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน

ตอนนี้ก็ยังมีคนกรี๊ดอยู่นะครับ แต่คนกรี๊ดอาจจะสาวน้อยลงแล้วเท่านั้นเอง (ฮา)

 

โดย: พ่อพเยีย 31 กรกฎาคม 2552 7:51:36 น.  

 

หวัดดีค่ะพี่โดม

คือว่า เมื่อก่อนแอบกรี๊ดพี่สุทธากรอยู่เหมือนกัน

ในบรรดานักวิจารณ์หนัง ขอยกให้พี่เขาเป็นที่หนึ่งในใจเลย

อ่านแล้วคล้อยตามทุกบรรทัด

หนังเรื่องไหนดีไม่ดี เชื่อพี่สุทธากรคนเดียวเลย

ได้ใกล้ชิดอยู่พักนึงตอนพี่เขาทำหนังสือหนังและวีดิโอ...(อยู่สนง.เดียวกัน แต่เขาคงจำเราไม่ได้หรอกค่ะ)

เห็นเขาเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ

ไม่หล่อก็จริง แต่เท่มาก เหมือนมีอะไรอัดแน่นอยู่ในตัว ภาษาเขาก็เยี่ยมมาก ...ปลื้มจริงๆ

ป.ล. เอ๊ะ..นักล่าฯเป็นอะไรไปเนี่ย แอบกรี๊ดคนไปทั่ว ?

(ก็คนสมัยนั้นเขาเก่งๆกันจริงนี่นา)


 

โดย: นักล่าน้ำตก 31 กรกฎาคม 2552 18:02:44 น.  

 

ไม่เป็นไรค่ะ ...ลูกสาวชิน
เวลาดู ที.วี ก้อถามกันเรื่อยๆว่า หล่อมั๊ย สวยมั๊ย เห็นด้วยบ้างขัดกันบ้างไปตามประสา เห็นด้วยกับแม่น้องนิกค่ะว่าเหมือน จอห์น นูโว ( กระซิบ ในปัจจุบันยังเป็นแบบนี้มั๊ยคะ )
แปลว่าเรื่องเดียวดายอย่างโรแมนติกนี่หายากแล้วใช่มั๊ยคะ อ่านริมรั้วหัวใจแทนก้อได้ ...อ่านด้วยความดื่มด่ำและชื่นชมทุกครั้งแม้ว่าจะไม่ได้ติดตามตลอด แต่คุณภูมิใจได้เลยน้า ว่าอ่านฉบับแรกปุ๊ปก้อชอบปั๊ป (ไม่ต้องเขิล ) หรอกน่า จริงๆ แต่อดคิดไม่ได้ว่าคนเขียนคงหล่อ (ไม่ได้แปลว่าไม่หล่อ ) เหมือนอ่านเรื่องคุณทมยันตีแล้วคิดว่าคนเขียนต้องเหมือนนางเอกไงคะ ( ตัวจริงดุจัง )

 

โดย: รอนร้าว IP: 124.122.110.137 31 กรกฎาคม 2552 18:11:31 น.  

 

แก้ไข...คล้าย โจ นูโวค่ะ ไม่ใช่ จอห์น เฮ้อ....คนแก่

 

โดย: รอนร้าว IP: 124.122.110.137 31 กรกฎาคม 2552 21:04:01 น.  

 

ไม่ได้มาบ้านนี้เสียนาน
หลังจากตัวเองทิ้งบล๊อคไปนานเหมือนกัน

กำลังจรดปากกา ดินสอเพื่อจะเขียนหนังสือในวันหนึ่ง แล้ววาบวับขึ้นมาในใจเมื่อปลายดินสอนั้นไม่ไหลไปตามจินตนาการ
คล้ายดั่งม่านบังตา กรอบเล็กๆอึดอัดขังอารมณ์ตัวเองอยู่ข้างใน

เลยวางเรื่องราวแล้วทำในสิ่งที่ตัวเองควรจะทำ อ่านหนังสือ อ่านๆๆๆๆๆๆๆๆ
เท่าที่ความหิวโหยภายใจจะดูดดื่ม กลืนกินเข้าไปได้ไหว เพราะวันเวลาที่ผ่านมา
ดั่งเดินทางอยู่กลางทะเลทราย แห้งแล้ง รานรอน ฉันต้องการโอเอซิส
อิ่มเอม.....เอิบอาบ...จึงรู้ว่ากรอบเล็กๆขังใจ ขังวิญญาณ ฉันปรารถนาอะไร

เลยไม่รู้ข่าวคราวใครๆ ดีใจช้าไปสำหรับใบไม้หนึ่งใบที่คลี่แผ่ดฮบอุ้มให้ร่มเงารากตนกับเมล็ดพันธุ์หนึ่งเมล็ดที่พี่โดมหว่านไถในรอยวรรณกรรม
ดีใจจริงๆค่ะ.....ช้าไปสักนิด แต่เปี่ยมจริงๆนา....ขอบอก...ขอบอก


 

โดย: ปลายแปรง 1 สิงหาคม 2552 16:16:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.